The Soul Purchasing Pirate - บทที่ 83 ดาบศักดิ์สิทธิ์ – ดาบฟ้าคราม
ตอนที่ 83 ดาบศักดิ์สิทธิ์ – ดาบฟ้าคราม
“จางเหอคนนี้ข้าได้ยินมาว่าเขากินเม็ดยาหวนคืนพลังปราณเข้าไป ไม่ใช่แค่จิตวิญญาณยุทธของเขาจะฟื้นคืนแต่พลังของมันก็แกร่งขึ้นด้วย”
“ข้าสงสัยว่าเขาจะล้มเซียวเฉินลงได้ไหมในครั้งนี้? การจับคู่ของพวกเขาในครั้งก่อนสมน้ำสมเนื้อกันมาก”
“หากจิตวิญญาณยุทธของจางเหอถูกทำลายอีกครั้ง ข้าสงสัยว่ามันจะฟื้นคืนกลับมาได้อีกหรือไม่?”
“พวกเจ้าไม่เข้าใจ หลังจากที่จิตวิญญาณยุทธฟื้นคืนกลับมาพลังอำนาจของมันจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า พอคิดว่าตระกูลจางสามารถหาเม็ดยาหวนคืนพลังปราณมาใช่ได้ ข้าสงสัยจริงว่าพวกเขาได้มันมาอย่างไหร?”
ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มสู้กันเสียงพูดคุยจากฝูงชนก็ลอยมาให้ได้ยิน ผู้ตัดสินเดินขึ้นมาและกล่าวกับทั้งสอง “คำนับ”
เซียวเฉินละจางเหอคำนับซึ่งกันและกัน “การประลอง เริ่ม!”
“จิ!”
สิ้นเสียงของผู้ตัดสินจางเหอก็ใช้ทักษะเคลื่อนที่วิหคสวรรค์สยายปีกออกมาทันที ภาพลวงตาของวิหคสวรรค์ปรากฎขึ้นด้านหลังของเขาส่งเสียงร้องออกมา
เขาลอยขึ้นจากพื้นไปค้างอยู่บนอากาศ จางเหอกวัดแกร่งดาบในมือและดาบพลังฉีกรีดร้องในอากาศพุ่งไปทางเซียวเฉิน
ดวงตาของเซียวเฉินสงบนิ่งพร้อมกับสายลมอ่อนพัดผมสีดำละเอียดและชายเสื้อของเขาไปตามสายลม เขาแทงไปในอากาศสี่ครั้งและสายเปลวเพลิงสีม่วงก็ปรากฎบนนิ้วของเขา เปลวเพลิงสีม่วงหมุนวนไปรอบนิ้วเขาริบหนึ่งแล้วจึงพุ่งไปที่ดาบพลังฉี
“บูม!บูม!บูม!บูม!”
ดาบพลังฉีและเปลวเพลิงสีม่วงปะทะกันกลางอากาศส่งเสียงระเบิดสี่ครั้งดังไปรอบทิศทาง จางเหอสะบัดมือของเขาส่งคลื่นพลังฉีออกไปปัดเปลวเพลิงตรงหน้าของเขา
ทักษะเคลื่อนไหววิหคสวรรค์สยายปีกช่างรวดเร็วจางเหอสามารถพุ่งมาอยู่ตรงหน้าเซียวเฉินได้ในพริบตา เซียวเฉินแทบจะมองไม่เห็นร่างของจากเหอ ความจริงเซียวเฉินก็ไม่มีทักษะเคลื่อไหวที่ดีนัก
“จิ!”
มีเสียงนกร้องออกมาอีกครั้ง เมื่อจางเหอเขาประชิดตัวเซียวเฉินร่างของเขาก็วูบไหวไปอีกด้านทิ้งภาพติดตาเอาไว้ ในตอนนี้จางเหอวนเข้ามาด้านหลังของเซียวเฉิน
เซียวเฉินหลับตาและส่งสัมผัสวิญญาณออกไป สายลมอ่อนโยนพัดเข้ามาที่เท้าของเขาสงบนิ่งและไม่ขยับไปไหน ทันใดนั้นกระบี่เงาจันทร์ก็ระเบิดแสงออกมาพร้อมกับการหักข้อมือของเขากระบี่เงาจันทร์ขยับไปรับด้านหลังของเขา
“ปัง!”
