บทที่ 31 : หลังการโจมตี
โรแลนด์
แม่
ฮิคารุผงะจนแทบจะหยุดอยู่กับที่เมื่อเจ้าหญิงเรียกเขาด้วยชื่อนั้น แต่ยังดีที่เขายังสามารถซ่อนความกระวนกระวายใจไว้ได้อยู่
ผู้คุ้มกันต่างถือตะเกียงวิเศษวิ่งไปมา ฮิคารุเดินผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็วโดยไม่กังวลเกี่ยวกับการซ่อนตัวด้วยซ้ํา เขาได้รับการยืนยันมาหลายครั้งแล้วว่าคนพวกนั้นไม่สามารถมองเห็นเขาได้
เจ้าหญิงรู้จักโรแลนด์ได้ยังไงกันนะ เธอไม่ได้อยู่ในความทรงจํานี้ด้วยสิ
สําหรับฮิคารุแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเจ้าหญิง ในตอนที่เขาเห็นชื่อในบอร์ดวิญญาณก็ไม่มีใบหน้าของเธอโผล่ขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ฉันไม่รู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะต้องมาคิดเรื่องนี้เพราะยังไงก็คงไม่ได้เจอกันอีก
เขาทําตามเป้าหมายสําเร็จแล้ว ตอนนี้อีสท์คงไม่ได้รับโทษประหารชีวิตแล้วแต่ก็ยังมีความเป็นไปที่เขาอาจได้รับโทษอยู่ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรที่ฮิคารุจะทําได้ จริงๆ เขาจะพาอีสท์แหกคุกออกมาก็ได้ แต่ถ้าดูจากถนิสัยที่จริงจังของอีสท์แล้วเขาก็คงไม่อยากจะหนีหรอก
คงได้ออกจากที่นี่เร็วๆนี้ล่ะนะ
วันรุ่งขึ้นเจ้าหญิงก็เรียกผู้สอบสวนมาที่ที่ทํางานของเธอ เขาคือชายที่รับผิดชอบการสืบสวนเกี่ยวกับเบาะแสของลาเวีย
ใบหน้าเรียวเล็กของผู้สอบสวนทําให้เขาดูมีความเฉลียวฉลาด แต่ตอนนี้เขาดูซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัดจากแก้มที่ซูบตอบนั้น
[เป็นอะไรรึเปล่าคะ]
[ปะ เปล่าครับ]
[ผมได้ยินมาว่าเขาส่งรายงานตรงต่อพระราชาไปแล้วเมื่อวานนี้ครับ และบัดนี้ฝ่าบาททรงเรียกหาเขา จึงไม่น่าแปลกเลยว่าทําไมเขาถึงหมิ่นประมาทเช่นนี้ครับ]
อัศวินระดับสูงที่อยู่ในห้องด้วยเช่นกันได้ทูลบอกองค์หญิง
[คงเหนื่อยมากสินะ ต้องขอโทษด้วยที่เราต้องเรียกเจ้ามาที่นี่]
[มะ ไม่ต้องขอโทษหรอกครับองค์หญิง]
ผู้สอบสวนรู้สึกละอายใจที่เจ้าหญิงขอโทษเขา
[ช่วยบอกทีได้ไหมว่าเมื่อวานนี้ทูลบอกอะไรท่านพ่อว่ายังไงบ้าง]
[ได้ครับองค์หญิง]
ผู้สอบสวนตั้งสติและเริ่มรายงาน ซึ่งก็ค่อนข้างตรงกันกับสิ่งที่ลอว์เรนซ์ได้บอกเธอก่อนหน้านี้
[ตอนที่พระราชาได้ฟังรายงานท่านว่ายังไงบ้าง]
[พระองค์ทรงกล่าวว่าผมไร้ประโยชน์ครับ] ผู้สอบสวนตอบด้วยน้ําเสียงที่เจ็บปวด
เจ้าหญิงรู้สึกเห็นใจเขา เธอคิดว่าจํานวนข้อมูลที่เขารวบรวมได้ในช่วงเวลาสั้นๆนั้นน่าประทับใจ แต่สิ่งที่กษัตริย์กําลังมองหานั้นคือเบาะแสที่เกี่ยวกับเด็กสาวคนนั้น ซึ่งผู้สอบสวนก็ไม่มีรายงานอะไรที่เกี่ยวกับเธอเลย
[ทําไมท่านพ่อถึงอยากได้เด็กคนนั้นนัก]
การกระทําที่โจ่งแจ้งของพระราชาทําให้คิดัสทอเรียคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการฆาตกรรมของเคานต์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น – เด็กผู้หญิงคนนั้นต้องกุมความลับบางอย่างไว้แน่
