True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1104
ทะเลทรายกลายอาทิตย์กว้างใหญ่เป็นอย่างยิ่ง สายตาอี้อวิ๋นพร่ามัวเล็กน้อยเมื่อเดินทางผ่านค่ายกลส่งข้าม เมื่อวิสัยทัศน์ชัดเจนอีกครั้งและมอบไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในโอเอซิสขนาดเล็กแห่งหนึ่ง
เพราะพลังหยางในทะเลทรายกลบอาทิตย์รุนแรงเกินไป โอเอซิสที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจึงไม่มีให้เห็น โอเอซิสทั้งหมดที่นี่มีค่ายกลสนับสนุนจึงคงอยู่ได้
โอเอซิสแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่ จอมยุทธ์จำนวนหนึ่งมาถึงที่นี่ผ่านค่ายกลส่งข้ามเช่นกันและยังไม่จากไปไหน
เมื่ออี้อวิ๋นปรากฎขึ้นกลางค่ายกลส่งข้ามก็รู้สึกถึงสายตาและการรับรับรู้จำนวนไม่น้อยที่กวาดมาทางเขาทันที
การรับรู้เหล่านี้ไม่อ่อนแอ เมื่ออี้อวิ๋นกวาดการรับรู้ก็พบว่ามีพลังที่แข็งแกร่งมีสองสามกลุ่ม คนที่มาที่นี่ต่างก็วางแผนที่จะไปสำรวจส่วนลึกของทะเลทรายกลบอาทิตย์ พลังจึงย่อมไม่อ่อนแอ
เมื่อสายตาและการรับรู้เหล่านี้เห็นว่าอี้อวิ๋นเป็นแค่จอมยุทธ์แปลกหน้าก็พากันเลิกสนใจ
‘มาจากกลุ่มสำนักกันทั้งนั้น’ อี้อวิ๋นมองไปก็เห็นจอมยุทธ์เหล่านี้รวมตัวเป็นกลุ่มย่อยๆ แต่ละคนสวมเครื่องแบบประจำสำนัก จอมยุทธ์อิสระแบบอี้อวิ๋นมีน้อยมากจึงไม่เป็นที่สนใจ
ตอนนี้เขาเห็นภาพเหมือนของตัวเขาเองอยู่บนหินก้อนยักษ์นอกค่ายกลส่งข้าม
เมื่ออี้อวิ๋นเดินเข้าไปดูก็พบว่าเป็นประกาศจับของเขา ผู้ประกาศจับคือวังวิถีเจ็ดดารา
‘วังวิถีเจ็ดดารา…’ อี้อวิ๋นยืนดูประกาศจับอยู่หน้าหินก้อนยักษ์ด้วยสีหน้านิ่งเฉย เขากับวังวิถีเจ็ดดาราคงนับได้ว่าไม่ตายไม่เลิก ท้ายที่สุดแล้วพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งเกินไปก็ทำให้วังวิถีเจ็ดดาราเกรงกลัว วังวิถีเจ็ดดารากลัวว่าเมื่ออี้อวิ๋นเติบโตขึ้นในอนาคตแล้วจะมาเอาคืน นี่เป็นสิ่งที่อี้อวิ๋นคิดจะทำจริงๆ เสียด้วย
“ไอ้หนู เลิกดูเถอะ คนในภาพเหมือนไม่ใช่คนที่เจ้าจะหาเรื่องได้”
เสียงที่เหมือนผ่านโลกมาอย่างโชกโชนดังขึ้นอย่างฉับพลัน อี้อวิ๋นหันไปมองก็เห็นชายสูงวัยที่สวมชุดผ้าทอหยาบๆ ผู้หนึ่ง ใบหน้าเต็มด้วยรอยย่น ผิวหนังก็แดงเหมือนตากแดดตากลมมา ในมือถือบ้องยาสูบท่อนหนึ่งพร้อมสูบควันออกมา บนบ้องยาสูบมีถุงยาเส้นห้อยอยู่ด้วย
