THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 27 โบราณสถานปริศนา
ในตอนนี้เรย์นั้นได้มุ่งตรงไปยังหุบเขาปริศนาผ่านฝูงมอนเตอร์เเปลกประหลาดนับร้อยที่ท่าทางของพวกมันนั้นเริ่มเสียสติ บ้าคลั่ง อีกทั้งยังกัดกินพวกเดียวกันเองหรือเเม้กระทั่ง กัดกินอวัยวะหรือร่างกายของตัวเองอย่างน่าสยดสยอง
เเละยิ่งเข้าใกล้หุบเขาปริศนามากเท่าไหร่มอนเตอร์นั้นยิ่งเเข็งเเกร่งเเละบ้าคลั่งขึ้นมากขึ้นไปอีกทั้งบรรยากาศรอบๆตัวตอนนี้เริ่มเเย่ขึ้นเรื่อยๆ
” หรืออาจจะเป็นคำสาปของดินแดนเเห่งนี้ที่ยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไหร่
อาการผิดปกติของมอนเตอร์ สภาพอากาศก็ยิ่งเเย่มากขึ้นเเละแปลกประหลาดมากขึ้น “
เเต่ที่หนักกว่านั้นคือตอนนี้เวทมนตร์ทุกอย่างเริ่มไม่สามารถใช้งานได้เมื่อเข้าใกล้หุบเขาปริศนา
” ออกซิเจนแทบไม่มีอยู่เลย ” เรย์ได้พูดออกมาด้วยเสียงที่เบา
” สายลม..ปัดเป่า “
” เฮือกก.. “
เรย์ร่ายเวทย์ลมออกมาพร้อมกับสูดอากาศเข้าเต็มปอด
” ยิ่งเข้าใกล้พื้นที่เขตเเดนหุบเขาเท่าไหร่สภาพอากาศยิ่งย่ำเเย่ขึ้นไปอีก “
ในขณะที่เรย์กำลังพุดพร้ำเพื่อกับตัวเองทางข้างหน้าของเรย์บริเวณใกล้ๆหุบเขาก็เกิดพายุเทอร์นาโดขนาดใหญ่ที่มีความเร็วกว่า 1500 กม. ต่อชม เเละเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 800 เมตร นับสิบลูกที่ล้อมรอบหุบเขา
เหมือนกับเป็นบาเรียขนาดใหญ่ที่เป็นอาณาเขตพร้อมกับฝนฟ้าคะนองที่รุนเเรงขั้นสุดเเละฟ้าผ่าที่โหมกระหน่ำลงมาในทุกวินาทีเเละสภาพอากาศที่ไม่มีเเม้เเต่ออกซิเจน
” ไม่ต้องพูดนึกถึงเลยว่ามนุษย์ธรรมดาจะผ่านเข้าไปได้ยังไง “
ถึงขนาดที่ต้นไม้ใหญ่ในบริเวณเเถวนั้นถูกบดขยี้ด้วยพายุเเละฟ้าผ่าที่โหมกระหน่ำจนเเหลกละเอียดสิ่งมีชีวิตที่อยู่บริเวณขอบข้างนอกนั้นถูกพายุเทอร์นาโดพัดจนร่างเเหลกกระจุย
เรย์นั้นกำลังยืนคิดวิธีที่จะผ่านไปให้ได้เเต่ทว่ายืนคิดได้ไม่นานเหล่ามอนเตอร์เเปลกประหลาดที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มพุ่งมาหาเรย์นับร้อยตัว
” …. “
” จะไม่ให้ข้าพักหน่อยหรอ “
เรย์พูดกับตัวเองด้วยสีหน้าที่รู้สึกเหนื่อยหนาย
เรย์พูดพร้อมกับมองตรงไปข้างหน้าที่มีพายุเทอร์นาโดเเละฝนฟ้าคะนองที่โหมกระหน่ำตลอดเวลา
” เวทมนตร์ก็ใช้ไม่ได้เเถมกระเเสมานาก็ถูกปิดกั้น “
” อาราเชีย “
หลังสิ้นสุดคำพูดตัวของเรย์ก็เปร่งประกายออร่าพร้อมกับร่างกายเเละชุดเกราะของเขาที่เป็นสีขาวกับผมสีเงินที่กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์
