The Soul Purchasing Pirate - บทที่ 366: การปะทะกันของสองสุดยอดนักดาบ!
S.P.P: บทที่ 366: การปะทะกันของสองสุดยอดนักดาบ!
ทันใดนั้นเองเหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลก็ได้จ้องมองมาที่มีฮอร์ค
การจ้องมองของเหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลนั้นแฝงมาด้วยแรงกดดัน แม้ว่าจะมีกองไฟตั้งอยู่ตรงกลางวงแต่คริกเกตกับรู้สึกหนาวสันและกดดัน
นี่เป็นครั้งแรกที่คริกเกตได้เห็นด้านนี้ของพวกเขา
เมื่อเห็นท่าทางของพวกเขามิฮอร์คก็ได้หัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่าๆๆๆ!”
ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้ยกยิ้มขึ้นมา
“วิชาดาบฉันเองก็พอจะมีอยู่บ้าง แต่ฉันไม่ค่อยจะถนัดมันเท่าไหร่หรอกนะ”
“แต่ว่ามันก็แตกต่างจากวิชาดาบในโลกนี้อยู่พอสมควร
ในตอนนั้นเองมิฮอร์คก็ได้เกิดความสงสัยขึ้นมา
“มันคืออะไร?”
“นายรู้แค่ว่ามันแตกต่างก็พอ”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ฉันชักอยากจะเห็นมันซะแล้วสิ!”
มิฮอร์คได้กล่าวออกมาด้วยท่าที่จริงจัง
นี่คือการต่อสู้! ในตอนนี้มีฮอร์คไม่สามารถปกปิดเจตนาสู้ของเขาได้อีกต่อไปแล้ว
สําหรับเขาการได้สู้กับผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับสูงของโลกอย่างโรแกนนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่มีเกียรติ!
“งั้นหรอ?”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“แต่บอกตามตรงนะฉันเองก็ไม่ได้ใช้ดาบมานานแล้ว ก็เลยไม่รู้ว่าวิชาดาบของฉัน มันจะยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า?”
คําพูดของโรแกนทําให้ดวงตาของมิฮอร์คปรากฏความผิดหวังขึ้นมา
มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่นักดาบคนหนึ่งจะเชี่ยวชาญในหลายๆด้าน ในอดีตโรแกนนั้นใช้เพียงแค่วิชาดาบแต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งมันไป
เขาอุสาคิดว่าบนโลกใบนี้ยังคงมีนักดาบที่สามารถต่อสู้กับเขาได้หลงเหลืออยู่ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องผิดหวัง
ถ้าตัดสินใจที่จะละทิ้งวิถีแห่งดาบแล้วคนๆนั้น ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของมันได้
เขาอยู่บนเส้นทางมาเป็นเวลานานจนเชื่อว่าไม่มีใครเหนือไปกว่าเขาแล้ว!
และที่เขาเชื่อแบบนั้นก็เพราะรากฐานที่มั่นคงของเขา!
“น่าเสียดายจริงๆ”
มิฮอร์คได้กล่าวออกมาด้วยความผิดหวัง
“แต่นายก็ยังลองทดสอบวิถีดาบของนายเองได้อยู่ไม่ใช่หรือไง!”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
วิถีดาบของหนึ่งในร่างอวตารหกวิถีของเขาอย่างออกัสสันเองก็ถือว่าไม่เลว
“ฮึ่ม?”
มิฮอร์คได้แสดงสีหน้าสงสัยออกมาอย่างชัดเจน
เวลาต่อมาเขาก็ได้เห็นโรแกนยื่นมือขวาออกมาก่อนที่จะปรากฏวังวนบางอย่างขึ้นมาบนความว่างเปล่า หลังจากนั้นก็ได้ปรากฏร่างของชายที่เย็นชาสวมเสื้อคลุมลายเมฆสีแดงขึ้นมา
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ใช่แค่มิฮอร์คเท่านั้นที่รู้สึกประหลาดใจ แม้แต่พรรคพวกของโรแกนเองก็ยังประหลาดใจ
โดยเฉพาะดาซที่พึ่งเข้ามาใหม่ เขานั้นไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิตการ ที่จู่ๆก็มีคนโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าแบบนี้มันเป็นเรื่องที่แปลกใหม่มากสําหรับเขา
“เขาคือวิถีนรกเป็นหนึ่งในร่างอวตารของฉัน”
ในขณะที่โรแกนกําลังพูดพวกเขาก็ได้จ้องมองไปที่ร่างของวิถีนรก
ที่ด้านหลังของเขานั้นมีดาบเล่มใหญ่แขวนอยู่ แถมมันยังมีขนาดความยาวมากกว่าสามเมตร มันจึงทําให้เขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
มองแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าวิถีนรกนั้นเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งเช่นกัน
“สวัสดีตาเหยี่ยว มิฮอร์ค,นายสามารถเรียกฉันว่าวิถีนรกหรือออกัสสันก็ได้”
วิถีนรกได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ออกัสสัน!”
มีฮอร์คได้กล่าวออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับรูม่านตาที่หดแคบลง
“ถ้านายต้องการฉันสามารถเป็นคู่มือให้นายได้นะ!”
ถ้าเทียบกับร่างอวตารตนอื่นๆแล้วดูเหมือนว่าวิถีนรกนั้นจะมีอารมณ์ที่ซับซ้อนกว่ามาก ในตอนนั้นเองเขาก็ได้เอื้อมมือขวาไปจับดาบที่อยู่ข้างหลังของเขา
“วมมม!”
