True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1113
เมื่ออี้อวิ๋นเจอม้วนกระดาษที่บันทึกถึงค่ายกลก็นั่งขัดสมาธิลงข้างทะเลสาบพร้อมกับเริ่มอ่าน
ม้วนกระดาษนี้ซับซ้อนมาก เนื้อหาที่บันทึกภายในก็ลึกล้ำ แม้แต่อี้อวิ๋นที่เป็นปรมาจารย์อสูรก็ยังต้องทำความเข้าใจทีละคำทีละประโยคจึงจะเข้าใจความหมาย
หลิงเสียเอ๋อร์นั่งมองอี้อวิ๋นที่กำลังศึกษาเงียบๆ จากข้างแผ่นค่ายกล แม้นางจะไร้เดียงสา แต่ในฐานะที่นางเป็นวิญญาณฟ้าดินจึงแยกแยะความดีความชั่วของมนุษย์ออก นางรู้สึกว่าอี้อวิ๋นไม่มีเจตนาร้ายต่อนาง
“ถ้าเขาแข็งแกร่งกว่านี้อีกนิดก็คงดี” หลิงเสียเอ๋อร์ใช้มือประคองหน้าตัวเองพร้อมกับถอนหายใจ
ในตอนนี้เองที่จู่ๆ นางก็รู้สึกอะไรบางอย่าง นางเงยหน้ามองไปยังน้ำตกหยางบริสุทธิ์ที่ไหลบ่าอยู่ด้านบน
หลังจากที่มองสักพักก็ก้มมามองอี้อวิ๋นอีกครั้ง
นางลุกขึ้นยืนเงียบๆ เมื่อเห็นว่าอี้อวิ๋นจมดิ่งอยู่ในม้วนกระดาษอย่างสมบูรณ์ จากนั้นเงาร่างก็กระพริบเป็นลำแสงแล้วหาย ในตอนที่หลิงเสียเอ๋อร์หายไป เปลวไฟสีเทาในร่างกลับถูกกำแพงที่มองไม่เห็นสกัดกั้นเอาไว้ เปลวไฟไม่อาจข้ามผ่านกำแพง ท้ายที่สุดก็ได้แต่อยู่ในค่ายกลต่อ…
แม้หลิงเสียเอ๋อร์จะเป็นเชื้อเพลงเทพมาร แต่เปลวไฟสีเทานี้คือจุดกำเนิดของนาง หากเปลวไฟไม่อาจออกจากค่ายกล เช่นนั้นหลิงเสียเอ๋อร์ก็ไม่มีวันได้ไปจากที่ฝังเพลิงแห่งนี้
……
“อ้า!”
มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นกลางความมืดอย่างฉับพลัน เงาร่างจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างหน้าผา
“เลิกร้องได้แล้ว หากดึงให้สิ่งมีชีวิตร่างคนพวกนั้นเข้ามาอีก เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ใช่แค่ขาขาดแน่” หลิ่วหรูอี้พูดอย่างเย็นชา
คนขาขาดที่นางพูดถึงก็คืออาจารย์เทียนเซียวจากสำนักความลับสวรรค์
ตอนนี้อาจารย์เทียนเซียวมีสภาพอนาถมาก บริเวณตั้งแต่ต้นขาลงไปถูกตัดทั้งสองข้าง โลหิตหยดไหล มือข้างหนึ่งก็ขาดไปเช่นกัน หากยังมาเสียมืออีกข้างไปอีก เช่นนั้นเขาก็ไม่ต่างอะไรกับคนหมู[1]แล้ว
เพราะตอนนี้อาจารย์เทียนเซียวสูญเสียพลังต่อสู้ไปอย่างสมบูรณ์ รองประมุขวังวิถีเจ็ดดาราที่มีรูปลักษณ์เหมือนเด็กสองคนนั้นจึงนำหุ่นเชิดที่ทำงานด้วยกลไกมาจุร่างเขาเอาไว้ จากนั้นก็ใช้เชือกเส้นหนึ่งมาแขวน สภาพเขาอนาถจนไม่รู้จะอนาถอย่างไรได้อีก
อาจารย์เทียนเซียวตัวเย็นและไม่กล้าร้องอีกทันทีเมื่อหลิ่วหรูอี้พูดถึงสิ่งมีชีวิตร่างคน
“เจ้านำทางให้ดี ก็แค่ขาขาดสองข้างและเสียมือข้างหนึ่งก็เท่านั้น วังวิถีเจ็ดดาราของข้ารับปากแล้วว่าจะต่อกลับไปให้เจ้า ยังจะกลัวอะไรอีก?” เด็กสองคนพูดด้วยเสียงอันแหบแห้ง
คนจากวังวิถีเจ็ดดาราที่มามีพวกเขาเหลือรอดแค่สามคน แม้แต่รองประมุขคนหนึ่งก็ยังจบชีวิต
ส่วนศิษย์สำนักความลับสวรรค์ที่อาจารย์เทียนเซียวพามาก็มีเพียงอาจารย์เทียนเซียวที่รอดชีวิตอย่างสะบักสะบอม นี่ขนาดว่าหลิ่วหรูอี้ช่วยเขาเพราะรู้สึกว่ายังมีประโยชน์
ตลอดทางที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้เจอแค่สิ่งมีชีวิตร่างคนที่น่ากลัว พวกเขายังเจอสิ่งมีชีวิตโบราณอื่นๆ จนเกือบต้องตายยกกลุ่ม
คิดไม่ถึงว่าคำพูดดีใจในโชคร้ายของผู้อื่นที่อี้อวิ๋นพูดกับพวกเขาจะเป็นจริงทุกคำ
“มีรองประมุขทั้งสามท่านอยู่ ข้าย่อมไม่กลัว” ใบหน้าอาจารย์เทียนเซียวซีดขาว เขาพูดด้วยสีหน้าขมขื่น
ไม่กลัวหรือ? เขาเสียใจจนลำไส้เป็นสีเขียวแล้ว!
