Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - ตอนที่ 274 นักแสดงชั้นยอด
เมื่อเปตรอฟ มือสังหารแห่งความมืด ต้องจบชีวิตลงด้วย ‘เวทเพลิงพิฆาต’ อีวานอฟสกีและคาร์ลีนาก็สังเกตเห็นเพียงคลื่นพลังจากอาคมเทพ ทั้งสองรู้ว่ามีบางอย่างผิดแผน แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องของลูเซียน
ขณะที่เกิดการต่อสู้ประลองเวทมนตร์ที่สั้นแต่ดุเดือดระหว่างลูเซียนกับมัตเวียนโค ทั้งสองจึงได้รู้ ‘ความจริง’ ขณะกำลังตั้งใจดูดูการต่อสู้ทางอากาศ
“เขาเป็นนักเวทชั้นกลาง?! ไอ้สิบแปดมงกุฎ” ดวงตาของอีวานอฟสกีเบิกกว้าง ราวกับว่าเขาจะทะลุผ่านแว่นตากรอบทองออกมา หลังจากตกใจอยู่ครู่หนึ่ง ชายคนนี้ก็เริ่มสาปแช่งอย่างเกรี้ยวกราด
อีวานอฟสกีสามารถเข้าใจถึงความรู้สึกกระอักกระอ่วนก่อนที่เปตรอฟจะตายและความสิ้นหวังในช่วงลมหายใจสุดท้ายของมัตเวียนโค
คาร์ลีนาเองก็ตกใจและประหลาดใจมากจนไม่สามารถหุบปากที่อ้าค้างไว้ได้ เผยให้เห็นฟันเรียงตัวกันเป็นระเบียบ
“ปีเตอร์ไม่ใช่อัศวิน?” เขาเป็นนักเวท?! บางทีเขาก็อาจไม่ใช่ปีเตอร์ โจเซฟ วลาดิเมียร์ เสียด้วยซ้ำ! นักต้มตุ๋น ช่างชั่วร้ายนัก! ทุกอย่างที่เขาบอกเราเป็นเรื่องโกหก!” นางเองก็เริ่มสาปแช่งเขาอยู่ในหัว
น่าเสียดาย เพราะเขารู้ตัวช้าเกินกว่าที่จะช่วยมัตเวียนโค การปะทะเวทมนตร์ใช้เวลาเพียงไม่นาน และทั้งคู่ก็เห็นร่างที่เน่าเปื่อยของมัตเวียนโคร่วงลงสู่พื้นอย่างเร็ว
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ตะโกนพร้อมกัน “ท่านนิโคนอฟ!”
ทั้งสองเรียกชายผู้นั้นอย่างสุภาพ เขาก็คือ เซเมนอฟ ซึ่งลอยตัวออกมาจากห้องของเคานต์วิตต์และเขาก็เป็นถึงนักเวทชั้นอาวุโสผู้มีพลังหยั่งลึกราวกับมาจากนรก
แต่สิ่งที่ทั้งสองไม่รู้ก็คือเซเมนอฟไม่ใช่นิโคนอฟที่ทั้งคู่รู้จัก
…
พ่อบ้านเซเมนอฟซึ่งถูกเรียกด้วยนามสกุลว่า “ท่านนิโคนอฟ” กำลังลอยตัวอยู่ตรงด้านนอกของห้องลูเซียน จ้องมองลูเซียนผ่านหน้าต่างและผ้าม่านซึ่งได้รับความเสียหายจาก ‘เวทเพลิงพิฆาต’ และ ‘เวทลำแสงแผดเผา’
ลมหายใจของเขาเย็นยะเยือกจนรู้สึกเหมือนเขากำลังจ้องมองคนตาย
ลูเซียนประหลาดใจที่ได้รู้ว่าเซเมนอฟเป็นนักเวทชั้นอาวุโส อย่างไรก็ตาม เขาเคยปะทะกับนักเวทชั้นอาวุโสและสามารถกำจัดศัตรูได้ด้วยความโชคดี เขาไม่พรั่นพรึงต่อระดับชั้นที่ต่างกันเหมือนกับนักเวทชั้นธรรมดาๆ ลูเซียนเผชิญหน้ากับการต่อสู้ระหว่างความเป็นกับความตายมาแล้วมากมาย เขาสงบสติอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็วและเตรียมพร้อมเรียกใช้พลังจากเสื้อคลุมแปลงกาย
