บทที่ 24 : เหตุผลที่ใจเต้น
คนเถื่อนแห่งพงไพรสูง 3 เมตรเดินเข้ามา พวกมันคล้ายกับมนุษย์เว้นแต่ว่ามี 4 แขน ตาเดียว มีผิวสีแกมเขียวอื่นๆและไม่ใส่เสื้อผ้า
นอกจากนี้พวกมันถูกเรียกว่า “ยักษ์เขียว” ไม่ก็ “ผู้พิทักษ์ปา” อีกด้วย – ตั้งชื่อไม่สร้างสรรค์เอาสะเลย
แต่พวกมันก็น่ากลัวเพราะแค่มองดูก็รู้แล้วว่าพวกมันแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มากแถมยังมี 4 แขนอีก การที่จะล้มตัวหนึ่งลงได้ปกติแล้วต้องใช้คน 2 คนพร้อมกับโลในการตรึงมันไว้ด้วย นี่คือสิ่งที่หนังสือในห้องอ้างอิงบอกไว้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มปาร์ตี้ของพอลล่ามีพิเออยู่ในแนวหน้า เธอมีดาบยาวเป็นอาวุธ
การต่อสู้แบบตั้งรับไม่เหมาะกับคนเถื่อนแห่งพงไพรเท่าไหร่ พิเอกันกระบองของพวกมันด้วยดาบของเธอ แขนอีกข้างของมันเหวี่ยงกระแทกเข้าที่ท้องของเธออย่างจังส่ง ผลให้เธอลอยปลิวไป
“พิเอ!!”
“พอลล่า ไปรักษาเธอสิ” พริสซิลลาร้องตะโกน
“ฉะ ฉันรู้น่า”
พอลล่าวิ่งไปหาพิเอและเริ่มร่ายเวทรักษา ในขณะเดียวกันพริสซิลลาก็ดึงดูดความสนใจของมันด้วยธนูและลูกธนูของเธอ อย่างไรก็ตามมอนสเตอร์ตัวนั้นแค่ชําเลืองมองพริสซิลลาก่อนที่จะบุกไปโจมตีพิเอเท่านั้น
พริสซิลลายิงธนูใส่หลังที่ไร้การป้องกันของมัน มันเป็นการโจมตีโดยตรง – อย่างน้อยก็เคยเป็นอย่างนั้นล่ะนะ – แต่ปลายแหลมของลูกธนูแทบจะทะลวงหนังของมันไม่ได้เลย ลูกธนูตกลงบนพื้นทันทีทันใด
คนเถื่อนแห่งพงไพรมีผิวหนังที่หนาดังนั้นจึงมีเพียงการยิงที่ทรงพลังหรือใบมีดที่คมมากๆเท่านั้นถึงจะทําร้ายมันได้
“พิเอ พอลล่า วิ่ง!!”
เสียงเตือนของพริสซิลลามาช้าไป พอลล่ากําลังนั่งหันหลังพร้อมร่ายเวทในการรักษาอยู่และพิเอก็บาดเจ็บเกินกว่าที่จะเคลื่อนย้ายได้ คนเถื่อนแห่งพงไพรอยู่ด้านหลังพวกเขาพร้อมควงกระบองแล้ว
“หนีไป พอลล่า” พิเอพูดทั้งน้ําตา
ถ้าพอลล่าหนีไปไม่ได้พวกเธอทั้งสองคนก็จะตายไปพร้อมกัน พอลล่าก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกันแต่เธอก็ยัง ไม่หยุดร่ายเวท – เธอไม่หยุดที่จะวิงวอนต่อเทพเจ้า เพื่อปาฏิหาริย์
“เธอเคยบอกไว้ว่าจะปกป้องฉันและฉันก็จะปกป้องเธอเช่นกัน” ใบหน้าของพอลล่าบ่งบอกเช่นนี้ เธอยังยิ้มอยู่นิดหน่อยด้วยอีกด้วย
“ไม่… ไม่ได้นะ… เธอไปเถอะพอลล่า! พิเอขอร้อ”
พอลล่าส่ายหัวเบาๆ กระบองของมอนสเตอร์เหวี่ยงลงมา
แต่ลมก็ไม่เคยพัดมา แขนของมันค่อยๆ ห้อยลงรวมทั้งตัวของมันเองก็ค่อยๆล้มลงด้วย
“ดะ ดะ ได้ไง ?”
