This Star is a bit Salty - ตอนที่ 32 เป็นเพราะผักพวกนี้ต่างหาก
This Star is a bit Salty บทที่ 32 เป็นเพราะผักพวกนี้ต่างหาก
หญิงสาวจากไปแล้ว และเมื่อจากไป เธอก็มองไปที่หลี่หานซ้ําแล้วซ้ําเล่า
แววตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและสับสน
อาหารในตะกร้าผักเหลือไม่มากแล้ว แม้ว่าจะจํากัดการซื้อแต่ก็ยังไม่สามารถขายให้ได้ทุกคน
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ขายหมดเกลี้ยง
ในเวลานี้มีหลายคนยืนอยู่หน้าแผงขายอาหาร
“เอ๋? หนุ่มน้อย ผักของนายยังขายไม่หมดเลย นายยังเหลือเก็บไว้ทําไม? ”ลูกค้าคนหนึ่งกล่าว
หลี่หานยิ้มและอธิบายว่า ” ขออภัย ผักเหล่านี้ไม่ได้มีไว้ขาย เพราะมีคนจองไว้แล้ว”
” จอง?” ดวงตาของทุกคนเป็นประกายและพูดแทบจะในเวลาเดียวกัน ” หนุ่มน้อย จองได้เหรอ? งั้นฉันก็จะจองเหมือนกัน”
หลี่หานส่ายหัวและขอโทษ “ขอโทษด้วย ครั้งนี้มันเป็นเพราะด้วยเหตุผลพิเศษและจะไม่มีครั้งหน้าอีกต่อไปฉันขอโทษด้วยจริงๆ
ถ้าทุกคนจอง ทุกอย่างจะไร้ความหมาย
สิ่งที่หลี่หานชอบตอนนี้คือกระบวนการขายผัก
หลายคนรู้สึกเสียใจมาก บางคนก็กล่าวต่อว่า “หนุ่มน้อย ฉันได้ยินมาว่านายมาจากหมู่บ้านหยวนซี ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ถ้าจองไม่ได้งั้นเราจะไปซื้อที่บ้านนายเลย”
หลี่หานยังคงส่ายหัวและกล่าวว่า “ต้องขอโทษด้วยตอนนี้มีผักที่โตแล้วไม่มากและยังขายไม่ได้”
ชายคนนั้นกล่าวว่า ” หนุ่มน้อย นายคงจะมีสิ่งที่ต้องทําหลายอย่างถ้านายยุ่งมากนายสามารถจ้างคนมาช่วยได้นะ”
หลี่หานยิ้มและกล่าวว่า “มันเป็นไปได้ในอนาคต”
ชายคนนั้นพูดต่อว่า ” หนุ่มน้อย ถ้าผักของนายโตแล้ว ก็ไปซื้อที่บ้านนายได้เลยใช่ไหม?”
หลี่หานพยักหน้าและกล่าวว่า “แน่นอน ถ้าในอนาคตฉันขยายแปลงผักคงต้องพึ่งพาที่คนให้ช่วยอุดหนุนแล้วล่ะ”
ชายคนนั้นหัวเราะและพูดว่า “ได้ๆ หนุ่มน้อย ฉันหวังว่านายจะขยายแปลงผักเร็วๆล่ะ”
คนอื่นๆก็เห็นด้วย
หลังจากกินผักของหลี่หานแล้ว พวกเขาก็สามารถแยกความแตกต่างระหว่างผักของหลี่หานกับผักธรรมดาได้ มันทําให้พวกเขายินดีที่จะไปที่บ้านของหลี่หานเพื่อซื้อผักโดยตรง
หลังจากที่พวกเขาจากไป เติ้งชุยก็รีบวิ่งมา
ขอโทษนะหลี่หาน ฉันมาสาย”
หลี่หานยิ้มและพูดว่า “ครูเติ้งสุภาพเกินไปแล้ว นี่คือผักรที่คุณต้องการ ”
เติ้งชุยดีใจและกล่าวขอบคุณซ้ําแล้วซ้ําเล่า
หลี่หานกล่าวว่า “ครูเติ้งไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ก็ได้ เพื่อนของครูเติ้งเป็นป้าของเหอฉานงั้นเหรอ? ”
เติ้งซุยพยักหน้าและกล่าวว่า “ยืม ฉันเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ําเธอโทรหาฉันเมื่อวานนี้และขอให้ฉันส่งผักของนายให้เธอชิมนะ ”
หลี่หานหัวเราะ บังเอิญจัง”
เติ้งชุยถอนหายใจ “จริงด้วย บางครั้งมันก็บังเอิญจริงๆ”
สองวันต่อมา
เซี่ยงไฮ้
ซูอวีฉิ่งได้รับผักจากหลู่หาน
มันค่อนข้างลําบากในการแกะบรรจุภัณฑ์และผักทั้งหมดก็ถูกแพ็คไว้อย่างดี
นับแล้วมีผักทั้งหมดหกชนิด
มะระ, แตงกวา, มะเขือเทศ, ถั่วสี่ฤดู, ถั่ว, พริก
“ดูดีมากจริงๆ” ดวงตาของซูอวีฉิงเต็มไปด้วยความยินดี
“เอ๋ คุณหนู ผักพวกนี้มาจากไหนกัน? ทําไมมันถึงดูดีนัก? “ป้าอายุประมาณ 50 ปีกล่าว
” ป้าหวง” ซูอว่ฉิงพูด ” เพื่อนฉันส่งมาให้นะ มันดูดีมากใช่ไหม?
