This Star is a bit Salty - ตอนที่ 37 นั่งเฝ้าหน้าตลาด
นิยาย This Star is a bit Salty
บทที่ 37 นั่งเฝ้าหน้าตลาด
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น
หลี่หานถือตะกร้าผักสองใบไปที่ตลาดในเมืองตามปกติ
วันนี้เขามาขายในเมือง
จอดรถ ตั้งแผงลอยบนถนนอันคุ้นเคย
วันนี้ยังคงจํากัดการซื้อเช่นเดียวกับทุกวัน
ไม่นาน เหล่าลูกค้าก็เข้ามาล้อมด้วยความดีใจ
ซ่งเซียวและหลินเสี่ยวหยุนก็มาด้วย
ครั้งนี้ไม่ได้มองห่างๆอีกต่อไป
“ดูสิ เขาขายผักตรงที่เดิมนั่น”
“เซียวเซียว ดูเขาสิ ตอนนี้เขาดูอยู่สบายขนาดนั้นเขาคงจะไม่แต่งเพลงใหม่แล้วรึเปล่า? “
“ฉันยังไม่แน่ใจเลย เขาคือหลี่หาน จริงๆเหรอ?”
“ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ฉันคิดว่ามีความเป็น ไปได้สูง”
“ไม่ว่าความเป็นไปได้จะสูงแค่ไหน มันก็เป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น เสี่ยวหยุนรีบไปซื้อกันเถอะถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวก็ขายหมดพอดี”
“ผักของเขาอร่อยจริงๆหรือ?”
“อืม นี่เป็นเรื่องจริง ฉันก็ไม่รู้เหมือน กันว่าเขาปลูกยังไงให้ออกมาอร่อยขนาดนี้ได้”
“งั้นฉันต้องลองชิมดู เซียวเซียว เธอ ไปซื้อเลย ฉันไม่ไป “
“ทําไม?”
“เมื่อวานตอนที่อยู่ที่ตลาดซวงหลง เขาเหมือนจะมองฉันสองครั้ง ถ้าฉันเข้าไปแล้วเขาจําได้ล่ะจะทําไง”
“โอเค งั้นฉันจะไปซื้อให้เธออยากกินอะไรล่ะเลือกได้อย่างเดียวนะเขาจํากัดการซื้อคนนึงซื้อได้อย่างเดียว “
“ได้หมด เธอซื้อมาเลย”
“โอเค”
ตะกร้าสองใบใหญ่ขายหมดอย่างรวดเร็ว
มีคนถามหลี่หานว่าพรุ่งนี้จะมาขายไหม?
หลี่หานตอบไปว่าอีกสองวันจะกลับมาขายใหม่
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเสียใจ
เป็นอีกครั้งที่เหล่าลูกค้าบอกหลู่หานว่าถ้าสามารถมาขายผักได้ทุกวันก็คงจะจน
หลี่หานยิ้มและบอกว่าเขาจะเก็บมันไปพิจารณา
เย็นวันนั้นร่างสองร่างก็ปรากฏอยู่บนถนนในเมืองสวินเซียน
เป็นผู้กํากับสองคนที่รีบมาจากเหิงเตี้ยนลั่วเหิงและเหลียงเฉิง
เขานั่งเครื่องบินก่อนแล้วค่อยขึ้นรถในที่สุดก็มาถึงเมืองสวินเซียนแล้ว
เมืองสวินเซียนเป็นเมืองที่ค่อนข้างแปลกตาภายใต้แสง
พระอาทิตย์ตกทําให้เห็นว่าเมืองดูสวยงามเพียงใด
ทั้งสองไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้ามากนักพวกเขาเดินผ่านถนนในเมืองด้วยความสนใจ
ทอดถอนใจกับความงามของเมืองเล็กๆแห่งนี้
คืนนี้พวกเขาจะพักอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งนี้
ถึงโรงแรมจะไม่ได้หรูหรา แต่ก็เพียงพอแล้ว
วันรุ่งขึ้น
ระหว่างที่เช็คเอ้าท์ ถั่วเหิงก็ถามเจ้าของโรงแรมว่า”เถ้าแก่ในเมืองนี้มีชายหนุ่มขายผักคนหนึ่งที่ชื่อหลี่หานไหม?”
“หนุ่มขายผัก?“เถ้าแก่กล่าวมีจริงๆนั้นแหละแต่ไม่รู้ว่าเขาชื่อหลี่หานรึเปล่าอะนะ “
หลัวเหิงกล่าวว่า “ผักที่เขาขายนั้นอร่อยจริงไหม?”
เถ้าแก่พยักหน้าและกล่าวว่า “จริงมันอร่อยมากและตอนนี้มันดังไปทั่วเมืองแล้วไม่งั้นฉันไม่รู้จักเขาหรอกคุณมาที่นี่เพื่อซื้อผักกับเขาเหรอ? ไหม? แล้วคุณมาจากไหน?ทําไมพวกคุณถึงรู้ว่าในเมืองเรามีชายหนุ่มชายผักอยู่ล่ะ? “
ลัวเพิ่งหัวเราะและกล่าวว่า “เถ้าแก่ เรามาจากมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียงน่ะเรารู้จากอินเทอร์เน็ตว่าเขาอยู่ในเมืองนี้เราตามหาเขา ไม่ใช่เพื่อซื้อผัก”
มาไกลแฮะเถ้าแก่รู้สึกประหลาดใจมาก
แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือชายหนุ่มที่ ขายผักคนนั้นมีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ตแล้ว
เถ้าแก่อายุ 50 ปีปกติแล้วจะไม่ท่องอินเทอร์เน็ตและไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่ขายผักคนนั้นมีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ตแล้ว
หลัวเหิงพูด “เถ้าแก่ คุณรู้ไหมว่าเด็กหนุ่มคนนั้นมักจะขายผักที่ไหนในเมือง?
