True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1091
อี้อวิ๋นไม่เคยดูถูกวิถีกระบี่ของสำนักกระบี่สระใส แต่ก่อนหน้านี้เขาสัมผัสมรดกสายใหญ่มามากจริงๆ มรดกหลายอย่างถึงขั้นเหนือกว่าราชาชิงหยาง
มองจากมุมนี้แล้วอี้อวิ๋นคิดว่ามรดกที่สำนักกระบี่สระใสมีอ่อนแอกว่าเล็กน้อย เขาแสดงเจตนากระบี่ของตัวเองก็เพื่อตอบแทนบุญคุณของราชาชิงหยาง
แต่อี้อวิ๋นไม่เคยคิดว่าในโลกของจอมยุทธ์จะมีอาจารย์ของเราอยู่ทุกที่ แม้ก่อนหน้านี้อี้อวิ๋นจะมีผลวิถีหยินหยางและมิติเวลาในเวลาเดียวกัน แต่การจะผสานวิถีเหล่านี้เข้าสู่กระบวนท่ากระบี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การทำเช่นนี้เทียบเท่ากับคิดค้นกระบวนท่าขึ้นเองด้วยซ้ำ กระบวนท่ากระบี่ที่อี้อวิ๋นใช้ก่อนหน้านี้มาจากการบรรลุที่วังกระบี่หยางบริสุทธิ์และราชาสายฝน
แม้วิถีกระบี่ของเจี้ยนเฟิงหงจะมีระดับไม่เท่าอี้อวิ๋น แต่อี้อวิ๋นกลับได้แรงบันดาลใจจากกระบวนท่ากระบี่ของเขาจนนับได้ว่าสร้างกระบวนท่าขึ้นเอง
บางครั้งการคิดค้นกระบวนท่าที่เหมาะกับตัวเองที่สุดก็ทั้งง่ายมากและยากมาก
จุดที่ง่ายคือได้แรงบันดาลมาโดยบังเอิญ ส่วนจุดที่ยากคือแรงบันดาลใจนี้อาจต้องใช้เวลาเป็นร้อยเป็นพันปีก็ยังไม่ได้มา
‘กระบวนท่าที่คิดขึ้นเองเหมาะกับเราที่สุดจริงๆ ด้วย’
อี้อวิ๋นมองรอยกระบี่ขนาดยักษ์อย่างพึงพอใจ ตอนนี้แท่นกระบี่เก้าดาราที่อยู่ข้างรอยมีแสงสั่นอย่างรุนแรง
เพล้ง!
ม่านแสงหายใจ เจี้ยนเฟิงหงเดินลงจากแท่นกระบี่อย่างตื่นตกใจ เขาเงยหน้ามองอี้อวิ๋นด้วยแววตาที่มีความสับสน จิตตกและไม่เชื่อ
เจตนากระบี่แข็งอ่อนคือกระบวนท่าที่เขาได้มาด้วยประสบการณ์จากการฟันกระบี่ไม่รู้กี่ครั้งในรอบหลายสิบปีมานี้จึงจะค่อยๆ บรรลุและผสานลงในกระบวนท่ากระบี่ แม้แต่เจี้ยนปู๋อี้ผู้เข้มงวดก็ยังชื่นชมในความสำเร็จนี้ของเขา
เขาเองก็ภูมิใจกับเรื่องนี้เช่นกัน
ตอนที่ประมือกับศิษย์น้องก็แทบไม่ใช่เจตนากระบี่แข็งอ่อน เพราะไม่มีใครต้านกระบี่นี้ของเขาได้ รวมไปถึงเจี้ยนเสี่ยวซวงด้วย
สาเหตุที่เขานำเจตนากระบี่ก้นหีบนี้ออกมาสู้กับอี้อวิ๋นก็เพราะหนึ่ง อยากให้อี้อวิ๋นประสบความลำบากและลบรัศมีอีกฝ่าย สอง ต้องการแสดงฝีมือต่อหน้าศิษย์น้องทั้งหลาย
แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจตนากระบี่แข็งอ่อนของเขาจะถูกทำลาย วิธีที่อีกฝ่ายใช้ทำลายเจตนากระบี่ของเขายังเหมือนของเขาอย่างไม่ผิดเพี้ยน เป็นการผสานของกฎที่ตรงข้ามเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะด้านระดับของกฎหรือการบรรลุแล้วอีกฝ่ายก็เหนือเขาไปไกล!
ทั้งอีกฝ่ายยังใช้กฎที่ตรงข้ามกันถึงสองชุด
แข็งอ่อนปะทะวิถีหยินหยางสายใหญ่กับวิถีมิติเวลาสายใหญ่ แบบนี้จะชนะได้อย่างไร?