กระบี่ของเซียวเฉินสามารถสกัดดาบของจางเหอที่ฟันลงมาที่หลังของเขาได้อย่างแม่นย่ำ ผู้คนต่างคิดว่าเขามีตาหลัง
จางเหอประหลาดใจเล็กน้อยแต่เขาก็ยังคงลอยอยู่ในอากาศ เขาขยับไปอีกทางหนึ่งเข้ามาที่ด้านหลังเยื้องซ้ายของเซียวเฉิน
ทันใดนั้นกระบี่เงาจันทร์ของเซียวเฉินก็สลับมาที่มือซ้ายและก่อนที่จางเหอจะได้ลงมือประกายแสงเรืองออกมาจากกระบี่เงาจันทร์ก็ฟันลงไปที่จางเหอ เซียวเฉินยังไม่ได้ขยับเท้าด้วยซ้ำ
จางเหอตกตะลึง ที่มันสกัดไว้ได้ก่อนหน้านี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตามในตอนนี้เห็นชัดแล้วว่าเซียวเฉินสามารถมองเห็นการโจมตีจากด้านหลังได้
เขากางมือออกราวกับวิหคยักษ์ จางเหอถอยกลับขึ้นไปบนอากาศ ขณะที่เขากำลังจะลงสัมผัสพื้นเขาก็ตีลังกาปลายดาบแทงลงไปที่พื้นและค่อยๆเด้งกลับขึ้นไปบนอากาศ
“ฮ่ะ!”
เขาเร่งทักษะเคลื่อนไหววิหคสวรรค์สยายปีกออกมาถึงขีดสุดเคลื่อนไหวไปในอากาศราวกับลูกศรยิงตรงไปหาเซียวเฉิน ปลายดาบพุ่งตรงไปหาเขา
“แคร้ง!แคร้ง!แคร้ง!แคร้ง!”
ทันใดนั้นพวกเขาทั้งสองก็เข้าปะทะกันนับครั้งไม่ถ้วน แม้ว่าจางเหอจะเร่งทักษะเคลื่อนไหววิหคสยายปีกออกมาจนสุดเซียวเฉินก็ไม่ได้ขยับเท้าแม้แต่น้อย เขาปักหลักรับการโจมตีทุกครั้งอย่างใจเย็น
หลังจากที่จางเหอแทงดาบออกไปอีกครั้งเขาก็ลอยกลับไปข้างหลัง มองเห็นว่าเซียวเฉินก็ยังคงปิดตาเขาก็รู้สึกช่วยไม่ได้ในใจ ทักษะเคลื่อนไหวที่เขาภูมิใจหนักหนาช่างไร้ประโยชน์เมื่อเผชิญหน้ากับเซียวเฉิน
ในการประมือครั้งก่อนเซียวเฉินไม่อาจตามความเร็วของเขาได้ทันทำได้เพียงเรียกโล่อัสนีสวรรค์ออกมารับการโจมตี ในตอนนี้เขาไม่ต้องยกเท้าแม้แต่น้อยขณะรับมือกับจางเหอ
“สยายปีกหนึ่งดาบตัด!”
จางเหอตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมกับฟันตรงไปที่เซียวเฉินอย่างเรียบง่าย เมื่อใช้ความเร็วกดข่มไม่ได้ก็ใช้พลังกดดันแทน
ทันใดนั้นเซียวเฉินก็ลืมตาขึ้น ประกายแสงวาดผ่านดวงตาขณะมองไปที่จางเหอที่ดิ่งลงมาจากฟ้า เขาเผยยิ้มจางๆพร้อมกับผลักเท้ากระโดดขึ้นไปในอากาศ
“สยายปีกหนึ่งดาบตัด”
“ปัง!”
แสงดาบและแสงกระบี่ปะทะกันส่งคลื่นพลังฉีน่ากลัวลอยไปในอากาศ จางเหอถอยกลับไปหลายก้าว มองดูเซียวเฉินที่ขยับเพียงเล็กน้อย พอคิดว่าด้านพลังข้าก็แพ้ให้กับเซียวเฉิน
“จิ!”
วิหคสวรรค์ข้างหลังเขาร้องออกมาเสียงดังอีกครั้งจางเหอลอยหยุดอยู่กลางอากาศ เขามองไปที่เซียวเฉินที่ลอยอยู่ในอากาศยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน
แม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งกว่าข้าเพียงเล็กน้อยเจ้าก็ไม่ควรปะทะกับข้ากลางอากาศ ข้ามีทักษะเคลื่อนไหววิหคสวรรค์สยายปีก มาดูว่าเจ้าจะสู้กับแรงโน้มถ่วงเช่นไร
“สยายปีกร่ายรำอลหม่านพันปี!”
จางเหอตะโกนออกมาเสียงดังและปลดปล่อยทักษะต่อสู้ที่เขาแสนภาคภูมิใจออกมาใส่เซียวเฉินที่กำลังร่วงลงมา เขาคิดจะเอาชนะเซียวเฉินทีกำลังลอยอยู่กลางอากาศไม่ให้โอกาสเขาได้สัมผัสพื้น
“ปัง!”
เซียวเฉินยิ้มกริมในใจและสายพลังก็ไหลออกมาจากจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า เขากวัดแกว่งกระบี่ของเขาและตีลังกา ร่างของเขาใช้พลังที่ออกมาจากจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าเพื่อลอยตัวขึ้นสูง
ทักษะต่อสู้ของจางเหอวืดผ่านไปในทันที จางเหอเงยหัวขึ้นก็พบว่าเซียวเฉินมาอยู่บนหัวของเขาเรียบร้อยแล้ว จางเหอตกใจ
“สยายปีกร่ายรำอลหม่านพันปี!”
แม้ว่าจะเป็นร่ายรำอลหม่านพันปีเช่นเดียวกันเมื่อเทียบกับร่ายรำอลหม่านพันปีของจางเหอ ร่ายรำอลหม่านพันปีของเซียวเฉินมีความได้เปรียบกว่า ร่ายรำอลหม่านพันปีที่ถูกใช้ลงมาจากฟ้ากดข่มจางเหออย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นร่างของทั้งสองก็ย้ายตำแหน่งไปเรื่อย กระบี่แสงและดาบแสงลอยไปทั่ว เสียงของดาบแสงและกระบี่แสงกระทบกันดังขึ้นไม่หยุดหย่อน ภายในเวลาไม่นานพวกเขาก็แลกดาบกันกว่าหนึ่งร้อยครั้ง
“ด้วยตำแหน่งที่ต่างกันจางเหอกำลังเสียเปรียบ น่าแปลกที่เซียวเฉินมีทักษะเคลื่อนไหวที่ลอยขึ้นไปบนอากาศได้”
“แน่นอนเขาต้องหวังผลไว้เช่นนี้ มิฉะนั้นทำไมเขาถึงเลือกที่จะต่อสู้กลางอากาศ”
“ไปเป็นได้”
ฝูงชนต่างพูดคุยเกี่ยวกับการประลอง คนจากสามตระกูลใหญ่เฝ้าดูการประลองอย่างจดจ่อ
ในศาลาของตระกูลเซียวเซียวอวี่หลันมองดูคนสองคนสู้กันกลางอากาศอย่างหวาดหวั่นดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกังวล หลังจากใช้ร่ายรำพันปีออกมาความเร็วของพวกเขาก็พุ่งสูงขึ้น ด้วยระดับพลังปัจจุบันของเซียวอวี่หลันมันก็ยากที่จะมองเห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
“ท่านพ่อสถานการณ์ตอนนี้เป็นเช่นไร?” เซียวอวี่หลันถามผู้อาวุโสหนึ่ง
เซียวเฉียงยิ้มบางๆ “ดี เซียวเฉินชิงความได้เปรียบมาได้”
คนของตระกูลจางและตระกูลถังอยู่ภายในศาลาเดียวกัน ผู้นำตระกูลจางตอนนี้มีสีหน้าน่าเกลียด “พอคิดว่าเขาตกหลุมพลางพื้นๆเช่นนั้น จางเหอมองตื้นเกินไป”
ถังเที่ยนปลอบใจเขา “เขาเพลี่ยงพล้ำเพียงชั่วคราวเท่านั้น ยังไม่ใช่จุดตัดสินแพ้ชนะ นอกจากนั้นทักษะของเซียวเฉินก็แสดงออกมาอย่างนึงแล้ว”
ถังเฟิงผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างพวกเขาจับธนูน้ำแข็งเพลิงไว้มั่นพร้อมกับมองไปที่คนสองคนที่อยู่บนฟ้า เขายิ้มอย่างเย็นชา “ทักษะเช่นนี้ก็กลายเป็นเพียงเป้านิ่งต่อหน้าธนูเพลิงน้ำแข็งของข้า”
“ปัง!”
ภายในเวลาสั่นๆทั้งสองคนที่อยู่บนฟ้าก็แลกดาบกันไปมากกว่า 1200 ครั้ง เมื่อจบกระบวณท่าต่อสู้เซียวเฉินก็ประทับเท้าลงบนร่างของจางเหออย่างไร้ความปราณีออกแรงผลักส่งตัวเซียวเฉินลอยสูงขึ้นไปในอากาศ
จางเหอร่วงลงพื้นเสียงดัง “ปัง” เกิดหลายรูบนเสื้อของเขาจากกระบี่แสงทิ้งแผลเลือดอาบไว้หลายจุดเขามองไปที่เซียวเฉินผู้ที่ลอยขึ้นไปบนฟ้าดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เขาพยายามจะทำอะไร?
จางเหอลุกขึ้นสลัดความสงสัยในใจทิ้งไปก่อน ตอนนี้ตำแหน่งของเขาอยู่จุดต่ำสุด หากเขาไม่ช่วงชิงความได้เปรียบคืนมาให้ได้เขาก็จะโดนเซียวเฉินกดข่ม
“วิหคสวรรค์สยายปีก ล่าดาวคว้าจันทรา!”
ภาพลวงตาด้านหลังของเขาวิหคยักษ์ส่งเสียงร้องแหลมออกมา เสื้อผ้าของเขาโบกสะบัดพร้อมกับคลื่นเสียงระเบิดออกไปทั่วทิศทาง
ผู้ชมที่อยู่ใกล้ขอบสนามรู้สึกได้ว่าแก้วหูของพวกเขาสั่นสะเทือนจนทำให้พวกเขาเวียนหัว ผู้คนที่ระดับการบ่มเพาะพลังต่ำหน่อยอาเจียนออกมาเป็นเลือดและล้มหมดสติ
“เสียงร้องของวิหคตัวนี้มีเสน่ห์ของเสียงวิหคร้องศักดิ์สิทธิ์ พอคิดว่าจางเหอที่ได้รับบาดเจ็บจะยังมีไพ่ตายในมืออยู่อีก”
“ย้อนกลับไปในตอนที่ผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นใช้เสียงร้องวิหคศักดิ์ทำให้คนหลั่งเลือดออกมาจากทวารทั้งเจ็ดและตายลงด้วยอวัยวะภายในแหลกเหลว แม้ว่าจางเหอจะยังไม่ถึงระดับนั้นมันก็จัดว่าดีเยี่ยมแล้วสำหรับเขาที่ทำให้คนถึงกับล้มหมดสติลงไปได้” ฝูงชนด้านล่างพูดคุยกัน
หลังจากที่เขาใช้ทักษะเคลื่อนไหวล่าดาราคว้าจันทรา เขาราวกับลูกศรที่ถูกยิงออกมา เขากระโดดขึ้นจากพื้นพุ่งเข้าใส่เซียวเฉินเขาประชิดตัวเซียวเฉินได้ทันที
เซียวเฉินขมวดคิ้วงุนงงกับทักษะเคลื่อนไหววิหคสวรรค์สยายปีก ด้วยระดับการบ่มเพาะพลังในปัจจุบันของจางเหอเขาไม่น่าจะสามารถบรรลุได้ถึงขั้นนั้น
เซียวเฉินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล้มแผนเดิมของเขาไป แต่เดิมเขาอยากจะใช้กลาบาตกัมปนาทหากจางเหอพุ่งเข้ามาช้ากว่านี้เขามั่นใจว่าจะสามารถใช้กลาบาตกัมปนาทและจบการประลองนี้ลงได้ทันที