ในปราสาทหลังใหญ่เช่นนี้ ลูเซียนจะมีโอกาสรอดตายถ้าเขาแปลงกายเป็นหนูและวิ่งไปรอบๆ นอกจากนี้ หากนักบวช อัศวิน และอัศวินหลวงสังเกตได้ถึงสิ่งผิดปกติในปราสาทดรายไวน์ พวกเขาก็สามารถส่งสัญญาณไปยังพระคาร์ดินัลเนียฟสกี ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองยูรัล
ถ้าลูเซียนร่าย ‘เวทพายุหมุนพลังธาตุ’ อาคมบทนี้จะไม่ทำอันตรายใดๆ ต่อนักเวทชั้นอาวุโสที่อยู่ในสภาพพร้อมรบ และเขาก็อาจทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก
ลูเซียนคิดไว้แล้วว่าจะใช้เสื้อคลุมเวทมนตร์แปลงกาย อย่างไรก็ตาม เขาสังเกตได้ทันทีว่าเขามีปัญหากับการใช้ความคิดและเขาแทบไม่สามารถควบคุมพลังวิญญาณของตัวเองได้ เขาไม่สามารถแม้แต่เรียกใช้เสื้อคลุมเวทมนตร์
‘ฉัน… โดน… เวท… มนตร์…เล่นงาน…?’ ลูเซียนพยายามใช้ความคิดอย่างดีที่สุด แต่ก็ดูเหมือนสมองของเขาทำงานราวกับฟันเฟืองขึ้นสนิมที่แทบไม่หมุนไปไหนเลย
พลังของนักเวทชั้นอาวุโสที่พร้อมรบและยังไม่ได้ใช้พลังในการรบอันดุเดือด น่าขนลุกอย่างยิ่ง
ในที่สุด ลูเซียนก็ได้เข้าใจถึงความยากลำบากของเฟลิเปในการหนีเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของนักเวทศาสตร์มืดชั้นอาวุโส ไม่ว่าจะต้องแกล้งตาย การโจมตีทีเผลอ และบังคับให้นักเวทศาสตร์มืดคนนั้นต้องทิ้งเวทมนตร์และอุปกรณ์เวทอันแข็งแกร่งไปจำนวนมาก นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เฟลิเปเป็นอัจฉริยะที่เก่งที่สุดในอายุรุ่นนี้
อย่างไรก็ตาม เฟลิเปเป็นนักเวทระดับห้าแล้วตอนที่เผชิญหน้ากับนักเวทศาสตร์มืดชั้นอาวุโส แต่ลูเซียนยังเหลืออีกสองขั้นกว่าจะถึงระดับห้า นอกจากนี้ ลูเซียนก็ไม่มีเวทมนตร์อย่าง ‘เวทซ่อนชีพ’ เป็นที่พึ่งสุดท้าย
เซเมนอฟร่าย เวทมนตร์อันดับหก ‘เวทรบกวนจิต’ เพื่อเล่นงานวิญญาณและจิตของลูเซียน แม้เขาจะเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ที่สุขุมเพียงใด แต่ความเดือดดาลในใจก็กำลังประทุอยู่ในจิต ศิษย์เอกและข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเขาถูกสังหารต่อหน้า เซเมนอฟประเมินเป้าหมายต่ำไป และเขาการช่วยชีวิตลูกศิษย์ไว้ไม่ทันการ
เซเมนอฟพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เนื่องจากทั้งความละอายใจและความโกรธเกรี้ยว “ข้าจะเสกให้เจ้าเป็นกบ แล้วค่อยๆ ทรมานเจ้า แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าตายเสียยังดีกว่าอยู่!”