ในตอนนั้นเองดาบของเขาก็ได้ส่งเสียงครามออกมาดังลั่น
ในเวลาเดียวกันนั้นเองแรงกดดันที่มองไม่เห็นก็ได้พวยพุ่งออกมา และเมื่อมีฮอร์คสัมผัสได้ถึง มันเขาก็ดูจะประหลาดใจมาก
“เป็นแรงกดดันที่แข็งแกร่งจริงๆ!”
เมื่อเห็นดังนั้นมฮอร์คก็ได้เอื้อมมือไปหยิบดาบดําที่อยู่ข้างหลังของเขาและฟาดฟันมันออกมา
เขาสามารถรู้ได้ในทันทีว่าออกัสสันนั่นคือนักดาบที่เชี่ยวชาญวิถีดาบอยู่ในระดับสูง
สิ่งนี้มันทําให้เขาประหลาดใจและสนใจ
แม้ว่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังไม่สามารถเข้าใจตัวตนของออกัสสันได้
“ฟื้วววว!”
สายลมได้พัดผ่านเข้ามาในป่าพร้อมกับฝูงนกที่บินหนีขึ้นไปบนท้องฟ้า
คลื่นดาบได้เปล่งประกายขึ้นมาตรงหน้าของออกัสสัน
คนแรกที่โจมตีกับเป็นนักดาบอันดับหนึ่งของโลก
“ฮ่าๆ ๆ!”
ในตอนนั้นออกัสสันก็ได้ยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับฟาดฟันดาบออกมา เพียงพริบตาเดียวมันก็ได้ปะทะเข้ากับดาบดําของมิฮอร์ค
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!?”
ในตอนที่ดาบทั้งสองปะทะกันมันก็ได้เกิดประกายไฟขึ้นมา
“บูมมม!”
เมื่อสายลมได้พัดผ่านเข้ามาเปลวไฟก็ได้ลุกพรึบขึ้นมา การปะทะกันของพวกเขาทั้งสองนั้นเป็นอะไรที่น่าหวาดกลัวจริงๆ
“สมแล้วที่เป็นถึงนักดาบอันดับหนึ่งของโลก!”
ออกัสสันได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ออกัสสัน,นายเองก็ทําให้ฉันรู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน!”
มีฮอร์คได้กล่าวออกมาด้วยท่าที่จริงจัง
ในตอนนั้นพวกเขาทั้งสองก็ได้ถอนดาบกลับมาและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
แม้ว่าจะปะทะกันแค่ครั้งเดียวแต่พวกเขาทั้งสองก็ได้ถูกดึงดูดด้วยความแข็งแกร่งของกันและกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เรามาต่อกันเลยดีกว่า มีฮอร์ค!”
ในตอนนั้นเองออกัสสันก็ได้ตะโกนออกมาเสียงดัง
“จัดให้ตามที่ขอ!”
มิฮอร์คก็ได้กล่าวตอบออกมาในทันที
หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้เดินตรงไปที่ชายฝั่ง ที่พวกเขาไปที่ชายฝั่ง ก็เพราะว่าตรงนี้มันมีคนอยู่เยอะเกินไป มันทําให้พวกเขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังอานาจที่แท้จริงออกมาได้ทั้งหมด
ในเวลาเดียวกันนั้นเองพวกโรแกนก็ได้จ้องมองไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“พวกคุณคิดว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ?”
โรบินได้กล่าวถามออกมาด้วยน้ําเสียงที่แผ่วเบา
“ฉันคิดว่ามิฮอร์คน่าจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะว่าเขาคือนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก”
“ส่วนออกัสสันนั้นเป็นใครฉันเองก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน”
“กัปตันบอกว่าเค้าคืออวตารของเขา”
เทรนซุ,ชาร์โปลอสและคนอื่นๆได้ถกเถียงกันด้วยความสนุกสนาน
ในขณะที่พวกเขากําลังถกเถียงกันอยู่ทั้งสองก็ได้เดินมาถึงที่ชายฝั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในตอนนั้นเองมิฮอร์คก็ได้ยกดาบดาของเขาขึ้นมาและชี้ไปที่ออกัสสัน
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ปลดปล่อยการโจมตีออกมา แต่มันก็สามารถทําให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวได้
ในเวลาเดียวกันนั้นเองบนใบหน้าของออกัสสันก็ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาพร้อมกับยกดาบขึ้นไปพาดไหล่ด้วยความผ่อนคลาย แต่ด้วยกล้ามเนื้อที่หนาแน่นของเขามันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงพลังอํานาจที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างกายของเขา
“ฟื้วววว!”
สายลมแรงได้พัดผ่านมาพร้อมกับแสงจันทร์ที่ตกกระทบลงไปบนผิวน้ําจนเห็นตัวปลา
ในตอนนั้นเองตรงบริเวณที่มฮอร์คเคยยืนอยู่ก็ได้ปรากฏลมหมุนขึ้นมาพร้อมกับร่างของเขาที่กระพริบหายไป
ในเวลาเดียวกันนั้นเองออกัสสันก็ได้ฟาดฟันดาบยักษ์ของเขาออกไปในทันที
เป็นนักดาบอันดับหนึ่งของโลกที่เปิดฉากโจมตีก่อน!
การลงมือของเขานั้นรวดเร็วและรุนแรงราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง!