The Soul Purchasing Pirate - บทที่19:รูทดราก้อน
S.P.Pบทที่19:รูทดราก้อน
“ผ่านมาตั้งหลายปี แต่มันก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลย”
รอทพูดกับโรแกนในขณะที่เขาได้พาโรแกนไปที่ท่าเรือเล็ก ๆ
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงท่าเรือ
ที่จริงแล้วท่าเรือนี้นั้นอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะ แต่ด้วยเส้นทางนี้จะนำไปสู่อ่าวที่อยู่ใกล้กับทะเล ในขณะนี้เรือได้จอดอยู่ในอ่าวอย่างเงียบ ๆ
โรแกนมองไปที่เรือจากระยะไกลเขาได้แสดงร่องรอยของความพึงพอใจในดวงตาของเขา
ดูจากภายนอกแล้วนั้นรอทไม่ได้โกหกเขา ธงและรูปร่างของเรือยังคงสภาพเดิมและไม่มีฝุ่นเกาะอยู่เลยมันดูไม่เหมือนเรือที่ถูกใช้มาเป็นเวลานานซักนิดเดียว ในทางกลับมันดูเรียบร้อยและสะอาดราวกับว่าเป็นเรือลำใหม่ที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อน
รูปร่างของเรือดูน่าสนใจมากเพราะมันมีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ตรงกลางเรือ
ที่ด้านหน้าของหัวเรือมีรูปปั้นมังกรอยู่
“ พ่อของฉันได้เพิ่มมังกรเขาไป เรือนี้ถูกเรียกว่ารูทดราก้อน”รอทพูดช้าๆ
“ปิ้ดดดด”
รอทได้เป่านกหวีดเรียกคนงานบนเรือ
เรือที่อยู่ในระยะไกลได้หันมาทางพวกเขา และได้เกิดแรงกระเพื่อมบนผิวน้ำ
“ มานี่,เร็วเข้ามาทำความรู้จักกับเพื่อนฉัน!”
โรแกนพยักหน้า เมื่อเรือเข้ามาใกล้เขาค้นพบว่ามันไม่ใหญ่มากมันยาวประมาณ 20 เมตร อย่างไรก็ตามเรือนี้ดูเหมือนจะหนักมากและดูเหมือนจะหนา แต่ก็ยังสามารถรักษาสมดุลตอนอยู่บนทะเลได้ ด้วยความหนาของเรือมันเป็นไปได้ยากมากที่จะรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนบนพื้นเรือ
“ วัสดุของรูททำจากไม้ตะขบหนานมูจากทะเลทั้งสี่, หนานมูนั้นเกิดที่ก้นทะเลและเป็นไม้ที่แข็งแรงมาก อยู่ในทะเลเป็นเวลานานซึ่งนั้นทำให้มันมีความเหนียวแน่นมากขึ้น”รอทแนะนำสั้น ๆ
โรแกนพยักหน้าเข้าใจและได้ตามรอทไปเพื่อดูรอบ ๆ เขาเลือกดูไม่กี่ที่และได้ลองเคาะเพื่อเช็คดูคุณภาพของไม้ เสียงที่เปล่งออกมานั้นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของเรืออย่างชัดเจน
เขาไม่รู้เกี่ยวกับเรือมากนัก พี่ชายของเขาโรเจอร์เป็นคนที่สุดยอด เขารู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโลกและการดำเนินชีวิต สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อเขานอกเหนือจากเรื่องความสามารถในการต่อสู้,บางคนคาดหวังว่าเขาจะไปได้ไกลกว่าโรเจอร์
หลังจากครึ่งชั่วโมงทั้งสองได้คุยกันเรื่องราคาอีกครั้ง ในที่สุดเรือนี้ถูกขายไนราคา 200,000 เบรี แต่โรแกนไม่มีเงินสดดังนั้นพวกเขาจึงได้แลกเปลี่ยนสมบัติบางอย่างด้วยมูลค่าที่เท่ากัน
พวกเขาทั้งคู่ได้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการดังนั้นพวกเขาจึงพอใจมาก รอทยินดีที่จะเชิญโรแกนไปรับประทานอาหาร
ในตอนบ่ายโรแกนได้ออกไปจากสถานที่แห่งนี้ หลังจากซื้อสิ่งของจำเป็นและอาหารเพียงพอ สำหรับ 5 เดือนเขาก็ไปที่รูทดราก้อน
โรแกนมองไปที่เรือที่อยู่ตรงหน้าของเขาพร้อมกับฉีกรอยยิ้มกว้างออกมา
เรือลำนี้ไม่ใหญ่ แต่ในอนาคตมันจะเป็นบ้านของเขา เขามีค่าหัวที่มีมูลค่ามหาศาล ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอยู่ในที่ใดที่หนึ่งได้นาน นับแต่นี้ไปเขาสามารถมีชีวิตที่สามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้แล้ว
วันรุ่งขึ้นโรแกนได้แล่นเรือออกจากเกาะอย่างช้าๆ
สองวันก่อนที่เขาจะออกจากเกาะเรือโจรสลัดของไซเดอร์ก็ได้มาถึงเกาะเล็ก ๆ
โจรสลัดที่เหลืออีกยี่สิบคนกำลังหิวโหย พวกเขารีบไปที่ร้านอาหารบนเกาะและขู่เจ้าของร้านให้เอาอาหารมาให้พวกเขา ถ้าไม่ยอมเอาอาหารมาให้พวกเขาพวกเขาจะฆ่าเขาทิ้งซะ
“ ให้อาหารพวกเราทั้งหมดหรือไม่ก็เราฆ่าพวกแกทั้งหมด!”
พวกโจรสลัดเปล่งเสียงอันดุเดือดไปที่บริกรและเจ้าของ
พวกเขาได้นำอาหารมาให้อย่างรวดเร็วและพวกเขาก็ได้กินอาหารกันซักที
หลังกินจนอิ่มแล้วโจรสลัดก็ถอนหายใจออกมาและปรากฏความพึงพอใจบนใบหน้าของพวกเขา
“ โอ้ดีจัง!”
“ ไอ้บ้านั่นมันไม่ยอมให้พวกเรากินอะไรตั้งหลายวันจนเกือบจะตายอยู่แล้ว”
“ ครั้งต่อไปที่เจอไอ้บ้านั่นพวกเราต้องฆ่ามันให้ได้!”
โจรสลัดบ่นออกมา แต่ก็ยังมีความหวาดกลัวอยู่ในสายตาของพวกเขาดังนั้นมันจึงเป็นเพียงแค่การระบายเท่านั้น พวกเขาไม่เต็มใจที่จะต้องไปเจอกับไอ้เด็กบ้านั้นเป็นครั้งที่สองในชีวิตของพวกเขา
หลังจากที่พวกเขาบ่นเมื่อพวกเขาอยู่ตรงกลางผ่านอาหารของพวกเขา ทันใดนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยเสียงเบาๆ
“ไอ้พวกสารเลวพวกแกมาจากไหน?”
“ฮืมมม!?”
พวกโจรสลัดตื่นขึ้นมาในทันที และได้หันไปมองที่ชายที่ดูแข็งแกร่งคนนั้น
ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมสีดำคลุมร่างกายและใบหน้าของเขา เสียงของเขานั้นทุ่มและจริงจัง มีบรรยากาศลึกลับบางอย่างแผ่ออกมาจากตัวเขา
“แกเป็นใคร?” พวกเขาตะโกน
พวกเขาไม่กล้าพูดถึงโรแกนเพราะเขาขู่พวกเขาเอาไว้ว่าถ้าพวกเขาพูดอะไรเกี่ยวกับตัวเขา เขาจะกลับมาฆ่าพวกเขาทั้งหมด
“ฉันเป็นใคร?”
ชายหนุ่มเสื้อคลุมดำหัวเราะออกมา เขาไม่ได้ตอบคำถามของพวกโจรสลัด แต่ได้กล่าวด้วยเสียงเบา ๆว่า
“ เขาไม่ได้อยู่กับพวกแกเป็นคนที่รอบคอบจริงๆหมอนี้แตกต่างจากคนอื่น ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ฉลาดมาก”
ขณะที่เขาพูดเขาก็ได้ยืนขึ้นมาอย่างช้าๆในตอนนี้พวกโจรสลัดค้นพบว่าความสูงของเขานั้นสูงกว่าสองเมตรเขาดูแข็งแรงและมีบรรยากาศที่กดขี่เป็นอย่างหนัก
ชายคนนั้นถอดเสื้อคลุมออกจากหัวของเขา และมันก็ทำให้พวกเขาได้เห็นรอยสักสีแดงบนใบหน้าของเขา
“ ฉันเป็นพลเรือตรีของกองทัพเรือ,มังกี้ ดี ดราก้อน!”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ อย่างไรก็ตามใบหน้าของโจรสลัดได้เปลี่ยนไปในทันทีพวกเขายังไม่ทันได้ชักดาบของพวกเขาออกมาพวกเขาก็ได้ล้มลงไปในทันที
หลังจากนั้นไม่นานทหารเรือซึ่งซุ่มอยู่ข้างนอกก็รีบเข้ามาแล้วได้เล็งปืนไปที่พวกโจรสลัด
ในความเป็นจริงในวันนั้น วันที่โรแกนได้หลบหนีจากดราก้อนไปได้และเขาก็ไม่รู้เรื่องนี้จนกระทั่งเขามาถึงตำแหน่งของเรือสินค้าและได้เห็นว่ามันกำลังจมลงไปใต้ท้องทะเล
ในตอนนั้นเขาก็นึกถึงพวกกลุ่มโจรสลัดไซเดอร์ในทันที
มันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับทหารเรือฝึกหัดที่จะเข้าใจ แต่ในกรณีที่เป็นทหารเรือระดับสูงนั้น พวกมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายในทันที ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็รู้ตำแหน่งของกลุ่มโจรสลัดไซเดอร์ได้แล้ว
หลังจากที่ได้สอบถามสั้น ๆ ดวงตาของดราก้อนก็กระพริบและยิ้ม
“ ใช่แล้ว,โรแกนอยู่บนเกาะที่อยู่ใกล้ๆกับที่นี่”
“ ใช่แล้วครับท่านพลเรือตรี!” พวกโจรสลัดพูด
“ พลตรีดราก้อนคุณต้องการให้เราเริ่มค้นหาเขาทันทีเลยไหมครับ?” โอซากิถาม
“ฮ่า.”
ดราก้อนยิ้มและได้ไตร่ตรองบางอย่างและพูดว่า
“ ไม่ต้อง,ฉันคิดว่าเด็กนั้นคงจะหนีไปแล้ว”
“ไม่ใช่เด็กสิ,โรแกน!”