ตอนที่ 28 บททดสอบเเรก
” โครงสร้างร่างกายทุกส่วน รวมเข้าหากันเป็นจุดศูนย์กลางอย่างสมบูรณ์เเบบ “
เรย์พูดสิ่งที่ตัวเองมองเห็นพร้อมกับมองตัวอักษรข้อความที่สลักไว้รอบๆ ของภาพนั้น
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนเเอเเต่ทรงปัญญาเเละพัฒนาการมาอย่างเรื่อยๆ ผ่านการวิวัฒนาการทางด้าน ความคิด สติปัญญา เเละ สิ่งต่างๆ ทำให้มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เเข็งเเกร่งจากการเรียนรู้ จนสามารถเรียนรู้ ศาสตร์ที่ซับซ้อนออกมาผ่านการคิดค้นเเละสรรค์สร้างด้วย
ร่างกายในทุกส่วนโดยใช้สมองที่เป็นกลไกหลักในการควบคุมสิ่งต่างๆ เเละหัวใจที่เป็นกลไกหล่อเลี้ยงร่างกายให้คงอยู่ มนุษย์พัฒนาสิ่งต่างๆ ออกมาได้อย่างมหัศจรรย์ ศาสตร์เเห่งเวทมนตร์ ศาสตร์เเห่งออร่า เเละสิ่งศาสตร์ต่างๆ ที่ไม่อาจรู้
” ร่างกายงั้นหรอ “
เรย์พูดพร้อมกับคิดบางอย่างออก
เรย์ได้หลับตาเเละสัมผัสถึงมานาของตัวเอง
” มานามันไม่ได้ถูกปิดกั้นโดยสมบูรณ์เเต่ถูกสกัดเอาไว้ด้วยบางอย่าง “
” ภาพสลักนั่นคือคำใบ้บางอย่างในการเปิดประตู “
เรย์พูดพร้อมกับค่อยๆ เดินไปหน้าประตูอย่างใกล้ๆ
ประตูที่ใหญ่นับสิบเมตรเเละโครงสร้างของประตูที่มีเส้นต่างๆ เหมือนกับเส้นเลือดใหญ่ที่คล้ายคลึงกับเส้นเลือดรอบๆ หัวใจมนุษย์ที่เลื้อยไปทั่วเเละมีจุดจบของเส้นต่างๆ อยู่บริเวณใจกลางของประตู เเละ อักษรทั้ง 5 จุดรอบประตูที่รวมเป็นประโยคบางอย่าง
” ประตูเเห่งเทรทีเรีย “
” เทรทีเรีย งั้นหรอ.. “
เรย์รู้สึกสงสัยถึงที่มาของตัวอักษรเเละชื่อที่เเปลกประหลาด
” เอาเถอะ คิดไปตอนนี้ก็ไม่ได้อะไร “
เรย์เดินเข้าไปใกล้ประตูพร้อมใช้มือเเตะบริเวณประตูเเต่ที่เเปลกคือประตูนั้นเหมือนเป็นประตูที่มีการต่อต้านมานาอยู่เล็กน้อย
” ไม่ลองก็คงไม่รู้ “
เรย์ค่อยๆ ส่งเเรงไปยังบริเวณขาหน้าเเละใช้เเขนในการผลักประตูไปข้างหน้าอย่างสุดเเรงพร้อมกับใช้ร่างกายทุกส่วนในการขับเคลื่อนเเรงไปยังข้างหน้าสุดความสามารถ
” ครืดดด “
เรย์ผลักประตูสุดเเรงเเต่ผลที่ได้คือตัวของถูกผลักออกเเทนที่จะเป็นประตู
” ..ประตูมันไม่ขยับเเม้เเต่นิดเดียว “
เเม้ว่าเรย์จะใช้เเรงทั้งหมดเเล้วก็ตามประตูยักษ์ก็ไม่มีทีท่าที่จะเปิดออกเลยสักนิด
เรย์พยายามคิดวิธีที่จะเปิดประตูเเต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปิดด้วยเเรงกายภาพล้วนๆ
เรย์พยายามเคลื่อนย้ายมานาเเบบปกติก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อใดที่เรย์ได้ค่อยๆ เคลื่อนย้ายมานาจากหัวใจมานาของเรย์ก็สลายหายไปในทันที
” มานามันใช้งานได้เเต่วิธีการใช้มันไม่ถูกงั้นหรอ “