เขาเป็นอัจฉริยะจริงๆ หรือ เหตุใดจึงห่างชั้นกับอีกฝ่ายมากถึงเพียงนี้?
ไม่ใช่แค่เจี้ยนเฟิงหง ศิษย์หลายคนในสำนักกระบี่สระใสที่อยู่รอบแท่นคอยกระบี่ต่างตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนมองเจตนากระบี่ในมืออี้อวิ๋นที่ยังคงวนเวียนอยู่รอบกระบี่บรรพชนสระใสอย่างพูดไม่ออกอยู่นาน
พวกเขาย่อมรู้ดีว่ากระบี่แข็งอ่อนมีอานุภาพเพียงใด แต่ถึงกระนั้นเจี้ยนเฟิงหงก็แพ้
วิถีกระบี่ที่บรรลุมาสี่ร้อยปีต้องมาพ่ายแพ้ภายใต้สถานการณ์ที่อยู่ระดับเดียว นี่ก็คือระยะห่าง
เจี้ยนปู๋อี้นิ่งเงียบ ตอนที่เขาเห็นหยินหยางกับมิติเวลาปรากฏพร้อมกันก็รู้แล้วว่าเจี้ยนเฟิงหงต้องแพ้แน่นอน เจี้ยนเฟิงหงทำทุกอย่างถึงขีดสูงสุดก็ยังไม่อาจข้ามผ่านระยะห่างของเหวสวรรค์
“ศิษย์น้อง ข้าขอถอนคำพูดทั้งหมดที่พูดก่อนหน้านี้ กระบี่นี้ของเด็กคนนี้เพียงพอให้สำนักกระบี่สระใสของเราเป็นศัตรูกับวังวิถีเจ็ดดาราจริงๆ!”
เจี้ยนปู๋อี้เป็นคนที่ยกขึ้นได้ก็วางลงได้ ผิดก็ยอมรับว่าผิด แม้ก่อนหน้านี้จะมีการแก่งแย่งกับเจี้ยนอู๋เฟิงอยู่เล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ทำเพื่อสำนักกระบี่สระใส
กระบี่ที่อี้อวิ๋นแสดงก่อนหน้านี้อยู่เหนือจินตนาการเขา
“ขอบคุณที่ศิษย์พี่ให้การยอมรับ” เจี้ยนอู๋เฟิงหัวเราะ “หากไม่ลองกระบี่ก็คงไม่มีใครเชื่อ ข้าเองก็เชื่อเพราะก่อนหน้านี้เห็นอี้อวิ๋นลงมือกับตามาแล้ว คิดไม่ถึงว่าพลังที่แสดงในขณะประมือกับศิษย์หลานเฟิงหงวันนี้จะทำให้ต้องตกตะลึงอีกครั้ง”
“สหายน้อยอี้อวิ๋น ก่อนหน้านี้ข้าหยาบคายกับเจ้าครั้ง ต้องขออภัยด้วย” เจี้ยนปู๋อี้ประสานมือให้อี้อวิ๋น
โลกของจอมยุทธ์มีผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ สำนักวิถีกระบี่ให้ความสำคัญกับวิถีกระบี่เป็นหลัก
ระดับยุทธ์จะสูงหรือต่ำอาจเป็นเรื่องรองลงมา แต่การบรรลุด้านวิถีกระบี่กลับเป็นตัวแทนของตำแหน่งในสำนัก
เพิ่มระดับยุทธ์เป็นเรื่องง่าย บรรลุวิถีกระบี่เป็นเรื่องยาก!