ราวกับว่าคำพูดพวกนั้นถูกผลักออกมารอดตามไรฟันด้วยสายลมอันเย็นยะเยือก
เซเมนอฟไม่สนใจแล้วว่านักเวทชั่วคนนี้จะมาจาก ‘สภาเวทมนตร์’ หรือเป็นผู้สืบทอดอันแข็งแกร่งของนักเวทโบราณ ชายคนนี้ต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ และเซเมนอฟก็มีองค์กรที่แข็งแกร่งหนุนหลังอยู่
‘ตราบใดที่… เขายังไม่… ฆ่าฉัน… ตอนนี้… ข้าก็ยังมี… โอกาสอยู่…’
ลูเซียนไม่ยอมแพ้ แม้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ และเขาพยายามสุดความสามารถในการรับมือกับ ‘เวทปั่นป่วนจิต’ เขาจะไม่ยอมให้โอกาสแม้เพียงน้อยนิดหลุดมือไป
เราไม่ควรยอมแพ้แม้นั่นคือโชคชะตาของเรา
เราต้องสู้ต่อไปจนลมหายใจสุดท้าย!
ความสามารถในการคิดของลูเซียนค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ เนื่องจากอำนาจจิตอันแข็งแกร่ง และแสงสว่างจ้าก็พวยพุ่งออกมาจากวิญญาณของเขา
อย่างไรก็ตาม นั่นสายเกินไป ศัตรูของเขาเป็นนักเวทชั้นอาวุโส และแม้ว่าจะมีช่องว่างระหว่างเวทมนตร์ทุกบทที่เซเมนอฟร่าย เขาก็ยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับลูเซียนมากกว่าที่จะเยียวยาได้ทัน
เซเมนอฟแข็งแกร่งกว่าลูเซียนมากนัก
ดวงตาสีฟ้าลึกของเซเมนอฟดูเหมือนกับทะเลที่สงบและเศร้าสร้อย ก่อนที่พายุกำลังจะมา ลูเซียนสังเกตว่าร่างกายของเขากำลังเน่าเปื่อยและกลายสภาพเป็นรูปแบบอย่างใดอย่างหนึ่ง
‘พหุสันฐานพิฆาต’!
มวลกลุ่มควันสีดำปรากฏขึ้นข้างๆ ลูเซียน ลีโอถูกดูดติดอยู่ภายใน เขาต้องการผลักลูเซียนออก แต่เขาช้าเกินไป
ทันใดนั้น ท้องฟ้ายามราตรีที่มีแสงสว่างจากดวงจันทร์สีเงินกลับกลายเป็นสีเหลือง และรากต้นไม้แห้งที่ดูเหมือนหนวดปีศาจแห่งความมืดปรากฏขึ้นทุกหนทุกแห่ง เงาแปลกประหลาดเหล่านั้นรวมตัวกันและห่อหุ้มตัวเซเมนอฟ เหมือนกับลูกบอล
ภายในปราสาท แผ่นดินที่มีกลิ่นหอมตีกันยุ่งเหยิงกำลังเหี่ยวแห้งลงอย่างรวดเร็ว ดอกไม้ซึ่งพึ่งรอดตายจากความหนาวเย็นก็พลันเหี่ยวเฉา ใบไม้ที่มีลักษณะเหมือนปลายเข็มอันมีชีวิตชีวาก็เริ่มแห้งตาย…
นั่นคือพลังที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับนักเวทชั้นอาวุโส
‘เงาโรยรา!’
“ท่านลุงวิตต์!”
อีวานอฟสกีและคาร์ลีนาตะโกนขึ้นมาพร้อมกันด้วยความแปลกใจ ทั้งคู่ไม่คิดว่าวิตต์จะเป็นตัวปัญหา แต่สิ่งที่ทั้งสองกังวลมากที่สุดก็เกิดขึ้นได้
“อัศวินอาภาระดับเจ็ด อัศวินผู้แข็งแกร่งที่รอดชีวิตจากการต่อสู้อันโหดร้ายนับครั้งไม่ถ้วน อัศวินผู้ครอบครองยศฐาบรรดาศักดิ์อันมีเกียรติสูงส่ง เราจะควบคุมเขาอยู่ได้จริงหรือ?!”
“เขาแก่มากแล้ว และร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยโรคร้าย และเรายังมีนิโคนอฟซึ่งเป็นนักเวทอาวุโสระดับหก เรายังได้ใช้คำสาปที่ตรวจสอบยาก และร่างกายของเขาก็อ่อนแรงลงทุกวันๆ แต่ชื่อของเขาก็ยังทำให้เราหวาดกลัวอยู่ดี”
วันนี้ เมื่อทุกอย่างกำลังจะถึงจุดจบ สิ่งที่อีวานอฟสกีและคาร์ลีนากังวลมากที่สุดก็เกิดขึ้นจริง ราวกับฝันร้าย
ในมวลพลังเงาโรยรา แสงประหลาดส่องแสงวูบวาบบนตัวเซเมนอฟ และเขาก็หายไปกลางอากาศ ทะลุมิติไปยังเงาอีกด้านอันไกลโพ้น นอกจากนี้ เกราะพลังก็ถูกสร้างขึ้นบนตัวของเขา
เวทมนตร์ระดับหก ‘เวทปลุกอาคม!’
