True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1117
แม้อี้อวิ๋นจะไม่รู้ระดับของเทพโอสถ แต่เขาก็แน่ใจว่าอีกฝ่ายอยู่สูงกว่าเทพราชาแน่นอน!
เมื่อพลังเช่นนี้เข้าสู่ร่างเด็กรุ่นเยาว์แล้วจะไม่ร่างระเบิดตายได้อย่างไร?
แต่อี้อวิ๋นมีต้นไม้เทพไม้ฟ้าที่รองรับได้ทุกอย่าง เชื้อเพลิงเทพมารเองก็ผสานรวมกับเขาอย่างยินยอมพร้อมใจ
ทั้งหมดนี้ทำให้อี้อวิ๋นสร้างปาฏิหาริย์สำเร็จ! ระดับยุทธ์ของเขาพุ่งทะยานด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ
ระดับรวมวิถีเต็มขั้น!
เปลวไฟลุกโชนขึ้นฟ้า มันเหมือนกลายเป็นเงาอสูรปีศาจหลายร่างโบราณบนใบไม้ พวกมันร้องคำรามพร้อมกับพุ่งทะยาน
อี้อวิ๋นรู้สึกราวกับร่างกายตัวเองจะระเบิดออก แม้จะมีเงื่อนไขฟ้าดินครบครัน แม้กฎที่อี้อวิ๋นศึกษาจะเพียงพอให้เขาข้ามผ่านระดับนานแล้ว แต่การข้ามผ่านระดับสองสามขั้นเล็กๆ ภายในชั่วอึดใจเดียวก็น่าตื่นตะลึงไปหน่อยอยู่ดี
เขาอยู่ระดับรวมวิถีเต็มขั้นแล้ว พลังในร่างไม่มีที่ให้ไป หากสะสมเช่นนี้ต่อไปก็จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายจนไม่กล้านึกถึง
หากเป็นเวลาปกติอี้อวิ๋นก็คงเลือกหยุดมือ ยอมปล่อยพลังที่เหลือออกนอกร่างแล้วให้พวกมันกระจายไปในธรรมชาติ
แต่ตอนนี้อี้อวิ๋นกลับไม่แม้แต่จะคิดเรื่องหยุดมือ คู่ต่อสู้ที่เขาเผชิญคือรองประมุขของวังวิถีเจ็ดดารา เขากลัวว่าพลังตัวเองจะไม่เพียงพอ เขาต้องข้ามผ่านระดับแล้วข้ามผ่านอีก!
เหนือจากระดับรวมวิถีเต็มขั้นก็คือสร้างวังวิถี!
พลังเหล่านี้เพียงพอให้สร้างวังวิถีแล้ว แต่หากขาดการสะสมด้านเวลาของระดับรวมวิถีเต็มขั้นแล้วสร้างวังวิถีทันทีก็จะอันตรายเกินไป!
‘ไม่สนแล้ว!’
อี้อวิ๋นกัดฟัน ผลวิถีเก้าใบทั้งสี่ผลในจุดตันเถียนของเขาค่อยๆ เข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ แล้วเริ่มผสานตัว!
ขั้นแรกของการสร้างวังวิถีคือผสานผลวิถี หากสถานการณ์นี้อี้อวิ๋นไม่ระวังก็จะทำให้จุดตันเถียนระเบิด!
‘เสียเอ๋อร์ ยืมพลังของเจ้าให้ข้าด้วย!’
