บทที่ 32 : การตั้งถิ่นฐานของก็อบลิน
ฮิคารุและลาเวียเดินทางออกจากเมืองหลวงด้วยรถม้า
เราจะไปที่ไหนกันต่อหรอ] ลาเวียถาม
ฉันอยากไปทําเควสเก็บวัตถุดิบนะ ฉันอยากจะขึ้นระดับ E ให้ได้เร็วที่สุดแล้วจะได้เข้าไปในดันเจี้ยนได้ ]
[ขอบดันเจี้ยนขนาดนั้นเลยหรอ
ก็แค่สนใจเท่านั้นแหละ ]
ดันเจี้ยน – แก่นหลักในโลกแฟนตาซีแห่งดาบและเวทมนตร์แม้กระทั่งเกมและนิยายนั้นยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับดันเจี้ยนเพียงอย่างเดียวด้วยและฮิคารุก็ไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะเห็นเขาใช้ความสามารถของเขาเองเช่นกัน
[เธอเองก็อยากไปดันเจี้ยนเหมือนกันใช่ไหมล่ะ]ฮิคารุถาม
อะไรฉันน่ะ อ่า… ถ้านายยืนกรานแบบนั้นฉันไปด้วยก็ได้ ]
ลาเวียรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด – เธอทัดหูและลูบต้นคอตัวเองเบาๆ ฮิคารุรู้ว่าหนังสือส่วนใหญ่ที่เธออ่านขณะที่อยู่ใน เมืองหลวงนั้นเกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนเธอยืมหนังสือมามากมายเพราะตั้งความหวังไว้แล้วว่าจะได้สํารวจดันเจี้ยนในไม่ช้านี้และเธอก็อ่านหนังสือพวกนั้นจบหมดแล้วในระหว่างที่พวกเขาอยู่ในเมืองหลวง
เรายังเป็นมือใหม่กันอยู่ ตอนนี้ก็ล่ามอนสเตอร์ก่อนแล้วกัน |
รถม้าที่พวกเขาขึ้นในตอนเช้ากําลังวิ่งตรงไปที่เมืองพอนด์พวกเขามุ่งหน้าไปที่ปาใกล้ทะเลสาบที่ซึ่งฮิคารุได้พบกับพอลล่าและเอาชนะหัวหน้าก็อบลินได้ เขาต้องการที่จะเข้าไปในปาให้ลึกขึ้นเพื่อที่จะได้ทดสอบบางอย่าง
ที่ริมฝั่งทะเลสาบฮิคารุอธิบายแนวทางปฏิบัติของพวกเขาให้ลาเวียฟัง
อย่างแรกเลยเราจะแอบไปที่เป้าหมายของเราแล้วโจมตี
เราทั้งคู่หรอ]
ฉันเป็นคนโจมตี ที่เธอต้องทํามีอย่างเดียวคือจับมือฉันไว้ๆได้] ลาเวียตอบกลับไปอย่างไม่ลังเลขลาเวียไว้ใจความสามารถของฮิคารุถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อธิบายถึงการทํางานของสกิลของเขาเลยก็ตาม
ฮิคารุอยากจะลองอะไรบางอย่าง อย่างแรกเลยคือการรวมปาร์ตี้เขารู้ว่าบางครั้งเหล่านักผจญภัยจะตั้งกลุ่มปาร์ตี้ขึ้นมาแต่นั่นมันก็แค่เป็นการประกาศกับกิลด์อย่างเป็นทางการว่าพวกเขาจะทํางานด้วยกันเท่านั้นไม่มีอะไรมากกว่านั้น สมาชิกในกลุ่มไม่ได้รับบัฟอะไรพิเศษในการเข้าร่วมปาร์ตี้
