The Overlord of Blood and Iron - ตอนที่ 62: คังชอลอินปะทะราชันย์คลั่ง
ตอนที่ 62: คังชอลอินปะทะราชันย์คลั่ง
เอลิซาเบธถลึงตาจ้องมองด้วยความโกรธหลังได้ยินคําสบประมาทจากคังชอลอิน
“ห้ะ?”
หากดวงตาของคนเราสามารถใช้ความโกรธที่มีมาเป็นพลังสังหารได้ปานนี้คังชอลอินคงได้จบสิ้นชีวิตของเขาไปแล้ว
“ได้ ข้าจะสู้กับเจ้า” เอลิซาเบธยอมรับต่อคําท้าด้วยความเดือดดาล
ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยความโกรธจนน่ากลัว ทหารของโดราโด้พากันถอยห่างออกไปไกลโดยสัญชาตญาณ
“พวกเจ้าจงมีสติกับส่วนที่เหลือของการสู้ให้ดี”
คังชอลอินออกคําสั่งด้วยท่าทีสงบ
“ปล่อยให้ตรงนี้ข้าจัดการเอง”
สิ้นคําพูดคังชอลอินก็เริ่มเดินเข้าหาเอลิซาเบธอย่างช้า ๆ
“ตายซะ!”
เอลิซาเบธเป็นฝ่ายเริ่มเปิดการโจมตี
ฝับบบ…!”
นางพุ่งตัวเข้ามาพร้อมดาบพิฆาตที่เคลือบไปด้วย“มานาไฟ”สีแดงฉาน
เครั้ง!
ดาบของพวกเขาปะทะชนกันและได้สร้างผลกระทบที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น
“อีก…”
คนที่พ่ายแพ้ต่อแรงกดดันในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ก็คือเอลิซาเบธ นางถูกกระแทกกลับอย่างแรงจนดาบเกือบจะหลุดลอยออกไปจากมือ
พวกเขาเพียงปะทะคมดาบกันเท่านั้นแต่กลับสามารถส่งผลกระทบเข้าถึงมือนางเพื่อจะแยกนางออกจากดาบได้
“เจ้า…แข็งแกร่ง”
นางหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะที่เลือดพุ่งพรวดออกมาจากปาก
ดวงตาของนางกําลังแสดงถึงความบ้าคลั่งที่นางเป็นรวมถึงตัวของนางที่ตอนนี้ดูคลั่งจนแทบไร้สติอย่างมาก และด้วยเหตุนี้แรงแค้นในการต่อสู้ของนางก็ได้ถูกยกระดับให้สูงขึ้น
“น่ารําคาญ”
เมื่อมองไปที่คังชอลอิน นางได้ตระหนักว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ารําคาญและยากลําบากที่จะโค่นล้มลงได้
“พวกคนบ้าที่กําลังคลั่งอย่างมากคือคนที่น่ารําคาญที่สุดในการต่อสู้” คังชอนอินคิด
คนประเภทนี้จะไม่คิดเกรงกลัวต่อสิ่งใดและจะทําทุกทางเพื่อให้การโจมตีของพวกเขาเต็มไปด้วยความน่ากลัวและอันตราย
พวกเขาไม่คิดมุ่งเน้นเรื่องการป้องกันและจะทําแค่เพียงโจมตีใส่เท่านั้น เป็นกลุ่มคนที่น่ารําคาญมากที่สุดที่ต้องต่อสู้ด้วย
“นี่ นางหัวเหลือง” คังชอลอินกล่าวเรียกนางพลางจ้องมองด้วยสีหน้าไม่พอใจ
แม้นางดูจะมีพรสวรรค์ที่หาตัวได้ยากรวมถึงพลังที่ไม่คาดคิดจากการมองห่าง ๆ แต่สําหรับเขาแล้วในตอนนี้นางไม่ได้ต่างอะไรกับหญ้าที่มีต้นสีเหลืองอ่อน
นางเป็นเพียงปีศาจที่มัวเมาไปกับเลือดและสงคราม สําหรับทั้งชอลอินแล้วนางไม่ได้ต่างอะไรไปจากเศษขยะเท่าไหร่นัก
นางคือราชันย์ที่กําลัง “ทารุณศักยภาพ” ของตัวเองและคิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดโดยการพึ่งพาความชํานาญพิเศษที่มีอยู่ติดตัว
เดิมที่เขาคิดจะให้นางมาอยู่ภายใต้ความดูแลหากนางเป็นนักสู้ที่ดีและเหมาะสม แต่ตอนนี้เขาคิดว่านางเป็นเพียงปลาเน่า ๆ ตัวหนึ่งที่ต้องรีบกําจัด
“ตายซะ!”