ดวงตาสีฟ้าที่มีนัยน์ที่เปลี่ยนเป็นนัยน์ตาของมังกรที่งดงามมากกว่าเดิม
เเต่ที่เปลี่ยนไปคือบริเวณใบหน้าที่เหมือนเป็นเกรดของอะไรบางอย่างเริ่มเพิ่มขึ้น
เรย์ย่อตัวลงพร้อมกับก้าวขาไปข้างหน้าพร้อมกับส่งพละกำลังไปยังขาหน้าทั้งหมด
” พึ่มมม!! “
เรย์เหยียบพื้นจนเกิดรอยเเตกพร้อมพุ่งทยานออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงขณะที่พวกมอนเตอร์นั้นก็วิ่งตามมาอย่างถาถม
เเละมีมอนเตอร์ตัวหนึ่งที่ลักษณะเหมือนกับชีซาร์เเต่ทว่าหัวของมันที่มีลักษณะเป็น 4 เเฉกเหมือนกับปลาหมึกเเละฟันที่ล้อมรอบเเละดวงตาทีมีเพียงดวงเดียว
” วี้ดดดด “
” ..!!! “
เหล่ามอนเตอร์ที่ตามเรย์มาติดๆต่างคลุ้มคลั่งอย่างเสียสติพร้อมกับความเร็วที่มากขึ้น
” เจ้ามอนเตอร์บ้านั่นมันทำให้มอนเตอร์ตัวอื่นๆคลุ้มคลั่งมากกว่าเดิมซะอีก “
วินาทีที่เรย์กำลังวิ่งอยู่นั้นพลังบางอย่างก็ได้ยิงมุ่งตรงเข้ามาเรย์ด้วยความเร็วสูง
ในตอนนี้นั้นเรย์ไม่สามารถใช้มานาหรือพลังเวทย์ได้เเต่ยังสามารถใช้พลังจากเดมิทิสมาเป็นพลังงานในการใช้ความสามารถของอาวุธได้
” คารามิส “
” คมดาบทมิฬ “
” ปั้มม! “
คมดาบที่ทมิฬที่ฟาดฟันออกไปชนเข้ากับบางอย่างจนเสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
เเต่สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนนั้นคือสิ่งที่ยิงออกมานั้นคืออวัยส่วนหัวของมอนเตอร์น้อยใหญ่ที่กำลังถูกมอนเตอร์ที่ลักษณะเหมือนกับกบกลายพันธ์ขนาดใหญ่
ที่ท้องของมันนั้นมีลักษณะโปร่งใสจนเห็นศรีษะของสิ่งมีชีวิตนับพันที่อยู่ข้างในท้องของมันที่ค่อยๆเขยื้อนออกทางปากอย่างน่าสยดสยอง
เเต่เรย์คิดได้ไม่นานฝูงมอนเตอร์ที่เเปลกประหลาดนับร้อยที่ตามหลังมาต่างโจมตีจากระยะไกลมาอย่างถาถมเเต่เรย์ก็สามารถจัดการได้อย่างไม่ยากนัก
” ข้าต้องจัดการเจ้ามอนเตอร์หน้าสีเเฉกนั้นเป็นอันดับเเรก “
เรย์กวาดสายตามองหาในฝูงมอนเตอร์นับร้อย
” เจอตัวเเล้ว “
เรย์จ้องมองมันด้วยสายตาที่เยือกเย็นเเต่ทว่าเจ้ามอนเตอร์ตัวนั้นเหมือนจะรู้ทันว่าเรย์นั้นมองหามันด้วยสายตาที่อาฆาตเเละมันนั้นกำลังจะหนีไปยังด้านหลังสุด
” อย่าหวังว่าข้าจะปล่อยให้เจ้ารอด “
เรย์วิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเอนตัวด้านข้าง 90 องศาพร้อมกับจับกริชในเเนวตั้งเเละบิดข้อมือเเละเเขนของตัวเองพร้อมกับทุ่มเเรงทั้งหมดไปยังที่เเขนเเละขาอย่างสุดกำลังจนพื้นนั้นเริ่มเเตกออก
” ลูกศรทมิฬ “
