Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - ตอนที่ 251 การต่อสู้อันดุเดือด
เมื่อดวงตาสีแดงของปีศาจมองไปที่ชาร์ลี ลูเซียนก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของชาร์ลีนั้นแข็งค้างและสัญลักษณ์บนโล่เวทมนตร์ก็เริ่มบวมขึ้นและแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นโล่ทั้งหมดก็ถูกทำลายลงทันทีที่โล่หายไป ชาร์ลีก็ถูกครอบคลุมด้วยหมอกสีดำ
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากแม้กระทั่งลูเซียน และซานดร้า ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
วินาทีต่อจากนั้น หมอกสีดำก็หายไปทันที แต่ตรงจุดที่ชาร์ลีอยู่กลายเป็นหมูสีดำตัวเล็กๆ มันหมุนตัวเองเป็นวงกลมและหางของมันก็แกว่งไปมา
“พหุสันฐานพิฆาต!” เสียงของซานดร้าส่งมาทางกระแสจิตถึงลูเซียน “เราต้องฆ่ามันก่อนที่มันจะออกมาจากเตา”
ในขณะเดียวกันเมฆดำก็รวมตัวกันใต้เพดานภายในเมฆเหล่านั้นเกิดแสงจากสายฟ้าฟาดอย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนสถานที่ทั้งหมดให้กลายเป็นป่าแห่งสายฟ้า
เวทมนตร์ระดับสี่ของสาขาแม่เหล็กไฟฟ้า ‘เมฆสายฟ้า’
บอลไฟขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของลูเซียน และเขาก็ขว้างมันอย่างแรงไปที่ปีศาจที่อยู่ตรงกลางของวงแหวนเวทมนตร์
แม้ว่าปีศาจจะรอดจากเปลวไฟและแรงระเบิด แต่วงแหวนเวทมนตร์และเตากลับถูกทำลาย ตราบใดที่ปีศาจสูญเสียความสามารถในการเกิดใหม่ เหล่านักเวทก็มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถจัดการสังหารมันลงได้อีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันนี้เอง ลูเซียนก็ต้องระมัดระวังที่จะไม่โยน ‘พายุหมุนพลังธาตุ’ ออกไปทันที เพื่อที่เขาจะต้องแน่ใจว่ามันส่งผลต่อปีศาจ เพราะถ้าปีศาจมีจิตวิญญาณที่สมบูรณ์ ‘พายุหมุนพลังธาตุ’ ก็จะสูญเสียพลัง และยังทำให้ลูเซียนบาดเจ็บอย่างรุนแรงได้
ก่อนที่จะยิงบอลไฟไปทำลายเตาอีกครั้ง หมอกสีดำก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลืนกินทั่วทั้งห้อง รวมไปถึงสายฟ้าและบอลไฟของลูเซียนด้วย
อย่างไรก็ตามสายฟ้า และบอลไฟก็ทำให้หมอกดูเบาบางลง ราวกลับว่าทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้เพื่อแย่งชิงพื้นที่เป็นของตัวเอง
ริมฝีปากของซานดร้าเปิดออกและพูดพึมพำกับตัวเอง จากนั้นความมืดที่กลืนกินพื้นที่ก็เริ่มบิดเบี้ยวด้วยพลังที่มองไม่เห็น จากนั้นสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งและหลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นบอลสายฟ้า เป้าหมายของมันคือจุดศูนย์กลางของห้อง
เวทมนตร์ระดับสี่ของสาขาแม่เหล็กไฟฟ้า ‘สนามแม่เหล็กบิดเบี้ยว’