คราวนี้เป็นคังชอลอินที่วิ่งพุ่งเข้าหานางก่อน
เครั้ง!
และเมื่อใบดาบทั้งสองได้ปะทะชนกัน
ขณะที่ใบดาบของพวกเขาปะทะกัน คังชอลอินได้เตะเข้าที่เข้าของนางจนทําให้เอลิซาเบธต้องลอยถลาออกไปไกลถึงสิบเมตรก่อนจะตกลงสู่พื้น
แต่เขายังไม่ยอมหยุดแค่เพียงเท่านั้น
“ขยะแบบเจ้าไม่สมควรได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไป”
นั่นคือสิ่งที่เขาคิดกับนางอยู่ในตอนนี้
คังชอลอินวิ่งเข้าหาเอลิซาเบธอีกครั้งโดยหมายจะใช้ “พอนโทแทงทะลุไปที่ลําตัว
“ย่าาาาห์!!”
เอลิซาเบธกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่นางพยายามหลบการโจมตีจากคังชอลอินโดยการกลิ้งตัวไปบนพื้นที่เปื้อนเลือดแต่ถึงกระนั้นใบดาบของคังชอลอินก็ได้เลื่อนเข้าเส้นผมนางจนนั่น
“หึหึ ๆ ๆ ๆ”
นางกลับมาลุกขึ้นยืนเหมือนปีศาจอีกครั้งพร้อมส่งเสียงหัวเราะอยู่ในลําคอ สายตาที่นางจ้องมองมาดูน่ากลัวยิ่งกว่าเก่า คังชอลอินเหลือบตามองด้วยความไม่พอใจ
“เจ้า…แข็งแกร่ง..แต่….”
เอลิซาเบธพูดด้วยน้ําเสียงหดหู
“หนึ่งเดียวที่ครองสนามรบแห่งนี้คือข้าแข้า! ข้าเท่านั้น!”
“จงตายซะ!!”
เอลิซาเบธวิ่งเข้าหาคังชอลอินด้วยความเร็วที่ยากจะติดตามได้ มันเป็นความเร็วที่เร็วยิ่งกว่าการโจมตีทั้งหมดที่ผ่านมาของนางพร้อมกับการเหวี่ยงดาบด้วยความคลั่ง
หากให้อธิบายกระบวนดาบสั้น ๆ มันไร้ทั้งเชิงและทักษะไปโดยสมบูรณ์เหลือแต่เพียงการลงดาบที่บ้าคลั่งและไร้ทิศทาง แต่แม้ความแม่นยําจะลดลงแต่พลังและความเร็วที่อยู่เบื้องหลังของการลงดาบแต่ละครั้งนั้นสามารถทําให้คังชอลอินรู้สึกถึงอันตรายที่เป็นภัย
“การอาละวาดแบบนี้ ?”
คังชอลอินพึมพําราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก
มันคือ “ความเดือดดาล” ของมานาที่อยู่ในใจนางซึ่งกําลังทําปฏิกิริยากับความบ้าคลั่ง มันเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปสําหรับคนที่มีพลังเช่นพวกเขาทั้งสองแต่มันจะทําให้สภาพจิตใจไร้ซึ่งความมั่นคงไปโดยสิ้นเชิง
เอลิซาเบธได้กลายเป็นคนคลั่งอย่างแท้จริงแล้วในตอนนี้ นางเป็ นดั่งสัตว์ประหลาดที่จ้องแต่จะฆ่าศัตรูของนางเพียงเท่านั้น
ทันใดนั้นนางก็พุ่งตัวเข้ามาเพื่อลดระยะห่างระหว่างพวกเขา ก่อนจะเล็งปลายดาบไปที่เอวของคังชอลอิน
“อันตราย!”