อี้อวิ๋นงงงันเล็กน้อยเมื่อเห็นการแต่งกายของคนผู้นี้ หลายปีมานี้เขาท่องไปในโลกสวรรค์หมื่นปีศาจกับโลกสวรรค์เทพหยาง ชายชราที่เจอไม่มีท่ามีเหมือนเซียนก็เหมือนคนป่วยที่ดูก็รู้ว่าฝึกวิชานอกรีต ไม่เคยเจอแบบชายชราตรงหน้านี้มาก่อน
หากไม่ใช่เพราะรู้สึกคลื่นพลังพิเศษบนร่างอีกฝ่าย เช่นนั้นอี้อวิ๋นก็คงคิดว่าเขาเป็นชาวนาจากในหุบเขาสักแห่ง
“เอ๋?” ชาวนาเฒ่ามองอี้อวิ๋นแล้วส่ายศีรษะ “เจ้า…ค่อนข้างน่าสนใจ”
ชาวนาเฒ่าเหมือนพูดพึมพำกับตัวเอง อี้อวิ๋นฟังแล้วก็แปลกใจ น่าสนใจหรือ?
“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้มีจุดประสงค์ร้าย แต่ข้าขอแนะนำให้เจ้าเลิกคิดเรื่องสมบัติประหลาดในทะเลทรายกลบอาทิตย์จะดีกว่า” ชาวนาส่ายหน้าไปด้วยชี้ไปทางค่ายกลส่งข้ามด้านหลังอี้อวิ๋นไปด้วย “สองสามวันนี้มีคนคิดที่จะกลับออกไปแล้ว”
สองสามวันมานี้มีจอมยุทธ์หลายคนเข้าสู่ใจกลางทะเลทรายกลบอาทิตย์ แต่พื้นที่ที่ปรากฏการณ์ปกคลุมกว้างใหญ่เกินไป ไม่มีใครรู้ว่าสมบัติอยู่ตรงไหนกันแน่
จอมยุทธ์หลายคนตามหาไปทั่วทะเลทรายกลบอาทิตย์เหมือนแมลงวันไร้หัว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เจออะไร
เดิมทีในทะเลทรายก็พอมีสมบัติอย่างอื่นปรากฏ แต่เพราะสองสามวันมานี้มีคนตามหาสมบัติมากเกินไป จำนวนสมบัติมีน้อยแต่มีคนมาก ไม่ต้องพูดถึงสมบัติที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดิน ลำพังแค่วัตถุดิบล้ำค่าธรรมดาก็มีไม่เยอะ
หลายคนไม่เพียงแต่ไม่ได้ประโยชน์ พวกเขายังถูกจอมยุทธ์ที่ปล้นสะดมฆ่าตายด้วยซ้ำ นี่จึงทำให้หลายคนคิดว่าจะถอยตัว
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่เตือนขอรับ” อี้อวิ๋นประสานมือ “ข้าน้อยใช่ว่าจะต้องตามหาสมบัติเสมอไป ได้เปิดหูเปิดตาก็ไม่เลว”
“ฮ่า ตามใจ”
ชายชราพูดจบถือบ้องยาสูบจากไป
‘ชายเฒ่าผู้นี้แปลกจริงๆ…’
อี้อวิ๋นขมวดคิ้วเบาๆ สัญชาตญาณของเขาบอกว่าชายผู้นี้ไม่ธรรมดา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีที่มายังไงกันแน่
อี้อวิ๋นดูเหมือนออกจากโอเอซิสอย่างไม่คิดอะไร เมื่อเขามาถึงยังจุดที่ไร้ผู้คนและใช้การมองเห็นด้านพลังของผลึกม่วงมายืนยันว่ารอบด้านไม่มีคนแล้วจึงยื่นมือไปลูบที่แหวนมิติ บนฝ่ามือมีเข็มทิศโบราณชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นทันที
นี่คือเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูก ตอนที่จีสุ่ยเยียนมอบเข็มทิศนี้ให้อี้อวิ๋นก็ได้บอกวิธีใช้ให้กับเขา
