The Soul Purchasing Pirate - บทที่ 256: แข็งแกร่งขนาดไหนกัน?!
S.P.P: บทที่ 256: แข็งแกร่งขนาดไหนกัน?!
โรแกนนั้นดูจะประหลาดใจมากเมื่อได้ยินเสียงที่แหบแห้งนี้
“ จิตสํานึกของนายยังอยู่ในนี้งั้นหรอ?”
“ ฉันอยู่ในนี่เสมอ!”
ภายในจิตใจได้ปรากฏเสียงสองเสียงขึ้นมาและหนึ่งในนั้นก็คือเสียงที่แหบแห้ง ส่วนอีกเสียงนั้นมันก็คือเสียงของโรแกน
คุโรซากิ อิจิโกะนั้นนับว่าเป็นหนึ่งในยมทูตที่แข็งแกร่งที่สุด แถมภายในตัวของเขาก็มีรูปแบบพลังที่แตกต่างกันถึงสามรูปแบบ ได้แก่,พลังของยมทูต,พลังของฮอลโลว์, และพลังของควินซี่ที่ไหลเวียนอยู่ภายในตัวของเขา, นอกเหนือจากความแข็งแกร่งของดาบฟันวิญญาณตามปกติของยมทูตนั้น เขาก็ยังได้ฝึกฝนพลังฮอลโลว์และมันก็ทําให้เขาแข็งแกร่งขึ้นมาหลายเท่าตัวจนน่าหวาดกลัว
ยมทูตและฮอลโลว์นั้นถือว่าเป็นขั้วตรงข้ามกัน,แต่พลังของพวกเขานั้นก็สามารถรวมเข้ากันได้แถมมันยังมอบแรงดันวิญญาณที่มากมายมหาศาลให้อีกด้วย เมื่อใดที่ทั้งสองผสานรวมกันเป็นหนึ่งพลังที่คนผู้นั้นมีมันก็จะกลายเป็นอะไรที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างงั้นตัวของโรแกนนั้นก็ไม่ค่อยไม่เต็มใจเท่าไหร่ที่จะใช้พลังของฮอลโลว์,เขารู้ดีว่าพลังของมันแข็งแกร่งมากมายขนาดไหน มันเป็นแรงดันวิญญาณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้ายและพลัง!
แต่ถ้าหากว่าผู้ใช้นั้นได้ใช้มันออกมาอย่างไม่ตั้งใจเขาก็ไม่จําเป็นที่จะต้องไปควบคุมจิตสํานึกนั้น
แน่นอนตั้งแต่ต้นจิตสํานึกของเขานั้นก็ถูกย้ายเข้ามาในที่แห่งนี้ ด้วยสติที่ดับลง แต่หลังจากนั้นสิบวินาทีเขาก็ได้สติกลับคืนแต่แม้ว่าเขาจะมีสติแต่เขาก็ยังไม่สามารถกลับ ผ่านไปสิบวินาทีของการต่อสู้ เขาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ แต่แม้ว่าเขาจะตื่นขึ้นมาร่างนี้ก็ยังไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นโรแกนจึงเห็นการต่อสู้ตั้งแต่เริ่ม
ภายใต้การควบคุมของไวท์แม้ว่าความแข็งแกร่งนั้นจะไม่ได้ เพิ่มขึ้นมาแต่ด้วยรูปแบบการต่อสู้ที่แปลกประหลาดและโหดร้ายของเขานั้นมันทําให้โรแกนตระหนักรู้ถึงอะไรต่างๆมากมาย
ยกตัวอย่างเช่นสัญชาตญาณ!
สัญชาตญาณของมนุษย์นั้นน่ากลัวมากจริงๆแต่เพียงเพราะอิทธิพลทางสภาพแวดล้อมต่างๆที่เกิดขึ้นมาในปัจจุบันมันจึงทําให้มนุษย์นั้นค่อยๆหลงลืมความแข็งแกร่งนี้ไป,ลองคิดดูสิว่าถ้าหาก สามารถละทิ้งความเป็นเหตุเป็นผลทั้งหมดไปได้แล้วหันมาใช้สัญชาตญาณแทนล่ะก็ ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาคนนั้นจะน่าสะพรีงมากมายขนาดไหนกัน?