เขาคาดการณ์อย่างใจเย็นถึงการโจมตีที่กําลังเข้ามา
พ้าว!
จากนั้นก็ตอบโต้การโจมตีที่น่ากลัวของนางกลับไป
“อ้ากก!!”
เอลิซาเบธถูกกระแทกจนร่างลอยออกไปอีกครั้ง ละอองเลือดจากตัวนางฉีดพ่นข้ามพื้นดินไปทั่ว นางถูกโจมตีอย่างสาหัส
“ถึงเวลาติดตาม”
คังชอลอินไล่ตามนางที่กําลังนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลริน
หากต้องต่อสู้กับคนที่บ้าบินหรือบ้าคลั่งเอามาก ๆ มันเป็นสิ่งสําคัญที่จะต้องพยายามจบการต่อสู้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
แม้จะมีเลือดออกแต่สําหรับคนที่บ้าคลั่งแล้วเลือดเป็นเหมือนตัวเพิ่มพลังชั้นดีและจะยิ่งทําให้นางแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเมื่อการต่อสู้ยังคงดําเนินต่อไป
ความคลั่งที่เกิดขึ้นเป็นการดํารงอยู่ในการต่อสู้หากพวกเขามีสุขภาพหรือมานาที่เหลือน้อยจนแทบไม่พอใช้งาน มันเป็นเหมือนกับเปลวไฟที่ต้องการเผาไหม้จนกว่าทุกอย่างจะฉิบหายอย่างถึงที่สุดก่อนที่ไฟจะดับมอด
“เล็งไปที่หัวใจ”
คังชอลอินได้ลดระยะห่างของพวกเขาเพื่อใช้พอนโทแทงเข้าที่หัวใจของนางผู้หญิงที่บ้าคลั่ง
เนื่องด้วยผลกระทบของไอเทมที่เขาใช้ ความเร็วของมันจึงเทียบเท่าได้กับสายฟ้าผ่า
แต่ในขณะนั้นเอง… ได้มีอัศวินนายหนึ่งวิ่งเข้ามาขวางระหว่างทางของพวกเขาเข้าเสียก่อน
“อึกก…”
ใบดาบแทงผ่านตัวอัศวินแทนเอลิซาเบธ
“คะ- แค่ก ๆ” อัศวินพ่นเลือดเพราะแรงช้ำภายในร่างกาย
“องค์ราชันย์….จะต้องได้รับการคุ้มครองโดยอัศวิน”
และในขณะนั้นเอง
“กล้าดีอย่างไร?!”
“คนที่หาญกล้าหมายจะเอาชีวิตองค์ราชันย์ของพวกเรามันต้องตาย!!”
“อัศวินสิงห์ขาว” คืออัศวินชั้นยอดของเครต้า พวกเขาได้รีบพุ่งตัวเข้าหาคังชอลอินเพื่อปกป้องราชันย์ตัวเองในทันใด
“หึ…กองกําลังที่ยอดเยี่ยม”
คังชอลอินชื่นชมอัศวินของศัตรูด้วยใจจริง แม้จะมีอันตรายแต่คนพวกนี้ก็ยังกล้าวิ่งเข้ามาในสนามรบที่วุ่นวายเพื่อช่วยชีวิตของเอลิซาเบธ
แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าการช่วยให้เอลิซาเบธที่กําลังบ้าดีเดือดอยู่นั้นให้อยู่รอดปลอดภัยต่อไปจะคุ้มค่ากับชีวิตหรือไม่แต่พวกเขาก็ยังพยายามทําตัวให้สมกับชื่ออัศวินของดินแดน
คังชอลอินมอบคะแนนที่ดีให้แก่พวกเขาเป็นอย่างมาก
คนที่เสี่ยงชีวิตของตัวเองในสถานการณ์แบบนี้ควรได้รับการยกย่อง ไม่ว่าเหตุผลในการเข้าร่วมสงครามนั้นจะเป็นเพราะหน้าที่หรือความภักดีก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตาม …
ที่นี่คือสนามรบ ความเคารพในตัวของศัตรูและการถูกรบกวนจากอัศวินที่เข้ามาขวางทางเขาจากการฆ่าศัตรูเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป
ซึ้ง!
