True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1124 ไม้เลี้ยงวิญญาณ
พวกเขาเห็นว่าบนทะเลทรายเบื้องล่างมีน้ำวนวงหนึ่งปรากฏขึ้น ทรายที่อยู่รอบๆ พากันไหลเข้าสู่น้ำวน
ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่มีสีหน้าตื่นเต้น “นี่คือ…ปรากฏการณ์การปรากฏของสมบัติ!”
คิดไม่ถึงจริงๆ พวกเขาเพิ่งตัดสินใจไปว่าจะออกจากที่นี่ในอีกไม่ช้า ปรากฏการณ์นี้ก็เกิดขึ้น! ในทุกสถานการณ์ที่ไม่ดีมักมีสิ่งดีเกิดขึ้นตามมาอยู่เสมอ! ปรากฏการณ์นี้ก็เกิดขึ้นใต้เท้าพวกเขาพอดี คราวนี้จอมยุทธ์คนอื่นย่อมแย่งชิงไม่ทัน
“ปรากฏการณ์นี้…” หญิงกระโปรงดำผู้นั้นมองน้ำวนเบื้องล่างอย่างตกตะลึง
ภาพเหตุการณ์นี้ดูเหมือนการปรากฏของสมบัติจริงๆ
หลังจากที่เหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ตื่นตกใจก็พากันตื่นเต้น
“หา? ปรากฏการณ์หรือ?” หรูเอ๋อร์เอามือป้องปากตัวเอง
เบื้องบนคงได้ยินคำภาวนาของนางเป็นแน่ สำนักหม้อชาดจะไม่โชคร้ายขนาดนี้อีกต่อไป
ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่สงบจิตใจลง ตอนนี้ไฟความหวังถูกจุดขึ้นอีกครั้ง
การสั่นสะเทือนค่อยๆ หยุดลง แต่ชายวัยกลางคนก็จำตำแหน่งของน้ำวนเอาไว้แล้ว
เขาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง น้ำวนนี้นิ่งสงบมากเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ แทงกระบี่เข้าใส่ก็ไม่มีการตอบสนองอะไร
“ปลอดภัยดี เกรงว่าสมบัติคงอยู่ใต้ดิน พวกเรารีบใช้จังหวะที่จอมยุทธ์คนอื่นๆ ยังมาไม่ถึงมาคว้าสมบัตินี้” ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่พูด
ศิษย์คนอื่นๆ คอยมองชายวัยกลางคนที่กำลังสำรวจ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนี้ก็พากันล้อมเข้ามาอย่างอดใจไม่ไหว
“ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันขุดสมบัติออกมา” ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่พูด
“อื้ม!”
ทว่าในตอนนี้เองที่จู่ๆ ก็มีแรงดูดอันรุนแรงส่งมาจากใต้ดิน พวกเขาทั้งหมดร่วงลงสู่กลางน้ำวนพร้อมกัน
คราวนี้พวกเขาไม่ต้องขุดก็ตกลงไปเองแล้ว!
คนจากสำนักหม้อชาดตกลงสู่ถ้ำขนาดยักษ์ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง
ทรายที่อยู่รอบน้ำวนทำการกลบฝังทางเข้าถ้ำอันน่ากลัวนี้อีกครั้ง กลางทะเลทรายหมื่นลี้นี้ทางเข้าถ้ำก็เล็กเหมือนฝุ่นผง ดูไม่มีอะไรสะดุดตาแม้แต่น้อย
“อ้า!”
หรูเอ๋อร์ที่อยู่กลางเสียงกรีดร้องไม่รู้ว่าตัวเองร่วงตกมาลึกแค่ไหนแล้ว นางได้ยินแค่เสียงลมที่พัดผ่านข้างหู ตัวนางร่วงลงเบื้องล่างไม่หยุด พลังความร้อนอันน่ากลัวปะทะใส่ปราณคุ้มครองร่างอย่างต่อเนื่องจนนางไม่อาจหยุดยั้งร่างกายตัวเอง
นี่คือน้ำวนพลังปราณขนาดยักษ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แรงดูดอันน่ากลัวทำให้พวกเขาไม่อาจต้านทานหรือควบคุมการเหาะเหิน
ปราณหยางบริสุทธิ์ที่อยู่ในทะเลทรายกลบอาทิตย์ด้านนอกเริ่มอ่อนแรงลง ทว่าพลังหยางที่นี่กลับแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
“อาจารย์อาสอง อาจารย์อาหก!”