“ท่านผู้อาวุโสกล่าวเกินไปแล้วขอรับ ข้าน้อยเองก็ต้องขออภัยที่ก่อนหน้านี้เสียมารยาท ก่อนที่จะเริ่มสู้ข้าน้อยได้พูดจากำเริบเสิบสานเกินไป สาเหตุเป็นเพราะข้าน้อยประมาทวิถีกระบี่ของสำนักกระบี่สระใส ตอนที่ประมือกับศิษย์พี่เฟิงหงเมื่อครู่ แนวคิดแข็งอ่อนของเขาทำให้ข้าน้อยเกิดสติปัญญาจนวิถีกระบี่มีการพัฒนาครั้งใหญ่ แทนที่จะบอกว่ากระบี่เมื่อครู่คือวิถีกระบี่ที่ข้าน้อยแสดงให้สำนักกระบี่สระใสดู ก็ไม่สู้บอกว่าศิษย์พี่เฟิงหงแสดงวิถีกระบี่ให้ข้าน้อยดูจะดีกว่า กระบี่นี้ทำให้ข้าน้อยได้ประโยชน์อย่างใหญ่หลวง”
อี้อวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจเป็นอย่างยิ่ง เขารู้สึกขอบคุณและเคารพสำนักกระบี่สระใสจากใจจริง ทว่าเมื่อคำพูดนี้ตกสู่หูเจี้ยนปู๋อี้ก็เหมือนมีฟ้าร้องดังก้อง มันทำให้เขาอ้าปากค้างและพูดไม่ออกอยู่นาน
“เจ้าหมายความว่า…เจ้าเพิ่งบรรลุกระบี่เมื่อครู่จากแนวคิดแข็งอ่อนของศิษย์ข้า นำวิถีมิติเวลาสายใหญ่และวิถีหยินหยางสายใหญ่เพิ่มเข้าไปในกระบวนท่า!?”
เสียงของเจี้ยนปู๋อี้สั่นเบาๆ
นี่ต้องอัจฉริยะขนาดไหนกัน? ศิษย์ของเขาเพิ่งทำเรื่องนี้หลังจากที่เขาชี้แนะมาหลายสิบปี แต่อี้อวิ๋นกลับเรียนรู้สำเร็จภายในไม่กี่อึดใจ
ไม่แปลกเลยที่เขาไม่ลงกระบี่ในทันทีแต่ใช้แนวคิดแห่งมิติเวลามาถ่วงกระบวนท่ากระบี่ของเจี้ยนเฟิงหง ที่แท้ก็กำลังพิจารณาและศึกษา!
คนระดับนี้ทำให้หลายคนเกิดความสิ้นหวัง
อี้อวิ๋นพูดว่า “ก่อนหน้านี้ข้าน้อยก็ศึกษาวิถีแห่งมิติเวลาและวิถีหยินหยางมาก่อน แต่แม้กฎทั้งสองประเภทนี้จะรวมเป็นผลวิถี ทว่าการผสานกฎเหล่านี้เข้าสู่เจตนากระบี่และสร้างกระบวนท่าอันสมบูรณ์แบบออกมาล้วนได้การชี้แนะจากศิษย์พี่เฟิงหง”
ผลวิถีเก้าใบสี่ผลอยู่ในมือ ความจริงหากจะเปลี่ยนเป็นพลังต่อสู้ก็มีแค่กระดาษหน้าต่างบางๆ กั้นอยู่ ตอนนี้อี้อวิ๋นเจาะรูหน้าต่างออกแล้ว
“เจ้าบอกว่าศึกษาวิถีมิติเวลา วิถีหยินหยางในเวลาเดียวกันหรือ…”
เจี้ยนปู๋อี้ทอดถอนใจ วิถีใหญ่สองสายนี้ทำให้คนมองแล้วต้องถอยกลับ ก่อนที่จอมยุทธ์จะเข้าสู่ระดับรวมวิถี การได้บรรลุวิถีสายใหญ่สายหนึ่งและรวมผลวิถีได้เจ็ดใบก็ถือว่าไม่เลวแล้ว หากได้แปดใบก็ยิ่งน่าตื่นตะลึง
เขาไม่รู้ว่าอี้อวิ๋นรวมผลวิถีแบบไหน แต่ดูจากผลงานที่ทำแล้วเกรงว่าคงใกล้เคียงผลวิถีเก้าใบกระมัง?
ผลวิถีใหญ่เก้าใบสองผล เจี้ยนปู๋อี้รู้สึกจินจนาการไม่ออกจริงๆ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้…”
เจี้ยนปู๋อี้เดินไปทางแท่นกระบี่เก้าดารา “ทุกคนในที่นี้ต่างฝึกกระบี่ ผู้แข็งแกร่งถือเป็นอาจารย์ ข้ารู้สึกขอบคุณมากที่เจ้าแสดงกระบี่ของตัวเองให้สำนักกระบี่สระใสได้ดู เพื่อแสดงความนับถือ ถัดจากนี้ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เจ้าเอง!”
ศิษย์ทุกคนตะลึงอึ้งไปเมื่อเจี้ยนปู๋อี้พูดเช่นนี้
เจี้ยนปู๋อี้จะใช้แท่นคอยกระบี่ด้วยตัวเองเพื่อเป็นคู่ต่อสู้ให้อี้อวิ๋น?
ด้วยวิถีกระบี่ของเจี้ยนปู๋อี้ การสู้กับเด็กรุ่นเยาว์เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน