True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1105
ฟู่…ฟู่…
ในโลกใต้ดินเบื้องล่างทะเลทราย อี้อวิ๋นรู้สึกถึงลมร้อนที่พัดเข้าหน้า มันพัดจนร่างกายเขาเหมือนจะติดไฟขึ้นมา
ต้องบอกก่อนว่าอี้อวิ๋นเป็นผู้ฝึกกฎหยางบริสุทธิ์ แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกรับมือได้ไม่สบายนัก เห็นได้ถึงความรุนแรงในพลังหยางบริสุทธิ์ของที่นี่
อี้อวิ๋นทิ้งตัวลงไปข้างล่างเรื่อยๆ เขาตกลงมาลึกหลายหมื่นจั้งก็ยังไม่เห็นก้นของถ้ำนี้
กระทั่งเมื่อตกลงมาประมาณแสนจั้ง อี้อวิ๋นจึงจะเห็นทะเลสาบใต้ดินอันกว้างใหญ่ผืนหนึ่ง
การที่มีทะเลสาบอยู่ใต้ทะเลทรายทำให้อี้อวิ๋นรู้สึกเหลือเชื่อ
แต่เมื่อมองน้ำในทะเลสาบผืนนี้แล้วอี้อวิ๋นก็ต้องตกใจ น้ำในทะเลสาบเป็นสีแดงเข้มทั้งหมด ไอร้อนหลายสายแผ่ปะทะหน้าเข้ามา
เมื่ออี้อวิ๋นมองดูให้ชัดก็พบว่าสิ่งที่อยู่ในทะเลสาบไม่ใช่น้ำ แต่เหมือนโลหะที่หลอมเหลวมากกว่า
มองไปยังสายน้ำที่ไหลเข้าสู่ทะเลสาบก็พบว่าเป็นเหล็กหลอมเหลวเช่นกัน
แม่น้ำทะเลสาบเช่นนี้… หากเหล็กหลอมเหลวพวกนี้ละเหยขึ้น เช่นนั้นจะกลายเป็นฝนลูกเหล็กหรือเปล่า?
ในหัวอี้อวิ๋นมีความคิดเหล่านี้แล่นผ่าน เขารู้สึกทึ่งในความมหัศจรรย์ของโลกใบนี้
แต่ในตอนนี้เองที่จู่ๆ ใจอี้อวิ๋นก็ตึงเครียดขึ้นมาและรู้สึกเย็นวาบด้านหลัง เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นว่ากลางแม่น้ำเหล็กหลอมมีศีรษะข้างหนึ่งโผล่ขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ ดวงตาอันว่างเปล่าจ้องมาที่เขา
อะไรน่ะ!?
อี้อวิ๋นตื่นตัวอย่างหนัก ศีรษะนี้มีขนาดเท่าอ่างล่างหน้า ใบหน้าเหมือนถูกเหล็กหลอมเผาจนมีแต่รู ดูแล้วน่ากลัวเป็นที่สุด
ซ่า!
ศีรษะนี้กระโดดขึ้นจากแม่น้ำจนเหล็กหลอมกระเซ็นไปทั่ว
นี่คือสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ที่สูงสามหมี่ แขนหนาพอๆ กับต้นขาของอี้อวิ๋น กล้ามเนื้อทั่วร่างแน่นเป็นมัดๆ ดูแล้วแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง บนร่างเขามีโซ่ที่ถูกเผาจนแดงล่ามเอาไว้ ในมือถือดาบขนาดยาวเท่าตัวคน เมื่อเดินย่ำบนพื้นก็มีเหล็กหลอมไหลลงมาตามผิวไม่หยุด เหล็ดหลอมหยดลงบนพื้นแล้วกลายเป็นลูกเหล็กสีแดงเข้มเมื่อเย็นตัวลง
อสูรปีศาจหรือมนุษย์?
อี้อวิ๋นคิดไม่ถึงว่าที่โลกใต้ดินจะมีสิ่งเป็นมนุษย์หรือปีศาจก็ไม่รู้
ตูม ตูม!
สิ่งมีชีวิตร่างคนมีน้ำหนักอันน่ากลัว เมื่อเหยียบลงบนพื้นก็เกิดรอยเท้าที่จมลึก และสิ่งที่ทำให้อี้อวิ๋นตกตะลึงที่สุดคือ กลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตร่างคนนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง มันถึงขั้นแข็งแกร่งกว่าอี้อวิ๋นด้วยซ้ำ
ตูม!
