This Star is a bit Salty - ตอนที่ 36 มุ่งหน้าสู่เมืองสวินเซียน
บทที่ 36 มุ่งหน้าสู่เมืองสวินเซียน
หมู่บ้านหยวนซีหลี่หานขับมอไซค์ไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน
เมื่อกลุ่มเด็กหมีเห็นหลี่หาน ก็ส่งเสียงร้องดังแล้ววิ่งไปหาหลี่หาน
เด็กหมีกลุ่มนี้กําลังรอหลี่หานกลับมาที่ทางเข้าหมู่บ้าน
หลี่หานเห็นดังนั้นก็หยุดมอเตอร์ไซค์
เขาหยิบขนมออกจากตะกร้าไม้ไผ่และยื่นให้เด็กๆหมีที่ล้อมรอบตน
“เอาไปแบ่งกันกินนะ อย่าแย่งกันล่ะ!”
“ขอบคุณมาก! พี่หาน “
เด็กๆต่างโห่ร้องด้วยความยินดี ไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณหลี่หาน
“พี่หาน พี่กินไหม?” เด็กหมีถาม
“เอาล่าเถียวมาให้ฉันหนึ่งห่อสิ” หลี่หานกล่าว
*ล่าเถียว= นมแผ่นเม็ดเสฉวน ขนมทานเล่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจีน ผลิตจากแผ่นแป้งหนึบๆ คลุกเคล้าด้วยซอสพริกเสฉวนสไตล์จีน เผ็ดอร่อยล่าเกี่ยวอร่อยมาก
แต่ถ้ากินมันเยอะเกินไปจะไม่ดีต่อร่างกายนัก
“ได้สิ พี่หาน พี่กินนี่สิ ล่าเถียวรสนี้ อร่อยที่สุด” เด็กหมีอีกคนส่งล่าเถียวให้หลี่หาน
หลี่หานรับมันมา ฉีกห่อและกัดมัน
ไม่เลวเลย!
“พี่หาน บ่ายนี้พวกเราจะเล่นอะไรดี?” เด็กหมีอีกคนถาม
หลายวันมานี้ หลี่หานเล่นกับเหล่าเด็กๆทุกบ่าย กลายเป็นหัวหน้าเด็กโข่งไปแล้ว
เด็กหมีเหล่านี้ชอบให้หลู่หานมาเล่นกับพวกเขา
หลีหานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “เมื่อคืนฝนตกหนักมากไปหาเห็ดภูเขากันเถอะ”
เห็ดภูเขาเป็นชื่อที่หลี่หานเรียกมัน
ชื่อจริงๆของมันคืออะไรน่ะเหรอ? หลี่หานก็ไม่รู้เช่นกัน
ดูคล้ายกับเห็ดแบนในตลาด รสชาติอร่อยมาก หลังจากฝนตกหนัก จะสามารถพบเห็นเห็ดภูเขาได้ง่ายมาก
“ดี! ไปหาเห็ดภูเขากัน “เด็กหมีต่างแย่งกันพูด
เหิงเตี้ยน
“เหล่าหลัว ฉันถามคุณซูแล้ว คุณซูบอกว่าไม่สะดวกที่จะให้รายละเอียดการติดต่อกับหลู่หานเนื่องจากว่าเขาไม่อนุญาตน่ะ ถึงแม้ว่าเขาจะให้ที่อยู่มามันก็ไม่มีประโยชน์ หลี่หานดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งเพลงในเร็วๆนี้”
“เข้าใจแล้ว แล้วที่อยู่ล่ะ? ฉันอยากไปเยี่ยมหลี่หานด้วยตัวเอง”
“คุณซูไม่ได้ให้ที่อยู่ บอกว่าเธอเองไม่รู้ที่อยู่ของหลี่หานเช่นกัน”
“นี่…”
“เหล่าหลัว นักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยม ในประเทศของเรามีมากมาย ไม่จําเป็นต้องไปหาหลี่หานหรอก นอกจากนี้หลี่หานเป็นเพียงนักเรียนที่เพิ่งจบการศึกษามาใหม่ๆ เพลงต่อไปอาจไม่อยู่ในระดับเดียวกันกับ “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิตก็ได้”
“เหล่าตู้ เห้อ ช่างเถอะ เรื่องเพลงประกอบละครฉันจะคิดหาวิธีใหม่”
หลัวเหิง ผู้กํากับละครโทรทัศน์ชื่อดัง
หลัวเหิงไม่ได้เบอร์ติดต่อและที่อยู่ของหลี่หาน ทําให้ลั่วเหิงรู้สึกหดหูมาก
เขากําลังถ่ายทําละครโทรทัศน์และพอใจกับสคริปต์และนักแสดงมาก แต่กลับมาปวดหัวกับเพลงประกอบละคร
เพลงประกอบละครโทรทัศน์? มันมักจะสําคัญกว่าเพลงประกอบภาพยนตร์
มีนักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยมมากมายใน ประเทศจีนและทีมงานก็เชิญพวกเขามา
บางคนปฏิเสธอย่างสุภาพว่าเขาไม่เก่ง ในการแต่งเพลงประเภทละครโทรทัศน์
บางคนยอมรับคําเชิญ แต่ผลงานที่ได้มากลับทําให้ถั่วเหิงไม่พอใจอย่างมาก
เขาฝากความหวังไว้กับหลี่หาน
การที่หลี่หานสามารถแต่งเพลง ประกอบที่สมบูรณ์แบบสําหรับหูเซียนเจีย” ได้ นั่นหมายความว่าเขามีพรสวรรค์มากในการแต่งเพลงประกอบสําหรับภาพยนตร์และโทรทัศน์
แม้ว่าจะเป็นเพียงนักเรียนที่เพิ่งจบการศึกษา แต่อัจฉริยะไม่เคยวัดจากอายุ
แน่นอนว่าลั่วเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่ตู้เพิ่งฮุยพูดก็มีเหตุผล หากหลี่หานแต่งเพลงอีกครั้ง ก็ใช่ว่าจะมีมาตรฐานเทียบเท่ากับ “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต
แต่ก็มีโอกาสมากที่จะมีมาตรฐานเดียวกัน
หากไม่ลองก็มักจะเสียใจภายหลัง
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีรายละเอียดการติดต่อและที่อยู่ของหลี่หานเลย
“ผู้กํากับหลัว จู่ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ หลี่หานกับหลู่หานผู้เขียนเรื่องการแข่งขัน ระหว่างกระต่ายกับเต่า” เป็นคนเดียวกันเปล่า? “รองผู้กํากับเหลียงเฉิงกล่าว
“เสี่ยวเหลียง ทําไมจู่ๆนายถึงถามเรื่องนี้ล่ะ? ไม่น่าใช่คนเดียวกันหรอก “ถั่วเหงกล่าว
เหลียงเฉิงกล่าวว่า “ถ้าพวกเขาเป็นคนเดียวกัน เราอาจเจอเขาได้”
หลัวเหิงกล่าวว่า “คุณหมายถึง คุณรู้จักที่อยู่ของหลี่หาน ผู้เขียนเรื่องการแข่งขันระหว่างกระต่ายกับเต่า’ งั้นเหรอ?”
เหลียงเฉิงกล่าวว่า “ผมก็ไม่ทราบที่อยู่ที่แน่นอนเหมือนกัน แต่ในอินเตอร์เน็ตมีข่าวว่าเมืองที่หลี่หานขายผักชื่อเมืองสวินเซียน เนื่องจากเป็นเมือง มันไม่น่าจะใหญ่นัก ผักของหลี่หานมีชื่อเสียงมากในเมือง ฉันคิดว่าถ้าเราไปที่เมืองสวินเซียน พวกเราน่าจะสามารถสืบหาตําแหน่งของหลี่หานได้ดวงตาของถั่วเหิงเป็นประกาย
แต่คําถามที่สําคัญคือพวกเขาจะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า?
