Tomeina Yoru Ni Kakeru-kun to, Menimienai Koi O Shita - ตอนที่ 1.1
คุณหมอกำลังยืนกอดอกข้างๆเตียงหมอก
ใกล้ๆหน้าต่างนั้นมีดอกไม้วางประดับอยู่ โดยดอกไม้ที่วางนั้นลำต้นตั้งตรงและมีกลีบสีขาวที่บานล้อมรอบ เมื่อมองดูแล้ว ผมรู้สึกเหมือนดอกไม้ที่บานในยามราตรี ทุกครั้งที่ผ้าม่านขยับ ก็จะมีกลิ่นที่หอมหวานโชยมา
สักพักคุณหมอก็เริ่มพูดทั้งๆ ที่เตรียมใจไว้อยู่แล้วแต่จู่คำพูดนั้นก็หยุดชะงัก
“เอาละ เรามาทำให้เรื่องนี้มันจบกันเถอะ”
ขณะที่ผมผลอยหลับไปอยู่นั้น จู่ๆผมก็ได้ยินเสียงที่ดังของนารูมิแว้วเข้ามาจนมันปลุกให้ผมตื่น
ผมอดสงสัยว่าเขาทำอะไรอยู่? กำลังเล่าเรื่องตลกจากที่คันไซอยู่งั้นเหรอ?
เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้น ทุกคนก็กำลังปรบมือและหัวเราะกันอยู่ ชายหนุมร่างใหญ่กับใบหน้าที่สุดแสนภาคภูมิใจที่ยืนอยู่ข้างๆผมนั้นก็คือนารูมิ
ผมไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยเลยที่พลาดการเล่าเรื่องของนารูมิเพียงครั้งเดียว แต่ผมกับนำตาญมากกว่าที่มันปลุกให้ผมตื่น
ผมสกิตนารูมิที่กำลังจะนั่งลงด้วยข้อศอก
“อ้าว โซราโนะ นายตื่นแล้วหรอ?”
นารูมิตบที่หลังผมด้วยใบหน้าที่ร่าเริง
“ฉันฝันแปลกๆละ”
“มันเป็นฝันยังไงเหรอ?”
“ไม่รู้สิ…ในฝันมันดูมืดมนแปลกๆ”
“อะไรละนั่น”
แต่ตอนนี้นั้น คืองานต้อนรับนักศึกษาใหม่จากชมรมต่างๆ
ซึ่งผมนั้นถูกบังคับให้เขาร่วมโดยนารูมินั่นเอง ผมนั่งอยู่ที่นั่งหลังสุดซึ่่่งมันอยู่ในตำแหน่งที่่สามารถมองเห็นทั้งห้องได้อย่างชัดเจน
ผมนั้นไม่มีความกระตือรือร้นหรือตื่นเต้นเลยจากการเข้าร่วมปาร์ตี้ที่ผมนั้นไม่เคยคิดสนใจเข้าร่วม ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากการที่ผมอดนอนด้วยส่วนนึงมันจึงทำให้ผมไม่ค่อยมีแรงที่อยากจะทำอะไรเลย
“เอ้าลุกขึ้นมา ในเมื่อนายอยู่ที่นี่แล้ว นายอาจจะสนุกไปกับมันก็ได้ ไม่อย่างนั้นนายอาจจะเป็นคนเดียวที่พลาดโอกาศที่แสนวิเศษไปได้นะ”
“แต่นายเป็นคนลากฉันมาเองนะ”
นารูมิรูมเมทหอพักของผมในมหาวิทยาลัย ชึ่งมันทำให้ผมต้องจัดแผนผังของห้องใหม่เมื่อคืนนี้ซึ่่งมันทำให้ผมนอนไม่หลับทั้งคืน และนั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้ผมง่วงมากตลอดทั้งวัน
และเมื่อหลังเลิกคลาส ผมคิดว่าผมจะได้นอนเต็มอิ่มแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าบ้านารูมิก็บังคับให้ผมเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับนักศึกษาใหม่
ข้างๆผม นารูมิกำลังเฝ้าดูทุกคนอย่างกระตือรือร้น
จริงๆแล้วก็ผมอดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าเขามีพลังงานมากแค่ไหนกันเชียว…
