The Soul Purchasing Pirate - บทที่ 378: มาพบเทพเจ้า?
S.PP: บทที่ 378: มาพบเทพเจ้า?
ดูจากเหตุการณ์และพลังแล้วดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนั้นจะเป็นเอเนล
ดูเหมือนว่าเมื่อได้รับพลังของผลโกโร โกโรมาเขาก็จะไม่สามารถยับยั้งความเกลียดชังที่อยู่ภายในใจได้และได้ตัดสินใจที่จะขจัดความแค้นที่มีต่อเกาะบิก้าในทันที แต่สุดท้ายเขาก็หยุดมือลงโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ
แต่ถึงอย่างนั้นความแข็งแกร่งของเขาก็ยังคงเป็นที่หวาดกลัวต่อผู้คนบนเกาะแห่งท้องฟ้าอยู่ดี
พลังอํานาจของผลโกโร โกโรนั้นเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะความสามารถในการทําให้เป็นอัมพาตและพลังทําลายล้างที่น่าหวาดกลัวยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีความเร็วที่ ราวกับความเร็วแสงรวมอยู่ด้วย
มันคือความสามารถที่ไม่สามารถหาได้จากผลปีศาจสายโรเกียอันอื่นๆ
ด้วยความสามารถที่ขี้โกงของผลโกโร โกโรมันสามารถทําให้คนที่ครอบครองพลังของมันกลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนว่าฉันจะมีปัญหานิดหน่อยซะแล้วสิ”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยท่าที่เฉยชา
ในการเดินทางมาที่เกาะแห่งท้องฟ้าในครั้งนี้เขานั้นมีเป้าหมายอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามอย่างเป้าหมายแรกของเขาคือเอเนลชายผู้ครอบครองพลังของผลโกโรโกโรและสามารถปลุกฮาคิ สังเกตได้ด้วยตัวเอง,เป้าหมายที่สองของเขาคือเมืองขุมทองแชนโดร่าด้วยทองคําที่มากมายม หาศาลจากที่แห่งนั้นเขาก็ไม่จําเป็นต้องหวาดกลัวอะไรอีกต่อไป,เป้าหมายที่สามของเขาก็คือโพเนกลีฟ
ภายในอนิเมะและมังงะนั้นบอกกล่าวถึงข้อมูลที่ถูกบันทึกอยู่ในโพเนกลีฟน้อยมาก ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะมาเห็นมันด้วยตัวเอง
ในขณะที่เขากําลังครุ่นคิดถึงเป้าหมายต่างๆของเขาอยู่พวกลูกเรือก็กําลังพูดคุยสอบถามคู่พ่อลูกชาวท้องฟ้าเกี่ยวกับเกาะแห่งท้องฟ้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“สกุลเงินที่ใช้กันบนเกาะแห่งท้องฟ้าไม่ใช่เบรีแต่เป็นเอ็กซ์ตอนงั้นหรอ?”
“เปลือกหอยวิเศษงั้นหรอ?”
“แถมยังมียานยนตร์ที่สามารถใช้ในการเดินเรือได้ด้วยงั้นหรอ?”
“นี่มันจะน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว!”
เหล่าลูกเรือต่างก็กําลังรู้สึกตื่นเต้นสิ่งที่อยู่บนเกาะแห่งท้องฟ้านั่นคือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในทะเลสีฟ้า
รูทดราก้อนได้แล่นไปข้างหน้าอย่างช้าๆพร้อมกับภาพของชายฝั่งที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ในตอนนั้นเองเหล่ากองกําลังทหารยามที่สวมหมวกไบเล่ก็ได้จ้องมองมาที่พวกโรแกนด้วยความสงสัย
“ว้าว,ชาวแห่งท้องฟ้าเต็มไปหมดเลย!”
ชาร์โปลอสได้ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
เมื่อกล่าวจบเขาก็ได้ทําการกระโจนออกไปข้างหน้าในทันทีหลังจากนั้นดาซก็ได้วิ่งตามชาร์โปลอสมาติดๆ
เมื่อมาที่ยังเกาะแองเจิ้ลพวกเขาทั้งสองก็ได้จ้องมองไปที่เหล่าชาวแห่งท้องฟ้าด้วยความสนใจ
“ไม่ว่าจะชายหรือหญิงพวกเขาแต่ละคนต่างก็มีปีก”
ชาร์โปลอสได้ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับวิ่งเข้าไปจับที่ปีกของหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือปลอม
“ของจริงงั้นหรอเนี่ย!”
“เลิกทําแบบนั้นได้แล้วไม่เห็นหรือไงว่าคนอื่นเขากลัวนายขนาดไหน?”
ในตอนนั้นเองชาร์โปลอสก็สังเกตเห็นว่าผู้คนบนเกาะแองเจิ้ลนั้นกําลังจ้องมองมาที่เขาด้วยท่าทางหวาดกลัว
“พวกเขาไม่มีปีก,พวกเขาไม่ใช่ชาวท้องฟ้า”
“มีคนนอกขึ้นมาบนเกาะแห่งท้องฟ้างั้นหรอ?”
“กองกําลังเทพอยู่ไหน? รีบเรียกพวกเขามาเร็วเข้า!”
ในเวลานี้เกาะแองเจิ้ลนั้นกําลังตกอยู่ในความวุ่นวาย
“ที่นี่คือเกาะแองเจิ้ลมันคือเกาะที่ภรรยาของฉันอยู่”
ในตอนนั้นเองรูทดราก้อนก็ได้แล่นมาถึงชายฝั่ง
“ตึก! ตึก! ตึก!”
เสียงฝีเท้าจํานวนมากได้ดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของเหล่าทหารยามที่สวมหมวกไบเล่ที่เข้ามาปิดล้อมร่างของชาร์โปลอสเอาไว้
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
ชายที่เป็นผู้นําได้ตะโกนออกมาดังลั่น
“พวกเขาเป็นคนนอก”
ในตอนนั้นเองก็ได้มีหญิงสาวชาวท้องฟ้าคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
“คนนอก?”
ในตอนนั้นเองชายที่เป็นผู้นําก็ได้จ้องมองไปที่ชาร์โปลอสและพวกโรแกนที่กําลังเดินมาทางนี้ทันใดนั้นเองใบหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไป
“พวกนายคือคนจากทะเลสีฟ้างั้นหรอ?”
เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่มีปีกเขาก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้
“ทะเลสีฟ้า?”
ชาร์โปลอสนั้นได้จ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความงงงวยเขานั้นไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกําลังพูดถึงอะไร
“ใช่แล้ว พวกเรามาจากทะเลสีฟ้าเรามาที่นี่เพื่อมาพบเทพเจ้าของที่แห่งนี้”
ในตอนนั้นเองเสียงของโรแกนก็ได้ดังแทรกขึ้นมา
“มาพบเทพเจ้า?”
ชายที่เป็นผู้นําได้จ้องมองมาที่โรแกนด้วยความสงสัย
อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องของเขาเลยที่จะต้องมาพูดคุยกับคนนอกพวกนี้ และในตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าคนนอกพวกนี้ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใดพวกเขาเพียงแค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น ดูเหมือนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด
“ฉันจะไปบอกกันท่านเทพให้และฉันหวังว่าพวกนายจะปฏิบัติตนตามกฏของที่แห่งนี้อย่างเคร่งครัด
ชายที่เป็นผู้นําได้กล่าวเตือนออกมาด้วยท่าที่จริงจัง
แม้ว่าจะไม่ค่อยมีชาวทะเลสีฟ้าขึ้นมาที่เกาะแห่งท้องฟ้าแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยมีชาวทะเลสีฟ้าขึ้นมาที่เกาะแห่งท้องฟ้าเลย
“นั้นเป็นสิ่งที่พวกเราต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาแต่มาเพื่อตามหาสมบัติและตราบใดที่บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้มันก็ไม่มีอะไรให้ต้องใส่ใจ
“เดี๋ยวฉันไปติดต่อกับท่านเทพให้,โปรดรอสักครู่
ในตอนนั้นเองชายที่เป็นผู้นําก็ได้หมุนกายและเดินจากไปพร้อมกับเหล่าลูกทีมของเขา
“คนพวกนี้คือชาวทะเลสีฟ้านี่เอง!”
“ฉันพึ่งจะเคยเห็นชาวทะเลสีฟ้าเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย,ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะไม่มีปีก นี่มันน่าทึ่งจริงๆ!”
“แถมพวกเขายังมีกลิ่นกายที่แตกต่างจากพวกเราอีกด้วย”
หลังจากที่ได้รับคําอธิบายท่าทางที่หวาดกลัวของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนไปเป็นอยากรู้อยากเห็นในทันที
เมื่อทั้งสองฝ่ายมีความคิดที่ตรงกันพวกเขาจึงสามารถพูดคุยกันได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ได้พูดคุยทําความรู้จักกันมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็เริ่มมีบางคนเชิญพวกโรแกนไปที่บ้านของพวกเขาแล้ว
“ทาลิน่า!”
ในตอนนั้นเองพ่อของไดน่าก็ได้เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งก่อนที่จะตะโกนออกมาเสียงดัง
หญิงสาวคนนั้นมีเรือนผมสีทอง,ผิวขาวเนียนนุ่ม,มีรูปร่างที่สมบรูณ์แบบและเมื่อดูจากใบหน้า แล้วเธอน่าจะเป็นแม่ของไดน่า
“คอส? ไดน่า?”
ในตอนนั้นเองทาลิน่าก็ได้สังเกตเห็นพวกเขาทั้งสอง
“แม่!”
ไดน่าได้วิ่งเข้าไปสวมกอดแม่ของเธอทั้งน้ําตา
แม้ว่าจะห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เดือนแต่ทั้งสองฝ่ายนั้นต่างก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขาห่างกันมาเป็นปีแล้ว
“คิดว่าจะไม่ได้เจอหน้าเธออีกต่อไปแล้วซะอีก”
คอสได้กอดร่างของทาลิน่าเอาไว้แน่น
“โชคดีจริงๆที่ได้เจอคุณอีกครั้ง ฉันได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในเกาะบิก้าแล้วนะ,คุณจะมาอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”
ทาลิ้น่าได้กล่าวออกมาด้วยความกังวล
โรแกนได้มองมาที่ฉากครอบครัวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
นับว่าเป็นฉากจบที่สมบรูณ์แบบ
ในตอนนั้นเองก็ได้ปรากฏร่างของกลุ่มอัศวินสวมเกราะขึ้นมาบนท้องถนน ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้จ้องมองมาที่พวกโรแกน
“เป็นพวกเขา!”