ในขณะที่พิเอรู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเวทมนตร์แห่งการรักษาก็เริ่มทํางาน เวทมนตร์นี้ – เวทมนตร์ที่นํามาซึ่ง ปาฏิหาริย์ในร่างกายคนอื่น – เธอต้องสวดอ้อนวอนต่อ เหล่าเทพเจ้าคาถานั้นยาวเหยียดเหมือนกับการสวดมนต์ในพิธีกรรมบางอย่างในวิหาร จุดอ่อนของเวทมนตร์แห่งการรักษาคือผู้ใช้จะมีความเสี่ยงในขณะที่ท่องคาถาอยู่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพมาก
พิเอรู้สึกว่าซีโครงที่แหลกของเธอกําลังเชื่อมต่อกันอยู่ ในขณะที่เวทแห่งการรักษานั้นเป็นเวทที่ทรงพลังมาก ส่วนหนึ่งนั้นมันก็เป็นเพราะความสามารถที่สูงพิตัวของพอลล่า เองด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาห่วงเรื่องการบาดเจ็บของเธอ อยู่ๆคนเถื่อนแห่งพงไพรมันล้มลงไปอย่างนั้นได้ยังไงนะ
พวกเธออยู่ใกล้กับประตูแห่งความตายถึงสองครั้งแล้วในเวลาเพียงไม่กี่วันมานี้ มีพรแห่งความตายกันหรือยังไง
เด็กชายที่มีผมสีดําและดวงตาสีเดียวกันยืนอยู่ตรงนั้น ฮิคารุ
เรามาย้อนเวลากลับไปกันสักหน่อย
ทันทีที่ฮิคารุเห็นคนเถื่อนแห่งพงไพรเขาก็ทิ้งกระสอบที่ใส่กระต่ายไว้กับลาเวียแล้วเริ่มวิ่งออกไป ฮิคารุจะใช้สกิลซ่อนกลุ่มแล้วไปด้วยกันก็ได้ แต่การที่จะฆ่าคนเถื่อนแห่งพงไพรให้ได้ภายในครั้งเดียวนั้น ฮิคารุจะต้องกระโดดและมันคงจะเร็วกว่าถ้าเขาไปคนเดียว
เขาโจมตีไปที่ประสาทไขสันหลังเพียงหนึ่งครั้งแล้วสิ่งมีชีวิตนั้นก็ตายไป ฮิคารุรู้สึกได้ว่าระดับวิญญาณของเขากําลังเพิ่มขึ้น
“คุณฮิคารุ…!”
พอลล่าเหนื่อยจากการใช้เวทรักษาแต่เธอก็ยังพยายามที่จะทําตัวร่าเริง เธอพยายามที่จะลุกขึ้นยืนแล้วจึงล้มลงไปอีกครั้ง
“พอลล่า! อย่าฝืนตัวเองเกินไปหน่อยเลย”
“พิเอเธอนั่นแหละที่เป็นคนฝืนตัวเองเกินอักโทษที่”
พริสซิลล่ารีบวิ่งเข้าไปหาพวกเธอแล้วพยุงพอลล่าขึ้น ในขณะเดียวกันลาเวียก็พึ่งมาถึงพร้อมทั้งหอบหายใจอย่างแรงเพราะเธอต้องลากกระสอบที่หนักๆนี่มาด้วย
“อา โทษทีนะที่ทําให้เธอต้องลากมันมาถึงที่นี่”
“ฮิคารุ นี่เพื่อน ๆ เธอหรอ”
“เอ่อ เหมือนเป็นคนรู้จักมากกว่านะ”
“หืมม.”