เหมือนในตอนนี้นั้นเรย์พยายามทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น มานาของเรย์ที่เคลื่อนออกมาจากจุดศูนย์กลางนั้นเป็นมานาที่เคลื่อนที่ออกอย่างธรรมดาเลยถูกสลายออกโดยง่าย
ในการปลดปล่อยพลังเวทย์หรือการใช้เวทมนตร์ผู้ใช้จะเคลื่อนย้ายมานาด้วยร่างกายจากหัวใจไปยังเเขนเเละเเสดงผลด้วยคำร่ายหรือจิตนาการหรือการใช้เวทย์ตามศาสตร์เเห่งเวทย์ในด้านต่างๆ ถ้าเปรียบเทียบ นั้น มนุษย์จะค่อยๆ เคลื่อนย้ายมานาจากจุดกลาง เหมือนกับน้ำในเเอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ค่อยๆ ไหลไปตามร่องน้ำเล็กๆ ผ่านการเคลื่อนที่หรือเคลื่อนย้ายมานา
เเต่ในตอนนี้นั้น มานาที่เคลื่อนที่ออกมาก็ถูกอะไรบางอย่างมากันร่องของมานาเอาไว้เพื่อไม่ให้ออกไปเเละสลายมานาทิ้งออกไป
” ข้าต้องทำยังไงถึงจะใช้มานาได้ “
เรย์นั้นรู้ว่าประตูนั้นไม่สามารถเปิดได้ด้วยเเรงกายภาพอย่างเเน่นอนเเละมันต้องมีวิธีเปิดเเละคำใบ้ที่อยู่บนผนังด้านบนที่บ่งบอกอะไรบางอย่าง
” รูปภาพนั้นคือศาสตร์เเห่งการใช้เวทมนตร์ “
เรย์ได้สังเกตกระบวนการต่างๆ ในการเชื่อมโยงจุดต่างๆ เข้าด้วยกัน
” เเต่ทำไมถึงไม่สามารถใช้มานาได้ “
” หรือมันจะมีวิธีการใช้ของมัน “
เรย์ได้ครุ่นคิดพร้อมกับนั่งลงกลางภาพจิตกรรมฝาผนังนั่น
เรย์จ้องมองภาพบนฝาผนังซ้ำเเล้วซ้ำอีกเเละสังเกตให้ทั่วบริเวณเเผ่นจิตกรรมฝาผนังรอบตัวรูปภาพของโครงสร้างมนุษย์มีบางอย่างที่เหมือนกันเเหล่งพลังต่างๆ ที่มอบพลังให้เเก่มนุษย์
” ต้นกำเนิดพลัง “
นั่นคือนิยามของเหล่าต้นกำเนิดพลังเเละ ภายในตัวเราก็คือต้นกำเนิดนั่นก็คือมานา
ในโลกใบนี้นั้นผู้ที่ใช้เวทมนตร์ได้นั้นถือเป็นเรื่องปกติ เเต่ทว่าการใช้เวทมนตร์ของเเต่ละคนนั้นจะเหมือนๆ กันคือการหยิบยืมพลังจากธรรมชาติ
ในการใช้ชีวิตปกติหรือเเม้กระทั่งต่อสู้ก็นำเวทมนตร์มาประยุกต์ใช้เเละการต่อสู้ระยะประชิดต่างๆ ทำให้มนุษย์เป็นเผ่าพันธ์ที่เเข็งเเกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ทศวรรษ
” การหมุนเวียนพลังเวทย์เเละการขับเคลื่อนพลังเวทย์ “
” ข้าต้องหมุนเวียนพลังเวทย์ในร่างกายให้ถูกวิธี “
เรย์พูดพร้อมกับจ้องมองภาพจิตกรรมฝาผนังนั้นซ้ำๆ มองทุกส่วนของร่างกายจุดหมุนเวียนเเละจุดรวมเเห่งต้นกำเนิด
เรย์ค่อยๆ หลับตาเพื่อสัมผัสถึงมานาเเละค่อยๆ หมุนเวียนพลังในร่างกายอย่างช้าๆ อย่างถี่ถ้วน
” เจ้าต้องสัมผัสถึงมานาสิเรย์ ค่อยๆ กำหนดการรับรู้ทั้ง 5 ในการสัมผัสถึงเเหล่งมานารอบตัวของเจ้า นึกถึงต้นกำเนิดของพลังของเจ้า “
เสียงของเฮมีเทสเเละเรื่องราวของเธอนั้นค่อยๆ เเล่นเข้ามาในหัวของเรย์