อัศวินที่ขวางทางคังชอลอินถูกผ่าร่างออกเป็นครึ่งหนึ่ง
“ออกไปให้พ้นทางข้า”
คังชอลอินกล่าวเตือนพวกเขาด้วยเลือดที่กระเซ็นมาโดนใบหน้า
“พวกเจ้าคิดที่จะสูญเสียชีวิตอันมีค่าของพวกเจ้าเพียงเพื่อช่วยชีวิตขยะนี่นะหรือ?”
มันเป็นความสงสารและความเมตตาต่อผู้ที่เขาคิดว่าสมควรจะได้รับ
“…”
“….”
สิงห์ขาวไม่สามารถตอบคําถามของเขาได้
แม้กระทั่งในสายตาของพวกเขาเอง เอลิซาเบธตอนนี้ได้กลายเป็นคนคลั่งอย่างแท้จริงเช่นกัน
ดวงตาสีแดงฉานที่ม่านตาเป็นสีดําสนิท ปากที่ฉีกขาดจนผิดลักษณ์ปกติในขณะที่ใบหน้าก็บิดเบี้ยวจนน่าประหลาด
ราชันย์แห่งเครถ้าไม่มีอยู่ที่สนามรบนี้อีกต่อไป จะมีก็แต่เพียงปีศาจเลือดที่บ้าคลั่งอยู่เท่านั้น
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ก๊าก ๆ ๆ ๆ”
เอลิซาเบธ ไม่ใช่… คนคลั่งกําลังหัวเราะด้วยความบ้าคลั่งขณะรู้สึกถึงความปั่นป่วนของมานาที่อยู่ภายในร่างกาย
นางแข็งแกร่งขึ้นแล้วอย่างแน่นอน
แม้ในภายภาคหน้านางจะพิการเพราะพลังในตอนนี้หรือไม่อย่างไร แต่ในตอนนี้นางจะเต็มไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ง
เมื่อราคาที่จะได้กลายเป็นผู้มีอํานาจมีค่าใช้จ่ายสูง นางจึงต้องใช้กําลังทั้งชีวิตของนางเพื่อให้ได้มันมา
“ฆ่า…ต้องฆ่า…”
เอลิซาเบธเริ่มกรีดร้อง
“แต่…”
คนที่ดูเหมือนจะผู้นํากลุ่มอัศวินได้ก้าวออกมา
“ไม่ว่าจะอย่างไร อัศวินก็ต้องปกป้องผู้เป็นนายของตัวเอง”
แม้จะได้รับคําเตือนจากคังชอลอินแต่อัศวินก็ไม่คิดขยับออกไป ไหน
“เจ้าควรออกไปให้พ้นทางข้าเสียจะดีกว่า”
นี่คือความจริงใจที่เขาจะสามารถมอบให้ได้อีกครั้ง คนพวกนี้ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับสเลจน์ที่จะต้องไร้ความปราณี
“หึ…”
คังชอลอินฉาบรอยยิ้มบิดเบี้ยว
ทําไมอัศวินเหล่านี้ถึงต้องมาเป็นลูกน้องของผู้หญิงที่บ้าคลั่งอย่างนี้ด้วยกัน?
หากอัศวินกลุ่มนี้ได้อยู่ภายใต้การรับใช้จากเขา เขาจะปฏิบัติต่ออัศวินกลุ่มนี้เป็นอย่างดี แต่การคิดว่าเขาจะต้องมาสังหารอัศวินที่เขาต้องการในการต่อสู้แบบนี้ด้วยแล้ว … มันไม่ชวนให้เขารู้สึกดีเท่าไหร่นัก
“เช่นนั้นข้าก็ไม่มีทางเลือก”
เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริง ๆ
“อย่ามาโทษข้าทีหลังก็แล้วกัน”
เขาจําเป็นต้องฆ่า
“ขวางทางเขา!”