อาจจะเกี่ยวกับสงครามก็ได้แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องเจาะลึกลงไปในเรื่องนี้
[ฉันอยากถามอะไรหน่อย] เจ้าหญิงพูด
[ได้เลยครับ]
[ฉันคิดว่าลูกชายของวิสเคานต์ซาราเซียที่เสียไปแล้วเขาอยู่ที่เมืองพอนด์นะ นายเจอเขาบ้างรึเปล่า]
[วิสเคานต์ซาราเซีย ?]
ผู้สอบสวนจมอยู่ในความคิด เขาพยายามที่จะนึกให้ออก ข้างๆกันนั้นมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงคอยจับตาดูเขาอยู่ เจ้าหญิงคิเดียสทอรียเพิ่งจะเอ่ยชื่อที่ไม่มีใครพูดถึงมาก่อนออกมา ทางการรู้ว่าเคานต์ มอร์กสแตดเป็นผู้ทําลายครอบครัวซาราเซียแต่เขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
[ต้องขออภัยจริง ๆ ครับ ผมไม่รู้จักใครที่ใช้ชื่อนี้เลย]
[เข้าใจล่ะ… ไม่เป็นไรยังไงก็ขอบใจนะที่มาที่นี่ ไปได้แล้วล่ะ]
[ครับองค์หญิง] ผู้สอบสวนตอบแล้วจึงกลับไป
[เจ้าหญิงสนใจลูกของเคานต์ซาราเซียหรอครับ]
[นิดหน่อยน่ะ แล้ววันนี้การประชุมจักรวรรดิเป็นยังไงบ้าง]
การประชุมจักรวรรดิคือการประชุมที่ถูกจัดขึ้นตอน 10 โมงเช้า โดยที่มีพระราชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งนี่ก็ถือเป็นโอกาสที่จะได้พูดคุยกับพระราชาโดยตรง และนอกจากนี้ยังมีบุคคลในตําแหน่งที่สําคัญๆเข้าร่วมด้วย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของรัฐและนายพลจึงนําเรื่องต่างๆมาหารือในการประชุมครั้งนี้
[วุ่นวายมากเลยครับ]
ไม่แปลกเลย เจ้าหญิงคิดในใจ แน่นอนว่าวาระของวันนี้คือความพ่ายแพ้ของกัปตัน
[ เกิดอะไรขึ้นล่ะ]
[ถ้าผมเล่าเจ้าหญิงจะบอกเกี่ยวกับวิสเคานต์ซาราเซียไหม ]
[ได้สิ เดี๋ยวฉันจะบอกทุกอย่างที่รู้ให้]
[ งั้นก็ตกลงครับ]
เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างมีความทะเยอทะยาน เขาต้องการรวบรวมข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับขุนนาง แต่ฉันควรเริ่มเล่าจากตรงไหนล่ะ? เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
คิเดียสทอเรียไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเนื่องจากพ่อและพี่ชายของเธออยู่ที่นั่น เธอไม่เคยอยากมีส่วนร่วมในการประชุมในครั้งไหนมากเท่าครั้งนี้มาก่อน
ลอว์เรนซ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสในสถานที่ของอัศวินเอง ทุกคนจะมีปฏิกิริยายังไงกันนะ
ในคืนนั้นเจ้าหญิงได้กลับไปที่ปราสาทอย่างเงียบๆ ซึ่งในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ เธอก็รู้เส้นทางลับหลายเส้นทาง โดยเธอก็ได้สวมเสื้อคลุมเพื่อซ่อนตัวจากสายตาของผู้คนอีกด้วย
[การประชุมเริ่มต้นด้วยการรายงานว่าหัวหน้าของสภาได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกสักพัก]
[โอ้โห!]