หลายคนตามหาไปทั่วทะเลทรายกลบอาทิตย์เหมือนแมลงวันไร้หัว แต่อี้อวิ๋นมีของวิเศษชิ้นนี้
เขาส่งตราคาถาเข้าใส่เข็มทิศ ทันใดนั้นด้านบนเข็มทิศก็มีแสงสลัวๆ สว่างขึ้น
‘มีการตอบสนอง…แม้จะอ่อนแรงมากก็เถอะ…’
อี้อวิ๋นจัดเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกแล้วเริ่มหาทิศทาง
การพบเจอกับชายชราเมื่อครู่ทำให้ใจอี้อวิ๋นตื่นตัวขึ้น การเดินทางในทะเลทรายกลบอาทิตย์ครั้งนี้คงมียอดฝีมือไม่น้อย เขาต้องระวังตัวให้มากที่สุด
เข็มทิศความลับสวรรค์เป็นสมบัติที่ตกทอดมาตั้งแต่ยุคโบราณของสำนักความลับสวรรค์ ความเชื่อมโยงระหว่างเข็มทิศตัวแม่กับตัวลูกเกี่ยวเนื่องถึงวิชาพื้นภูมิ ยากที่จะถูกตัดขาด
แต่ตอนนี้อี้อวิ๋นกลับพบว่าแม้จะมีเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกในมือ ตำแหน่งของเข็มทิศตัวแม่ก็ยังคลุมเครือเล็กน้อยอยู่ดี เขาตามหาอยู่หลายชั่วโมงก็ทำได้แค่ให้แสงของตัวลูกสว่างขึ้นเล็กน้อย
‘คงจะมีพลังกั้นอยู่…’
อี้อวิ๋นขมวดคิ้วพูดกับตัวเอง แม้ความเชื่อมโยงระหว่างเข็มทิศความลับสวรรค์แม่ลูกจะไม่ถูกตัดขาดง่ายๆ แต่หากมีค่ายกลหรือพลังมิติเวลาขวางกั้น เช่นนั้นความเชื่อมโยงนี้ก็อาจแปรปรวนขึ้นมา เขาต้องอยู่ใกล้เข็มทิศตัวแม่ให้มากพอจึงจะหาตำแหน่งของเข็มทิศตัวแม่เจอ
แต่อี้อวิ๋นไม่ร้อนใจในเรื่องนี้ เขามีเข็มทิศตัวลูกยังหายากขนาดนี้ นับประสาอะไรกับจอมยุทธ์คนอื่นๆ
เข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกอยู่ในมือ อี้อวิ๋นค่อยๆ หาตำแหน่งที่ถูกต้อง ยิ่งเข้าไปไกลเท่าไร อี้อวิ๋นก็รู้สึกถึงพลังหยางที่ยิ่งรุนแรง หากจอมยุทธ์ทั่วไปมาอยู่ที่นี่ก็คงอวัยวะภายในมอดไหม้ไปนานแล้ว
ทรายของที่นี่อ่อนนุ่มขึ้น เมื่อเหยียบลงไปก็จมมาถึงหลังเท้า หากไม่ใช่เพราะมีพลังปราณหุ้มเท้าอยู่ก็คงติดไฟเมื่อเหยียบลง
ทันใดนั้นแสงของเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกก็สว่างวาบขึ้น ทว่าเมื่ออี้อวิ๋นมองไปรอบด้านก็มีแต่ความว่างเปล่า ไม่เห็นอะไรเป็นพิเศษ
“หืม?” อี้อวิ๋นก้มมองทรายอ่อนนุ่มอันร้อนระอุที่อยู่ใต้เท้าอย่างฉับพลัน
รอบๆ นี้ไม่มีอะไรให้เห็น แต่เข็มทิศตัวลูกกลับรู้สึกถึงตำแหน่งของตัวแม่…
“เปิด!” อี้อวิ๋นชักกระบี่ออกมาฟันลงบนทรายเบื้องหน้า
ทันใดนั้นทรายสีเหลืองที่ม้วนแยกออกจนเผยให้เห็นร่องลึกสายหนึ่ง