เรย์นั้นได้รวมความสามารถจากคารามืส ‘ คมดาบพุ่งทะลวง เเละ คมดาบทมิฬเข้าด้วยกัน ‘ เเละบีบอัดจนเกิดเป็นออร่าสีดำทมิฬปลายแหลมพุ่งทะลวงไปข้างหน้าด้วยความเร็วเสี้ยววินาทีจนพุ่งเเหวกอากาศจนเกิดโซนิคบูม
” ฉวั่กกก!! ”
” บึ้มมม “
ในเสี้ยววินาทีที่ศรทมิฬนั้นโดนเจ้ามอนเตอร์ก็ตัวระเบิดจนฉีกขาดพร้อมกับบริเวณรอบๆที่รับเเรงกระเเทกมหาศาลจนมอนเตอร์ข้างนั้นๆตัวขาดกระจุย
” พลังทำลายล้างของคารามิสมันเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนซะอีก “
เรย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจเล็กน้อย
เเต่ก็คิดได้ไม่นานตอนนี้นั้นเรย์เข้าใกล้กับบริเวณฝนฟ้าคะนองเเละพายุเทอร์นาโดขนาดใหญ่นับสิบลูก
เรย์กำลังจ้องมองสายฟ้าที่ผ่าลงมาทุกวินาทีทีเเละเหมือนสายฟ้านั้นผ่า เป็นเเนวตรงเเละเเนวขวางในทุกๆวินาที
” เเนวขวางเเละตรง “
เรย์วิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับตั้งสมาธิเเละประสาทสัมผัสในการสังเกตฟ้าที่ผ่าลงมาตลอดเวลา
เหล่ามอนเตอร์นับร้อยนั้นก็ยังตามติดเรย์มาอย่างบ้าคลั่งเพื่อจะไม่ให้เรย์นั้นเข้าไปในพื้นที่ข้างใน
เรย์เพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆเเละในทุกก้าวนั้นส่งพลังไปยังขาทั้งสองข้างอย่างเต็มกำลัง
ภายในเสี้ยววินาทีที่ฟ้ากำลังจะผ่าลงมานั้นเรย์ถีบขาหน้าไปข้างหน้าด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี
” ย่างก้าวเเห่งเเสง “
เรย์พุ่งไปข้างหน้าสลับซ้ายขวาด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมกับพละกำลังเเละสมาธิที่พุ่งขึ้นถึงขีดสุด
” อีกนิดเดียว.. “
เรย์พยายามที่จะวิ่งไปเรื่อยๆจนตอนนี้นั้นมาถึงหน้าของเทอร์นาโดลูกใหญ่นับสิบที่กำลังหมุนด้วยความบ้าคลั่ง
” พายุทุกลูกจะหมุนตามเข็มนาฬิกา “
เรย์นั้นมองถึงจุดสุดท้ายที่พายุนั้นหมุนชนกันเเละเป็นบริเวณเส้นขอบที่พายุนั้นเบาบางที่สุด
” ทางด้านซ้าย “
” เอาล่ะนะ ”
ความเร็วของเรย์ในตอนนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเเต่เเลกมากับความเหนื่อยล้าที่ทวีคูณมากขึ้น
” ลูกศรทมิฬ!! “
เรย์บิดเเขนเเละพุ่งทะลวงศรทมิฬไปยังบริเวณจุดที่เบาบางที่สุดของพายุพร้อมกับวิ่งเข้าไปด้วยความเร็วสูงที่สุด
” ตัวข้าจะเเหลกเป็นชิ้นๆเเล้ว!! “
” อ้ากก!.. ” เรย์นั้นรู้สึกถึงความเจ็บปวดในขณะที่จะก้าวผ่านพายุลูกใหญ่ที่จะบดขยี้ตัวเรย์
เรย์ใช้เเรงสุดท้ายเเละออร่าทั้งหมดทุ่มไปยังขาหลังยังสุดความสามารถ
” ย่างก้างเเห่งเเสง! “
ในขณะที่ตัวของเรย์กำลังจะถูกพายุนั้นบดขยี้เเละบีบตัวเรย์จนเเหลกละเอียดเรย์ก็พุ่งหายเข้าไปภายในเสี้ยววินาทีที่อากาศถูกเเหวกออกด้วยศรทมิฬ
ตัดภาพมาที่ราขาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งเเละราเฟีย
” จู่ๆในดินเเดนเเห่งนี้มันเกิดอะไรขึ้น “
เสียงของหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งที่รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
” มอนเตอร์กลายพันธุ์งั้นหรอ “
เสียงของราเฟียที่พูดอย่างตกใจเมื่อมองไปยังเบื้องหน้าเเละพบเจอกับมอนเตอร์เเปลกประหลาดที่กำลังวิ่งไปยังทิศทางของมรสุมพายุนับสิบลูกเเละฝนฟ้าคะนองที่หนักหน่วง
” มีคนจะเข้าไปยังเขตเเดนข้างใน! “
” เจ้าพวกนั่น! “
” เราต้องไปก่อนที่พวกมันจะเข้าไปได้ “
ราชาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งได้โกรธถึงขีดสุดและพุ่งทยานไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว
” เดี่ยวก่อนช้าๆหน่อยสิ “
” ข้า..รู้สึกมึนหัว ไม่ไหวเเล้ว “
ในตอนนี้รอบบริเวณเขตเเดนป่าทั้งหมดมอนเตอร์นั้นได้กลายพันธ์ทั้งหมดปรากฎการเเปลกประหลาดนี้เกิดจากการตายของราชาเสือขาว
” หลังจากเจ้าเสือนั่นตายมันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่ “
” อึกก.. “
บาดเเผลสยดสยองที่เหมือนกัลคำสาปได้เริ่มรุนเเรงเเละค่อยๆลุกลามขึ้นเรื่อยๆเเต่ราชาสตรอมไลท์นิ่งพยายามใช้พลังในการหยุดยั้งไว้
” พลังชีวิตข้าเริ่มหายไปเรื่อยๆ.. “
” ในไม่ช้าข้าอาจจะต้องตาย “
ราชาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งพูดด้วยเสียงที่เคร่งครึมเเต่สิ่งที่อยู่ภายในคำพูดนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
” ราชาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่ง.. “
ราเฟียเอ่ยคำพูดออกมาด้วยเสียงที่เศร้าสร้อย
” อย่าเรียกข้าด้วยชื่อเต็มเเบบนั้นสิ “
” เอาเป็นว่าเรียกข้าว่า โคลว์ท ก็พอเเล้วละ “
โคลว์ทพูดชื่อของตัวออกมาด้วยเสียงที่เเผ่วเบาเเละย้อนหวนคืนถึงอดีตของตน
” นี่เจ้าหมาป่าน้อย “
เสียงของชายหนุ่มปริศนาที่ได้พูดกับหมาป่าตัวน้อยตัวหนึ่งท่ามกลางป่าที่ถูกทำลายเเละมอดไหม้จนสิ้น กลิ่นไหม้ของไม้ที่เต็มไปทั่ว ควันดำที่คละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศที่อึมครึมเเละน่าโศกเศร้า
ชายหนุ่มที่มองไปยังหมาป่าตัวเล็กตัวหนึ่งที่กำลังตัวสั่นเเละทำท่าทางกลัวเเต่ทว่า
หมาป่าน้อยตนนั้นมีคมเขี้ยวที่เเหลมคมเเละขนสีเงินดูเด่นสง่าเเต่เปราะเปื้อนไปด้วยฝุ่นเเละดิน