เธอแกล้งทําเป็นตกใจ เพราะเจ้าหน้าที่เขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้วในวันที่เกิดเหตุนั้นคิเดียสทอเรียก็อยู่ที่นั่นด้วย
[เห็นได้ชัดว่ามีศัตรูแทรกซึมเข้ามาในกําแพง และหัวหน้าก็ได้ไล่เขาไปโดยได้มีการต่อสู้ที่ค่อนข้างดุเดือด จนถึงขนาดที่ว่าโรงฝึกของอัศวินเองก็ถูกทําลาย]
[ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับผู้บุกรุกละ ]
[เขากําลังซ่อนตัวอยู่ในย่านขุนนางครับ เราได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยที่ประตูทันทีที่เกิดเรื่องขึ้นดังนั้นเขาหนีไปไหนไม่ได้ แน่นอน ผมคิดว่าตอนนี้เขตขุนนางคงจะกําลังอยู่ในความโกลาหล เพราะกําลังค้นหาผู้ต้องสงสัยกันแน่นอนครับ]
ไม่ใช่ คิเดียสทอเรียคิดในใจ เด็กผู้ชายที่ฉันเผลอเรียกว่าโรแลนด์นั่นไม่ได้อยู่เขตขุนนางแล้ว
ในสองวันติดกันที่ผ่านมาเขาสามารถแอบเข้าไปในห้องของอัศวินได้อย่างง่ายดายแถมที่ตั้งยังอยู่ใกล้ปราสาทด้วย เขาคงไม่รีรออยู่ที่ย่านขุนนางแน่ ๆ
จิตใจของเธอตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายเมื่อคิดเกี่ยวกับเขา เขาเป็นใครแล้วทําไมเขาถึงช่วยเธอ เขาเจอเธอได้ยังไงในเมื่อแม้แต่ลอว์เรนซ์ก็มองไม่เห็นเธอ พอได้คิดแล้วก็ไม่มีทางที่เขาจะเป็นโรแลนด์ ลักษณะของเขา ผมและสีตาของเขามันต่างออกไป และโรแลนด์ก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครเช่นกัน
[โชคดีที่แผลของหัวหน้าหายทันที่ที่ได้รับเวทมนตร์รักษา พระราชาจึงส่งเขาไปที่แนวหน้าตามแผนเดิม ]
[หะ]
[มีอะไรผิดปกติรึเปล่าครับ]
[กัปตันเขาต่อสู้ได้หรอ]
[ได้ครับ แผลเขาไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น ผมล่ะแปลกใจจริงๆที่มีคนทําให้เขาบาดเจ็บได้ ]
ใช่ แผลมันไม่ได้ใหญ่และมีแค่รอยเดียวก็จริงแต่เขาก็เสียเลือดไปมาก เวทรักษาไม่มีทางที่จะเติมเลือดได้
ลอว์เรนซ์ต้องรายงานน้อยกว่าความจริงเพื่อไม่ให้ผู้คนตกใจแน่
ถ้าเขายืนยันว่าตัวเองไม่เป็นอะไรทุกคนก็จะสบายใจ สิ่งที่เขาต้องทําคือรับมือกับมันให้ได้ขณะที่ถูกส่งไปในแนวหน้า