สิ่งที่ฮิคารุสงสัยคือระดับวิญญาณ ในกลุ่มปาร์ตี้จะมีผู้รักษาและคนที่มีระดับวิญญาณสูงคอยช่วยอยู่ด้านหลังแล้วระดับของพวกเขามันเพิ่มขึ้นหลังจากที่ฆ่ามอนสเตอร์ได้ยังไง
ฮิคารุได้ต่อสู้กับลอว์เรนซ์อย่างดุเดือดแต่ระดับวิญญาณของเขาก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นซึ่งนั่นก็หมายความว่าเป้าหมายจะต้องถูกฆ่าเท่านั้น
ว้าว…] ลาเวียอุทานออกมา
กรีนวูล์ฟกําลังหาวอยู่ด้านหน้าพวกเขาห่างออกไปอีก 5 เมตรพวกเขาอยู่ใกล้มากแต่มอนสเตอร์ตัวนี้ก็ยังไม่เห็นพวกเขาหูของพวกมันกระตุกไปมาในขณะที่ดมกลิ่นรากของพุ่มไม้อยู่อย่างไม่สนใจ
โลก
[ชู เงียบ ๆ นะ ] ฮิคารุกระซิบ
| ทะ-โทษที่]
พวกเขาเข้าใกล้กรีนวูล์ฟอย่างช้า ๆ จนกระทั่งห่างกับมันเพียงหนึ่งนิ้วแล้วเขาก็แทงไปที่ต้นคอด้วยกริชแห่งพลังจากนั้นหมาปาก
ตาย
ร่างกายของลาเวียสั่นสะท้าน ฮิคารรีบดึงพืชชนิดพิเศษที่เรียกว่ามอสหมาป่าออกจากด้านหลังของมอนสเตอร์ตัวนี้ มอสนี้จะเติบโตบนหลังของของกรีนวูล์ฟท่านั้นมันมีอยู่เควสหนึ่งที่ต้องการให้ส่งมอสหมาป่าให้
ฮิคารุพาลาเวียที่กําลังดิ้นอยู่ออกห่างจากซากศพของกรีนวูล์ฟเนื่องจากกรีนวูล์ฟตัวอื่น ๆ กําลังเข้ามาใกล้
ระดับเธอเพิ่มหรอ
น่าจะใช่]
ระดับวิญญาณที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเมื่อตรวจสอบบอร์ดวิญญาณของลาเวียก็พบว่าระดับของเธอได้เพิ่มขึ้น
จริง ๆ
> บอร์ดวิญญาณ
ลาเวีย
อายุ: 14 ระดับ: 7
ลาเวียไม่ได้ทําอะไรเลยแต่ระดับวิญญาณของเธอก็เพิ่มขึ้นขั้นเราคงเป็นกลุ่มปาร์ตี้กันแล้วสินะคงจะเดาได้ว่า “ปาร์ตี้” มีอยู่บนโลกนี้จริง ๆ สินะแต่ทําไมถึงไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยล่ะ
ฮิคารุคิดถึงความเป็นไปได้ 2-3 อย่าง
หนึ่งคือระดับวิญญาณไม่ได้มีค่าขนาดนั้นเลยไม่มีใครศึกษา
สองคือวิธีการคิดแบบวิทยาศาสตร์ไม่ได้ถูกนํามาใช้จริงในโลกนี้เช่นการสังเกตการทดลองและการหาข้อสรุป
และสามคือ “ปาร์ตี้” สามารถใช้งานได้ภายใต้เงื่อนไขที่จํากัดสุด ๆเท่านั้นและเพราะแบบนี้ถึงได้มีเรื่องเล่าอยู่แค่เล็กน้อย
ฮิคารุรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นเพราะทั้ง 3 ข้อที่พูดมาเลยก็ได้แต่วันนี้พวกเขาไม่ได้มาเพื่อสืบสวนว่าทําไมข้อมูลเกี่ยวกับปาร์ตี้ถึงไม่มีอยู่เลยการที่พบว่าระดับวิญญาณของลาเวียสามารถเพิ่มขึ้นได้แค่เพราะเธออยู่ใกล้ ๆ เขาตอนที่เขาต่อสู้ก็มากเกินพอแล้ว
