True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1070
“เช่นนี้นี่เอง ขอบคุณแม่นางสุ่ยเยียนจริงๆ”
เข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกนี้มีประโยชน์ต่ออี้อวิ๋นมาก เขาใช้วิชาพยากรณ์พื้นภูมิไม่เป็น การตามหาแก่นหยางในทะเลทรายกลบอาทิตย์จึงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร แต่หากมีเข็มทิศความสวรรค์ก็จะต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
สมบัติชิ้นนี้ช่วยอี้อวิ๋นครั้งใหญ่
“อื้ม…ยังมีสิ่งนี้ด้วย… นี่คือศิลาเทพหยางบริสุทธิ์ทั้งหมดที่ท่านปู่ทิ้งไว้ให้ ข้าขอบมอบให้คุณชายอี้เช่นกัน”
ขณะที่จีสุ่ยเยียนพูดก็หยิบถุงหนังสัตว์อันประณีตใบหนึ่งออกมาจากแหวนมิติอีกครั้ง จากนั้นก็เทศิลาเทพทั้งหมดภายในออกมา ศิลาเทพมีทั้งหมดแปดเม็ด แต่ละเม็ดมีขนาดแตกต่างกันไป
ทั่วทั้งห้องอบอวลไปด้วยปราณหยางบริสุทธิ์อันเข้มข้นทันที
อี้อวิ๋นดีใจเมื่อเห็นวัตถุชิ้นนี้ ไม่พูดถึงแก่นหยาง ลำพังแค่ศิลาเทพหยางบริสุทธิ์ก็มีประโยชน์ต่อเขาอย่างใหญ่หลวงแล้ว
เขารู้ว่าศิลาเทพหยางบริสุทธิ์กับเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกมีความหมายต่อจีสุ่ยเยียนเป็นพิเศษ เพราะพวกมันเป็นสิ่งที่ท่านปู่ของนางทิ้งไว้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมูลค่า
“ขอบคุณแม่นางสุ่ยเยียน ข้าจำบุญคุณนี้ไว้แล้ว”
อี้อวิ๋นเป็นคนรู้บุญคุณ เขาจะช่วยจัดการปัญหาของร้านความลับเทพให้หมดจดแน่นอน
“เช่นนั้น…สุ่ยเยียนก็ขอขอบคุณคุณชายเช่นกัน”
จีสุ่ยเยียนทำความเคารพ ก่อนหน้าที่นางจะหมุนตัวจากไปก็เห็นว่าอี้อวิ๋นนั่งขัดสมาธิบนเตียงและเริ่มหลอมศิลาเทพหยางบริสุทธิ์
นางหยุดชะงักเบาๆ พร้อมมองอี้อวิ๋นอย่างใช้ความคิด แววตามีความซาบซึ้ง อ่อนโยน ทั้งยังเหมือนมีความเศร้าโศกอาลัยอาวรณ์
จากนั้นนางก็ถอนหายใจเบาๆ ในใจ ถอยตัวออกจากห้องเงียบๆ และปิดประตูลง…
อี้อวิ๋นมีเมล็ดพันธุ์ไม้เทพกับศิลาเทพหยางบริสุทธิ์ ใช้คำว่าพุ่งทะยานมาอธิบายการฝึกได้เลย
มีผลวิถีเก้าใบสี่ผลเป็นรากฐาน ตัวพวกมันเองก็เป็นวัตถุวิเศษอยู่แล้ว สามารถดูดซึมชิ้นส่วนกฎบนโลก อี้อวิ๋นไม่จำเป็นต้องคิดว่าการบรรลุด้านกฎจะมั่นคงหรือไม่
แม้การข้ามผ่านระดับของอี้อวิ๋นจะใช้ทรัพยากรมากกว่าจอมยุทธ์คนอื่นๆ หลายเท่า แต่เพียงแค่เขามีวัตถุดิบล้ำค่าก็จะข้ามผ่านระดับได้เลย นี่ก็คือการท้าทายสวรรค์ของผลวิถีเก้าใบสี่ผล!