[และเพราะผู้ต้องสงสัยยังคงอยู่ในเขตขุนนางผมคาดว่าเราน่าจะได้รับการเตือนภัยระดับสูงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ระหว่างนั้นโปรดงดออกไปนอกปราสาทด้วยครับ]
[เข้าใจแล้ว แล้วประชุมกันแค่นี้หรอ ฟังดูไม่ค่อยวุ่นวายนะ]
[ที่ผมบอกว่า “วุ่นวาย” หมายถึงหลังจากนั้นครับ เหล่าขุนนางเริ่มทะเลาะกันว่าใครเป็นคนส่งมือสังหารมา ประมาณว่า “เคานต์คนนี้มีเพื่อนอยู่ที่ประเทศนั้น” “บารอนที่อยากให้ลูกชายของเขาอยู่ในอันดับต้นๆของสภาอัศวิน” “ ผมภักดีต่อพระองค์อย่างแท้จริง”]
ช่างเป็นฉากที่น่ารังเกียจที่ยังไงก็ต้องเกิดขึ้นสินะ พวกเขาเต็มใจที่จะว่าร้ายคนอื่นเพื่อให้ตัวเองเป็นที่โปรดปรานของพระราชา
คิเดียสทอเรียรู้สึกเวียนหัว ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางหาเด็กคนนั้นเจอแล้วจริงๆ ตอนแรกเธอคิดว่าเป้าหมายของเขาคือการทดสอบความสามารถ แต่เมื่อเห็นท่าทีของเขาแล้วเธอก็คิดว่าไม่น่าใช่แค่นั้น
ถ้าเขาแค่ต้องการทดสอบความสามารถเขาจะไม่ช่วยเธอที่เป็นคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิงอย่างแน่นอน ถ้าเขาอยากมีชื่อเสียงเขาจะต้องบอกซื้อให้เธอรู้และถ้าเขาต้องการเงินเขาก็จะต้องฉกเครื่องประดับของเธอไป
แรงจูงใจของเขาไม่ชัดเจน
[เอาล่ะทีนี้ เจ้าหญิงช่วยบอกเรื่องวิสเคานต์ซาราเซียด้วยครับ]
[ แต่ฉันก็รู้ไม่เยอะนะ หวังว่านายคงไม่ว่าอะไร]
จะได้เจอเขาอีกไหมนะ ความคิดนั้นซ่อนอยู่ในมุมหนึ่งของใจเธอเมื่อเธอเริ่มพูดถึงโรแลนด์เกี่ยวกับที่ครอบครัวของเขาถูกทําลายลง เขาควรจะถูกส่งไปที่ชนบทแล้วและเหมือนเขาจะอยู่ที่เมืองพอนด์ในช่วงที่เคานต์มอร์กแสตนถูกฆ่า
แค่นั้นแหละ เจ้าหน้าที่คนนั้นดูผิดหวัง เขาคิดว่าเขาไม่ได้รู้ข้อมูลทั้งหมดตามที่สัญญาไว้
[ไปทํางานกันเถอะ]
แล้วพวกเขาก็กลับไปทํากองเอกสารให้เสร็จ
ในห้องหนึ่งของโรงพยาบาลอัศวิน ลอว์เรนซ์กําลังขมวดคิ้ว เขาลุกจากเตียงและนั่งบนเก้าอี้พร้อมทั้งกอดอกไว้ใบหน้าของเขาซีดเผือด และริมฝีปากของเขาก็แตกเนื่องจากการขาดเลือด
[หัวหน้า]
ด้านหน้าของเขาคืออัศวินทั้งหมด 8 คน หนึ่งในนั้นคืออีสท์และผู้บัญชาการอีก 3 คน ซึ่งแต่ละคนก็ถูกฮิคารุทําให้กระดูกหักไป แต่ตอนนี้พวกเขาก็หายดีแล้ว ต้องขอบคุณเวทรักษา