ทันใดนั้นสิ่งมีชีวิตร่างคนก็พุ่งตัว ฝ่าเท้าเหยียบพื้นจนแตกและฟันดาบเข้าใส่อี้อวิ๋น ดาบนี้ไม่มีการบรรลุด้านกฎหรือเจตนาดาบแต่อย่างใด ทว่ามันกลับมีความเร็วและพลังอันน่ากลัว!
อี้อวิ๋นตกตะลึง ดาบนี้เคลื่อนที่เร็วมาก มันเร็วกว่าความเร็วในการลงกระบี่ของเขาหลายเท่าตัว!
กระบี่แห่งกาลเวลาสามฉื่อ!
ในเมื่อสู้ความเร็วไม่ได้ก็ต้องใช้กฎมาทดแทน!
กระบี่ของอี้อวิ๋นทำให้มิติบิดเบี้ยวเป็นกรงมิติ ทว่ากรงนี้ยังไม่ทันรวมตัวกันก็ถูกพลังอันแข็งแกร่งทำลาย!
เมื่อการโจมตีของจอมยุทธ์พัฒนาถึงขีดสุดก็ทำลายได้แม้แต่อากาศ ตอนนี้ดาบของสิ่งมีชีวิตร่างคนก็เป็นเช่นนี้!
ฉัวะ!
พลังมิติแตกทลาย อี้อวิ๋นไม่มีทางเลือกอื่น เขาได้แต่ใช้กระบี่หักหยางบริสุทธิ์มารับการโจมตีนี้โดยตรง
แกร๊ง!
ดาบและกระบี่กระทบเข้าด้วยกัน แรงปะทะอันแข็งแกร่งพัดม้วนไปทั่วร่างอี้อวิ๋น อี้อวิ๋นรู้สึกแขนชา ร่างกายสั่นอย่างรุนแรง ง่ามนิ้วฉีกขาด
เขาส่งเสียงร้องแล้วมีเลือดไหลจากปาก
นี่มันพลังอะไรกัน!?
อี้อวิ๋นตะลึงงัน เขายังไม่ทันรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นตัวอะไรก็ถูกโจมตีลงมือ พลังของอีกฝ่ายยังน่ากลัวขนาดนี้อีก!
เมื่อความเร็วและพลังพุ่งขึ้นถึงขีดสุด เพียงแค่การฟันธรรมดาก็มีอานุภาพถึงเพียงนี้
ฟึ่บ!
อี้อวิ๋นเพิ่งต้านดาบนี้ได้อย่างทุลักทุเล สายโซ่ของสิ่งมีชีวิตร่างคนนี้ก็เหวี่ยงมาทางเขา!
สายโซ่ส่งเสียงเกรียวกราวประหนึ่งจะแยกมิติเป็นสองส่วน รูม่านอี้อวิ๋นหรี่ลง ร่างกายถอยไปด้านหลัง!
เขารู้ว่าไม่อาจใช้กระบี่มาต้านสายโซ่ ไม่เช่นนั้นหากสายโซ่รัดพันเข้าที่กระบี่หักหยางบริสุทธิ์ เช่นนั้นแม้แต่กระบี่ก็คงถูกดึงไปแน่
อี้อวิ๋นต้องถอยออกมาหลายสิบจั้งจึงจะหยุดฝีเท้าได้มั่นคง เขาจับกระบี่หักหยางบริสุทธิ์ไว้แน่น แววตาเคร่งขรึมขึ้นมา
ไม่ต้องพูดถึงพลังโจมตีของสิ่งมีชีวิตร่างคนนี้ แรงป้องกันของอีกฝ่ายก็คงน่าตกตะลึงเช่นกัน อี้อวิ๋นไม่กล้าปะทะตรงๆ เมื่อสู้กับมัน การบาดเจ็บในโลกใต้ดินที่ไม่รู้ว่ามีอันตรายอะไรบ้างไม่ใช่เรื่องน่าล้อเล่น
เขาได้แต่ใช้สมองมาเอาชนะกำลัง
‘สิ่งมีชีวิตประหลาดนี่น่าจะมีสติปัญญาไม่สูง เราต้องใช้ไหวพริบ…’
อี้อวิ๋นพลิกฝ่ามือออกมาอย่างไร้ร่องรอย กงล้อสีดำขนาดเล็กลอยหมุนกลางฝ่ามือ อี้อวิ๋นตัดสินใจแล้วว่าจะหาจังหวะส่งกงล้อหมื่นมารเกิดดับเข้าสู่ร่างสิ่งมีชีวิตร่างคน เช่นนี้ต่อให้แรงป้องกันของอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งอย่างไรก็ไร้ประโยชน์
ทว่า…ในขณะที่อี้อวิ๋นกำลังจะลงมือก็ต้องหยุดชะงักลง กงล้อหมื่นมารเกิดดับที่รวมไว้กลางฝ่ามือก็หายไปด้วยเช่นกัน