คณะที่ผมกำลังถือชาอูหลงอยู่ ผมก็ลองมองไปรอบๆ จู่ๆก็เกิดสิ่งที่น่าอัศจรรย์ต่อหน้าต่อตาผม
ในความเป็นจริงแล้ว งานเลี้ยงต้อนรับนักศึกษาใหม่นี้เริ่มต้นด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ
ตัวแทนของแต่ละชมลมก็เริ่มกล่าวทักทายกัน และขณะที่ทุกคนกำลังชนแก้วและยกแก้วแชมเปญดื่ม จู่ๆพวกเขาก็ดื่มกันอย่างเงียบเฉียบ
‘มันเกิดอะไรขึ้น’
ในห้องขนาดใหญ่ที่มีคน 40คนมารวมกันก็รู้สึกวุ้นวายอยู่แล้ว ตอนนี้กลับไม่มีไครนั่งที่เลย
ทุกคนเดินไปรอบๆเหมือนซอมบี้พร้อมกับถือเตรื่องดื่มไว้ในมือ
ชัมปงได้ถูกเพิ่มเข้าไปในมัตสึนาเบะบนโต๊ะ แต่ไม่มีไครสักคนคิดที่จะกินมันเลย เส้นราเมงยังคงเดือดอยู่และขยายเพิ่มขึ้น2เท่าจากขนาดเดิม
(TL เกร็ดความรู้เล็กน้อยมัตสึนาเบะ คืออหนึ่งในอาหารญี่ปุ่น ที่ทำจากเนื้อสัตว์หรือไม่ก็เครื่องในอื่นๆ เป็นสตูว์ยอดนิยมที่ทำด้วยไส้ของสัตว์ประเภทต่างๆ ส่วนใหญ่จะปรุงในหม้อซุปญี่ปุ่นแบบพิเศษ เมื่อสุกจะเติมน้ำซุป เครื่องในหมูหรือเครื่องในหมูที่เตรียมไว้แล้วต้มสักครู่ เพิ่มกะหล่ำปลีและกระเทียมไม่ก็หัวหอม)
เสียงที่ดังและอึกทึกนั้นสามารถได้ยินจากทุกที่
พวกผู้ชายบางคนก็พูดคุยกับพวกผู้หญิงอย่างไม่เป็นทางการ ที่ มุมหนึ่งของห้องก็ดูเหมืีอนจะมีโอตาคุสองถึงสามรวมตัวพูดคุยกันอยู่
และในที่สุดผู้หญิงที่ดูแต่งหน้าจัดๆก็ได้ปรบและกรี๊ดราวกับของเล่นที่ชำรุด (TL ขออภัยจริงๆที่ประโยคนี้มันดูแปลกๆเนื่องจากผู้แปลเองก็บ่เก็ตเหมือนกันเด้อ)
พื้นที่ร้านอาหารส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบไปด้วยประตูบานเลื่อนไม้ไผ่มันทำให้รู้สึกร้อนเพราะมีคนมากมายอยู่ข้างใน
(TL มันก็ต้องร้อนอยู่แล้วสิฟ๊ะ! มีตั้ง40คน)
นอกจากนี้ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาสนั้นก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นจนทำให้ผมรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก
สงสัยทุกคนคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานมากเกินไป
ผมปลดกระดุมเสื้อยืดออกแล้วใช้มือพัดเพื่อให้หายร้อน
ความร้อนและคุณภาพของอากาศที่ค่อนข้างไม่ดีจนผมทนไม่ไหว
ด้วยความรู้สึกที่อึดอัดมาก จนทำให้ผมโคตรอยากออกจากที่นี่เร็วที่สุด
คณะที่ผมกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นั้น จู่ๆเสียงเบาๆที่ดูแก่ชราก็ดังมาจากประตูบานเลื่อนของห้องข้างๆเรา
“แฮปปีเบิร์ธเดย์”
ราวกับทุกคนตอบรับเสียงนั้น ทุกในห้องก็เริ่มปรบมือพร้อมกับพูดว่า
“แฮปปีเบิร์ธเดย์ ทูยู!”