เซียวเฉินบิดตัวหลบดาบพลังฉีที่จางเหอส่งออกมา เขารีบลงต่ำไปที่พื้น ทักษะเคลื่อนไหวของเขาไม่ดีเท่าของจางเหอมันไม่เห็นถึงข้อดีที่จะสู้กับเขาบนฟ้า
มองดูรูปปั้นของจักรพรรดิเทียนวู่ดวงตาของเซียวเฉินก็สว่างขึ้น เซียวเฉินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปในอากาศหลบเลี้ยงดาบพลังฉีของจางเหอพร้อมกับลงต่ำไปที่รูปปั้นจักรพรรดิเทียนวู่
จากนั้นไม่นานเซียวเฉินก็ยืนอยู่บนดาบของจักรพรรดิเทียนเวู่ หลังจากตั้งตัวติดเซียวเฉินก็ได้โอกาสโจมตีสวนกลับเขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับจางเหอที่กำลังพุ่งเข้ามาพร้อมกับส่งแผ่นยันต์ระดับ 3 ออกไป 4 ใบ
จางเหอเคลื่อนไหวในอากาศอย่างรวดเร็วและภาพของวิหคสวรรค์ปรากฎขึ้นมีนช่างดูเหมือจริง จางเหอยืนอยู่บนมันและเคลื่อนที่ไปทางซ้ายหลบแผ่นยันต์ที่ยิงตรงมาทางเขา
“ปัง!”
เพียงแค่จางเหอคิดว่าทุกอย่างเรียบร้อยทันใดนั้นแผ่นยันต์ก็ระเบิดขึ้นในอากาศ คลื่นความร้อนถูกส่งออกไปทั่วทิศทางโดยมีแผ่นยันต์เป็นศูนย์กลาง
“บูม!บูม!บูม!”
แผ่นยันต์อีกสามแผ่นระเบิดขึ้นตามมาเติมเต็มท้องฟ้าไปด้วยเปลวเพลิงหนาแน่น คลื่นความร้อนอันไร้ขอบเขตแผ่ออกไปทั่วทิศทาง ราวกับเมฆดำบดบังแสงอาทิตย์มองดูเหมือนก้อนเมฆที่ทำมาจากเปลวเพลิง
มองดูเมฆเพลิงที่เติมเต็มไปทั่วท้องฟ้าฝูงชนด้านล่างล้วนประหลาดใจ ผู้นำตระกูลจางหวาดกลัวจนแสดงออกมาทางสีหน้าไม่หมด เขาพูดเสียงสั่น “นี่คือสมบัติลับ? ตระกูลเซียวยังมีสมบัติลับเก็บซ่อนไว้…”
ถังเทียนและลูกชายของเขาที่อยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงเช่นกัน เปลวเพลิงหนาปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเหนือลานประลองเปลวไฟและพลังที่ไม่มีใครเทียบ แม้พวกเขาจะมองอยู่ไกลๆก็รู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อน
“ดาบฟ้าครามศักดิ์สิทธิ์ แปดกวาดทำลาย!”
ขณะที่ฝูงชนคิดว่าจางเหอตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย ทันใดนั้นดาบแสงรุ่งโรจน์ก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าปัดเป่าเปลวเพลิงหนาแน่นหายออกไป แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาอีกครั้ง