[ผมก็แพ้เหมือนกัน เราไม่เข้ากับศัตรู]
[วิธีของเขามันน่าขายหน้า! เวลาที่ผมคิดถึงวิธีที่เขาทําลายชื่อเสียงของท่ายโดยการใช้กลวิธีเล็กๆน้อยๆแล้วผม]
[พวกโง่]
ทุกคนผงะไป
[แพ้ก็คือแพ้ ถ้าพวกนายมัวแต่เสียเวลาวิจารณ์การโจมตีแบบนี้ในสนามรบล่ะก็ ตายแน่]
[ครับท่าน]
เหล่าผู้บัญชาการคอตก การยอมรับความพ่ายแพ้ของกัปตันส่งผลต่อพวกเขkเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามลอว์เรนซ์นั้นเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ผู้ใช้เวทรักษาและหมอบอกว่าเขาอยู่ในภาวะวิกฤตจากการเสียเลือดมากเกินไปก็จริง แต่เขาก็ยังสามารถลุกและเคลื่อนไหวได้หลังจากที่พักผ่อนมาแล้วทั้งคืน
เนื่องจากร่างกายของเขากําลังยุ่งอยู่กับการผลิตเลือดเขาหิวมากสะจนกินอาหารหมดไปถึงสิบจาน
ไม่สิ ราวกับว่าร่างกายของเขาต้องการมีชีวิตอยู่ มันไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองตายและปล่อยให้คะแนนระหว่างเขากับเด็กคนนั้นคลุมเครือได้
อ๊ะ จริงสิ เมื่อคืนนี้เจ้าหญิงก็อยู่ที่นั่นด้วยแต่จนตอนนี้เธอก็ยังไม่ติดต่อมาฉันมาเลย บางทีเจ้าหญิงคงอยากให้เงียบไว้สินะ
[เราต้องไตร่ตรองถึงความล้มเหลวของเรา ผู้บุกรุกคนนั้น ไม่ใช่ ตอนนี้เขาเป็นมากกว่านั้นแล้ว เขาสันทัดในการหลบหลีกจากสัมผัสของเรา เราต้องใช้อะไรบางอย่างเพื่อตรวจหาเขาให้ได้ มีใครคิดออกบ้างว่าต้องใช้อะไร]
อีสท์ยกมือขึ้น
[เราต้องแน่ใจว่าเสื้อเกราะของเราสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาครับ]
[ใช่ ประมาณนั้นแหละ ดัดแปลงชุดเกราะให้สวมใส่ได้ทันที หรือพัฒนาโล่แบบพับได้ที่สามารถใช้งานจากมือได้ การโจมตีของผู้ชายคนนั้นอ่อนแอ บางทีอาจเป็นเพราะเขาเชี่ยวชาญในการซ่อนเร้น]
เหล่าผู้บัญชาการต่างพยักหน้าเห็นด้วย
[ผู้ชายคนนั้นเตือนฉันให้พร้อมรบตลอดเวลา]
ลอว์เรนซ์เซเล็กน้อยขณะที่เขายืนขึ้น หนึ่งในพวกเขาพยายามช่วยกัปตันแต่เขาก็ห้ามไว้
[ซึ่งมันก็หมายความว่าฉันยังขาดการฝึกฝนอยู่ คนที่ต่อสู้กับเขาและแพ้ พวกนายมีหน้าที่แจ้งให้ผู้อื่นทราบถึงการคุกคามของเขา อีสท์]
[ครับ!]