เวทมนตร์บทนี้เป็นเวทมนตร์พิเศษที่แยกนักเวทชั้นอาวุโสจากนักเวทชั้นกลาง หากมีการสร้างเวทมนตร์บทนี้ไว้ในวิญญาณ นั่นก็หมายความว่านักเวทจะยังมีอีกหนึ่งชีวิต และก็มีโอกาสตอบโต้กลับ
เวทปลุกอาคมจะถูกปลุกภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ตามที่นักเวทกำหนดขึ้น การปลุกเวทมนตร์อาจเกิดขึ้นเมื่อนักเวทกำลังจะตาย หรือเมื่อถูกโจมตีด้วยพลังรุนแรงเกินกว่าที่จะป้องกัน เมื่อเงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนดไว้ ‘เวทปลุกอาคม’ จะร่ายเวทสองบทที่สร้างไว้ในรูปแบบเวทมนตร์ในทันที ซึ่งต้องไม่เกินครึ่งของระดับของนักเวท นอกจากนี้ เวทมนตร์สองบทดังกล่าวยังไม่สามารถถูกแทรกแซงและเหมาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
สถานการณ์กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของเซเมนอฟ หลังจากเขาจัดการกับ ‘เงาโรยรา’ โดยใช้เวทมนตร์ระดับสามจำนวนสองบท ได้แก่ ‘เวทเหยียบเงา’ และ ‘เกราะเวท’
มวลพลังเงาโรยราเปลี่ยนรูปร่างเป็นมนุษย์ เผยให้เห็นตัวเคานต์วิตต์ เขาดูแก่และอ่อนแรง แต่ก็ยืนอยู่ด้วยความภาคภูมิ
เขาถือดาบขนาดใหญ่สีดำมืดด้วยสองมือ ล่องลอยเหี่ยวย่นและความอ่อนแอยังคงปรากฏอยู่บนหน้า อย่างไรก็ตาม สีหน้าขึงขังทำให้เขาดูมีพลัง และเขาดูไม่เหมือนชายแก่ธรรมดาอีกต่อไป
“ข้ายังฆ่าคนได้ แม้ว่าข้าใกล้จะตายก็ตาม” เคานต์วิตต์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เขาตวัดดาบเล่มใหญ่ไปข้างหน้า และดาบกลายเป็นเงาที่พร่ามัวพุ่งใส่เซเมนอฟ
ความอดทนทำให้เขามีโอกาสในที่สุด!
‘เวทพหุสันฐานพิฆาต’ ถูกขัดจังหวะจากเคานต์วิตต์ตรงช่วงที่สำคัญที่สุดพอดี ควันสีดำก็พลันหายไปก่อนที่มันจะห่อหุ้มรอบตัวลูเซียน ลูเซียนสังเกตว่าร่างกายเขากลับสู่รูปร่างปกติและพลังของ ‘เวทปั่นป่วนจิต’ ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
“วิ่ง!” เขาชำเลืองมองลีโอและกระโดดลงที่นอกชานของปราสาท การต่อสู้ระหว่างอัศวินอาภาและนักเวทชั้นอาวุโสกำลังจะเริ่มขึ้น นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของลูเซียนในการหลบหนี
ไม่ว่านักเวทชั้นอาวุโสที่ปลอมตัวเซเมนอฟหรือเคานต์วิตต์ ‘เงาโรยรา’ จะเป็นผู้ชนะศึกนี้ ลูเซียนก็มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องหันมาฆ่าเขาแน่นอน เขาสังหารลูกศิษย์ของนักเวท และอัศวินอาภาก็สังหารนักเวทมาแล้วมากมายในชีวิต นอกจากนี้ ที่นี่คือจักรวรรดิชาชราน ประเทศซึ่งมีการตามล่าและเผานักเวททั้งเป็น
ลูเซียนตัดสินใจหลบหนีออกจากปราสาทด้วยความเร็วระดับอัศวิน เนื่องจากเงาในอากาศอาจจับตัวเขาได้ หากเขาใช้เวทมนตร์บิน ซึ่งเคลื่อนที่ได้ค่อนข้างช้าอีกต่างหาก
ลีโอสังเกตว่าอีวานอฟสกีกำลังเฝ้าดูสถานการณ์มาจากหน้าต่างอีกบานหนึ่งก่อนที่เขาจะกระโดดออกมา ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็ขยายตัวและอยู่บนน้ำแข็งปกคลุมรอบตัว เขากระโดดขึ้นไปยังหน้าต่างด้วยร่างกายอันกำยำพร้อมกับดาบยาวในมือ
‘องครักษ์ระดับกลางของอีวานอฟสกีถูกกำจัดแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการฆ่าเขา! ช่วยหยุดเครือข่ายข่าวกรองของกลุ่มลักลอบขนสินค้า ลูเซียนจะได้หนีได้ง่ายขึ้น ลูเซียนช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าต้องตอบแทนเขา นอกจากนี้ ข้ายังต้องแก้แค้นให้ครอบครัว ข้าไม่ควรปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไป แม้ต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม!’