ตอนแรกาเขาคิดว่จะได้ประโยชน์เล็กน้อยจากแดนลับแห่งนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่ต้องไม่พูดถึงเรื่องที่ไม่ได้อะไร เพราะเสียขาสองข้างกับแขนข้างหนึ่งไปแล้ว
มาถึงตอนนี้รองประมุขทั้งสามจะยอมกลับไปได้อย่างไร พวกเจ้าจ่ายราคาอันแสนสาหัสไปแล้ว ต้องคว้าวิญญาณหยางมาให้ได้จึงจะยอม
อาจารย์เทียนเซียวรู้ว่าหากเขาไม่อาจนำทาง เช่นนั้นคนพิการเช่นเขาก็ไม่มีค่าอะไรอีก
“สภาพแวดล้อมของที่นี่แตกต่างจากจุดที่เดินผ่านมา…” มือข้างที่เหลือของอาจารย์เทียนเซียวถือเข็มทิศเอาไว้พร้อมกับอนุมานเรื่อยๆ “ที่นี่คงอยู่ห่างจากที่ตั้งของวิญญาณหยางไม่ไกลแล้ว”
“ก่อนหน้านี้เจ้าก็พูดแบบนี้มาสองครั้งแล้ว…” หลิ่วหรูอี้มองอาจารย์เทียนเซียวอย่างไม่พอใจแล้วพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ข้าจะเชื่อเจ้าอีกครั้ง”
“ข้าน้อยเองก็จนปัญญา ไม่ได้มีเข็มทิศความลับสวรรค์อยู่ในมือ” อาจารย์เทียนเซียวพูดอย่างอ่อนแอ
รองประมุขรูปร่างเด็กหนึ่งใช้เชือกมาแขวนอาจารย์เทียนเซียว ทั้งสี่เดินต่อไปข้างหน้า
จากนั้นไม่นานก็มีเสียงดังกึกก้องดังมาจากด้านหน้า
“นี่คือ…” พวกเขามาถึงตรงหน้าน้ำตกเหล็กหลอม
น้ำตกนี้ยิ่งใหญ่มาก ด้านล่างลึกจนไม่อาจคาดคะเน พลังหยางบริสุทธิ์ไหลบ่าดั่งคลื่น คนที่ระดับยุทธ์ต่ำเช่นอาจารย์เทียนเซียวรู้สึกเหมือนถูกไฟเผาทันที
ขาเขาขาดสองข้างและเสียแขนไปข้างหนึ่งจนอ่อนแอเป็นที่สุด ตอนนี้ต้องมาทนการเผาจากกฎหยางบริสุทธิ์อีก แม้แต่เคราก็เริ่มหงิกงอ
“พลังหยางบริสุทธิ์ที่อยู่ด้านล่างบริสุทธิ์มาก วิญญาณหยางคงจะอยู่ใต้น้ำตกนี้” รองประมุขท่าทางเหมือนเด็กพูดอย่างตาเป็นประกาย
ต่อให้ไม่อาจแน่ใจว่าเป็นวิญญาณหยาง แต่เกรงว่าใต้น้ำตกนี้คงมีสมบัติแน่นอน
“ไม่รู้ว่าไอ้เด็กเวรอี้อวิ๋นอยู่ที่ไหน หากเขาอยู่ที่นี่เช่นกันข้าก็จะลอกหนังกระชากกระดูกเขา จากนั้นก็เอาวิญญาณมาหลอมโอสถ!”