ทุกคนกำลังเฉลิมฉลองวันเกิดของใครบางคนที่อยู่หลังประตูบานเลื่อนนั้น
เป็นไปได้ไหมที่ห้องข้างได้ส่งคำขอเกี่ยววันเกิดมาก่อนหน้านี้?
ผมคิดคร่าวๆ ว่านี่คือแฟลชม๊อบบางประเภทรึป่าว?
แต่มีเพียงไม่กี่คนที่พยายามจะโดดเด่นจากคนอื่นด้วยการจังหวะที่เปลี่ยนไปจากจังหวะปกติด้วยการร้องเพลง
“แฮปปี-เบิร์ธ-เดย์~ ทู-ยู~”
นอกจากนี้ยังมีคนที่ตะโกนราวกับว่ากำลังจะเป็นลมขณะที่ทำลังร้องเพลง
“แฮปปี-เบิร์ธ-เดย์~ ทู-ยู~!!!”
ถ้านี่คือแฟลชม๊อบ มันจะดูยุ่งเหยิงมากจนเกินไปและดำเนินไปได้ด้วยไม่ดี
(TL อันนี้ผู้แปลไม่รู้จะใช้คำเนื่องจากผู้แปลนึกคำไม่ออกน้า~)
ดังนั้นมันคงจะเป็นความยุ้งเหยิงที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเหมือนกับสัตว์ในกรงที่ส่งเสียงดังในสวนสัตว์
จากด้านหลังประตูบานเลื่อน ก็ได้ยินเสียงหญิงสาวคนหนึ่งพูดว่า
“ขอบคุณคะ!”
พวกผู้ชายบางคนที่โต๊ะเราเริ่มกังวลและพูดว่า
“เอาล่ะ! มาดูกันดีกว่า!”
ในขณะที่พวกผู้หญิงบางคนมองพวกเขาด้วยสีหน้าที่ดูข่มขู่
ว้าว…
“ทำไมนายถึงทำหน้าแหยงๆแบบนั้นละ?”
เห็นได้ชัดเลยว่าการแสดงสีหน้าของผมนั้นชัดเจน จนนารูมิยิ้มดูเหมือนจะพอใจกับสถานการณ์
“แน่นอนเพราะว่าฉันไม่ชอบ”
“นี่ไม่สนุกเหรอ”
“ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นซักกะนิด”
“เอ๋~”
(TLพระเอกมีแอบซึนนะเนี้ย)
ผมรู้สึกรำคาญเล็กน้อยที่นารูมิพยายามแหย่ผม ผมจึงชี้ไปที่โต๊ะที่อยู่ห่างจากเราสองโต๊ะ
“นี่นารูมินายไม่คิดว่ามันโคตรทุเรศบ้างหรอ”
ที่โต๊ะนั้นมีพวกผู้ชายกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกันล้อมพวกผู้หญิง
การสนทนาของพวกนั้น เดิมทีแล้วพวกนั้นพยายามเชิญพวกเธอเข้าร่วมวง ก็กลายเป็นการพูดถึงเรื่องโรเเมนติกกับพวกผู้หญิง
พวกนั้นยังกล้าที่จะพูดเรื่องตัวเองอย่างเปิดเผยในแบบที่ดูขี้โม้อีกด้วย
“ฉันไม่ชอบบุหรี่”
มีผู้หญิงคนหนึ่งพูด แล้วผู้ชายตรงนั้นทุกคนก็รีบหยิบบุหรี่มาจุด
(TLเป็นผู้ชายเxี้ยมากอะจากใจจริง)
“ฉันชอบกล้ามที่แขน”
ผู้หญิงอีกคนพูด และทันไดนั้ผู้ชายตรงนั้นทุกคนก็รับถกเเขนเสื้อขึ้น
“แล้ว นายไม่ชอบเรื่ิองพวกนั้นเหรอ? ฮาฮ่า โซราโนะ นายนี่เป็นไร้เดียงสาจริงๆ เลย นะ”
นารูมิพูดพร้อมกับหัวเราะ
“นายกำลังล้อเรียนฉันเหรอ?”