ร่างกายของหมาป่าตัวน้อยที่สะบักสบอมจากการถูกบางอย่างโจมตีจนหลบหนีและมานอนโทรมอยู่บริเวณนั้น
ลมหายใจที่ค่อยๆริบหรี่ลงเรื่อย ใกล้จะสิ้นชีพลง
” ช่างเป็นหมาป่าที่น่าเวทนา ”
เสียงของชายหนุ่มปริศนาที่ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่สงสาร
” …. “
” เวทย์เเห่งปกปักรักษาเเละปกป้อง ระดับ?? “
” เดเมชั่นฮีล “
ภายในเสี้ยววินาทีก็ปรากฎวงเวทย์ขนาดยักษ์ในบริเวณรอบๆนั้นก็ถูกชำระล้างด้วยเวทย์มนตร์จากที่บริเวณโดยรอบนั้นถูกมอดไหม้วอดวายกลิ่นควันเเละขี้เถ้าที่เต็มไปทั่วบริเวณ
ค่อยๆกลายเป็นกลิ่นของดอกไม้เเละต้นไม้ที่ถูกเผาใหม้ได้กลายเป็นต้นไม้ที่เต็มไปด้วยใบไม้เขียวขจี หญ้าที่ถูกเผากลายเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวเป็นบริเวณใหม่เหมือนกับการชุบชีวิตของธรรมชาติให้กลับสู่ผืนเเผ่นดินอีกครั้ง
หมาป่าสีเงินตัวน้อยนั้นถูกชำระล้างเเละรักษาภายในวินาที
ดวงตาของหมาป่าตัวน้อยที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้าอยู่ภายในกลับกลายเป็นดวงตาที่เปร่งประกายเเละเจิดจรัส
” เจ้าหมาป่าน้อย “
” ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นหมาป่าที่เเข็งเเกร่ง “
ชายหนุ่มปริศนาพูดพร้อมกับลูบหัวหมาป่าน้อยตัวนั้นด้วยความอ่อนโยน
” วู้ฟฟฟฟ “
หลังสิ้นสุดคำถามของชายหนุ่มปริศนาหมาป่าน้อยก็ได้หอนพร้อมกับค่อยๆลุกเเละค่อยๆเดินไปยังต้นไม้ใหญ่เเห่งหนึ่ง
หมาป่าน้อยได้ค่อยๆขุดดินที่อยู่บริเวณต้นไม้ออก
ปรากฎภาพของ หมาป่าขนสีเงินยาวสวยเเละสง่าที่นอนสิ้นชีพภายใต้พื้นดินเลือดที่ไหลงจากรอยเเผลขนาดใหญ่
” เเม้ของเจ้าเป็นหมาป่าที่สง่าเเละเเข็งเเกร่ง “
” …. “
” เจ้าจะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นนะเจ้าหมาป่าน้อย “
” เพื่อปกป้องตัวเจ้าเเละปกป้องสิ่งสำคัญ “
” เเม่ของเจ้าก็อยากให้เจ้าเป็นเเบบนั้น “
ชายหนุ่มได้มองไปยังสายตาของหมาป่าน้อยตนนั้นได้สายตาที่อ่อนโยนเเต่เต็มไปด้วยความเข้มเเข็งเเละเเข็งเเกร่ง
” บรู้ววววว “
หมาป่าน้อยตัวนั้นร้องเสียงหอนออกมาพร้อมกับกระโดดเข้าหาชายหนุ่มปริศนาพร้อมกับเลียใบหน้าของชายหนุ่มปริศนา
” เจ้าอยากจะไปกับข้างั้นหรอ “
” บรู้วว บรู้ววว “
” เอิ่ม เอาเเบบนั้นก็ได้ “
” เเต่ว่าข้าจะตั้งชื่อของเจ้าว่าอะไรดีนะ “
ชายหนุ่มปริศนาได้ครุ่นคิดชั่วครู่
” โคลว์ท ”
” นั้นคือนามของเจ้า “
สิ้นสุดคำพูดหมาป่าน้อยก็ลุกขึ้นเเละยืนด้วยขาทั้ง 4 อย่างสง่าพร้อมกับเดินไปหาชายหนุ่ม
” งั้นไปกันเถอะ “
โคลว์ท ได้นึกย้อนถึงอดีตของตนนายเพียงคนเดียวที่เคารพเเละได้มอบหน้าที่ ที่เเสนสำคัญในการปกป้องดินเเดนเเห่งนี้ โคลว์ท ได้นึกถึงเรื่องราวเเละรู้สึกเศร้าว่าตนในตอนนี้นั้นไม่สามารถทำตามหน้าที่ ที่ท่านผู้นั้นได้มอบให้เป็นสิ่งสำคัญ
ในขณะที่นึกถึงเรื่องราวในตอนนี้ โคลว์ทเเละราเฟียก็ได้เดินทางมาถึงจนเขตเเดนเเต่ที่เเปลกคือมีมอนเตอร์มากมายที่ได้ตายอยู่เต็มไปหมดในพื้นที่เขตเเดน
” มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่ “
ราเฟียถามด้วยความสงสัย
เพราะภาพข้างหน้าในตอนนี้นั้นคือผืนดินสีเลือดที่เต็มไปด้วยเศษซากมอนเตอร์นับร้อยที่ได้ตายอย่างน่าเวทนาร่างกายฉีกขาดอวัยวะภายในระเบิดกระจุยกระจายไปทั่วบริเวณพร้อมกับกินเหม็นของซากศพที่อบระอวนไปหมด
” มีใครบางคนเข้าไปยังภายใน “
” เปิดเขตเเดน “
หลังสิ้นสุดเสียงบริเวณหัวของโคลวท์ก็เปร่งเเสงออกมาเป็นสัญลักษณ์บางอย่างที่เป็นรูปเหมือนกับพระจันทร์เสี้ยว3ดวงที่ประกบกัน
เเละช่องว่างเขตเเดนก็เปิดออกอย่างช้าๆ
” เข้าไปกันเถอะ “
” อื้อ “
หลังสิ้นสุดเสียงโคลวท์ก็พุ่งออกไปด้วยความไวเข้าไปยังช่องว่างเเห่งเขตเเดนพร้อมกับเขตเเดนที่ค่อยๆปิด
เเต่ทว่า
” มาได้จังหวะพอดีเลยจริงๆ “
เสียงของโฟเวียส ปีศาจลำดับที่ 14 ที่กำลังเฝ้าสังเกตการณ์เกี่ยวกับความผิดปกติเเละพบเจอกับราชาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งที่เข้าไปยังเขตเเดนลึกลับ
” รีบไปกันเถอะก่อนที่มันช่องว่างจะปิดลง “
ลูคัสพูดด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ
” ไม่ต้องบอกข้าก็รู้หนะ “
” จงเงียบงัน “
” นาเซียโฟดัส “
โฟเวียส ลบตัวตนเเละลบร่องรอยของพลังปีศาจ
ลูคัสเเละโฟเวียสได้มุ่งตรงไปยังเส้นขอบเเดนในทันที
ในขณะที่กำลังเดืนทางใกล้ถึงกับเขตเเดนเเล้วนั้นลูคัสได้มองเห็นความผิดปกติบางอย่างของมอนเตอร์กลุ่มหนึ่งที่ตายอยู่
เเต่ร่างกายส่วนกลางนั้นเป็นรูขนาดใหญ่เเละมีรอยเผาใหม้ภายในอีกทั้งอวัยวะภายในของพวกมันนั้นเเตกกระจุยจากการถูกบางอย่างพุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูง
” พลังนี้มัน “
” เพลิงงั้นหรอ “
” เเต่ทำไมถึงเป็นร่องรอยสีดำที่ไม่น่าใช้การเผาไหม้ “
” เเปลกมาก “
ลูคัสได้ยืนจ้องชั่วครู่
โฟเวียสในตอนนี้ได้ยืนอยู่น่าช่องว่างที่เปิดอยู่
” มาได้เเล้ว! “
” ทำไมเจ้าถึงชักช้าเเบบนี้เนี่ย “
” …. “
” โอเค “
ในขณะที่ลูคัสกำลังไปหาโฟเวียสนั้นเขาก็คิดไปพลางๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น
” น่าสนใจจริงๆ “