ลูเซียนใช้โอกาสนี้และชี้ไม้กายสิทธิ์ปะการังของเขาไปยังปีศาจ และร่ายเวทมนตร์ระดับสอง ‘เวททารุณกรรม’ ที่เสริมด้วยพลังจากไม้กายสิทธิ์ออกมาทันที เป็นเวทมนตร์ที่มีจุดร่วมกันของโหราศาสตร์ หมอผี และสำนักแสง-ความมืด มันเป็นการเชื่อมต่อแบบพิเศษระหว่างนักเวทและศัตรูของพวกเขา เมื่อศัตรูได้รับบาดเจ็บ พลังชีวิตของนักเวทพลังจิตพลังโจมตีและการป้องกันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และศัตรูก็จะบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น
ในช่วงเวลานี้ มีเพียงแค่เวทมนตร์บทนี้เท่านั้นที่สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่สนามแม่เหล็กบิดเบี้ยว
เมื่อปีศาจถูกบอลสายฟ้าโจมตี มันก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสยดสยอง
ทันใดนั้น เงาของซานดร้าก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และจับเข้าที่ข้อเท้าของหล่อน และดึงหล่อนลงไปยังหลุมเงาลึกที่ดูเหมือนบ่อน้ำที่อยู่ใกล้กัน
ในใจของลูเซียนได้ยินเสียงกรีดร้องของซานดร้า มีฟ้าผ่าจำนวนมากระเบิดอยู่ในเงามืด
นี่เป็นสิ่งที่ลูเซียนไม่ได้คาดคิด ในขณะที่เขากำลังจะใช้งาน ‘มงกุฎสุริยัน’ เขาลังเลอยู่สักครู่ว่าเขาควรจะช่วยซานดร้าก่อนหรือควรจะโจมตีปีศาจต่อไป
เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะโจมตีต่อไปเขาจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อปีศาจทำลายการควบคุมของ ‘สนามแม่เหล็กบิดเบี้ยว’ ลงได้ เวทมนตร์ของเขาจะต้องไม่ถูกบิดเบือนเช่นกัน
เมื่อการบิดเบี้ยวและสายฟ้าที่หายไป ปีศาจเริ่มปกคลุมตัวเองด้วยหมอกดำอีกครั้ง ดูเหมือนว่ามันกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีของลูเซียน
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็เริ่มเงียบลงและเงียบมากขึ้นเรื่อยๆ และเสื้อคลุมสีดำที่ปีศาจสวมใส่อยู่ก็แยกออกเผยให้เห็นเนื้อเน่าๆ ที่เต็มไปด้วยหนอนสีขาวตัวเล็กๆ
ตรงมุมห้อง ร่างของชาร์ลีก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตามหมูสีดำตัวเล็กๆ ก็ยังอยู่ใกล้กับทางเข้าห้อง ชาร์ลีที่ตอนนี้ดูซีดเซียว และเสื้อคลุมต่อสู้สีดำของเขาที่ตอนนี้ก็ได้หายไปแล้ว มีหน้ากระดาษหนังสือที่ดูแปลกๆ ที่เขียนด้วยตัวอักษรลึกลับ ได้หายไปอย่างรวดเร็วบนถุงมือสีขาวที่ชาร์ลีใส่อยู่ทางด้านขวา
ลูเซียนจำได้ในทันที นี่คือเวทมนตร์แปลงกายระดับสี่ ‘เวทโคลงกำสรวลปีศาจ’ เวทมนตร์ที่พิเศษสุดจากสภา
ดูเหมือนว่าชาร์ลีเพิ่งจะใช้อุปกรณ์เพิ่มพลังเวทมนตร์บนเสื้อคลุมของเขา หรือเวทมนตร์ที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างเพื่อหลีกเลี่ยง ‘พหุสันฐานพิฆาต’ จากนั้นเขาก็โจมตีปีศาจด้วยการโจมตีที่ไม่คาดคิด
เมื่อปีศาจกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ลูเซียนพลันรู้สึกสดชื่น และเริ่มใช้งาน ‘มงกุฎสุริยัน’ ทันที จากนั้นก็มีเปลวเพลิงส่องลงตรงปีศาจ เสื้อคลุมสีดำของปีศาจถูกเผาเป็นเถ้าถ่านภายใต้เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และร่างกายส่วนใหญ่ก็ถูกเผาผลาญไปพร้อมกับเหล่าหนอนที่คลานอยู่
‘เวทเพลิงพิฆาต’
ลูเซียนยังไม่หยุดมือ ทำให้ปีศาจยังคงดิ้นรนจากความเจ็บปวดมือซ้ายของลูเซียนชี้ไปที่เตา นั่นคือเป้าหมายต่อไปของเขา
เมื่อเห็นท่าทางของลูเซียน ปีศาจก็กลัวยิ่งขึ้นกว่าเดิม มันเปลี่ยนตัวเองเป็นหมอกสีดำแล้ววิ่งไปที่เตา และลากเปลวไฟไปรอบๆเพื่อหยุดลูเซียน
เมื่อเตาอยู่ใกล้กับปีศาจมันก็ถูกเสริมด้วยพลังเวทมนตร์ ดังนั้นลูเซียนจึงไม่สามารถทำลายมันได้ในคราวเดียว
แต่ทันทีที่ลูเซียนชี้ไปที่เตาเสียงแตกก็ดังมาจากด้านใน และไฟหลากสีก็ครอบคลุมมันอย่างรวดเร็ว ในวินาทีต่อมาเราก็เริ่มพองตัว และแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เวทมนตร์พิเศษระดับสาม ‘จัดลำดับธาตุ’
ปีศาจหยุดชะงักด้วยความตกใจ และมันถูกบังคับให้กลับไปสู่รูปแบบเดิมที่สวมเสื้อคลุมสีดำ เพราะเราได้หายไปแล้ว ในเวลานี้เองกลุ่มเปลวเพลิงที่มีกลิ่นเหมือนกำมะถันก็เริ่มปกคลุมร่างกาย อีกทั้งเนื้อที่เน่าเฟะและกระดูกของมันก็เริ่มบวมขึ้น
เมื่อเห็นว่าลูเซียนเปิดใช้งาน ‘เวทโล่เพลิงทรงอำนาจ’ อีกครั้ง ร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยโล่ของเปลวเพลิงสีขาวและสีทองอีกครั้ง
ในเวลานี้เอง ที่ซานดร้าซึ่งเพิ่งจะกำจัดเงาและออกมาได้สำเร็จ ก็ได้ร่าย ‘มวลพลังเวทพาล์เมรา’ อีกครั้งบนร่างกายของหล่อน และซูซาน
อีกด้านหนึ่งชาร์ลีก็เปิดใช้งาน ‘เวทกำแพงดูดซับดักลาส’ ออกมาอย่างเด็ดขาด
ปีศาจถูกระเบิดไปแล้ว เสียงระเบิดดังกึกก้องอยู่ในหูของลูเซียน เมื่อมองผ่านชั้นของเปลวเพลิง เขาก็เห็นควันดำหนาๆ ที่ปะปนอยู่กับเปลวไฟ และในควันนั้นก็มีเศษชิ้นเนื้อเน่าๆ ด้วย
‘โล่เพลิงอัคคี’ สั่นสะเทือนจากพลังอันมหาศาลของการระเบิด ถึงแม้ว่า ‘เวทโล่เพลิงทรงอำนาจ’ จะไม่สามารถโจมตีพุ่งเป้าไปที่วิญญาณหรือจิตได้ แต่เวทมนตร์ระดับห้า ‘โล่เพลิงอัคคี’ จะสามารถจัดการกับมันได้อย่างแน่นอน
หลังเกิดการระเบิดและควันก็เริ่มหายไป ทุกอย่างภายในห้องอัญเชิญก็เริ่มกลับเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น พื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยชิ้นเนื้อเน่าๆ และวงแหวนเวทที่เรียกมันขึ้นมาก็ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ แม้ส่วนหนึ่งของกำแพงที่เสริมด้วยวงแหวนเวทป้องกันมากมายก็ถูกทำลายลง ลูเซียนจึงสามารถเห็นหมอกค่อยๆ จางหายไปจากรอยแยก
“มันยากใช่มั้ยล่ะ” เวทมนตร์กำแพงดูดซับของชาร์ลีหายไปและถุงมือสีขาวของเขาก็ขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าของเขายังคงซีดเซียว และกระแอมไอจากควัน