” เฮมีเทส “
เรย์ได้สถบคำพูดออกมา
” ข้าจะตามหาเจ้าไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน “
เรย์นั้นได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าตนเองนั้นจะตามหาเฮมีเทสให้พบอีกครั้ง
” เเต่ก่อนอื่นข้าจะตามหา เฮเชล ฮาเรนเทีย “
” เเละสังหารมันซะ “
เรย์นั้นรู้ว่าเจ้าเฮเชลฮาเรนเทียนั้นได้กุมความลับบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขาเอาไว้ เหตุการณ์ในอดีตเเละความทรงจำตอนที่เรย์เกิดนั้นสูญหายไป อีกทั้งเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น
ในขณะที่เรย์คิดไปพลางๆ เรย์ก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการหมุนเวียนมานาอีกครั้ง เรย์ค่อยๆ จินตนาการถึงตัวของเขาเอง ร่างกายทุกส่วน กระดูก
เส้นเลือด อวัยวะ กล้ามเนื้อ เเละจุดหล่อเลี้ยงทั่วร่างกายนับเเสนที่ต่อกันอย่างเป็นระบบ
ในปกติของการใช้มานากลายเป็นพลังเวทย์ที่ปลดปล่อยออกมาจะใช้วิธีการ หยิบยืมพลังจากภายนอกหรือธรรมชาติโดยใช้มานาในตัวเองในการขับเคลื่อน ถ้าพูดอย่างเข้าใจง่าย
พลังรอบตัวจากธรรมชาติคือ พลังดิบ ที่อยู่รอบตัวเรา เเละมานาภายในตัวเราคือพลังที่ถูกคัดกรองเเละสะสมจากพลังดิบ ผ่านการ ดูดซับ ซึมซับ หยิบยืม หรือวิธีอื่นๆ จน ก่อเกิดเป็นพลังมานาภายในตัวเอง ซึ่งมานานั้นสามารถ ขยายบ่อมานาได้อย่างไม่มี่ที่สิ้นสุดตามความสามารถพรสวรรค์ของผู้ใช้ จนสามารถกลับกลายเป็น มหาจอมเวทย์ หรือ นักปราชญ์ ผู้ที่มีความสามารถด้านเวทมนตร์ระดับสูง
เรย์นั้นยังสงสัยถึงสถานที่ที่เรย์อยู่ตรงนี้ว่าใครนั้นเป็นผู้สร้าง เเละสร้างมาเพื่ออะไร กับหลักการทางเวทย์มนตร์ที่เหมือนเป็นเเบบทดสอบผู้ที่เข้ามา
” คิดไปก็ไม่ได้อะไร “
ในขณะที่เรย์พูด ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ก็เริ่มทำงาน การมองเห็น การดมกลิ่น การได้ยิน การสัมผัส รสสัมผัส
มองเห็นภายในตัวเอง เเละกลิ่นของเเหล่งพลังมานาหรือธาตุต่างๆ การได้ยินเสียงจากต้นกำเนิด สายน้ำลำธาร การสัมผัสที่สัมผัสถึงสิ่งภายในตัวเเละรอบตัว เเละรสสัมผัสที่สัมผัสถึงรสชาติ เเม้ในสัมผัสรสชาตินั้นจะไม่สำคัญมากเเต่ก็เป็นกระบวนการที่ช่วยในประสาทสัมผัสทั้งหมด
” มันไม่ง่ายเลย “
เเม้ว่าเรย์จะเคยทำมาเเล้วเเต่การทำอย่างช้าๆ อย่างละเอียดอ่อนนั้นก็ยังยากอยู่ดี
เรย์ค่อยๆ การสัมผัส สัมผัสถึงเเหล่งมานาภายในตัวเอง
” อีกนิด อีกเเค่นิดเดียว.. “
เรย์สัมผัสเเละใช้การมองเห็นโฟกัสเข้าไปภายในจุดภายในสุดของมานาของตัวเอง ภายในเบื้องหน้าในจิตใจเรย์ค่อยๆ มองเห็นเเหล่งมานาเเละต้นกำเนิดพลังภายในร่างกายของตัวเอง