นารูมิส่ายหัวอย่างไม่ตั้งใจ
“แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจนั่นเป็นอย่างที่นายเป็น”
เขายิ้มเหมือนเข้าใจทุกอย่าง
“นายหมายถึงอะไร ฉัน…”
“ดูสิตอนนี้นายกำลังยืนชิดกับกำแพง เหมือนไม่อยากไปจากที่นี่ใช่ไหม? ทุกคนก็พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะสร้างชุมชนใหม่”
“นายหมายถึงอะไรชุมชนใหม่”
ก่อนที่ผมจะพูดประโยคนั้น จู่ก็มีเสียงปรบมือมาจากดังมาจากอีกโต๊ะหนึ่ง
“คัมไป!”
มีคนตะโกน
ผมรู้สึกเหมือนพวกเขาจะเป็นตัวแทนจากชมรมหนึ่งแต่ว่าผมจำไม่ได้ว่าชมลมไหน
อาจจะเกี่ยวกับดนตรี?หรือไม่ก็กีฬามั้งนะ?
ผมจำไม่ได้ว่าเป็นชมลมเทนนิสรึป่าว แต่ผมรู้สึกว่าอาจจะเป็นชมลมเทนนิส
ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือมีชายมีชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่มีออร่าดูผ่อนคลายนั้นได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดว่า
“ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกทุกคน”
น้ำเสียงของเขานั้นดูมั่นใจแบบมาก จนราวกับว่าเขาไม่เคยรู้สึกถึงเลยว่าความยากลำบากนั้นคืออะไร
ความมั้นใจของเขาค่อนข้างน่าหงุดหงิดจริงๆ แต่บางทีความโง่เขลาของเขาอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาดูขบขัน เสียงหัวเราะก็เริ่มดังก้องกังวาน
ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขาด้วยท้าทางอันหน้าทึ่งว่าผู้ชายคนนี้จะพูด… แต่ทันไดนั้น ก็มีไครบางคนกำลังกิน
ชัมปงด้วยเสียงที่ดัง และเสียงซูดราเม็งก็ดังมาจากมุมต่างๆของห้อง
แม้จะดูไม่สุภาพ ไม่ว่าเพราะอาการหูหนวกที่เกิดจากการเมาหรือไม่ก็ความมั่นหน้า ผู้ชายคนนี้ก็ยังพูดไม่หยุด
“นักศึกษาใหม่ ยูโกะ ฮายาเสะ!”
ดูเหมือนว่าคนที่เขากำลังเรียกนั้นกำลังกินอยู่ และการแสดงสีหน้าของเธอนั้นดูเหมือนกับว่ากำลังพูดว่า
“หือ? เรียกชั้นหรอ?”
₊˚✧‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿︵‿‿︵‿︵‿₊୨
อาจจะคำที่แปลแปลกๆบ้างนะครับสามารถติชมหรือแนะนำให้เปลี่ยนบางคำเป็นคำที่เข้าใจง่ายมากขึี้นได้นะครับ
สามรถติดตามผู้แปลได้ที่เพจ FB : แปลแต่เรื่องหว๊านหวาน甘い甘い
ปล.ลงตอนใหม่จะลงในเพจก่อนน้าาาา