มวลพลังเวททั้งหมดของซานดร้าหายไปหลังจากกำแพงดูดซับระเบิดออกมา โชคดีที่หล่อนมี ‘กายาศิลา’ และเสื้อคลุมเวทมนตร์สีม่วง หล่อนจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งซูซานที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังซานดร้าก็สบายดี เว้นแต่ว่าผมของหล่อนจะยุ่งเหยิงไปหมด
ซานดร้าถอนหายใจยาวออกมา ในขณะที่หล่อนกำลังตรวจสอบความเรียบร้อยของสถานการณ์ “ในที่สุดเราก็ส่งปีศาจร้ายกลับสู่นรก ในราคาที่คุ้มค่า”
“เสื้อคลุมเวทมนตร์อันมีค่าของข้าถูกทำลาย!” ชาร์ลีหันไปดูซากหมูตัวเล็กที่ถูกเผา ‘ข้าต้องรายงานเรื่องนี้ต่อสภาเพื่อรับค่าชดเชย’
หากอุปกรณ์เวทมนตร์หรือยาของนักเวทถูกทำลาย หรือถูกนำไปใช้ในภารกิจบังคับแบบนี้ ทางสภาจะเป็นผู้ชดเชยให้
ลูเซียนรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคิดว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง “เตาพิธีกรรมนี้ทำให้ข้านึกถึงพิธีอัญเชิญไร้สาระที่เราพบในหอประชุมนักเวทฝึกหัด ข้าสงสัยว่า ‘เบอร์ทเรินด์’ ได้ทดลองพิธีกรรมนี้หรือเปล่า แล้วพวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกเหรอที่มันเพิ่งจะระเบิดเองในตอนสุดท้าย ข้าหมายความว่า… มันไม่จำเป็น อย่างน้อยมันก็น่าจะหนีไปได้”
“บางทีมันอาจจะทำไม่ได้” ชาร์ลีมองไปที่หมอกจางๆ ข้างนอก และเขายังมีอาการไออยู่เล็กน้อย “บางทีมันอาจติดอยู่กับเตา และเมื่อเตาถูกทำลายมันก็คงจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป ท่านอีวานส์ ได้โปรดติดต่อกับ ท่านแกสตัน เมื่อเราออกไปจากที่นี่ มันน่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าที่จะให้นักเวทระดับสูงมาทำการสำรวจสถานที่แห่งนี้ต่อไป”
ชาร์ลีเอนหลังพิงกำแพงแล้วหยิบกล่องดีบุกเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขา จากนั้นเขาก็กดที่ตัวกล่องดีบุกให้เปิดออก และเขาก็หยิบบุหรี่ออกมา
“ต้องการซักมวนไหม” ชาร์ลีพ่นควันบุหรี่สีเทาออกมา จากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย “ยาสูบชั้นยอดจากเทรีย”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ” ลูเซียนส่ายศีรษะ
“หมอกใกล้จะหมดแล้ว ท่านอีวานส์ ทำไมท่านไม่ลองติดต่อกับ ‘ท่านแกสตัน’ ล่ะ” ซานดร้าลูบหน้าผากของหล่อนเล็กน้อย “เราก็จะได้ตรวจสอบด้วยว่าบิลล์ยังมีชีวิตอยู่ที่หอประชุมนักเวทฝึกหัดไหม”
ในขณะที่ซานดร้ากำลังพูด หล่อนก็มองไปรอบๆ ชิ้นส่วนโลหะบนพื้นเพื่อดูว่ามีของที่มีค่าหลงเหลืออยู่หรือไม่
ชิ้นส่วนโลหะบนพื้นสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้าของซานดร้า ทันใดนั้นใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มอันน่าขนลุกและตัวหนอนสีขาวอวบอ้วนสองตัวก็คลานออกมาจากดวงตาและจมูก!
…………………………..