” ฟิ้วว “
เสียงของสายลมที่ค่อยๆ ดังเเว่วขึ้น ดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ ภาพร่างของต้นไม้ใหญ่เเละต้นกำเนิดพลังค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น มากขึ้นอีก
เเละค่อยๆ ปรากฎทุกสิ่งออกมาจนเห็นต้นไม้เขียวขจีที่สูงใหญ่ที่ตั้งเด่นสง่าท่ามกลางความว่างเปล่าที่มืดมิดรอบๆ ตัวของเรย์
” ดูสิใครมากันเอ่ย ” เสียงพูดเล็กบางอย่างได้ดังขึ้นมาจากต้นไม้ที่สูงใหญ่
” เสียงนี้มัน “
” วาเนสซ่างั้นหรอ ” เรย์พูดพร้อมกับหันหน้าไปมองต้นไม้ใหญ่นั้น
” ฮือ เจ้ายังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ “
” เรย์ “
หลังสิ้นสุดเสียง สายลมจากทั่วทิศทางจากความมืดมิดรอบตัวก็มีเเสงสีเขียวเเละความเย็นของลมที่พัดพามาอย่างถาถมทั่วบริเวณ ปรากฎเป็นภาพของ หญิงสาวผมสีขาวดวงตาสีเขียวสดใสเเละหูที่ยาวเเหลม เเละใส่เสื้อผ้าเป็นชุดเดรสยาวสี เขียวขจี ที่ดูงดงามเหมือนกับราชีนีเเห่งธรรมชาติ
” เจ้า “
” คือวาเนสซ่างั้นหรอ “
เรย์เอียงคอถามด้วยความสงสัยงุนงง
” ….. “
” เรย์ เจ้านี่มันน.. “
วาเนสซ่าหน้าเหวี่ยงที่เรย์นั้นไม่เชื่อว่าตนเป็นวาเนสซ่า
” เอาเถอะ เเต่ว่าเจ้าหนะไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยนะเรย์ “
เสียงของวาเนสซ่าที่พูดออกมาด้วยความเป็นห่วงที่มีความรู้สึกสบายใจอยู่ภายใน
” ในตอนที่ข้าเจอเจ้าก็คงเป็นเมื่อ 2 ปีที่เเล้วงั้นสินะ “
วาเนสซ่าพูดพร้อมมือไขว้ข้างหลังเดินไปมาพร้อมกับหมุนตัวไปมาอย่างสดใส
” เจ้าดูไม่ต่างจากตอนนั้นเลยนะเรย์ “
” ยังเป็นเด็กหนุ่มที่ดูเเข็งเเกร่งเเละมุ่งมั่นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “
” ข้าละชอบจุดนี้ของเจ้าจริงๆ “
” ข้าก็ดีใจที่ได้เจอเจ้าอีกครั้ง “
” ว่าเเต่ วาเนสซ่า เจ้าอยู่ภายในตัวข้ามาตลอดเลยงั้นหรอ “
” ใช่เเล้วล่ะ ในตอนที่เจ้าเจอกับข้าเเละทำพันธสัญญากับข้าก็เมื่อ 2 ปีก่อนเเต่ตอนนั้นข้าเป็นภูติที่อยู่ในอีกโลกนึงต่างหากละ
ในโลกของเจ้านั้นมีผู้ที่ทำพันธสัญญาก็จริงเเต่ที่ภูตินั้นปรากฎตัวขึ้นมาได้ก็เกิดจาก การเชื่อมต่อหรือเชื่อมโยงของโลกทั้งสองเเละเจ้าเป็นผู้ที่เรียกข้ามาจากโลกเเห่งนั้น “
” เเต่เจ้าหนะรู้มั้ยว่ามีเพียงเเค่ไม่กี่คนที่สามารถอัญเชิญภูติเเละทำพันธสัญญาได้ “
” ทั้งที่เจ้าพูดเเบบนั้นเเล้วทำไมเจ้าถึงยอมทำพันธสัญญากับข้าละ “
” …… ” วาเนสซ่าได้ชะงักไปชั่วคราว
” ข้าเห็นถึงพรสวรรค์ในตัวเจ้าเเละบางอย่างภายในตัวเจ้า “
” ที่เหมือนกับข้า “