[ฉันวางแผนที่จะให้นายถูกประหารชีวิตเพียงเพราะแพ้ผู้ชายคนนั้น ขอโทษด้วยนะที่ฉันคิดน้อยไป]
[ท่านไม่จําเป็นต้องขอโทษหรอกครับ] อีสท์พูดกัดฟัน เสียงของเขาสั่นเทา
น้ําตาไหลอาบใบหน้าของเขาบางที่อาจมาจากความขมขื่นของการพ่ายแพ้ต่อผู้ที่ทําร้ายพวกเขา บางทีอาจจะเป็นน้ําตาที่ไหลด้วยความโล่งใจที่รอดตายหรืออาจจะอิจฉาที่มีใครบางคนสามารถเอาชนะผู้ชายที่เขานับถือได้
หรือมันอาจจะเป็นเพราะทั้งหมดนั้นเลยก็ได้
ลอว์เรนซ์เห็นน้ําตาของเขาและพยักหน้า
[ฟังนะ ครั้งต่อไปที่เราเจอเขา พวกเราจะทําให้เขาต้องเสียใจที่เคยต่อต้านเรา จนกว่าจะถึงตอนนั้นเราต้องเติบโตและพัฒนาตัวเองให้มากยิ่งขึ้น]
[ครับ!]
[ไปที่สมรภูมิของเรา]
[ครับ]
ถึงแม้ลอว์เรนซ์จะอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนักแต่เขาก็มุ่งหน้าไปยังแนวหน้าของสนามรบ
[อัก… ปวดไปทั้งตัวเลย]
[เป็นอะไรไหม]
[ไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่ต้องคิดว่ามันเป็นอาการปวดกล้ามเนื้อที่แย่มากๆเท่านั้น]
ฮิคารุกําลังเดินไปรอบๆเมืองหลวงพร้อมกับลาเวีย ที่นี่มีขนาดใหญ่มากสะจนถ้าหากพวกเขาไม่ใส่ใจดีๆ พวกเขาจะต้องหลงทางอย่างแน่นอน ช่างตีเหล็กรวมตัวกันอยู่ในที่เดียว และร้านเสื้อผ้าเองก็เช่นกัน ร้านค้าที่เชี่ยวชาญในสินค้าชนิดเดียวแบบเจาะจงลงไปนั้นกระจายอยู่ทั่วไปดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอก จากต้องเดินไปทั่ว
ร่างกายของฮิคารุปวดร้าวจากการต่อสู้กับลอว์เรนซ์ พลังเต็มที่ของสกิลระเบิดพลังระดับ 2 ของเขานั้นมันมากเกินไป เขาจะต้องเพิ่มคะแนนให้กับความแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่น ความสมดุลหรือแรงกายเพื่อให้ร่างกายของเขาตามทันและสามารถรับได้
บางทีฉันอาจจะต้องออกกําลังกายจริงๆแทนที่จะพึ่งบอร์ดวิญญาณ
มันไม่มีอันตรายอะไรจากการออกกําลังกายหรอกแต่เขาก็ไม่ได้วางแผนว่าจะถูกเชือด ออกกําลังกายนิดๆหน่อยๆก็พอแล้วมั้ง
ฮิคารุอาจจะกําลังเจ็บปวดแต่เมื่อคืนนี้เขาก็ได้เรียนรู้มาเยอะ แน่ล่ะว่าเขาอาจจะตายได้แต่ประสบการณ์นั้นมันก็คุ้มค่า มันเป็นการต่อสู้ระดับเชียวล่ะ ต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งที่สุดและการหลบซ่อนของเขาก็ได้ผลกับผู้ชายคนนั้น
[ขอบคุณที่รอครับท่านนักผจญภัย รับแล้วเซ็นตรงนี้เลยใช่ไหมครับ]
ทันทีที่ฮิคารุได้ลายเซ็นจากการส่งของพวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่กิลด์ เพื่อประมวนผลเลื่อนขั้น เขาเพิ่งทําภารกิจตามจํานวนที่กําหนดให้สําเร็จ