มีศิษย์รุ่นเยาว์ร้องตะโกน แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้อาจารย์อาสองคนนั้นก็ไม่ได้รับมือง่ายไปกว่าศิษย์รุ่นเยาว์นัก
ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่คอยเร่งใช้พลังปราณไม่หยุด แต่เขาก็ทำได้แค่ให้ความเร็วในการร่วงหล่นของตัวเองช้าลงเล็กน้อย หญิงชุดโปรงดำผู้นั้นก็มีสถานการณ์ไม่ต่างกัน
ด้วยสภาพของพวกเขาสองคนจึงไม่อาจดูแลเหล่าศิษย์รุ่นเยาว์
หรูเอ๋อร์ค่อยๆ เห็นแสงไฟสีแดงประหนึ่งนรกที่ด้านล่าง
ส่วนสมบัติที่คาดหวังนั้นก็ไม่มีให้เห็นแม้แต่น้อย
‘ถูกดูดเข้าที่นี่อย่างฉับพลัน ไม่รู้ว่าเป็นโชคหรือเป็นเคราะห์กันแน่ จะเจอโอกาสหรือเปล่า’ หรูเอ๋อร์คิดอย่างเป็นกังวล
ตุบตุบตุบ!
เสียงร่วงสู่พื้นของบรรดาศิษย์ดังขึ้นติดๆ กัน แต่ละคนรู้สึกเจ็บไปทั้งร่าง
ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่กับหญิงกระโปรงก็ร่วงสู่พื้นแล้วเช่นกัน ทั้งคู่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
แม้ตอนที่เพิ่งร่วงตกลงมาพวกเขาจะพยายามใช้พลังปราณมาช่วยบรรดาศิษย์ แต่การถูกแรงดูดพลังปราณอันน่ากลัวดูดลงมาจากที่สูงขนาดนั้นก็ทำให้ศิษย์เหล่านี้เจ็บตัวอยู่ดี
เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็ไม่เห็นทางเข้าถ้ำอะไรทั้งนั้น มีเพียงทรายบางส่วนที่ยังคงไหลลงจากด้านบน
ส่วนสถานที่แห่งนี้…
หรูเอ๋อร์ร่วงจนเจ็บไปทั้งตัว เมื่อลุกขึ้นยืนและเห็นภาพเบื้องหน้าก็ต้องใจเต้นแรง
หินหลอมไหลบ่า ก้อนหินถูกเผาจนแดง พลังหยางบริสุทธิ์อันน่ากลัวทำให้ปราณคุ้มครองร่างของพวกเขาละลายเหมือนน้ำแข็งไม่หยุด เพียงแค่อยู่ในสถานที่เช่นนี้ไม่นานก็จะถูกพิษร้อนเผาร่างจนตายอย่างทรมานแสนสาหัส
หรูเอ๋อร์มีสีหน้าสิ้นหวังเมื่อคิดว่าตัวเองจะต้องกลายเป็นซากศพแห้งๆ ในใต้ดินที่ไม่รู้ลึกเท่าไรนี้ “ท่านอาจารย์อา…”
“อาจารย์เองก็จนปัญญา” ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่มีความคิดแบบเดียวกับหรูเอ๋อร์ หากมีเขาเพียงคนเดียวก็คงลองปีนไปตามทางที่ร่วงลงมาได้ แต่เขาพาศิษย์มาตั้งหลายคน เรื่องนี้จึงเป็นไปไม่ได้อีก
ตอนนี้บรรดาศิษย์พากันมองเขากับหญิงกระโปรงดำอย่างลนลาน ไม่รู้เลยว่าพวกเขาสองคนก็ไม่สบายใจเช่นกัน
“ทุกคนเปิดใช้ปราณเกราะแล้วเดินเข้ามาใกล้กัน ต้องพยายามประหยัดพลังปราณให้ได้ พวกเราลองเดินไปเรื่อยๆ ดูก่อนว่ามีทางออกอื่นอีกหรือไม่” หญิงกระโปรงดำพูด
นางกับชายวัยกลางคนเองก็ต้องประหยัดพลังปราณ ได้แต่ลดระดับให้พลังปราณอยู่บนผิวหนังเท่านั้น วิธีเช่นนี้ไม่อาจตัดขาดคลื่นความร้อน พวกเขายังคงร้อนแผดเผาอยู่
“อื้ม มีอาจารย์อาทั้งสองท่านอยู่ น่าจะออกไปได้ใช่ไหม?”