เสียงของวาเนสซ่าได้พูดออกมาอย่างเบาๆ
” ในตอนเเรกนั้นข้าเเค่จะทำพันธสัญญาเเค่ให้เจ้าสามารถหยิบยืมพลังได้เเค่บางส่วนหรือบางอย่างเเต่ทว่า ข้าตัดสินใจที่จะติดตามดูเจ้าอยู่ข้างในตัวเจ้าเอง “
” ในตัวข้าอย่างงั้นหรอ… “
” ใช่เเล้วล่ะ “
” เจ้าไม่สงสัยเลยงั้นหรอว่าทำไม เจ้าถึงสามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยไม่ต้องเขียนอักขระหรือบทร่ายยาว “
” เจ้าทำเพียงเเค่ดึงพลังมานาออกมาเป็นพลังเวทย์เเละใช้คำร่ายสั้นๆ ในการสำเเดงออกมาซึ่งวิธีนั้นเหมือนกับบางอย่าง.. “
” ออร่างั้นหรอ “
” ใช่เเล้วล่ะ “
เรย์เริ่มเข้าใจเหตุผลถึงการใช้เวทมนตร์ของเรย์ว่าทำไมถึงเป็นเเบบนั้น
” ข้าจะสอนการร่ายเวทมนตร์เเบบปกติ เเละ เเบบเวทเเห่งภูติให้เจ้าก็เเล้วกัน “
” การใช้เวทมนตร์เเบบปกตินั้นผู้ใช้จะหยืบยืมพลังจากธรรมชาติหรือก็คือพลังดิบที่ ผ่านการซึมซับ ดูดซับเข้ามา ภายในตัวเเละปลดปล่อยมันออกมาโดยการใช้การเคลื่อนย้ายมานาเเละสำเเดงพลังออกมาผ่านการร่าย “
หลังสิ้นสุดคำพูด วาเนสซ่าก็ก้าวเท้าออกมาข้างหน้าพร้อมกับ ยื่นเเขนออกไปข้างหน้า
” เวทย์มนตร์เเห่งสายลมพัดพาที่โหมกระหน่ำ จงสำเเดงฤทธิ์เดช “
ในขณะที่วาเนสซ่านั้นร่ายเวทย์ วงเเหวนเวทย์ก็ค่อยๆ วาดเเละปรากฎขึ้นมาอย่างช้าๆ เเละรอบๆ วงเเหวนก็มีคำอักขระที่ค่อยๆ ประทับลงไป
” มรสุมโหมกระหน่ำ “
” ..! “
สิ้นสุดคำพูดสายลมก็ได้พุ่งออกจากวงเเหวนอักขระออกไปเป็นมรสมลมที่พุ่งกระหน่ำออกไปข้างหน้าอย่างรุนเเรง
” นี่เเหละคือเวทมนตร์ที่มนุษย์ปกตินั้นใช้กัน เเต่ความสามารถของผู้ใช้เเต่ละคนนั้นขึ้นอยู่กับระดับพลังมานาเเละความเข้าใจในศาสตร์ของเวทมนตร์ที่ซับซ้อน เเละไม่เพียงเเค่ซับซ้อนเเต่ต้องมีจินตนาการเเละสติสัมปชัญญะเเละระดับของผู้ใช้เวทย์ที่เเตกต่างกัน “
” ไหนเจ้าลองเเสดงเวทย์มนตร์ของเจ้าให้ข้าดูหน่อยสิ ว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเจ้าพัฒนาไปถึงขั้นไหน “
วาเนสซ่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเอาจริง
เรย์ได้เงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะเเสดงเวทมนตร์ให้วาเนสซ่านั้นเห็น
เวทย์มนตร์เเห่งสายลม ระดับ 2
” สายลมโหมกระหน่ำ “
เรย์ยกกริชขึ้นมาพร้อมกับฟาดฟันออกไปยังวาเนสซ่าเเต่สายลมนั้นก็เเตกสลายหายไปอย่างง่ายดาย
” เจ้าใช้คำร่ายของเทคนิคออร่างั้นหรอ “
” ใช่เเล้วล่ะ.. “
เรย์นั้นใช้วิธีการร่ายเเบบออร่าจากเฮมีเทสผู้ที่เป็นผู้สอน เเต่ออร่านั้นมีขั้นของการใช้พลังหากจะใช้เเบบร่ายได้นั้นต้องบรรลุศาสตร์ของออร่าทั้ง 4 ขั้นในขั้นต้นเสียก่อน ก่อนที่จะเเปลงออร่าให้มาเป็นรูปเเบบการร่าย เหมือนกับนักสู้สายออร่า