ความเร็วในการฝึกเช่นนี้คงอยู่ได้นาน นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจจินตนาการสำหรับจอมยุทธ์ระดับรวมวิถีคนอื่นๆ
ภายใต้การหล่อเลี้ยงจากพลังปราณของศิลาเทพหยางบริสุทธิ์ เมล็ดพันธุ์ไม้เทพก็เริ่มเติบโตอีกครั้ง
ใบอ่อนหลายใบบานงอกออกมา หน่ออ่อนของไม้เทพเติบโตด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เดิมทีสูงเพียงไม่กี่นิ้วก็ค่อยๆ โตจนเกือบถึงหนึ่งฉื่อ
ขณะเดียวกันปราณหยางบริสุทธิ์ที่ไม่มีสิ่งสกปรกปนเปื้อนก็ส่งกลับไปทั่วร่างอี้อวิ๋น อี้อวิ๋นรู้สึกได้เลยว่าระดับยุทธ์เขากำลังพุ่งทะยาน
เดิมทีเขาอยู่ขั้นสูงสุดของระดับรวมวิถีช่วงต้น ตอนนี้เขาเข้าสู่ช่วงกลางภายในคราเดียวและยังคงพัฒนาต่อจนเข้าใกล้ขั้นสูงสุดของระดับรวมวิถีช่วงกลาง
ความรู้สึกที่ได้สัมผัสถึงพลังที่เพิ่มขึ้นโดยตรงทำให้อี้อวิ๋นอดที่จะดีใจไม่ได้
ขณะที่อี้อวิ๋นกำลังฝึกฝน ทั่วร่างเขาก็มีแสงสีทองจางๆ แผ่ออกมา ไม่ใช่แค่ร่างเขาที่ส่องแสง แม้แต่ห้องที่เขาอยู่ก็มีแสงทองปกคลุม มองดูประหนึ่งมีเทพเสด็จลงมา
แต่ตำแหน่งที่อี้อวิ๋นอยู่คือลานด้านหลังของร้านความลับเทพ ที่นี่มีการป้องกันหลายชั้นจึงไม่มีใครเข้ามา นี่จึงทำให้ไม่มีใครเห็นปรากฏการณ์นี้เช่นกัน
แน่นอนว่ายกเว้นจีสุ่ยเยียน…
หากไม่นับตัวสาวใช้ ทั้งลานด้านหลังนี้ก็มีแค่อี้อวิ๋นกับจีสุ่ยเยียนสองคน
ในค่ำคืนอันเงียบสงัดมีห้องห้องหนึ่งที่ไม่ได้จุดไฟ จีสุ่ยเยียนมองผ่านหน้าต่างไปยังห้องของอี้อวิ๋นที่มีแสงทองจางๆ ส่องสว่างอย่างใจลอย
“คุณหนู ได้เวลาอาบน้ำนอนแล้วเจ้าค่ะ”
สาวใช้ประจำกายจีสุ่ยเยียนพูดเตือนเสียงเบา นางเห็นว่าคุณหนูหยุดชะงักที่หน้าต่างอยู่นานมากแล้ว
“อื้ม…”
จีสุ่ยเยียนพยักหน้าแล้วค่อยๆ ถอดสายรัดเอวออก เสื้อผ้าร่วงลงพื้นเบาๆ ทีละตัวจนเผยให้เห็นผิวพรรณที่ละเอียดเหมือนผ้าแพรและรูปร่างอันสมบูรณ์แบบ
แสงจันทร์สาดลงบนผิวนางจนดูเหมือนเงินที่กระจัดกระจาย จีสุ่ยเยียนยกขาอันเรียวยาวเพื่อก้าวเข้าสู่สระอาบน้ำเบาๆ
สระอาบน้ำนี้มีขนาดใหญ่แต่น้ำกลับเย็น นี่เป็นสิ่งที่นางจงใจสั่งเอาไว้ ความเย็นแค่นี้ไม่นับเป็นอะไรสำหรับจอมยุทธ์
ในน้ำมีกลีบดอกไม้โปรยปรายจึงได้กลิ่นหอมจางๆ จีสุ่ยเยียนเดินไปในสระเบาๆ เพื่อสัมผัสถึงความเย็นที่แล่นผ่านขาอ่อน
หลังจากที่ผ่านไปสักพักก็ค่อยๆ นั่งตัวลง ปล่อยให้น้ำเย็นจมผ่านผิวอันแวววาวไปทีละน้อย จมไปถึงเอวอันโค้งมนและหน้าอกเอิบอิ่ม จากนั้นก็ถึงแก้มและเส้นผม…
ท้ายที่สุดนางก็หลับตาลง ปล่อยให้น้ำจมไปถึงหน้าผาก
แขนทั้งสองของนางดกอดหัวเข่าทั้งสองไว้แน่น ขาที่พับขึ้นมากดเข้าที่หน้าอกอันอ่อนนุ่มจนเกิดรูปร่างที่งดงาม นางนั่งอยู่ในน้ำเงียบๆ เช่นนี้ ปล่อยให้ผิวน้ำบิดเบือนรูปลักษณ์อันงดงามของนาง