ส่งมาให้ป่าดูหน่อย” ป้าหวงกล่าวว่า ” คุณหนู คุณไปเอามาจากไหนกัน มันดูดีเกินไปจนอาจจะใช้สารเคมีก็ได้นะเราไปซื้อผักใหม่แล้วเลือกอันที่มันไม่ค่อยสวยเพราะมันดูปลอดภัยมากขึ้นกันเถอะ ”
” ป้าหวงไม่ต้องกังวล นี่เป็นสิ่งที่เพื่อนฉันปลูกเองมันปลอดภัย
มาก”
ป้าหวงพยักหน้า เธอเชื่อคําพูดของซูอวี่ฉิงและพูดว่า“งั้นวันนี้ฉันจะไม่ออกไปซื้อผักแล้ว ผักพวกนี้สามารถกินได้หลายมื้อเลยแหละ”
ซูอื่ฉิงพูด “ป้าหวง ฉันจะทําอาหารเย็นนี้เอง” ”
หม?
ป้าหวงตะลึงงัน
ซูอวี่ฉิงจะทําอาหารด้วยตัวเองเหรอ?
ทําไมล่ะ?
เพราะผักเหล่านี้?
ป้าหวงอยากจะถาม แต่เธอไม่ได้ถาม เธอแค่พูดว่า “ดี ป้าจะช่วยคุณหนูเอง”
ป่าหวงรู้ว่าซูอวี่ฉิงสามารถทําอาหารได้ ทักษะการทําอาหารของเธอไม่สามารถบอกได้ว่าดีแค่ไหน แต่ก็ไม่ด้อยไปกว่าเธอมากนัก
ซูอนิ่งพยักหน้าและด้วยความช่วยเหลือของป่าหวงเธอเตรียมผักไปทําอาหารสําหรับคืนนี้
เวลา 18.00 น.
ซูอวีฉิงกําลังยุ่งอยู่ในห้องครัว
หลิวเค่อหมิงเป็นแม่ของซูอวีฉิง
เมื่อกลับมาที่ห้องครัว เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและพูดว่า”ลูกทําอาหารด้วยตัวเองงั้นเหรอ? ”
ซูอวีฉิงตอบ “อืม”
หลิวเค่อหมิงจุปากแล้วพูดต่อ “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ”
ซูอว่ฉิงพูด “ไม่ ฉันแค่อารมณ์ดี” ”
หลิวเค่อหมิงกล่าว “ไม่ใช่แน่ๆ ลูกลงทุนกับภาพยนต์เรื่อง“หูเซียนเจี้ย” ทําเงินได้หลายสิบล้าน แต่ก็ไม่เห็นลูกทําอาหารด้วยตัวเองเอง วันนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆ? ”
ซูอวีฉิ่งกล่าวว่า “แม่คะ พูดซะอย่างกับว่าหนูไม่เคยทําอาหารเองมาก่อนเลย โอเค โอเค ไปพักผ่อนเถอะ”
หลิวเค่อหมิงถามป่าหวงด้วยสีหน้าสงสัย ” ป้าหวง คุณรู้ไหมว่าทําไม? ”
ป่าหวงกล่าวว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจเป็นเพราะผักเหล่านี้ดู
ดิละมัง
“ผักที่ดูดีเหรอ?” หลิวเค่อหมิงเพิ่งสังเกตเห็นว่าผักในครัวนั้นน่ากินจริงๆ
ถามด้วยความอยากรู้ว่า “ไปซื้อผักเหล่านี้มาจากไหนกัน?” ”
ซูอรี่ลิ้งกล่าว เพื่อนคนหนึ่งส่งมาให้”
“เพื่อน? ผู้ชายเหรอ? ”
“อืม”
“ใครนะ?”