หัวหน้าอัศวินตะโกนเพราะคังชอลอินที่รีบวิ่งพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา
“โอ๊ย!”
อัศวินที่อยู่ใกล้ที่สุดกับคังชอลอินร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เลือดของเขาสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่
“อย่าเข้าสู้เพียงลําพัง ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป!”
อัศวินตรงหน้าจัดรูปแบบการต่อสู้ใหม่ในทันทีเนื่องจากตระหนักได้ว่าพวกเขาจะตายแน่หากพวกเขาแยกออกจากกันจึงตัดสินใจรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อต่อต้านเขาแทน
“ฮ่า ๆ .. ฮ่า ๆ ….”
ขณะนั้นเองก็ได้มีบางสิ่งเกิดขึ้น เอลิซาเบธพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักและเข้าถึงจุดเดือดของความเดือดดาล
แคร่ก…แคร่กก!!
ดาบของเอลิซาเบธถูกเคลือบไปด้วยมานาไฟที่มอบพลังงานอันทรงพลังเฉกเช่นลิ้นงู
“ที่นี่คือดินแดนของข้า…นี่คือการต่อสู้ของข้า… คิ ๆ ๆ”
เอลิซาเบธที่น่ากลัวได้เหวี่ยงตัวเข้าหาคังชอลอินเหมือนหนังยางพลังออร่าสีแดงดังโลหิตไหลออกมาจากร่างของนางจนท่วมตัว
ด้วยเสียงตะโกนร้อง นางเลิ้งดาบไปที่คังชอลอินและกระแทกเข้าที่ด้านซ้ายลําตัวของเขา
แคร้ง!
ด้วยเสียงที่ดังยิ่งกว่าการยิงกระสุนออกจากปืนใหญ่ คังชอลอินถูกผลักกลับจนถอยหลังไปประมาณสองเมตร
คังชอลอินที่ไม่เคยแพ้ในแง่ของพลังมาก่อนถูกแรงกระแทกดันจนต้องถอยหลังกลับ
พร้อมกับความน่าประหลาดใจอย่างมากที่ฝ่ามือของคังชอลอินมีเลือดไหลออกมา ฝ่ามือของเขาเกือบถูกฉีกขาดได้สําเร็จจากแรงทําลายของเอลิซาเบธในครั้งนี้
“ตายซะ ตายซะ จงตายซะ!!!”
เอลิซาเบธไล่ล่าและเริ่มโจมตีเขาอย่างบ้าคลั่ง
“ตอนนี้แหละ โจมตีได้!”
เมื่อตระหนักได้ว่านี่แหละคือโอกาสทองของพวกเขา อัศวินสิงห์ขาวก็ได้เคลื่อนไหวเพื่อเข้ามาปกป้องเอลิซาเบธโดยล้อมรอบตัวนางขณะเดียวกันก็พุ่งเป้าโจมตีไปที่คังชอลอิน
อัศวินยี่สิบกว่านายและเอลิซาเบธกําลังต่อสู้กับคังชอลอินที่อยู่เพียงลําพัง
แคร้ง!
ใบดาบของคังชอลอิน เอลิซาเบธและอัศวินปะทะเข้าหากัน
และอย่างช้า ๆ คังชอลอินถูกผลักจนถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว, สองก้าวจนเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเขาจะสามารถทําลายเอลิซาเบธได้อย่างแน่นอนในการเผชิญหน้ากันแบบตัวต่อตัว แต่สําหรับอัศวินจํานวนมากมันได้สร้างความแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง แม้แต่คังชอลอินผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังรู้สึกถูกคุกคามด้วยพลังของจํานวนที่มากกว่า
“ราชันย์! ตอนนี้ท่านควรหลบหนี!!”
ผู้นําอัศวินแนะนําให้นางไปซ่อนตัวเพื่อพักฟื้นก่อนแทนการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม…
“อ้ากกกกก!!”