ภาพที่เกิดตรงหน้าทำให้อี้อวิ๋นขนลุกตั้งแต่เท้าขึ้นมาถึงศีรษะ
ในแม่น้ำเหล็กเหล็กหลอมที่ไหลรินช้าๆ อยู่ด้านหลังสิ่งมีชีวิตร่างคนมีศีรษะผุดขึ้นติดต่อกันเจ็ดแปดศีรษะ
ทุกศีรษะมีขนาดท่าอ่างล้างหน้า ใบหน้าเป็นรูเหมือนถูกเผาทิ้ง
จากนั้นตรงกลางศีรษะเหล่านี้ก็มีศีรษะที่ขนาดใหญ่ขึ้นไปอีกผุดขึ้น ใบหน้าของศีรษะใบนี้ไม่ได้ถูกเผาทิ้งแต่ชัดเจนสมบูรณ์ดี บนศีรษะยังมีแผ่นโลหะรวมตัวกันเหมือนหมวกเกราะที่ทำอย่างลวกๆ
กลิ่นอายบนตัวสิ่งมีชีวิตร่างคนที่สวมหมวกผู้นี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก เห็นได้ชัดว่าเป็นหัวหน้าของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้
เยอะขนาดนี้เชียว!?
ใจอี้อวิ๋นขมขื่น แต่ตัวเดียวเขายังใช่ว่าจะสู้ได้ ตอนนี้มีมาเพิ่มเจ็ดแปดตัวและยังมีหัวหน้าอีก!
คิดไม่ถึงว่าโลกใต้ดินจะมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวถึงเพียงนี้ หากพวกมันมีเยอะกว่านี้ขึ้นหน่อยก็อาจทำลายได้แม้กระทั่งวังวิถีเจ็ดดารา
เดิมทีอี้อวิ๋นก็รู้อยู่แล้วว่าสิ่งฝังอยู่ในทะเลทรายกลบอาทิตย์ไม่ธรรมดา แต่ดูจากตอนนี้แล้วเขาอาจประเมินต่ำไปหน่อย
หนี!
สู้ไม่ได้แล้วไม่หนีก็เท่ากับรนหาที่ตาย
อี้อวิ๋นหมุนตัวบินออกไปอย่างไม่แม้แต่จะคิด เขากระตุ้นความเร็วให้ถึงขีดสุด ขณะเดียวกันก็ใช้กฎแห่งมิติเวลา
‘โฮก!’
บรรดาสิ่งมีชีวิตร่างคนร้องคำรามเสียงต่ำและไล่ตามอี้อวิ๋น!
กล้ามเนื้อทั่วร่างพวกมันนูนปูดในขณะที่วิ่งไปบนพื้นด้วยความเร็ว ฝ่าเท้ากระทบกับพื้นดินอย่างรุนแรงจนสั่นสะเทือน ทรายอันร้อนระอุพัดปลิวเป็นมังกร
อี้อวิ๋นเปิดใช้ความเร็วสูงสุดแต่ก็ยังสลัดสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่หลุด พวกมันเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะเจ้าตัวที่เป็นหัวหน้า มันสูงสี่หมี่และมีความเร็วเหนือกว่าอี้อวิ๋นหนึ่งขั้น!
จะถูกไล่ทันแล้ว!
ใจอี้อวิ๋นเย็นยะเยือก หากถูกไล่ทันก็คงต้องตายแน่นอน!
ในตอนนี้เองที่เรื่องที่ทำให้อี้อวิ๋นต้องสิ้นหวังได้เกิดขึ้น การรับรู้ของเขาสำรวจออกไปแล้วก็ต้องพบว่าเขาวิ่งมาถึงจุดสิ้นสุดของโลกได้ดินนี้แล้ว!
แม้โลกใต้ดินจะกว้างใหญ่ ทว่าจุดที่อี้อวิ๋นลงมาในตอนแรกก็เป็นปลายด้านหนึ่งของโลกนี้อยู่แล้ว ตอนนี้จึงย่อมวิ่งมาถึงทางตัน!
สวรรค์จะฆ่าเขาหรือ?
อี้อวิ๋นคิดอย่างรวดเร็วเพื่อหารอดทางที่เป็นไปได้ในจุดอับจนนี้!
ในตอนที่เขากำลังไร้ซึ่งหนทางและสิ้นหวังนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงอันแก่ชราดังขึ้นข้างหูเขาอย่างฉับพลัน… “มาทางนี้!”