เถ้าแก่กล่าว “ฉันรู้ เขาขายที่เดิมเสมอแต่เขาไม่ได้มาทุกวันดังนั้นถ้าคุณกําลังมองหาเขาวันนี้ อาจจะไม่เจอเขาแล้ วล่ะ”
หลัวเหิงกล่าวว่า”วันนี้หาไม่เจอก็รอพรุ่งนี้ก็ได้ครับแล้วเถ้าแก่รู้ไหมว่าหลี่หานขายที่ไหน? “
เถ้าแก่พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ นี่ไม่ใช่ความลับอะไรหรอก หลายคนในเมืองก็รู้เรื่องนี้”
ถั่วเหิงและเหลียงเฉิงรู้สึกยินดีเป็น อย่างยิ่ง
ข่าวของหลี่หานนั้นง่ายกว่าที่พวกเขา คาดไว้มาก
ตามที่เถ้าแก่บอกพวกเขาก็พบตลาดผักที่หลี่หานมาขายผักเป็นประจํา
“ฉันหวังว่าพวกเราจะโชคดีพอ ขอให้ วันนี้หลี่หานมาขายผักด้วยละกัน” หลัวเหิงกล่าว
“ตอนนี้ยังเช้าอยู่พวกเรารอแป๊บนึงดีกว่าตลาดผักนี้ไม่ใหญ่มาก ถ้าเขามาเราจะเจอเขาอย่างแน่นอน “เหลียงเฉิงกล่าว
ถั่วเหิงพยักหน้าตอนนี้เขาทําได้เพียงรอเท่านั้นหวังว่าโชคของเขาจะดี
แต่หนึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาพบว่าวัน นี้พวกเขาดูเหมือนจะโชคร้าย
มันแปดโมงครึ่งแล้วและไม่เห็นวี่แวว หลี่หานเลย
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นหลี่หานมา ก่อน แต่พวกเขาเชื่อว่าถ้าหลี่หานมาพวกเขาจะรู้ทันทีอย่างแน่นอน
หลัวเหิงกล่าว “เป็นไปได้ไหมว่าพวก เรามาหาผิดที่? ไปถามคนแถวนี้อีกครั้งดีกว่า”
เหลียงเฉิงพยักหน้า
“พี่ชาย ขอถามหน่อยว่าชายหนุ่มที่ ขายผักแสนอร่อยคนนั้นขายผักที่นี่หรือเปล่า?”
“ที่นี่แหละ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะ ไม่มานะ”
“อ้าาา”
“ฉันไม่แน่ใจนัก แต่ฉันได้ยินมาว่าอีก สักสองสามวันเขาจะมาขายอีกรอบ “
“แบบนี้นี่เอง โอเค ขอบคุณพี่ชาย”
“ไม่เป็นไร”
หลังจากสอบถามอย่างละเอียดแล้ว ถั่วเหิงก็ยิ้มเจื่อนๆ “ดูเหมือนว่าโชคของพวกเราจะไม่ค่อยดีนัก “
เหลียงเฉิงกล่าว “สิ่งที่เขาพูดนั้นจริง เหรอ?”
หลัวเหิงกล่าว “ไม่น่าจะผิดหรอก ถ้าห ลี่หานจะมาจริงก็คงมาถึงแล้วล่ะดูเหมือนว่าเราคงต้องอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน “
เหลียงเฉิงพยักหน้า ดูเหมือนว่าเขา จะทําได้เพียงแค่รอ
ถั่วเหิงยิ้มและกล่าวว่า “เมืองนี้ สวยงามมาก อยู่ชมวิวไปอีกสองวันก็ไม่เลวนะ”
เหลียงเฉิงยิ้มและกล่าวว่า “ใช่ ฉันสา มารถชื่นชมทิวทัศน์ของเมืองนี้ได้หลายวันเลยล่ะ”
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนวิ่งไปที่ ตลาดผักเพื่อเฝ้ารอการปรากฏตัวของหลี่หาน
น่าเสียดายที่หลี่หานไม่ได้มา
ในวันที่สาม ทั้งสองคนก็กลับมาอีก ครั้ง แต่หลี่หานก็ยังไม่มา
ทั้งสองคนยังไม่ผิดหวัง ชายคนนั้น บอกว่าอีกสัก2-3วันกว่าหลี่หานจะมาอีกครั้ง
เช้าตรู่ของวันที่สี่ทั้งสองมาที่ตลาดสด อีกครั้ง
“เสี่ยวเหลียง วันนี้ต้องดูให้ดีๆล่ะ ตาม ที่คนๆนั้นบอก หลี่หานอาจจะมาวันนี้ “ถั่วเหิงกล่าว
“วางใจเถอะ ผู้กํากับหลัว ทันทีที่หลี่ หานมาถึง เราจะเจอเขาทันที “เหลียงเฉิงกล่าว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เวลา 7.30 น.
มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งเข้ามา ที่ทางเข้าตลาดสด
เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่บนมอเตอร์ ไซค์ทั้งสองข้างถูกไว้ด้วยตะกร้าไม้ไผ่ที่เต็มไปด้วยผัก
“มาแล้ว!”
ลัวเหิงและเหลียงเฉิงต่างตกใจและก ล่าวพร้อมกัน
แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เห็นชายหนุ่มแต่ทั้งสองคนก็มั่นใจว่าเขาคือหลี่หาน!