อี้อวิ๋นกระซิบในใจ ตอนนี้เชื้อเพลิงเทพมารที่อยู่กลางต้นไม้เทพไม้ฟ้ากำลังลุกไหม้อยากเงียบสงบมากประหนึ่งไม่มีความร้อนใดๆ
ตอนนี้ร่างกายของหลิงเสียเอ๋อร์ที่ถูกแส้ขังวิญญาณจับเอาไว้แทบจะโปร่งแสงอยู่แล้ว ไฟชีวิตนางเป็นดังเทียนกลางสายลมที่มอดดับได้ทุกเมื่อ
ในตอนนี้เองที่จู่ๆ ขนตานางก็สั่นเบาๆ ดวงตาค่อยๆ ลืมขึ้น ทว่าในดวงตานี้ไม่มีประกายใดๆ มันทำแค่มองพวกหลิ่วหรูอี้เงียบๆ
“หืม? ทำไมนังเด็กนี่ยังมีสติอยู่อีก?” หลิ่วหรูอี้ขมวดคิ้วพูด
“หึหึ คงเป็นแค่พลังเฮือกสุดท้ายก่อนตาย ร่างวิญญาณทนอยู่ใต้แส้ขังวิญญาณได้หลายวันขนาดนี้ก็ไม่เลวมากแล้ว จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์อยู่ใต้แส้ขังวิญญาณสามถึงห้าวันก็ทนความเจ็บปวดจากการถูกโบยวิญญาณไม่ไหวจนร้องขอความตายแล้ว” หมัวซาพูดพร้อมหัวเราะ น้ำเสียงของเขาทำให้คนขนลุก
“รองประมุขหมัวซาพูดถูกแล้วขอรับ ความเจ็บปวดทรมานจากแส้ขังวิญญาณไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะรับไหว แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้นก็ยิ่งหมายความว่าวิญญาณหยางเป็นสมบัติฟ้าดินโดยแท้ ยินดีกับรองประมุขทั้งสามด้วยขอรับที่ได้สมบัติระดับนี้ พลังของวังวิถีเจ็ดดาราจะพัฒนาขึ้นอีกขั้น ต้องกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลชั้นหนึ่งของโลกสวรรค์เทพหยางในอนาคตแน่นอน” อาจารย์เทียนเซียวพูดประจบอยู่ด้านข้าง
เขาถูกเผาจนเหมือนเม็ดวอลนัทที่เต็มไปด้วยรอยย่นแต่ก็กล้าแค่คร่ำครวญในใจ ไม่กล้าเปล่งเสียงร้องแม้แต่คำเดียว ยังดีที่เด็กหญิงคนนี้ใกล้จะวิญญาณแตกซ่านแล้ว ความทรมานของเขาจะได้จบลงเสียที
ในตอนนี้เองที่จู่ๆ ใจของอาจารย์เทียนเซียวก็สะดุ้งขึ้นมา เขาก้มลงมองเข็มทิศแล้วพบว่าเข็มทิศมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
ทันใดนั้น…
ตูม ตูม ตูม!
โลกใต้ดินนี้เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมาเหมือนแผ่นดินไหว
พวกเขายังรู้สึกอีกว่าค่ายกลทะเลเพลิงที่หลิงเสียเอ๋อร์ใช้กักขังพวกเขาเริ่มไม่เสถียรขึ้นมา
“หืม? เหมือนว่าค่ายกลจะเกิดปัญหาบางอย่างนะ?”
อาจารย์เทียนเซียวลนลานเล็กน้อย เขารีบใช้เข็มทิศมาอนุมาน แต่ตัวเข็มทิศแปรปรวนจนเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“ลนลานอะไร!”
“อย่างไรเด็กคนนี้ก็เป็นใจกลางโลกนี้ ในเมื่อพวกเราสกัดนางก็ย่อมทำให้ค่ายกลไม่เสถียร ดูท่านางคงจะไม่ไหวแล้วจริงๆ” หมัวเสวี่ยเลียริมฝีปากเหมือนยังสนุกกับการทรมานหลิงเสียเอ๋อร์ไม่มากพอ
การสั่นสะเทือนของค่ายกลยังดำเนินต่อไป หมัวเสวี่ยหมัวซาและหลิ่วหรูอี้ทั้งสามคนไม่สนใจอะไรมากนัก การสั่นสะเทือนนี้คงอยู่หนึ่งชั่วยามเต็มๆ แล้วจึงค่อยๆ หยุดลง
“ตายแล้วหรือ?”
ในตอนที่หมัวเสวี่ยเพิ่งเอ่ยปากพูดและจะตรวจสอบว่าหลิงเสียเอ๋อร์ตายหรือยังก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างฉับพลัน! พื้นดินใต้เท้าพวกเขาแตกระแหง เหล็กหลอมที่โหมซัดสาดพุ่งขึ้นจากใต้ดิน!
“เกิดอะไรขึ้น!”
หมัวเสวี่ยตบฝ่ามือลงไประงับหินหลอมเหล็กไหลที่พุ่งขึ้นมา ส่วนหลิ่วหรูอี้ก็กระพริบร่างไปอยู่ข้างอาจารย์เทียนเซียวเพื่อคุ้มครองเขา
แม้นางจะไม่สนใจความเป็นความตายของอาจารย์เทียนเซียว แต่ตอนนี้พวกนางยังไม่เจอร่างจริงของเชื้อเพลิงเทพมาร อาจารย์เทียนเซียวจึงยังมีประโยชน์
“เหตุใดค่ายกลนี้จึงเหมือนจะพังทลาย?” หลิ่วหรูอี้พูดอย่างตกใจและสงสัย
หลิ่วหรูอี้คิดถูกแล้ว การผสานรวมกันของอี้อวิ๋นกับเชื้อเพลิงเทพมารกลางค่ายกลในเวลานี้กำลังอยู่ในขั้นสุดท้าย วิถีโกลาหลต้นกำเนิดของอี้อวิ๋นได้เปิดประตูเกิดดับกลางค่ายกลออก ใช้หยางบริสุทธิ์มาทำลายหยางบริสุทธิ์ นี่ทำให้ค่ายกลที่อยู่มาหลายร้อยล้านปีจนทรุดโทรมเข้าใกล้การพังทลาย!
‘วังวิถี รวม!’
อี้อวิ๋นคำรามเสียงดัง เส้นเอ็นทั่วร่างเขานูนปูด เส้นเลือดพองตัวขึ้นมา ผลวิถีเก้าใบสี่ผลในร่างรวมตัวกันถึงขั้นสุดท้ายแล้ว เค้าโครงรางๆ ของวังวิถีเริ่มอยู่เต็มทั่วจุดตันเถียนของอี้อวิ๋น
ดวงตาอี้อวิ๋นมีเปลวไฟสีเทาลุกโชน จุดตันเถียนเหมือนจะระเบิดออก แต่ด้วยพลังรองรับอันมหาศาลของต้นไม้เทพไม้ฟ้า อี้อวิ๋นก็ไม่ยอมให้พลังทั้งหมดที่ดูดซึมเข้าร่างต้องเสียเปล่าแม้แต่หยดเดียว
เพื่อป้องกันไม่ให้พลังรั่วไหลออกมา อี้อวิ๋นจึงผนึกรูขุมขนทั้งสามหมื่นหกพันบนร่าง แม้รูขุมขนเขาจะมีโลหิตซึมไหลออกมาก็ตาม! ตอนนี้เขาดูเหมือนเทพมารแล้วจริงๆ!
อี้อวิ๋นฝึกยุทธ์มาหกสิบปี เขาข้ามผ่านระดับมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีครั้งไหนที่ก้าวกระโดดมากอย่างวันนี้!
โลหิตบนร่างไหลออกมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเปลือกโลหิต เค้าโครงวังวิถีในร่างเขากะพริบไม่หยุด เมื่อพลังรวมตัวถึงขีดสุดก็มีเสียงดังก้องประหนึ่งอะไรแตก วังวิถีที่เดิมทีแทบจะอยู่เต็มจุดตันเถียนของอี้อวิ๋นหดเล็กลงอย่างฉับพลัน!
วังวิถีหดเล็กลงสิบเท่าภายในไม่กี่อึดใจ เปลี่ยนจากสถานะโปร่งแสงมาเป็นของจริงแวววาวดั่งผลึกแก้ว
สร้างวังวิถีสำเร็จ!
วังวิถีมีรูปร่างเหมือนเจดีย์แต่มีแค่ชั้นเดียว รอบเจดีย์มีเก้ามุม นี่คือวังวิถีเก้าสมบัติขั้นสูงสุด!
เจดีย์ที่คนธรรมดาสร้างจะมีแค่ไม่กี่มุม เจดีย์ประเภทนี้คือเจดีย์จี๋เป๋า ทั้งยังมีเจดีย์หรูอี้แปดสมบัติ หลิงหลงหกสมบัติ
วังวิถีของจอมยุทธ์ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อพัฒนาถึงขีดสุดก็คือวังวิถีเก้าสมบัติขั้นสูงสุด!
ในวังวิถีมีลูกแก้วสี่เม็ดแขวนไว้บนยอด นี่คือสิ่งที่เกิดจากผลวิถีสี่ผล
อี้อวิ๋นที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยโลหิตร้องเสียงยาวออกมาเมื่อเห็นวังวิถีขนาดเล็กลอยอยู่ในจุดตันเถียน สะเก็ดโลหิตทั่วร่างแตกออก ในที่สุดก็เข้าสู่ระดับวังวิถี!