เขาเลือกที่จะเก็บแต้มไว้ก่อนเผื่อไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
[ ต่อไปเราจะทดสอบเวทมนตร์ของเธอกัน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอถึงขีดจํากัดตัวเอง
[ฉันจะหมดสติ
แล้วหลังจากตื่นแล้วเธอรู้สึกยังไง
[แย่สุด ๆ แต่ก็ไม่เคยมีใครตายเพราะถึงขีดจํากัดมากอนหรอก… คิดว่านะ]
[ เข้าใจล่ะ เธอเคยบอกว่าเธอสามารถใช้ลมหายใจเพลิงได้ 30 ครั้งติดต่อกันแต่นั่นมันไม่ใช่จํานวนครั้งเป๊ะ ๆ ใช่ไหมเป็นการประมาณแบบหยาบ ๆถูกรึเปล่า ]
ถูกต้อง
งั้นการทดลองต่อไปของเราก็มาหาขีดจํากัดมานาของเธอกันเถอะ ]
นี่คือสิ่งที่จําเป็นถ้าพวกเขาต้องไปดันเจี้ยน
สกิลพิเศษของเขาคือการหลบซ่อนและของลาเวียคือเวทไฟ 2 อย่างนี้ไม่ค่อยประสานกันนัก
การใช้เวทมนตร์จะดึงความสนใจของศัตรูและพวกเขาก็ไม่มีเวทรักษาซึ่งถ้าเธอสลบจากการใช้เวทมากเกินไปฮิคารุจะต้องอุ้มลาเวียและนั่นจะจํากัดการเคลื่อนไหวของเขา
[แต่รอบ ๆ นี้ไม่มีมอนสเตอร์ให้ซ้อมเลย ฉันว่าเราต้องสุ่มมอนสเตอร์เอาแล้วล่ะ]
จากตําแหน่งของดวงอาทิตย์ที่เป็นเสมือนคนนําทางเขา พวกเขาก็ได้เดินทอดน่องผ่านป่าไปและเนื่องจากตําแหน่งของดวงอาทิตย์เปลี่ยนตามเวลาพวกเขาจึงต้องระมัดระวังมาก ๆ มีคนพูดไว้ ว่ายิ่งเข้าปาลึกเข้าไปเท่าไหร่มอนสเตอร์ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นตอนนี้คงถึงเวลาหาคําตอบแล้วล่ะว่าคําพูดนั้นมันจริงรึเปล่า
ฮิคารุเหลือบไปเห็นเป้าหมายที่จะให้ลาเวียใช้เวทด้วยพอดี
เธอเห็นนั่นไหม ]
[นี่มันถิ่นก็อบลิน?! เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นของจริง! ]
ฉันไม่คิดว่าลูกสาวของเคานต์คนอื่น ๆ จะตื่นเต้นตอนที่เห็นถิ่นก็อบลินนะ]
นายหมายถึงอดีตลูกสาวน่ะสิ] ลาเวียแก้
ประมาณหนึ่งร้อยเมตรข้างหน้าพวกเขาเป็นพื้นที่เปิดโล่งที่มีต้นไม้ถูกโค่นลงซึ่งไม่มีใครอื่นนอกจากก็อบลินที่เป็นคนทํา พวกเขาใช้ต้นไม้ที่ตัดเพื่อสร้างบ้านแบบเรียบง่ายซึ่งมีตั้งแต่ 50 ถึง 100 หลังแม้ว่าฮิคารุจะไม่แน่ใจว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันกับที่เขาเผชิญหน้ามาก่อนหน้านี้หรือไม่