“น่าจะได้ ไม่แน่ว่าจะเจอสมบัติด้วย”
คำพูดของเหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ทำให้ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่กับหญิงกระโปรงดำสบตากันอย่างอดไม่ได้ พวกเขาต่างเห็นความขมขื่นในดวงตาอีกฝ่าย
เกรงว่าแม้แต่คนที่แข็งแกร่งพวกเขาไปไกลก็รับมือกับสถานที่เช่นนี้ไม่ได้ นับประสาอะไรกับพวกเขา
แม่น้ำหินหลอมที่ใต้ดินลึกไหลบ่ารุนแรงมาก
หรูเอ๋อร์เช็ดเหงื่อที่หน้าผากตัวเองแล้วค่อยๆ เดินไปข้างหน้าด้วยกันกับอาจารย์อาทั้งสองและศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ
พวกเขาเดินตามแม่น้ำหินหลอมใต้ดินนี้มาสามวันแล้ว แม่น้ำนี้เป็น ‘เส้นทาง’ เพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขาหาเจอ
ใต้ดินลึกนี้มีเพียงถ้ำที่แม่น้ำหินหลอมไหลผ่านเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นทางได้ แหล่งที่มาเดียวของแสงสว่างคือหินหลอมที่ร้อนระอุ แต่พวกเขาเดินมาตลอดทางแล้วก็ไม่เห็นความหวังที่จะได้ออกไป
“ศิษย์น้องหรูเอ๋อร์” ศิษย์พี่หญิงคนหนึ่งมีประกายสลัวแล่นผ่านดวงตา “พวกเราคงออกไปไม่ได้แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าท้ายที่สุดจะต้องตายอยู่ที่นี่ แม้แต่ซากศพก็จะไม่มีใครหาเจอ หากไม่มีวัตถุดิบล้ำค่าที่เราเจอ สำนักหม้อชาดก็จะทรุดโทรมลง เจ้าสำนักหมดสติไม่ฟื้น แม้จะมีไม้เลี้ยงวิญญาณก็ไร้ความหมาย”
“ไม่หรอกเจ้าค่ะศิษย์พี่ลัว อย่ายอมแพ้” หรูเอ๋อร์พูดแล้วก็แอบยกมือขึ้นมาเช็ดหางตาเงียบๆ
ความจริงนางก็รู้ว่าเป็นเรื่องยากมากที่พวกเขาจะได้ออกจากใต้ดินนี้ พวกเขาไม่รู้ตกลงมาลึกกี่แสนจั้ง แต่ตอนนี้นางกลับไม่รู้สึกว่าพวกเขากำลังเดินขึ้นด้านบนแม้แต่น้อย พลังหยางบริสุทธิ์กับพิษร้อนใต้ดินนี้ก็คอยกัดกร่อนปราณคุ้มครองร่างพวกเขาไม่หยุด ต่อให้มีทางออกจริงๆ ก็เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่ถึงเวลานั้น
หรูเอ๋อร์อดที่จะอยากส่งเสียงร้องไห้ไม่ได้เมื่อคิดว่าตัวเองใกล้ตายแล้ว นางยังไม่อยากตาย
ไม่ใช่แค่หรูเอ๋อร์ คนอื่นๆ ในสำนักหม้อชาดก็สิ้นหวังมากเช่นกัน ตอนแรกคิดว่าจะมีเรื่องดีหลังจากเรื่องร้าย เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้
ใต้ดินนี้เป็นดังนรกแผดเผาที่กลืนกินพวกเขาเงียบๆ อย่างไม่มีใครรู้
ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่กับหญิงชุดกระโปรงดำมีสีหน้าหนักใจเช่นกัน ที่นี่มีกฎแห่งหยางบริสุทธิ์เข้มข้นมาก ทั้งยังมีกฎที่วุ่นวายอีกหลายอย่าง มันทำให้พวกเขาแยกทิศทางไม่ออกและทำลายพื้นดินออกไปไม่ได้
เป็นทางตันโดยแท้
ตูม ตูม ตูม!
ในตอนนี้เองที่มีเสียงดังสนั่นเบาๆ ส่งมาจากด้านหน้า
ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่เงยหน้าขึ้นทันที เหตุใดเสียงนี้จึงคล้ายคลึงกับเสียงจากใต้ดินที่ดังก่อนที่พวกเขาจะตกลงมา?
หรือพวกเขาจะเดินวนจนกลับมาที่เดิมก่อนหน้านี้?
“ไปดูกันเถอะ” หญิงกระโปรงดำพูดเสียงเบา
พวกเขาตกลงจากพื้นผิวปกติก็เพราะความเคลื่อนไหวนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ตอนนี้พวกเขาใกล้ตายแล้ว ต่อให้สถานที่ที่เสียงนี้ส่งออกมาจากมีอันตรายอะไรก็ไม่น่ากลัวอีก
เมื่อพวกเขาเดินไปข้างหน้า เสียงเหมือนฟ้าร้องนี้ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ใต้ดินลึกนี้มีเสียงเช่นนี้ได้อย่างไร?
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงถ้ำที่ค่อนข้างใหญ่ สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นในถ้ำคือบ่อหินหลอมสีทองที่โหดซัดสาด บ่อหินหลอมนี้มีกระแสรุนแรงมาก พลังความร้อนที่แผ่ออกมาทำให้พวกเขาแสบผิวจนยากที่จะเข้าใกล้
แต่ต่อมาหรูเอ๋อร์ก็ต้องเบิกตาโพลงอย่างฉับพลัน นางชี้มือไปที่บ่อหินหลอมนี้พร้อมกับอ้าปากค้าง
“ท่านอาจารย์อา ศิษย์พี่ พวกท่านดูเร็ว!”
หรูเอ๋อร์ไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง เดิมทีนางคิดจริงๆ ว่าสถานที่แห่งนี้มีแค่คนจากสำนักหม้อชาดของพวกนาง คิดไม่ถึงว่าจะมีคนอื่นอีก!
สองคนนั้นมีคนหนึ่งนอนอยู่บนก้อนหินด้านข้าง อีกคนแช่อยู่กลางบ่อลึก
ความจริงตอนที่ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่กับหญิงกระโปรงดำเข้ามาในถ้ำนี้ก็สังเกตเห็นสองคนนี้อยู่ก่อนแล้ว
แต่คนที่นอนบนก้อนหินไม่มีร่องรอยชีวิตแม้แต่น้อย ส่วนคนที่อยู่ในบ่อลึกก็จะมีมนุษย์ที่ไหนแช่อยู่ที่นี่?
“ที่แท้” ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ถอนหายใจ “ที่แท้ก็มคนโชคร้ายแบบพวกเราเช่นกัน ดูแล้วคนที่นอนอยู่เป็นเด็กผู้หญิง แต่ดูท่าทางแล้วคงไม่มีชีวิต ส่วนคนในบ่อลึก…ไม่รู้ว่าก่อนตายต้องเจอความเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน”
หญิงชุดกระโปรงดำมองสองคนนี้แล้วก็รู้สึกว่าพวกเขาคงมีชะตากรรมเดียวกัน
ส่วนหรูเอ๋อร์ก็รู้สึกหนักหน่วงในใจ ด้วยสภาพของพวกเขาในตอนนี้แล้วก็ไม่อาจเข้าใกล้บ่อลึก ไม่อาจช่วยจัดการศพให้สองคนนี้เช่นกัน
แต่ในตอนนี้เองที่จู่ๆ เงาร่างที่แช่ในบ่อลึกก็ลุกตัวขึ้นมา ในร่างเขามีเสียงฟ้าร้องดังส่งออกมา ทั้งยังมีเสียงร้องแหลมดังออกมาเช่นกัน!
ชายคนนี้หันหน้ามาลืมตาทางพวกเขา
นี่เป็นดวงอันนิ่งสงบ กลางดวงตาอันลึกล้ำนี้มีเปลวไฟสีเทาสองดวงสั่นไหวอย่างประหลาด
แววตานี้ทำให้คนจากสำนักหม้อชาดใจเต็นระรัว!
ที่แท้นี่ก็เป็นคนที่ยังมีชีวิต!
ดูจากท่าทางอีกฝ่ายแล้วก็อายุน้อยมาก เป็นเด็กหนุ่มที่อายุไม่ได้มากไปกว่าพวกเขาเหล่านี้เท่าไร
สวรรค์ เขาใช้ชีวิตอยู่ในที่แบบนี้หรือกำลังฝึกฝน? ดูท่าทางแล้วเหมือนจะอยู่ที่นี่มานานมาก
แล้วเด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาเป็นอะไรไป?
ขณะที่คนจากสำนักหม้อชาดกำลังใจสั่นเทา เด็กหนุ่มคนนั้นก็พูดขึ้นว่า “เมื่อครู่นี้พวกเจ้าว่าอะไรนะ? ไม้เลี้ยงวิญญาณหรือ?”
……………………………………………………………………………………………..