แม้จะได้ควบคุมร้านความลับเทพอีกครั้ง แต่ไม่รู้เหตุใดนางจึงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
บางทีในวันที่นางได้เจออี้อวิ๋น ในขณะที่นางกำลังสิ้นหวังถึงขีดสุดจากการทรมานของยายเฒ่าชุดแดง การปรากฏตัวของเขาได้สร้างตราประทับที่ยากจะทำลายลงในใจนาง
นางเองก็เคยคิดว่าหากอี้อวิ๋นไม่ได้อยู่สูงถึงเพียงนั้น เช่นนั้นนางคงใช้สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของตัวเองมาตอบแทนเขาได้ แม้จะบอกว่าตอบแทนบุญคุณ แต่แท้จริงแล้วก็เป็นความปรารถนาในใจนาง
นางหยิ่งทะนงมาตรฐานสูงมาโดยตลอด ไม่สนใจบุรุษ ทว่าวันนี้…นางกลับรู้ว่าตัวเองกับเขาห่างไกลกันมากเกินไปจนนางไม่มีความกล้าที่จะพูด นี่อาจเป็นที่มาของความหดหู่และสับสนกระมัง…
หากนางมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นกัน มีพรสวรรค์ที่อยู่เหนือทุกอย่าง เช่นนั้นร้านความลับเทพแล้วอย่างไร เพียงแค่ทำความปรารถนาของท่านปู่ให้สำเร็จก็จะได้ท่องไปในใต้หล้า ไปทำตามความต้องการทั้งหมดของตัวเอง
“คุณหนู…”
ข้างหูมีเสียงเรียกของสาวใช้ดังขึ้น จีสุ่ยเยียนไม่ลุกตัวขึ้นแต่อย่างใด โลกใต้น้ำนี้เงียบสงัดจนนางรู้สึกสงบลงอย่างประหลาด
……
ที่ร้านขยายฟ้าในเวลานี้ ชายชราที่สวมเสื้อผ้าหรูหราผู้หนึ่งกำลังตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าน่ากลัว
ชายชราผู้นี้คือผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของร้านขยายฟ้า…เหยียนผิงชวน ความเปลี่ยนแปลงของร้านความลับเทพในค่ำคืนนี้ทำให้แม้แต่เหยียงผิงชวนยังตกใจ
“ระดับวังวิถีห้าชั้น สังหารกงหยางเหนี่ยวภายในเสี้ยววินาที ไม่เคยปรากฏโฉมหน้า ไม่รู้หน้าตา…”
เหยียนผิงชวนรู้เพียงข้อมูลเหล่านี้
“แค่ระดับวังวิถีห้าชั้น แม้พลังจะไม่เลว แต่หากคิดจะกำราบร้านขยายฟ้าของเราด้วยตัวคนเดียวก็จะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”
มีลูกหลานสายตรงของตระกูลเหยียนพูดอย่างโมโห
“ใช่ ทั้งยังนังแพศยาจีสุ่ยเยียนนั่นเอง กล้าดีอย่างไรมาจับคนของพวกเรา ทั้งยังตัดแขนขากุนซือหยาง นายน้อยชอบพอนางก็เป็นบุญของนางแล้ว ยังไม่เห็นคุณค่าอีก หาเรื่องตายชัดๆ!”
“นายท่านสั่งมาเถอะ ครั้งนี้ร้านความลับเทพเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ต่อให้พวกเราจะทำลายร้านความลับเทพให้พินาศ ร้านประมูลเจ็ดดาราก็พูดอะไรไม่ได้! ครั้งนี้ให้ยอดฝีมือทั้งหมดของเราลงมือ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครเหลือรอด!”
คนของร้านขยายฟ้าเป็นพวกอารมณ์ฮึกเหิม ทว่าเหยียนผิงชวนกลับขมวดคิ้ว เขารู้สึกรางๆ ว่าคนผู้นี้ไม่ได้จัดการง่ายถึงเพียงนั้น