อีวานอฟสกีก็กังวลว่าเขาจะต้องต่อสู้ตัวต่อตัวกับใคร เขาอยากกระโดดลงไปที่ชานด้านหน้าของปราสาทตามลูเซียน อย่างไรก็ตาม เขาไม่คาดว่าจะถูกโจมตีจากลีโอ
แม้อีวานอฟสกีจะอ่อนแอกว่าลีโอ เขาก็ยังแสยะปากและถากถาง “เจ้านี่เอง”
“ตายซะ!” ลีโอรู้สึกถึงเลือดในกายที่กำลังเดือดพล่าน ขณะที่ด่าของเขากำลังบั่นลงที่ตัวศัตรู
อย่างไรก็ตาม เขาก็เห็นลีโอโจมตีกลับมาด้วยหมัดขวา และในวินาทีต่อมา เขาก็ถูกชกจนหน้าหัน ลีโอไม่อาจรับมือกับการโจมตีนี้ ตัวเขากระเด็นลอยขึ้นไปกลางอากาศราวกับว่าวที่เชือกขาด
‘อัศวินหลวง?! เขาเป็นอัศวินหลวงงั้นหรือ?!’
ชุดสูทที่คับแน่นของอีวานอฟสกีก็เปลี่ยนเป็นเกราะเงินเต็มตัว และเขาก็มีสีหน้าเลือดเย็น เขากระโดดลงไปด้านล่างพร้อมกับดาบเล่มใหญ่ในมือและเริ่มวิ่งไล่ล่าลูเซียน
นักค้าของเถื่อนผู้โด่งดังเป็นถึงอัศวินหลวงที่มาจากสายเลือด ไม่ใช่ยาวิเศษ
คงเป็นเหตุผลที่เขารอดตายจากการลอบสังหารมาตลอด
คาร์ลีนาพูดจางึมงำๆ เมื่อเห็นฉากดังกล่าว “อัศวินหลวง? เขาก็นักต้มตุ๋นเหมือนกัน!”
‘อีวานอฟสกี นักค้าของเถื่อนและอัศวินหลวงที่ปลอมตัวเป็นอัศวินฝึกหัด นิโคนอฟ นักเวทชั้นกลางที่ปลอมตัวเป็นพ่อบ้านเซเมนอฟ ท่านลุงวิตต์ ซึ่งแสร้งทำว่าไม่รู้อะไรเลยและกำลังเฝ้ารอความตายมาเยือน นักเวทชั้นกลางและอัศวินที่ปลอมตัวเป็นสมาชิกตระกูลวลาดิเมียร์ ศัตรูของอีวานอฟสกีที่ปลอมตัวเป็นพ่อบ้านของปีเตอร์ แล้วข้าเอง ข้าก็ปลอมตัวเป็นหญิงสาวผู้อ่อนแอซึ่งไม่สามารถปลุกพลังในสายเลือดได้ นี่มันละครเรื่องอะไรกัน เราทุกคนต่างเป็นนักแสดงชั้นยอด…’
………………………