หลังจากที่ฟันกระบี่ไปสองสามครั้งก็ต้องตาเป็นประกาย
ปากถ้ำอันมืดมิดปรากฏอยู่ใต้ดินลึก
ตัวปากถ้ำถูกเผาจนเป็นสีแดง ภายในมีเปลวไฟสีแดงส่องสว่างเหมือนทางเข้านรก
อี้อวิ๋นถือเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกไว้ในมือและกระโดดตัวเข้าสู่ภายในอย่างไม่ลังเล
ทรายสีเหลืองปกคลุมลงมาทันที เพียงพริบตาก็กลบทับทางเข้าถ้ำและกลับเป็นทะเลทรายเหมือนเดิม
ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม แม้แต่ความร้อนระอุก่อนหน้านี้ก็หายไปด้วย ประหนึ่งเป็นแค่ภาพลวงตา
หากไม่ใช่เพราะมีเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกก็คงคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าด้านล่างจะมีโลกอีกใบหนึ่ง
ขณะที่อี้อวิ๋นกำลังเข้าถ้ำ บนทะเลทรายที่ห่างจากเขาออกไปพันลี้มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินหน้าอย่างช้าๆ
หากอี้อวิ๋นอยู่ที่นี่ก็คงจำคนเหล่านี้ได้ในทันที
คนกลุ่มนี้สวมชุดคลุมที่ปักลายดาวเจ็ดดวง ผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าคือหลิ่วหรูอี้ผู้เป็นรองประมุขของวังเจ็ดดารา ด้านหลังนางมีอาจารย์เทียนเซียวจากสำนักความลับสวรรค์เดินตามอยู่
ตอนนี้อาจารย์เทียนเซียวกำลังถือเข็มทิศชิ้นหนักเพื่อพยามยามอนุมาน หน้าผากเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ หลังจากที่อนุมานอยู่ใต้ดวงอาทิตย์อันร้อนระอุมาหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ก็ได้แต่วางเข็มทิศลงอย่างหงุดหงิดใจ
“อาจารย์เทียนเซียว เจ้ายังคำนวณตำแหน่งไม่ได้อีกหรือ?” หลิ่วหรูอี้ขมวดคิ้วถาม พวกนางมาอยู่ในจุดที่เกิดปรากฏการณ์ขึ้นได้สองสามวันแล้วแต่กลับไม่ได้อะไรเลย
อาจารย์เทียนเซียวพูดว่า “พลังปราณที่นี่ผันผวนจนเกิดเป็นค่ายกลตามธรรมชาติ ข้าใช้วิชาพื้นภูมิมาอนุมานพลังฟ้าดินก็เท่ากับถอดรหัสความลับสวรรค์ มันทำง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน? แต่รองประมุขหลิ่วโปรดวางใจ แม้ข้าจะช้าไปบ้าง แต่อย่างมากสุดก็ใช้เวลาสิบวันในการเจอตำแหน่งของสมบัติแน่นอน!”
“ตอนนี้ทั้งทะเลทรายกลบอาทิตย์มีข้าเพียงคนเดียวที่มีความสามารถนี้ คนอื่นๆ หาไม่เจอแน่นอน”
อาจารย์เทียนเซียวพูดอย่างมั่นใจ
“นานขนาดนั้นเลย?”
หลิ่วหรูอี้ไม่พอใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้ก็ได้แต่ทำเช่นนี้