ลาเวียเหลือบดูที่หน้าอกของพริสซิลล่าพร้อมทั้งหรี่ตาลง แต่ฮิคารุก็ไม่ทันได้สังเกตเห็น
พิเอ พอลล่า ยืนไหวรึเปล่า พวกเธอกลับพอนด์ได้ไหม
“ดะ ได้ เราทําได้ ขอโทษด้วยนะ นายช่วยชีวิตพวกเรา ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่มากถึงสองครั้งแล้ว”
“พวกเธอผลีผลามเกินไปทําไมถึงไปเผชิญหน้ากับคน เถื่อน – “
ฮิคารุชะงักกลางคัน คนเถื่อนแห่งพงไพรอยู่ใกล้เมืองขนาดนี้เลยหรอ แปลกจริงๆ ซึ่งเหล่าสาวๆเองก็คิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกเช่นเดียวกัน
“เราแค่ออกมาเก็บวัตถุดิบและก็ล่ามอนสเตอร์ตัวเล็กๆ เพื่อหาเงินเองนะ ไม่ได้คิดว่าจะได้มาเจอยักษ์เขียวสันโดษที่นี่สะหน่อย”
“สันโดษ? มันไม่มีคู่หูหรอ”
“งั้นพวกเธอก็ไม่ได้ฆ่าไปตัวหนึ่งแล้วหรอ หึมม”
ฮิคารุค่ําคางพร้อมกับขบคิด
“…อา”
แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขาได้ฆ่าคนเถื่อนแห่งพงไพรไปแล้วตัวหนึ่งข้างๆทะเลสาบ แต่ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้คิดอะไรแต่ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันอาจจะเป็นคู่หูของตัวนี้ก็ได้
ปานี้มันใหญ่มาก – จริงๆแล้วมันมีขนาดใหญ่จนเชื่อมกับป่าที่อยู่ใกล้ๆกับทะเลสาบเลยล่ะ คนเถื่อนแห่งพงไพรคงคิดว่ามนุษย์ฆ่าคู่ของมัน มันเลยมาถึงที่นี่เพื่อแก้แค้น
“งั้นพวกเธอก็โดนมันโจมตีเพราะฉันน่ะสิ!”
เหงื่อเย็นๆไหลผ่านหลังของเขาไป
“เป็นอะไรไปหรอ!” ลาเวียถาม
“มะ ไม่มีอะไร”
ฮิคารุพยายามทําให้ดูใจเย็นที่สุด แน่นอนว่าเขาอาจจะแค่คิดมากไปเองแต่ความรู้สึกผิดนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน
คุณฮิคารุ คุณเอาวัตถุดิบทุกอย่างจากมอนสเตอร์นี้ไปได้เลยนะคะ คุณควรเป็นคนเอาไปอยู่แล้วเพราะคุณเป็นคนที่ฆ่ามันได้
“มะ ไม่ ฉันเอาไปไม่ได้หรอก พวกเธอต่างหากที่เป็นคนสู้กับมัน”
“แต่คุณเป็นคนที่ฆ่ามันได้นะ”
“อาจจะใช่ แต่ฉันเอาไปไม่ได้! แค่นั้นแหละ”
“เป็นอะไรไปคะ คุณดูประหม่านะ”
“ฉันไม่ได้ประหม่า”
ขณะที่เขาคิดว่าจะปฏิเสธพอลล่ายังไงดีอยู่นั้นเขาก็มองไปที่กระสอบที่ลาเวียกําลังถืออยู่ – เหมือนลากอยู่ มากกว่า
“เราล่าได้แล้วนะและเราก็เอาอะไรไปด้วยอีกไม่ได้ แถ มมันยังได้รับการบาดเจ็บตั้งเยอะคงได้เงินไม่เยอะหรอกแล้ว การจ่ายเงินให้คนเอามันกลับไปก็ไม่คุ้มด้วย”
“ก็ได้ งั้นเราจะแสดงความขอบคุณได้ยังไงล่ะ”
“ไม่เป็นไร! พวกเธอไม่ต้องทําอะไรทั้งนั้น! เอาล่ะ กลับกันเถอะ ถ้าพวกเธออยากจะเอาวัตถุดิบไปก็อย่าบอกชื่อฉันก็พอ ดูเหมือนฉันจะชอบดึงดูดปัญหาน่ะ”
ในตอนแรกดูเหมือนว่าสาวๆ จะไม่เห็นด้วยแต่หลังจากที่ ฮิคารุพูดจบพวกเขาก็ยอมแพ้ ผิวหนังของคนเถื่อนแห่งพงไพรสามารถเก็บเป็นวัตถุดิบได้เพราะผิวที่หนาและเรียบเนียนจะทําให้ย้อมสีได้ง่ายขึ้นและราคามาตรฐานสําหรับผิวหนังของคนเถื่อนแห่งพงไพรตัวหนึ่งคือ 50,000 กิแลน แต่ ”มาตรฐาน” ในกรณีนี้ถือเป็นคําหลอกลวงเพราะราคามาตรฐานนี้อ้างอิงถึงเพดานราคาสําหรับผิวที่สะอาดสะอ้านเท่านั้น และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาสําหรับมอนสเตอร์ที่ต่อสู้ แล้วจะได้รับบาดเจ็บบวกกับการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะยืดเยื้อของเหล่าเด็กสาวกับคนเถื่อนแห่งพงไพรตัวนี้ แล้วบางทีพวกเขาอาจจะได้รับเงินเพียง 10,000 กิแลนเท่านั้น
พริสซิลลาผู้ที่ดูเหมือนจะปกติดีจึงเริ่มลอกผิวจากด้านหลังของมัน
“..คุณฮิคารุ”
“หืมม?”
“นั่นใครหรอคะ”
“อ้อใช่ นี่เห็นคลอว์ คู่หู ของฉัน”
ฮิคารุแนะนําลาเวียในฐานะเร็นคลอว์ให้สาวๆรู้จัก เธอรู้สึกอายเล็กน้อยที่ถูกเรียกว่าเป็นคู่หูของเขา ลาเวียจึงลดหมวกลงมาคลุมที่ตา
“คะ คู่หู คู่หูที่เป็นเด็กชายผู้น่ารัก?!!”
พอลล่าตื่นเต้นแบบแปลกๆ
เมืองอยู่แค่ใกล้ๆ ดังนั้นฮิคารุและลาเวียจึงมุ่งหน้า ไปก่อน
พระอาทิตย์เกือบจะตกดินแล้วในตอนที่พริสซิลลาลอกหนังเสร็จ
“เร็วๆกันหน่อยเถอะ พิเอ วิ่งไหวไหม”
“ได้ ไม่มีปัญหา พริสซิลลาล่ะ”
“เป็นอะไรหรอ ทําไมเธอดูเหม่อๆ”
“ฉันไม่ได้เหม่อ”
พริสซิลลาจ้องไปที่ศพของคนเถื่อนแห่งพงไพร ที่ท้ายทอยของมันมีบาดแผลจากการที่ฮิคารุแทงมันอยู่
“อะไรหรอ มีอะไรผิดปกติรึเปล่า?”