” เเล้วทำไมเฮมีเทสถึงไม่บอกข้าว่าข้านั้นไม่ได้ใช้ทั้งเวทมนตร์อักขระหรือออร่า เเต่เป็นเวทย์เเห่งภูติกัน “
เรย์คิดสงสัยภายในจิตใจของตัวเอง
” เจ้านี่นะเรย์ ไม่พัฒนาความสามารถทางด้านเวทมนตร์เลย “
” ทั้งๆ ที่ภายในตัวเจ้านั้นเเหล่งมานาอันมหาศาลเเละธาตุที่บริสุทธิ์อยู่เเท้ๆ “
วาเนสซ่านั้นได้รู้ถึงความลับของเรย์มาตั้งเเต่ต้นเเละเข้าใจว่าเรย์นั้นเป็นเด็กที่พิเศษเเค่ไหน เเต่เเม้ว่าเรย์นั้นจะมีความสามารถมีความเก่งฉลาดเเละมีไหวพริบในเรื่องอะไรก็ตาม เเต่เรย์นั้นก็ไม่เข้าใจในบางอย่างเพราะขาดการเรียนรู้เเละฝึกฝน เหมือนกับเพชรที่ไม่เจียรนัยให้งดงาม
เเต่วาเนสซ่านั้นได้เห็นจุดนี้ของเรย์
” ข้าจะสอนเวทมนตร์ภูติให้เเก่เจ้าเอง “
วาเนสซ่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
” อึก.. “
เรย์รู้สึกเหมือนจะมีการฝึกสอนเเสนโหดหลังจากนี้เป็นเเน่
” อย่างเเรก เจ้าเเละข้านั้นคือผู้ที่ทำพันธสัญญาร่วมกันเพราะฉะนั้นการใช้พลังของภูตินั้นก็ขึ้นอยู่ความเเข็งเเกร่งของเจ้าเเละข้าด้วยเช่นกัน
” เอาล่ะ เรย์เอ่ยนามของข้าเเละเคลื่อนย้ายมานาของเจ้า ไปยัง ตราเเห่งพันธสัญญา “
เรย์นั้นคิดอะไรบางอย่างออกเเละยกเเขนตัวเองเป็นเเนวตรงพร้อมกับค่อยๆ เคลื่อนย้ายมานาไปยังตรงเเห่งพันธสัญญา
ตราเเห่งพันธสัญญาค่อยๆ ปรากฎเเละเปร่งเเสงออกมา
” เวทย์เเห่งภูติ วาเนสซ่า จงปรากฎ “
” เจ้าก็ทำได้นิ “
หลังสิ้นสุดเสียงวาเนสซ่านั้นก็ได้ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาหาพันธสัญญาพร้อมกับจุมพิตเรย์ได้ความอ่อนโยน
ภายในเสี้ยววินาที ร่างกายของเรย์เเละวาเนสซ่าได้หลอมรวมกันเเละได้ปรากฎปีกขวาสีเขียวสดที่ดูสง่าเหมือนกับปีกของผีเสื้อเเละดวงตาข้างขวาที่กลายเป็นสีเขียวสว่าง ปลายผมที่เป็นสีเขียวยาวที่ดูพริ้วไสว
” นี่มัน พลังของภูติงั้นหรอ “
” ใช่เเล้วล่ะ “
เสียงของ วาเนสซ่าที่ได้ดังซ้อนทับขึ้นมา
” เจ้าลองร่ายเวทยของเจ้าซะสิ “
เรย์พยักหน้าพร้อมกับยกเเขนขึ้นมาพร้อมกับเคลื่อนย้ายมานาไปยังฝ่ามือ ตราเเห่งพันธสัญญาก็ได้เปร่งออร่าออกมา
” สายลมโหมกระหน่ำ “
ภายในเสี้ยววินาที สายลมอันมหาศาลก็ได้หลอมรวมเเละบีบอัดเเละพุ่งออกไปด้วยความรุนเเรง
หลังสิ้นสุดการใช้เวทย์เเห่งภูติ เรย์ก็กลับสู่สภาพเดิมเเละวาเนสซ่านั้นก็ออกมาจากตัวของเรย์
” เเละนี่เเหละคือเวทมนตร์เเห่งภูติไงละเรย์ “
วาเนสซ่าพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