ความสามารถในการรับรู้ต่างๆนั้นต่างก็เป็นการใช้สัญชาตญาณ ยกตัวอย่างง่ายๆก็ฮาคิสังเกต
ในฐานะเจ้าของร่างนั้นโรแกนสามารถรับรู้ได้ถึงการกระทําต่างๆของตัวเขาได้อย่างชัดเจน,เขานั้นสามารถทําความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการต่อสู้ของไวท์ได้อย่างรวดเร็ว
และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่เขาไม่คิดที่จะกลับเข้าไปควบคุมร่างกาย แล้วเปลี่ยนเป็นการเฝ้ามองแทน
เวลาของไวท์ไกล้จะหมดลงแล้วมันเป็นเรื่องที่ปกติมาก การครอบครองความแข็งแกร่งใดก็ตามที่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งของตัวเองมันมักจะมาพร้อมกับข้อจํากัดเสมอ
“ นายต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นหรือเปล่า?”
เสียงของไวท์นั้นได้ดังขึ้นมา
“ มันแน่นอนอยู่แล้ว”
โรแกนได้กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ
“ แล้วนายรู้ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?”
เสียงของไวท์นั้นเย็นชามาก
“ ฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าฉันต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้!”
โรแกนได้กล่าวตอบออกมาอย่างเด็ดขาด
“ เป็นมนุษย์ที่น่าสนใจจริงๆ!”ไวท์ได้ฉีกยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น“ แล้วนายต้องการแข็งแกร่งขนาดไหน?”
“ นายแข็งแกร่งขนาดไหน,นั่นหละคือความแข็งแกร่งที่ฉันต้องการ! ”
โรแกนได้กล่าวตอบออกมา
ในตอนนั้นเองไวท์ก็ได้หัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่าๆๆๆ จัดให้ตามที่ขอเดียวนี่ล่ะ!”
ความปรารถนาของโรแกนนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้ จริง ยิ่งมีพลังมากเท่าไหร่มันยิ่งทําให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากเท่านั้น
“วมม!”
ในตอนนั้นเองร่างของเขาก็ได้ระเบิดแรงดันวิญญาณสีแดงดําที่บ้าคลั่งออกมา มันพวยพุ่งขึ้นมาราวกับเปลวเพลิงที่กําลังโหมกระหน่ํา
กระดูกสีขาวนั้นเริ่มเข้าปกคลุมร่างกายท่อนบนของเขาพร้อมกับฉีกกระชากชุดสีดําของยมทูตออกเป็นชิ้นๆ
หน้ากากสีขาวของเขานั้นได้เข้าปกคุลมใบหน้าพร้อมกับเขาที่ปรากฏขึ้นมาสองอันบนหน้ากาก
เพียงพริบตาเดียวรูปลักษณ์ใหม่ของโรแกนก็ได้ปรากฏขึ้นมา
เขาได้จับซันเงสึเอาไว้ในมือขวาพร้อมกับแรงกดดันอันน่าสะพรึง ที่พวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา
“ สัตว์ประหลาดนี้มันอะไรกัน?”
คิซารุนั้นได้กําดาบอามาโนะ มุราคุโมะแน่นพร้อมกับเหงื่อเย็นที่ไหลรินอยู่บนแผ่นหลังของเขา
ชายคนนี้จะแปลกประหลาดเกินไปแล้ว,ทุกสิ่งที่เขาแสดงออกมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน!,ผมปีศาจงั้นหรอ? ไม่ใช่! ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนกันก็ตาม!
“ ระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆล่ะ!”
“ มิฉะนั้นดาบของฉันอาจจะเผลอฆ่านายได้”
โรแกนได้กล่าวออกมาอย่างเหยียดหยาม
คิซารุนั้นได้ยกมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาพร้อมกับแสงสีทองจํานวนมากที่ปรากฏขึ้นมา
“ แสงระย้าห่าฝนกระหน่ํา!”
“ มุกเดิมๆ!”
โรแกนได้กล่าวออกมาพร้อมกับร่างกลายที่กระพริบหายไป
เพียงพริบตาเดียวเขาก็มาปรากฏตัวอยู่บนท้องฟ้าที่สุกสกาวไปด้วยแสงสีทองแล้ว
* ฟูมม!”
คลื่นจันทร์เสี้ยวสีดําได้พุ่งออกมาจากใบมีดและกระแทกเข้าไปที่ลําแสงสีทองของคิซารุ
* บูม! บูม! บูม!”
การปะทะของทั้งสองนั้นได้ก่อให้เกิดระเบิดขึ้นมาบนท้องฟ้า
ภายใต้การระเบิดนั้นแสงสีดําได้กระพริบหายไปก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าของคิซารุพร้อมกับเหวี่ยงดาบเข้ามา
“ รับพลังนี้ไปซะ!”
“ ฉันเรียกมันว่า..!”
“ ความโกรธของพระเจ้า!”
ซันเงสนั่นได้กระแทกลงมาที่คิซารุอย่างดุร้าย
ใบหน้าของคิซารุนั้นได้เปลี่ยนไปในทันที,ฮาคิสังเกตุของเขานั้นกําลังร้องเตือนออกมาด้วยความหวาดกลัว
“บูม!”
ภายใต้คมดาบที่บ้าคลั่งของโรแกนคิซารุนั้นได้ยกอามาโนะ มุราคุโมะของเขาขึ้นมาป้องกันได้ทันแต่ถึงอย่างนั้น
” แครก!”
ดาบอามา โนะ มุราคุโมะนั้นได้หักลงก่อนที่จะแตกสลายไป
และในตอนนี้ดาบของคิซารุสลายหายไป ดาบของโรแกนก็ได้ฟาดฟันเข้ามาที่ร่างของคิซารุจนเลือดของคิซารุพุ่งกระสูดออกมา
“ อ้ากกก…”คิซารุได้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับร่างของเขา ที่กระพริบถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว
ดาบนี้ทําให้เขารู้สึกราวกับว่าร่างของเขากําลังถูกแยกออกเป็นสองส่วน!
“ฮา!”
หลังจากที่ถอยออกมาคิซารุก็ได้หอบหายใจออกมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
“ ทําไมเขาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้กัน?”
สิ่งนี้ทําให้เขารู้สึกตกใจมันราวกับว่าเขาได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน,เขานั้นรู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าในครั้งที่แล้วที่สู้กันซะอีก
“ มาสู้กันได้แล้ว!ไอ้มดปลวก!”
ในตอนนั้นเองเสียงของโรแกนก็ได้ดังขึ้นมาพร้อมกับล่างของเขา ที่ถลาลงมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลายเป็นเส้นแสงสีดําและพุ่งเข้าไปหาคิซารุในทันที
“ ลูกเตะความเร็วแสง!”
คิซารุนั้นได้เตะออกมาด้วยความโกรธแค้น
แสงสีทองนั้นได้ปะทะเข้ากับแสงสีดําราวกับเวลาได้หยุดลงไปชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นานมันก็ได้เกิดคลื่นลมที่กระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“บูมมม!”
ซากปรักหักพังของอาคารรอบๆนั้นได้กลายเป็นฝุ่นผงไปในทันที จากการปะทะของทั้งสอง
ในตอนนี้แม้แต่อากาศก็ยังเกิดการบิดเบี้ยว
ในตอนนี้โรแกนนั้นกําลังรู้สึกตื่นเต้นที่อีกฝ่ายสามารถต้านทานเขาได้
“นี่มันรู้สึกดีสุดๆไปเลย!”
“ฮ่าๆๆๆ!”
โรแกนนั้นได้หัวเราะออกมาพร้อมกับถอนดาบของเขากลับมา และฟาดฟันไปที่คิซารุอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“เป็นไปได้ยังไงกัน??
คิซารุนั้นช็อคมากที่อีกฝ่ายนั้นสามารถเมินเฉยต่อพลังของเขาได้
หมอนี้มันเกิดขึ้นมาจากตัวอะไรกันแน่!