เหลียงเฉิงกล่าวว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนเดียวกันนั้นน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย เราสามารถลองไปหาได้ อย่างมากก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น “
ถั่วเหิงพยักหน้าช้าๆ ดูเหมือนเขาจะอยากลองจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่มีทางอื่นที่จะติดต่อหลี่หานได้
แม้ว่าทะงสองคนจะไม่ใช่คนเดียวกัน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถซื้อผักบางอย่างจากหลู่หานผู้เขียนเรื่อง การแข่งขันระหว่างกระต่ายกับเต่า ได้
ไม่ใช่ว่าผักที่เขาขายมีรสชาติดีมากงั้นเหรอ? งั้นก็ลองซื้อมาชิมดู
เหลือเวลาไม่กี่วันแล้ว ไม่สามารถล่าช้าได้
ถั่วเหิงกล่าว “ได้ เสี่ยวเหลียง งั้นพวกเราไปเมืองสวินเซียนกัน จริงสิ เมืองนี้อยู่ไหน?”
เหลียงเฉิงกล่าวว่า “ฉันลองตรวจสอบดูแล้วมันค่อนข้างไกล อยู่ในฝูหนานนู่นเลย”
หลัวเหิงกล่าว “มันไกลไปหน่อยแฮะ แต่ไม่เป็นไร
หมู่บ้านหยวนซี
หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน หลี่หานและเด็กๆก็ได้รวมตัวกัน
ดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือหัวทําให้อากาศค่อนข้างร้อน
แต่หลี่หานและเด็กหมีต่างไม่กลัวแดด
ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านเป็น หุบเขาที่ทอดยาวและลึกลงไปมีสัตว์ป่ามากมาย
หลี่หานและเด็กหมีไม่ได้เข้าไปในส่วนลึก พวกเขาแค่หาในเขตรอบนอก เท่านั้น
พอมาถึงทางตะวันออกของหมู่บ้าน มีที่ดินขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยถั่วลิสงข้าวโพดและพืชอื่น ๆ
ข้าวโพดบางส่วนสุกแล้ว สามารถงัดกลับไปต้มข้าวโพดอ่อนกินได้
แต่ถั่วลิสงยังไม่สามารถกินได้
ถัดจากที่ดินคือรอบนอกของหุบเขา
เป็นพื้นที่รกร้างที่เต็มไปด้วยวัชพืช และพุ่มไม้
ในป่ารกร้างแถวนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะพบเจอกับเห็ดภูเขา
หลี่หานโบกมือให้เหล่าเด็กหมีแยกย้ายกันไปเลือกสถานที่เก็บเห็ด
หลี่หานเองก็พยายามหาเห็ดอย่างตั้งใจ บางทีการค้นหาอะไรบางอย่างจนเจอก็มอบความประหลาดใจมาให้
ความรู้สึกของความประหลาดใจนั้นเป็นสิ่งที่ดีเสมอ
ไม่นาน เขาก็พบกับเห็ดพุ่มใหญ่
มันน่าประหลาดใจจริงๆ
หลังจากดึงมันออกมา ดินตรงหน้าก็กลายเป็นหลุมเล็ก ๆ บนพื้น
หลี่หานถ่มน้ําลายใส่หลุมสามครั้ง
นี่เป็นคํากล่าวของคนในหมู่บ้านว่าหลังจากทําเช่นนี้ เห็ดภูเขาชุดใหม่จะงอกขึ้นมา
คราวหน้าที่มาเก็บก็สามารถมาเก็บที่เดิมได้
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงคําพูดปากต่อปากเท่านั้น แต่การทําตามก็ไม่ได้เสียหายอะไร
เด็กหมียังคงเก็บเห็ดอย่างขะมักเขม้น
นี่คืออาหารสดจากธรรมชาติ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่หานนําเหล่าเด็กหมีเด็กโข่งออกจากป่า
ในเวลานี้ รอบๆตัวหลี่หานเต็มไปด้วยเห็ดภูเขาที่เก็บมา