พวกเขาจำคำเย้ยหยันที่อี้อวิ๋นมีต่อพวกเขาก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี
ตลอดทางมานี้พวกเขาไม่เจออี้อวิ๋น อี้อวิ๋นอาจอยู่ที่นี่ก็ได้
“เขาคงคิดว่าสมบัติเป็นของเขาแน่นอน ทว่าเขามีชีวิตมาถึงที่นี่แต่จะไม่มีชีวิตนำสมบัติกลับไป ทุกอย่างที่นี่จะถูกวังวิถีเจ็ดดาราหลอมเป็นสมบัติขั้นสุดยอด” หลิ่วหรูอี้เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับพูดอย่างเย็นยะเยือก
หลิงเสียเอ๋อร์กำลังแอบมองสี่คนนี้อยู่กลางน้ำตก
นางมองออกว่าในสี่คนนี้นอกจากคนที่หายใจรวยรินแล้ว อีกสามคนที่เหลือล้วนมีกลิ่นอายแข็งแกร่งมาก
แต่ระหว่างทางที่มาที่นี่พวกเขาสามคนก็บาดเจ็บ แม้กลิ่นอายจะแข็งแกร่งแต่กลับไม่เสถียร
‘พวกเขามีความแค้นต่อคนที่ชื่ออี้อวิ๋นมากถึงเพียงนี้เชียว?’ หลิงเสียเอ๋อร์คิดอย่างสงสัยแล้วก็กระพริบตาคู่โตอย่างฉับพลัน ‘อี้อวิ๋น…คงไม่ใช่เขาหรอกกระมัง?’
หลิงเสียเอ๋อร์เป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลฟ้าดิน ไม่ว่าใครที่เข้ามาในโลกใต้ดินนี้นางก็รู้ทั้งนั้น
นางรู้ว่าก่อนหน้านี้คนเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อย คนกลุ่มนี้เป็นพวกเดียวกัน เช่นนั้นศัตรูของพวกเขาก็มีเพียงอี้อวิ๋นที่อยู่เพียงลำพัง
หลิงเสียเอ๋อร์เท้าคางคิดเมื่อได้ยินสี่คนนี้คุยกันว่าเมื่อจับอี้อวิ๋นได้แล้วจะทำอะไรกับเขา นางเป็นคนล่ออี้อวิ๋นลงมา เช่นนั้นหากคนเหล่านี้ลงไปเจออี้อวิ๋นเข้าก็เท่ากับนางทำร้ายเขา
ก่อนหน้านี้มีคนต้องตายเพราะคิดจะทำลายค่ายกล จนถึงตอนนี้หลิงเสียเอ๋อร์ก็ยังรู้สึกผิด ตอนนี้นางเป็นคนล่อให้อี้อวิ๋นมาที่ค่ายกล นางจึงยิ่งไม่อาจปล่อยให้เขาถูกคนเหล่านี้ทำร้าย
‘ถ้าเขาพบว่าไม่อาจทำลายค่ายกลแล้วจากไปเองก็คงดี ในเมื่อคนพวกนี้มาหาข้า เช่นนั้นข้าจะล่อให้พวกเขาไปที่อื่นก่อนแล้วกัน’ หลิงเสียเอ๋อร์คิด
ความจริงนางก็ไม่มีวิธีที่ดีอะไรมาจัดการคนทั้งสามที่กลิ่นอายแข็งแกร่ง นางถูกขังที่นี่มาหลายร้อยล้านปีจนอ่อนแอมาก ส่วนต้นกำเนิดของนางอย่างเปลวไฟสีเทาก็ถูกขังไว้กลางค่ายกล… ไม่อาจนำมาจัดการสามคนนี้
คนทั้งสี่กำลังจะกระโดดลงสู่น้ำตก หลิงเสียเอ๋อร์ไม่มีเวลามาคิดอย่างละเอียดก็พุ่งตัวออกจากน้ำตกที่ซ่อนตัว
“ผู้ใด!”
หลิ่วหรูอี้ร้องด้วยความโกรธแต่ก็ต้องตะลึงงัน
มีเด็กผู้หญิงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้อย่างไร?
………………………………………………………………………………………………………….
[1] คนหมูคือวิธีลงโทษที่โหดร้ายมาก โดยจะทำการตัดมือ ตัดเท้า ควักลูกตา เอาทองแดงกรอกหูให้หูหนวก กรอกยาใบ้เข้าปาก ตัดลิ้น ทำลายเส้นเสียงแล้วทิ้งไว้ในกองอาจม