การตั้งถิ่นฐานของพวกเขาใหญ่พอ ๆ กับสนามแข่งรถในร่มสถานที่แห่งนี้ดูเงียบสงบ บางส่วนก็ทําอาหารจากเนื้อสัตว์ บางส่วนก็เปาบุขณะที่คนอื่น ๆ เต้นรํา แต่ ณ มุม ๆ หนึ่งที่ซึ่งดูเหมือนจะเป็นซากปรักหักพังจากรถม้าของมนุษย์ มีเศษเสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่รอบ ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาน่าจะถูกฆ่าไปแล้ว
(รอตรงนี้ก่อนได้ไหมไม่นานเดี๋ยวฉันกลับมา
อะไรนะ]
(ฉันอยากจะตรวจดูหน่อยว่ามีคนอยู่ข้างในรึเปล่า]
ลาเวียดูเป็นกังวล เธอไม่อยากถูกทิ้งไว้ที่นี่คนเดียวแต่ถ้าเธอตามไปด้วยก็เห็นสิ่งที่น่ากลัวมากแน่ ๆ ยังไงบางครั้งพวกก็อบลินก็ลักพาตัวผู้หญิงแล้วใช้สร้างพวกตัวเองเพิ่มอีกอยู่ดี มันจึงมีความเป็นไปได้ที่พวกมันจะมีคนเป็นเชลยอยู่ในตอนนี้เนื่องจากพวกมันได้ฆ่าคนอื่นไปแล้ว
[ ฉันวิ่งไปตรงนั้นและกลับมาได้เร็วแน่นอน
[ ก็ได้ ]
แต่กรีนวูล์ฟตัวนั้นอาจจะเห็นเธอก็ได้ ฉันล่ะอยากจะไอเทมเอาเวทมนตร์ที่จะลบการมีอยู่ของเธอจริง ๆ มันมีอะไรแบบนั้นอยู่ บนโลกนี้ไม่นะอ๋อใช่จริงสิเจ้าหญิงคิเดียสทอเรียก็มีอันหนึ่ง
ฮิคารุเริ่มออกวิ่ง แรวกาย 1 แต้มและระเบิดพลัง 2 แต้มนี่ไม่ใช่เล่น ๆ เลย ต่อให้ไม่ได้พยายามมากเขาก็สามารถวิ่ง 100 เมตรได้ภายใน 10 วินาที เหล่าก็อบลินไม่ได้สังเกตเห็นต้นหญ้าที่แกว่งไปมาขณะที่ฮิคารุพุ่งไปข้างหน้าด้วยซ้ํา
ตอนนี้ยังไม่เห็นตัวหัวหน้าแต่ก็มีพวกตัวใหญ่อยู่ 2-3 ตัว
หัวหน้าก็อบลินเมื่อยืนขึ้นแล้วจะมีความสูงมากกว่า 2 เมตรที่นี่มีพวกตัวใหญ่ 2-3 ตัวอยู่ตรงนี้และตรงนั้น พวกมันสูงประมาณ 1 เมตรและ 50 เซนติเมตร – แค่สูงกว่าก็อบลินธรรมดานิดหน่อย
ยังไม่เจอคนที่ยังมีชีวิตอยู่
ท่ามกลางเนื้อสัตว์นั้นมีแขนของมนุษย์เสียบอยู่เหนือกองไฟฮิคารรีบมองไปทางอื่นพร้อมกลั้นความอยากจะอาเจียนเอาไว้
ไปดูข้างในดีกว่า
ตอนนี้เป็นเวลากลางวันแต่ฮิคารุกฝืนเดินผ่านไป เขาจะมัวเสียเวลาขณะที่ลาเวียถูกทิ้งไว้คนเดียวไม่ได้ ฮิคารุวิ่งผ่านห้องสี่หลี่ยมที่เปิดโล่งและมุ่งตรงไปยังกระท่อมที่ปกคลุมไปด้วยมู่ลี่เจอพวกก็อบดินกําลังนอนอยู่กระท่อมที่ว่างเปล่าและห้องเก็บของ
ไม่มีใครอยู่ที่นี่
ไม่มีมนุษย์อยู่รอบ ๆ แถวนี้ ฮิคารุรู้สึกโล่งใจสุด ๆ ถ้าเขาเจอผู้หญิงที่ท้องลูกก็อบลินอยู่จะทํายังไง ถ้าเธออยากจะตายเขาจะฆ่าเธอได้ไหม