” อ้อ ข้ายังไม่ได้บอกบางอย่างกับเจ้าไปว่า ทำไมเจ้าร่ายเทคนิคออร่าเเต่สามารถใช้เวทมนตร์ภูติได้ ก็เป็นเพราะเจ้านั้นนึกถึงต้นกำเนิดพลังของเจ้าซึ่งก็คือข้านั้นเอง ถึงจะเเตกต่างจากเเหล่งต้นกำเนิดมานาทั่วไป ถ้าต้นกำเนิดพลังของคนปกติของผู้คนเป็นต้นสายลม ส่วนข้าก็คงเป็นผู้สร้าง สายลมละมั้ง “
วาเนสซ่าพูดพร้อมกับเดินไปมา
” ก็นั้นเเหละน้า เจ้าก็ต้องฝึกทั้งเวทมนตร์อักขระเเละเวทย์ภูติให้เเข็งเเกร่ง “
” เพราะนี่ คือ บททดสอบเเรกของเจ้าไงละเรย์ “
วาเนสซ่าพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
” บททดสอบเเรก? “
” เจ้าหมายความว่าไง “
เรย์นั้นสงสัยว่าในตอนนี้ทุกอย่างคือบททดสอบงั้นหรอ
” เจ้าจะติดอยู่ภายในนี้จนกว่าเจ้าจะบรรลุ พลังเเห่งจุดหลอมรวมต้นกำเนิดไงละ “
Chapters
Comments
- ตอนที่ 28 บททดสอบเเรก กันยายน 11, 2023
- ตอนที่ 27 โบราณสถานปริศนา สิงหาคม 26, 2023
- ตอนที่ 26 มอนเตอร์วิปริต สิงหาคม 25, 2023
- ตอนที่ 25 มุ่งสู่เเดนลึกลับ สิงหาคม 24, 2023
- ตอนที่ 24 พลังที่แปลกประหลาด สิงหาคม 24, 2023
- ตอนที่ 23 พลังที่แปลกประหลาด สิงหาคม 22, 2023
- ตอนที่ 22 ความอ่อนเเอเเละไร้พลัง สิงหาคม 22, 2023
- ตอนที่ 21 สัตว์อสูรชั้นสูงที่เเข็งเเกร่ง สิงหาคม 22, 2023
- ตอนที่ 20 เริ่มต้นออกเดินทาง สิงหาคม 20, 2023
- ตอนที่ 19 ซีซาร์ ผู้เเสนเจ็บปวด สิงหาคม 20, 2023
- ตอนที่ 18 ศึกสุดท้าย ซีซาร์ เเละ ฮาซีเร็ก โอลาสต้า ปีศาจเเห่งความโกลาหล สิงหาคม 20, 2023
- ตอนที่ 17 กิลด์มาสเตอร์เเห่งเฮสเทีย ธันวาคม 23, 2022
- ตอนที่ 16 ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง ธันวาคม 23, 2022
- ตอนที่ 15 อัศวินทมิฬปรากฏ ธันวาคม 21, 2022
- ตอนที่ 14 จงสวามิภักดิ์ต่อข้า ธันวาคม 20, 2022
- ตอนที่ 13 บดขยี้เหล่ามอนเตอร์ ธันวาคม 19, 2022
- ตอนที่ 12 การทดสอบการเป็นนักผจญภัย ธันวาคม 19, 2022
- ตอนที่ 11 จิตวิญญาณของยุทธภัณฑ์ ธันวาคม 20, 2022
- ตอนที่ 10 ช่างตีเหล็กนิรนาม ธันวาคม 19, 2022
- ตอนที่ 9 เข้าสู่เมือง เฮสเทีย ธันวาคม 20, 2022
- ตอนที่ 8 เรื่องราวของ ราเฟีย ธันวาคม 19, 2022
- ตอนที่ 7 เด็กสาวจิ้งจอก ธันวาคม 20, 2022
- ตอนที่ 6 อัศวินหญิง ธันวาคม 19, 2022
- ตอนที่ 5 พบกันอีกครั้ง ธันวาคม 19, 2022
- ตอนที่ 4 เจ้าชายผู้ลืมเลือน การต่อสู้ของทั้งสอง ธันวาคม 19, 2022
- ตอนที่ 3 อัศวินหญิง ธันวาคม 20, 2022
- ตอนที่ 2 หญิงสาวนิรนาม ธันวาคม 19, 2022
- ตอนที่ 1 อารัมภบท ปฐมบทจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ธันวาคม 19, 2022
MANGA DISCUSSION