“ไม่มีอะไร กลับกันเถอะ”
“ถ้าเธอว่าอย่างนั้นก็ได้”
พวกเธอทั้งสามคนจึงรีบกลับไปที่เมือง
ทันทีที่พวกเขากลับไปในเมืองฮิคารุและลาเวียก็มุ่งหน้า ไปที่กิลด์ผจญภัย
“ฮิคารุ”
“ว่ายังไง”
“เด็กสาวที่ชื่อพอลล่านั่นใครหรอ”
“หืมม…. นักผจญภัยมือใหม่ที่ใช้เวทย์มนตร์รักษาล่ะมั้ง”
“แค่นั้นหรอ นายรู้จักกับเธอใช่ไหม”
“ใช่แล้วล่ะ มีอะไรกวนใจเธอรึเปล่า”
“เดี๋ยวนะ ตัวตนของลาเวียถูกเปิดโปงแล้วหรอ” ฮิคารุสงสัย และชะงักไปชั่วขณะ
“ฮิคารุ!”
“หะ หะ?”
“…ฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่าง”
“อะไรหรอ?”
“ฉันมั่นใจว่าเธอชอบนาย”
“..อะไรนะ”
“ฉันแค่รู้นะ สัญชาตญาณของผู้หญิงมักถูกเสมอนะ”
ฮิคารุนั่งลงบนพื้นอย่างเหนื่อยล้า”เธอทําให้ฉันกังวลเพื่อ อะไรเนี่ย”
“ฉันคิดว่าเธอเป็นคนดีนะ แต่ก็แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น”
“จริงหรอ..?”
“ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลหรอก เธอเป็นแค่คนเดียวที่ฉันมอง”
ใบหน้าของลาเวียเปลี่ยนเป็นสีแดงบีทรูท
“อา… ไม่ยุติธรรมเลย”
“แล้วเธอกังวลเรื่องอะไรกัน ฉันเล่นหูเล่นตาใส่พอลล่าหรอ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”
“เปล่าๆ ฉันแน่ใจว่านายต้องเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆแน่ๆ เพราะนายเท่จะตาย”
“เปล่านะ ไม่เลย”
“ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นพวกเขาเรียกฉันว่า อวดดี ไอ้ ฉลาดจอมอวดดี พวกเขาบอกว่าฉันมีมุมมองเชิงปรัชญาในชีวิตและก็อวดดีแต่ไม่เคยบอกว่า “เท่” เลย”
“โอ้ เดี๋ยวก่อน จริงๆแล้วมีครั้งหนึ่งที่รุ่นพี่ฮาซุกิพูดว่า “นายนี่เท่ดีนะฮิคารุคุง” แต่เหมือนเธอล้อเลียนฉันมากกว่า”
“ฉันบอกเธอว่าเราเป็นคนรู้จักกันก็จริง แต่จริงๆแล้วฉันเคยช่วยชีวิตพวกเธอไว้ครั้งหนึ่งนะ มันก็เป็นไปได้นะที่พอลล่าจะยกย่องฉัน”
โดยทั่วไปแล้วสิ่งที่เธอรู้สึกก็คล้ายๆกับผลกระทบจากสะพานแขวน ซึ่งบางคนเข้าใจผิดว่าอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นจากความกลัวนั้นคือความรัก
“อืม ถ้าอย่างนั้นฉันคิดว่าคงไม่เป็นไรมั้ง”
“ฉันดีใจนะที่เธอเข้าใจ เอาล่ะไปที่กิลด์กันเถอะ มานี่สิ”
“เราจะจับมือกันหรอ ฉันนึกว่าเราจะไม่ล่องหนที่นอกเมืองสะอีก”
“ฉันแค่อยากจับมือเธอน่ะ”