ทั้งหมดที่พวกเขาได้รับกลับมาคือเสียงกรีดร้องของปีศาจ
“ราชันย์ของพวกเราสูญเสียสติจนหมดสิ้น!”
ขณะนั้นเอง ผู้นําอัศวินก็ได้ตระหนักว่าเอลิซาเบธได้เริ่มต้นเส้นทางที่ไม่อาจหวนกลับคืนมาได้อีกครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถอยกลับออกไปได้เช่นกัน
มันคือการต่อสู้แบบหนึ่งต่อกลุ่ม เป็นการต่อสู้ระหว่างคังชอลอินและดินแดนเครต้า เกือบทั้งหมดบนสนามรบได้หันมาให้ความสนใจกับการต่อสู้ของพวกเขา
เอลิซาเบธที่บ้าคลั่งซึ่งกําลังเดือดดาลเกือบจะทรงพลังเทียบเท่าได้กับคังชอลอิน อีกทั้งกลุ่มอัศวินสิงห์ขาวเองก็ยังกดดันเขาได้ด้วยทักษะที่น่าประหลาดใจ
“ย้ากกก!”
ตอนนี้เอลิซาเบธได้กลายเป็นปีศาจโดยสมบูรณ์แล้ว
ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเลือดจากการกลิ้งไปมาบนพื้นที่ผสมรวมกับเลือดของนางยิ่งทําให้นางดูเหมือนปีศาจเลือดเข้าไปใหญ่
เอลิซาเบธที่กําลังตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้กลายเป็นภัยคุกคามต่อคังชอลอินโดยสมบูรณ์ ผู้เข้าชมทั้งหลายกําลังมองดูคังชอลอินที่ถูกผลักกลับและกระวนกระวายใจจนอยากจะเข้าร่วมสู้ด้วยในครั้งนี้
“องค์ราชันย์!”
“ท่านผู้นํา!”
ทั้งโพดอลส์ บิลลี่และนักผจญภัยอีกสามสิบคนที่ติดตามมาต้องการเข้าร่วมวงเพื่อช่วยให้คังชอลอินสามารถผ่อนแรงจากการปะทะในครั้งนี้ได้
แต่คังชอลอินไม่คิดต้อนรับการช่วยเหลือของพวกเขา
“อย่าเข้ามา”
คังชอลอินบัญชาการสั่งพวกเขาก่อนจะเหวี่ยงดาบออกแล้วถอยหลังกลับ เขาไม่ได้พูดกับคนที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือหากแต่เป็นการพูดกับศัตรู
“เฮ้อ ทําไมพวกเจ้า”
คังชอลอินก้าวไปข้างหน้า
“จริง ๆ เลย…”
ทันใดนั้นร่างกายของคังชอลอินก็เปล่งประกายด้วยรัศมีไร้รูปร่างที่ซึ่งปรากฏขึ้นรอบตัวและได้สร้างความกดดันให้กับโดยรอบได้เป็นอย่างดี
พรึ่บ ๆ พรึ่บ ๆ !
ประกายไฟบินว่อน
“ต้องทําให้ใครสักคนโกรธถึงเพียงนี้เชียว?”
คังชอลอินขว้างดาบพอนโททิ้งลงพื้น
พอนโทที่สูญเสียความคมชัดไปบ้างในระหว่างการปะทะกําลังกลิ้งอยู่บนพื้นไปในตอนนี้
ด้วยดาบที่ไร้ความคมเช่นนี้แล้วเขาจะไม่สามารถต่อสู้กับเอลิซาเบธได้ดีอีกต่อไป ดูเหมือนว่าการใช้หมัดของเขาโดยตรงดูจะดียิ่งเสียกว่า
“พวกเจ้าทุกคน…”
คังชอลอินพูดพลางหัวเราะ
“จงเตรียมตัวให้พร้อมสําหรับการทุบตีในครั้งนี้”
จากนั้นเขาก็เคลื่อนตัวเข้าหาศัตรูด้วยกําลังหมัดทั้งสองข้างพร้อมเปิดใช้งานทักษะเต็มพิกัด