– 22
” แม่ แม่อยากรู้อยากเห็นมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
” แปลก”
“ลูกคิดมากไปแล้ว”
หนึ่งชั่วโมงต่อมา มีอาหารหลายจานวางอยู่บนโต๊ะ
พ่อของซูอวี่ฉิง ซูซื่อหมิงก็กลับมาบ้านเหมือนกัน
ซูซื่อหมิงถามซูอื่ฉิงว่า “สาวน้อย ลูกทําเองทั้งหมดเลยงั้นเหรอ? ??
ซูอว่ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ลองชิมดูสิ? แม่คะ ป้าหวง หนูก็ลองชิมดูเหมือนกัน ”
ซูชื่อหมิงหัวเราะและกล่าวว่า “มันยากที่จะได้สัมผัสกับฝีมือลูกพ่อต้องลองชิมดูแล้วสิ ”
ซูซื่อหมิงคีบแตงกวาขึ้นมา
ไม่นานซูซื่อหมิงก็ตกใจและมองไปที่ซูอวีฉิ่งด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “สาวน้อย ทักษะการทําอาหารของเธอดีขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? มันอร่อยกว่าที่ป่าหวงทําเสียอีก”
เมื่อหลิวเค่อหมิงและป่าหวงได้ยินดังนั้น พวกเธอก็เริ่มไม่เชื่อแล้วรีบคีบอาหารเพิ่มชิมมัน
หม?
มัน… มันเป็นเรื่องจริง
หลิวเค่อหมิงจุปาก “ลูกมีพรสวรรค์การทําอาหารแน่ๆเลย”
ซูอวีฉิงคีบอาหารของเธอและหลังจากนั้นเธอก็พูดอย่างมีความสุขว่า ” จริงๆด้วย!”
“อะไรจริงเหรอ?” ซูชื่อหมิงและหลิวเค่อหมิงถามพร้อมกัน
ซูอนิ่งกล่าว ” จริงๆแล้วไม่ใช่เพราะทักษะการทําอาหารของฉันดีขึ้นหรอกแต่มันเป็นเพราะผักพวกนี้ต่างหาก ถ้าป่าหวงมาทํารสชาติจะดีขึ้นแน่นอน”
อร่อยขึ้นเพราะผักพวกนี้?
ซูซื่อหมิง หลิวเค่อหมิง และป่าหวงพยักหน้าช้าๆ
หลิวเค่อหมิงกล่าว ” ก่อนหน้านี้แม่เห็นว่าผักพวกนี้ดูดีเกินไปแม่ยังกังวลเล็กน้อยว่ามันจะปลอดภัยหรือไม่ ไม่คิดว่ารสชาติจะดีขนาดนี้ยังมีคนปลูกผักที่ดีเช่นนี้ได้ ยัยหนู เพื่อนเธอเป็นใครกันแน่? ”
เกิดอะไรขึ้น?
ซูซื่อหมิงเพิ่งกลับมาและได้ยินหลิวเค่อหมิงพูดเขาไม่เข้าใจเล็กน้อย
ซูอรี่ลิ้งหัวเราะคิกคักและอธิบายเรื่องนี้ให้ฟัง
เมื่อซูซื่อหมิงเข้าใจ เขาก็ถามว่า ” สาวน้อย เขาเป็นใครกัน?”
ซูอื่นิ่งกล่าวว่า “คุณรู้ชื่อของเขา” ”
“ใคร?” ซูซื่อหมิงและหลิวเค่อหมิงถามพร้อมกัน
ซูอรี่ลิ้งมองไปที่ทั้งสองคนและพูดว่า ” หลี่หาน! ”