ฉันยังไม่กล้าพอที่จะทําอย่างนั้นหรอก
ถ้าเขาตรวจดูรอบ ๆ แล้วเจอใครเข้าเขาก็ต้องทําการตัดสินใจ
มันคงจะดีกว่าถ้าพวกเขาถอยไปซะตั้งแต่ตอนที่เจอที่นี่ตอนนั้นสิ่งที่เขาต้องทําก็คือรายงานไปยังกิลด์ผจญภัยแล้วพวกเขาก็จะจัดการต่อเองและฮิคารุก็ไม่ต้องทํางานสกปรก
แต่ถ้า… ถ้าเขาเจอคนอยู่ในนั้นแล้วยังไงต่อจะฆ่าไหมหรือจะช่วยชีวิตพวกเขาแล้วดูแลต่อหลังจากนั้น อาจจะมองไปทางอื่นแล้ววิ่งหนี้รีเปล่า
ฮิคารุผิดหวังจากการคิดที่ไม่รอบคอบของตนเองเขาจึงกลับไปหาลาเวีย
ลาเวียไม่ได้ขยับไปไหนเลยแม้แต่หนึ่งนิ้วและเธอยังคงหมอบไว้เหมือนก่อนหน้านี้
| กลับมาแล้วหรอ
น้ําตาปริ่มอยู่ที่ขอบของเธอ ลาเวียกําลังหวาดกลัว ฮิคารุโอบกอดเธอโดยที่ไม่ได้คิด
อะ ฮิคารุ?]
ขอโทษนะ เธอต้องกลัวมากแน่ๆ
[ นายเป็นคนบอกให้ฉันรอตรงนี้เองนะ ตาโง]
ฉันรู้ ฉันโง่เอง]
ฮิคารุเองก็กลัวเช่นกัน เขากอดเธอเพื่อซ่อนความรู้สึกของเขา
ลาเวียกอดตอบเขาด้วยความงงงวย พวกเขาไม่ได้ขยับไปไหนแต่เพียงแค่พักอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอยู่สักพัก
เอาล่ะ ได้เวลาลองเวทมนตร์ของเธอแล้ว]
นายไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมฮิคารุ
[เอาเถอะ ได้เวลาลองเวทของเธอแล้ว]
เขารู้สึกเขินอายเมื่อนึกถึงความกลัวและความกังวลที่เกิดขึ้นฮิคารจึงขึ้นเสียงและพูดย้ํากับตัวเองอีกครั้ง
[เธอยิงไปตรงนั้นจากจุดนนี้ได้ไหม
[ใช้เวทไฟน่ะหรอ มันไกลไปหน่อยนะ ฉันต้องขยับเข้าไปใกล้อีกสักครึ่งหนึ่งนะ]
อ่อ งั้นก็จับมือฉันตอนที่อยู่ในระยะแล้วละกันนะฉันอยากให้เธอใช้เวทที่ทรงพลังที่สุด
[แน่ใจหรอ)
เปลี่ยนอาชีพที่การ์ดของเธอให้เป็นพระเจ้าแห่งวิญญาณเปลวไฟ: นักเวทย์ไฟด้วยนะ]
[แต่นายมั่นใจหรอ]
[แน่สิ การที่ได้รู้พลังสูงสุดของเธอจะช่วยให้เราคิดกลยุทธ์ตอนที่ไปสํารวจดันเจี้ยนได้ ]
ได้
ปฏิกิริยาหดหูของลาเวียส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจิตใจของฮิคารุ
[โทษทีนะ ถ้าเธอไม่อยากทําก็ไม่ต้องทําหรอก
[เปล่า ไม่หรอก ถ้ามากลัวเอาตอนนี้ต่อให้ฉันอยากเป็นนักผจญภัยก็คงเป็นไม่ได้หรอก ฉันจะทํา]
ขอบใจนะ ฉันรู้ว่าฉันบอกให้ใช้พลังที่ทรงพลังที่สุดแต่อย่าร่ายจนเธอขยับไม่ได้นะ]