“..ชิ! นั่นแหละ ไม่ยุติธรรมจริง ๆ …”
ลาเวียที่อ่อนโยนและเปราะบางจากความอับอายนั้นกําลังจับมือฮิคารุอยู่
“แต่มันไม่แปลกหรอที่ผู้ชายสองคนจะจับมือกันนะ”
“เธอพูดถูกแต่แถวนี้ก็มีคนไม่เยอะนี่ ฉันว่าเราซ่อนตัวได้นะ”
ในท้ายที่สุดฮิคารุก็ใช้สกิลซ่อนกลุ่ม ลาเวียขยับเข้าใกล้ฮิคารุจนไหล่ของพวกเขาแตะกันทําให้ลาเวียหัวเราะคิกคัก
“.เธอนั่นแหละที่ไม่ยุติธรรมเลย” ฮิคารุพูด
“หืมม? นายพูดอะไรรึเปล่า”
“เปล่า…”
เมื่อพวกเขามาถึงก็เป็นเวลาปิดของกิลด์แล้ว นักผจญภัยส่วนใหญ่ก็กลับไปแล้วเหลือเพียงกลอเรียอยู่ที่เคาน์เตอร์คนเดียวเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าออโรร่าเข้ากะตั้งแต่เช้าตรู่ถึงเที่ยง จิลเข้าตั้งแต่เช้าจนเลยเที่ยงมาหน่อยและกลอเรียตั้งแต่เที่ยงจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน กลอเรียสามารถไล่เหล่านักผจญภัยออกไปได้อย่างรวดเร็วดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลที่จะให้เธอเป็นคนรับผิดชอบการปิดกิลด์
“นี่คือกิลด์ผจญภัยสินะ…”
เหลือนักผจญภัยอยู่ไม่เยอะแล้ว ฮิคารุจึงพาลาเวียเข้ามา ดูข้างในเธอมองไปรอบๆ อย่างกระสับกระส่าย เสื้อผ้าของลาเวียก็ไม่เชิงว่าราคาถูกดังนั้นพวกเขาจึงค่อนข้างดูแปลกแยก
“อ้ะ นั่นฮิคารุซังไม่ใช่หรอ
“อันเคนซังอยู่แถวนี้รึเปล่า”
“อยู่ๆ แต่ฉันคิดว่าวันนี้เขาน่าจะมาเจอนายไม่ได้ นะหรือว่าจะเกี่ยวกับกระต่ายเขาแดงหรอ”
ดีจังที่เธอเข้าใจอะไรได้รวดเร็วแบบนี้ ฮิคารุคิดในใจ
“พรุ่งนี้ถึงจะทําการประเมินได้สินะ ฉันจะแต่งเนื้อแล้ว ส่งให้พรุ่งนี้แล้วกัน ไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ดีเลย ขอโทษด้วยนะอันเคนซึ่งเป็นคนที่ต้องการประเมินด้วยตัวเองแท้ๆ แล้วนายยังต้องมาประนีประนอมอีก”
“ไม่เป็นไร ฉันจะได้ฝึกชําแหละด้วยแต่ฉันก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกนะเนื้อมันอาจจะออกมาไม่ดีหน่อย อ่อ ฉันจะเอาเครื่องในนะ”
“ได้สิ กิลด์ไม่ซื้อของพวกนั้นอยู่แล้วแต่นายจะเอาไปทําอะไรหรอ”
“ผู้จัดการที่ร้านพาสต้าเวทมนตร์อยากได้นะ”
“..เข้าใจล่ะ”
ดวงตาของกลอเรียเปล่งประกายชั่วครู่แต่ฮิคารุไม่ ทันสังเกตเห็น
“ถ้าเธอไม่ว่าอะไรฉันขอใช้บริเวณพื้นที่ชําแหละทางด้านหลังนะ”
“ได้สิ อา”
“หืมม?”