[ยินดีด้วยค่ะ ตอนนี้คุณอยู่แรงค์ F แล้ว]
พนกงานต้อนรับคนนี้เป็นพนักงานคนละคนกับเมื่อวันก่อน
การ์ดกิลด์นักผจญภัย
> ชื่อ < ฮิคารุ
> ลงทะเบียน <กิลด์นักผจญภัยเมืองพอนด์ อาณาจักรพอนโซเนีย
> แรงค์ < F
อาชีพ…
ฮิคารุปล่อยให้บรรทัดอาชีพว่างเปล่า เขาต้องถูกกระหน่ําด้วยคํา ถามมากมายแน่ถ้าเขาตั้งเป็นพลเมืองและถ้าหากตั้งเป็นหลบซ่อน พระเจ้านั้นก็จะบ้าบอไม่แพ้กัน
[ผมสามารถเลื่อนไประดับ E ได้โดยแค่รวบรวมวัตถุดิบ ก็พอใช่ไหมครับ ]
[ใช่แล้วค่ะ แต่มันใช้เวลาสักหน่อยนะนอกจากว่าคุณจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ยากๆได้ การรวบรวมวัตถุดิบน่ะไม่ง่ายหรอกนะ]
[อย่างนั้นหรอ]
[คุณดูมั่นใจดีนะ ตอนที่คุณได้วัตถุดิบหายากมาก็มาหาฉันแล้วกันนะ!]
พวกเขาได้อะไรจากการซื้อวัตถุดิบรึเปล่านะ โบนัสหรอ กิลด์ร้างมากถึงขนาดที่พนักงานต้อนรับมาเสียเวลาคุยกับเขาได้ นักผจญภัยน่าจะได้รับคัดเลือกให้ไปเข้าร่วมสงครามล่ะนะ
[ก็อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ ผมเป็นนักผจญภัยจากเมืองพอนด์ ]
[มันไม่มีข้อเสียเปรียบอะไรหรอกถ้าคุณจะเปลี่ยนฐานปฏิบัติการ คุณสามารถโอนย้ายฐานได้ที่เมืองหลวงนี้เลย รอบๆนี้ไม่มีมอนสเตอร์หรอ แต่มีภารกิจคุ้มกันมากมายเลยล่ะและเนื่องจากคุณอยู่ระดับ F จึงสามารถเลือกได้อยู่สองสามอย่าง แถมรางวัลก็ดีด้วยนะ และนอกจากนี้ในเมืองหลวงนี้ยังมีที่ให้คุณใช้จ่ายเงินได้เยอะแยะเลยแหละ!]
[ผมรู้สึกเป็นหนี้ที่นั่นอยู่นะ ]
[ เข้าใจล่ะ น่าเสียดายนะ ดูเหมือนคนอื่นๆจะแห่กันไปที่เมืองพอนด์กันเยอะเนอะ เมืองนั้นมันดียังไงกัน เอ้อ ฉันไม่ได้จะล้อเลียนอะไรหรอกนะ]
[คนอื่นๆหรอ คุณหมายถึงนักผจญภัยเหมือนผมนะหรอ]
[ใช่แล้วล่ะ พวกนักผจญภัยระดับ B ที่สังกัดสาขาเมืองหลวงกําลังมุ่งหน้าไปที่นั่นกันนะ]
[อ่อ…]
ฮิคารุรู้สึกสนใจทันทีหลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับระดับของพวกเขา
[ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่าพวกเขาเป็นคนยังไงกัน]
[แน่นอนสิ พวกเขาน่ะเป็นกลุ่มปาร์ตี้ของผู้หญิง 4 คนที่มีอัตราความสําเร็จสูงถึง 100% เชียวล่ะ!]
พนักงานต้อนรับบอกชื่อของพวกเธอ
ดาวสี่ดวงแห่งทิศตะวันออก
[หืม…]
ไม่นานนักฮิคารุก็นึกขึ้นได้ว่าพวกเธอคือกลุ่มคนที่ควรจะต้องไปคุ้มกันลาเวียมาที่เมืองหลวงนี่เอง
MANGA DISCUSSION