[ได้แต่มันจะมีวงเวทค่อนข้างใหญ่หน่อยนะไม่เป็นไรใช่ไหม
อื้อ ไม่น่าจะเป็นไรนะ
“งั้นก็ลงมือกันเถอะ
ฮิคารุคิดว่าการซ่อนกลุ่มน่าจะสามารถซ่อนวงเวทนั้นได้ถ้าพวกก็อบลินสังเกตเห็นพวกเขาที่นี่ก็มีต้นไม้ให้พวกเขาซ่อนมากมายหลังจากที่พวกเขาซ่อนแล้วผลของสกิลหลบซ่อนก็จะกลับมาทํางานอีกครั้ง
พวกเขาจับมือกันแน่นแล้วเดินไปข้างหน้า ลาเวียเม้มริมฝีปากแน่นห่างจากฐานที่ตั้งของก็อบลินมาประมาณห้าสิบเมตรลาเวียกดึงมือของฮิคารุไว้
ฉันจะใช้ตรงนี้แหละ
ลาเวียสุดหายใจเล็กน้อย
โอ้ จิตวิญญาณเอ๋ย จงฟังเสียงเรียกของข้า เปลวไฟที่โหมกระหนคือสิ่งที่ข้าปรารถนา ไฟที่เผาทําลายซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดที่ถูกรังสรรค์ขึ้นแม้แต่กฎของจักรวาล!!
ฮิคารุสะดุ้งโหยง พื้นที่รอบๆลาเวียเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เมตรเริ่มส่องแสงขึ้น เขามองไปที่ฐานนั้นแต่พวกก็อบลินก็ไม่ได้สังเกตเห็นอะไร สกิลการซ่อนกลุ่มกําลังทํางาน
จิตวิญญาณเอ๋ยจงเริงระบํา! ข้าขอถวายมานาของข้าจิตวิญญาณเอ๋ยจงขับร้อง! นําโลกที่ครั้งหนึ่งเคยบริสุทธิ์ของเรากลับมาและเผาทําลายซึ่งทุกสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน]
ฮิคารุจ้องไปที่ฉากนั้นด้วยความตื่นตะลึง วงเวทขนาดใหญ่ก่อตัว ขึ้นเหนือหัวพวกเขาไปประมาณ 10 เมตร ลูกบอลไฟค่อยๆลอยขึ้นจากตรงนั้นไปอย่างช้าๆ
หน้าผากของเขารู้สึกร้อน ลาเวียเองก็เหงื่อแตกเป็นถังเช่นกัน ไฟนั้นใหญ่กว่าตอนที่เธอใช้ลมหายใจเพลิงมาก สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นลูกบอลในตอนแรกขยับขึ้นๆ ลงๆ เป็นคลื่น ซึ่งความจริงแล้วมันดูคล้ายงูยักษ์มากกว่า
อย่างที่คาดไว้ ก็อบลิน 2-3 ตัวเริ่มสังเกตเห็นถึงบางอย่างที่ ผิดปกติ พวกมันบางตัวเริ่มกรีดร้องและชี้มาที่เปลวเพลิง บางตัวถ งกับทิ้งเนื้อเสียบไม้ที่อยู่ในมือลงส่วนตัวอื่นๆก็พยายามวิ่งหนีอย่างหมดรูป
[เปลวเพลิงแห่งพระกิตติคุณ ]
*ไฟที่เผาทําลายซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งหมดที่ถูกรังสรรค์ขึ้นแม้แต่กฎของจักรวาล!: ในประโยคนี้ความหมายของผู้เขียนที่ต้องการจะสื่อคือทุกสิ่งที่อย่างที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นมา
พระกิตติคุณ หมายถึงคําสอนของพระเยซู
MANGA DISCUSSION