นายจะเอาเพื่อนไปด้วยหรอ
“ใช่แล้ว มานี่สิเร็นคลอว์”
ลาเวียรีบไปหาฮิคารุและผงกหัวให้กลอเรีย ด้วยรอยยิ้มอันสดใสของพนักงานต้อนรับทําให้กลอเรียดูราวกับเป็นนักบุญแต่ฮิคารุรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ เขาไม่หลงเชื่อรอยยิ้มนั่นหรอก
“อยากเป็นนักผจญภัยรึเปล่า เร็นคลอว์ซัง”
“อา อยากสิ”
“ฉันอยากจะสมัครไหมล่ะ” เธอถามอย่างร่าเริงราวกับว่ากําลังชวนใครสักคนไปดื่มชา
ดวงตาของลาเวียเปล่งประกายจากข้อเสนอของกลอเรีย แต่ฮิคารุก็เข้ามาขัดจังหวะ
“โอ้ว โอ้ อย่าตัดสินใจโดยที่ไม่มีฉันสิ นายบอกว่าพ่อแม่ยังไม่อนุญาตให้สมัครเข้ากิลด์ไม่ใช่หรอ”
“อา จริงด้วยสิ” ลาเวียพูด
“งั้นหรอแต่กิลด์ผจญภัยเป็นองค์กรที่ถูกต้องเหมาะสมและถูกกฎหมายนะ”
“แน่นอน ตัวองค์กรน่ะถูกต้องเหมาะสมดีแล้ว”
“เหมือนนายจะพูดอะไรเป็นนัยๆนะ ฮิคารุซัง”
น่าเสียดายที่มีพนักงานต้อนรับคนหนึ่งส่งนักผจญภัยมือใหม่ไปทําธุระที่กิลด์โจรกรรมสะงั้น องค์กรอาจจะถูกต้องเหมาะสมดีแต่พนักงานนี่สิ ไม่ค่อยตรงไปตรงมาเท่าไหร่
“ให้ตายสิ มีพนักงานต้อนรับแบบนั้นด้วยหรอเนี่ย กลอเรียพูดพร้อมกับรอยยิ้ม”
เธอยิ้มอย่างนั้นได้ยังไงกัน ฮิคารุคิดในใจพร้อมยิ้มกลับไป
“ยังไงก็เถอะ เราจะไปพื้นที่ชําแหละแล้ว ไว้เจอกันใหม่”
“ได้เลย! ไว้คราวหน้าเรามาคุยกันดีๆยาวๆนะฮิคารุซัง)”
“ถ้าฉันว่างนะ”
ฮิคารุมาถึงพื้นที่ผ่าชําแหละกับลาเวียแล้ว และก็เหมือนทุกครั้ง ฮิคารุไม่รู้เลยว่ามีอะไรอยู่ในหัวผู้หญิงบ้าง ซึ่งนั่นก็ทําให้เขากลัว
“…ขอโทษนะฮิคารุ”
“อะไรหรอ”
“ฉันสมัครเข้ากิลด์ผจญภัยไม่ได้ด้วยซ้ํา”
ถ้าเธอสมัครที่นี่ชื่อของเธอก็จะโผล่ขึ้นมาแล้วทุกอย่างก็จะแย่ไปหมด
“เธอสมัครไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในอาณาจักรนี้”
“…อะไรนะ”
พวกเขาจะตามหาเธอแค่ในอาณาจักรใช่ไหมล่ะ หลังจากที่เราออกจากพอนโซเนียแล้วไม่น่าจะเป็นอะไรนะ เครือข่ายของกิลด์ผจญภัยนั้นกระจายไปไกลถึงชายแดนซึ่งก็หมายความว่าเธอสามารถสมัครที่อื่นได้
“งั้นเราจะไม่อยู่ในเมืองนี้ตลอดไปหรอ”
“ไม่อยู่แล้ว แค่จนกว่าเรื่องจะเงียบนะแล้วถ้า มันเงียบแล้วเราก็สามารถไปได้ทุกที่เลยล่ะ ร่าเริงไว้นะฮิคารุ”
ด้านหลังของกิลด์ ณ ที่ๆมืดมิดและไม่มีใครมองอยู่ ลาเวียได้ขยับเข้าใกล้ฮิคารุและจับแขนเขาไว้
“ขอบใจนะ” ลาเวียกระซิบที่หูของเขา
“ไม่มีปัญหา” ฮิคารุตอบห้วนๆด้วยความรู้สึกดีและอบอุ่นอยู่ข้างใน
หลังจากนั้นเขาก็ชําแหละกระต่ายเขาแดงเหมือนคนบ้า
MANGA DISCUSSION