” มืดไปหมดเลย “
เสียงของเรย์ที่ได้พูดขึ้นท่ามกลางความมืดมิดที่เเปลกประหลาด
” นี่คือภายในข้างในเขตเเดนสินะ “
เรย์นั้นคิดไปพลางๆพร้อมกับสายตาที่กวาดไปทั่วเเต่เหมือนรอบตัวเรย์นั้นจะไม่ใช่พื้นที่มืดมิดไปซะหมด
ปรากฎเป็นที่สถานที่หนึ่งข้างหน้าของเรย์
เรย์นั้นค่อยๆก้าวเดินออกไปจากความมืดมิดเพื่อไปยังสถานที่ ที่อยู่ ณ จุดข้างหน้าของเขา
” วึ้มมม “
ในวินาทีที่ขาของเรย์นั้นเเตะลงสถานที่เเห่งนั้นทุกๆอย่างก็ถูกปกคลุมไปด้วยห้องโถงที่มีขนาดใหญ่
ที่ภายในห้องนั้นเป็นหินเเทบทั้งสิ้นเหมือนกับตอนนี้เรย์อยู่ในโบราณสถานเก่าเเก่ขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในถ้ำ
เเละข้างหน้าของเรย์ก็ค่อยๆปรากฎสิ่งที่เหมือนกับมีลักษณะคล้ายกับประตูหินขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าของเรย์
ที่เป็นเพียงเเค่ประตูหินขนาดยักษ์ที่ไม่มีอะไรเลย
” ประตูยักษ์งั้นหรอ “
เรย์นั้นสงสัยว่าประตูนี้มันมาอยู่ตรงนี้หรือเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบางอย่าง
” ข้าเเค่ต้องเปิดประตูยักษ์นี้ให้ได้สินะ “
” อาราเชีย “
เรย์นั้นใช้พลังของอาราเชียเเละจะพังทลายประตูยักษ์นี้ออกไปในทีเดียว
เเต่ทว่าภายในวินาทีที่เรย์ใช้พลังจู่ๆพลังของเรย์ก็สูญสลายเเละกลายเป็นสภาพปกติ
” ไม่สามารถใช้พลังได้ “
” เวทย์เเห่งสาย.. “
ในวินาทีที่เรย์จะใช้เวทมนตร์หรือการใช้มานาอีกครั้งเวทมนตร์เเละมานาของเรย์นั้นก็สูญสลายหายไปในพริบตา
” ไม่สามารถใช้พลังอะไรได้เลยในตอนนี้ “
” ที่นี่มันคือที่ไหนกันเเน่ “
เรย์นั้นสงสัยเเต่สิ่งที่เรย์นั้นคิดในตอนนี้เป็นอยากเเรกนั้นคือจะเปิดประตูยักษ์นั้นยังไงกันเเน่
” มันต้องมีวิธีในการเปิด “
เรย์นั้นมองไปรอบๆภายในสถานที่เเห่งนั้น
เหมือนในตอนนี้นั้นเรย์อยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีความกว้าง ยาว ประมาณ1ร้อยกว่าเมตรเเละความสูงอีกประมาณนับสิบเมตร
เเละเสาค้ำที่เต็มเรียงถอดยาวจนสุดห้องเเต่ทว่าด้านข้างเเละด้านบนนั้นมีรูปลักษณะเเละจิตกรรมฝาพนังบางอย่างที่น่าสนใจ
เป็นรูปจิตกรรมฝาพนังขนาดใหญ่ที่เป็นลักษณะของมนุษย์กำลังยืนกางเเขนเเละขาที่เหมือนกันท่า T Post เเต่ทว่าในบริเวณทุกจุดของอวัยวะร่างกายนั้นมีอักษรเเละคำอธิบายบางอย่างที่เขียนไว้
เเละมีคำหนึ่งที่เขียนเป็นประโยคเด่นที่รวมคำทุกอย่างโยงเป็นเส้นเป็นยังคำๆนั้น
‘ จุดรวมเเห่งการกำเนิด ‘
นั้นคือคำที่ปรากฎขึ้น
” จุดรวมเเห่งการกำเนิด ”
” มันหมายถึงอะไรกันเเน่ “