THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 25 มุ่งสู่เเดนลึกลับ
” เรย์ เรย์ “
เสียงของเด็กสาวที่ตะโกนเรียกเรย์อย่างสุดเสียง
” ราเฟีย… “
เสียงของราชาหมาป่าสตรอม์ไลท์นิ่งที่ได้เรียกชื่อของเธอออกมาเบาๆเพราะในตอนนี้นั้นเขารู้ถึงสถานการณ์ดีว่าตอนนี้นั้นเรย์จะเป็นเช่นไร
ในตอนนี้ราเฟียกับราชาหมาป่าได้เคลื่อนที่ออกมาไกลจากจุดปะทะเพื่อพยายามหลบหนีราชาเสือขาวที่ได้ปรากฏตัวออกมา
” ข้าเสียใจด้วยราเฟีย… “
เสียงของราชาหมาป่าสตรอม์ไลท์นิ่งที่ได้พูดออกมาอย่างรู้สึกผิด
” ตัวข้าในตอนนี้นั้นอ่อนแอกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมากพลังเต็มที่ของข้าในตอนนี้ยังมีไม่ถึงเศษเสี้ยวพลังของข้าในเมื่อก่อนซะด้วยซ้ำ.. “
” ตอนนี้ข้าอ่อนเเอลงมาก “
” เเค่การที่ข้านั้นยังคงอยู่ถือเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเเล้วล่ะ “
ราชาหมาป่าสตรอม์ไลท์นิ่งพูดพร้อมกับเปิดเเผลบริเวณเอวให้กับราเฟียเห็น
เอวที่ไม่มีบาดเเผลผิดปกติอะไรก็ได้ค่อยๆจางหายและปรากฏเป็นเเผลบางอย่าง
เเผลที่เกิดคำสาปที่มีลักษณะเหมือนใยเเมงมุมที่เลื้อยภายในผิวหนังทั่วร่างกายอย่างน่าสะอิดสะเอียน
” เเผลนี้มันทำให้ร่างกายของข้าอ่อนเเอลงเรื่อยๆมาหลายร้อยปีในตอนที่ข้านั้นเป็นผู้พิทักษ์ของป่าเเห่งนั้น
ในตอนเเรกที่ข้าเห็นพวกเจ้าคนนอกที่ย่างกรายเข้ามาในป่าเเห่งนั้นเลยทำให้ข้านั้นโกรธเเละพยายามที่จะขับไล่พวกเจ้า
” ข้าขอโทษด้วย.. “
ราชาหมาป่าสตรอม์ไลท์นิ่งที่รู้สึกผิด
ราเฟียรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่ท่าทางของราชาหมาป่าสตรอม์ไลท์นิ่งนั้นเปลี่ยนไปจากตอนเเรกที่เจอเเค่ราเฟียคิดก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
” ไม่เป็นไรๆ “
” ใครๆก็ไม่อยากให้คนนอกย่างกรายเข้าไปในพื้นที่ของตัวเองทั้งนั้น ” ราเฟียรีบตอบกลับ
เเละจู่ๆสีหน้าของราชาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งก็เริ่มเปลี่ยนไปเเละเกิดความงุนงงขึ้นมา
” เเต่ทว่าข้าสงสัยว่าพวกเจ้าเข้ามายังป่าเเห่งนั้นได้ยังไง “
” หืมทำไมหรอ “
” ข้าเพียงอยากรู้ “
” เจ้าช่วยอธิบายให้ข้าฟังได้ไหม “
ราเฟียพยักหน้าตอบกลับ
” ข้ากับเรย์ก็เดินทางออกจากเมืองกันมาเรื่อยๆผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีเเละเลาะขอบป่าเล็กๆไปเรื่อยๆ “
” จนในตอนนั้นที่ข้าใกล้มาถึงก็เป็นเวลาพบค่ำเเล้วจนพวกข้าพบกับป่าเเห่งหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเเต่ป่าที่ว่านั้นมีต้นไม้ที่ใหญ่สูงผิดปกติกับที่พวกข้านั้นผ่านมาเเต่ในตอนนั้นข้านั้นเริ่มเพลียโดยไม่รู้สาเหตุมากนักเลยตัดสินใจพักผ่อนบริเวณนั้น “
” เเปลกมาก “
” ขึ้นหลังข้า “
” เดี่ยวอะไรนะ.. “
ยังไม่ทันจะหมดคำพูดราชาหมาป่าสีเงินได้จับให้ราเฟียนั้นขี่หลังพร้อมกับวิ่งขึ้นไปยังภูเขาลูกหนึ่ง
เเละได้วางราเฟียลง
” ราเฟียเจ้าลองมองกลับไปยังป่าเเห่งนั้นอีกครั้ง “
” หืม ได้ “
ราเฟียได้มองไปยังป่าเเห่งนั้นที่อยู่ห่างไกลเป็นอย่างมาก
ภาพของป่าที่จากมากค่อยๆกระพริบหายกลายเป็นพื้นที่โล่งที่เต็มไปด้วยความเเห้งเเล้งเเละเหล่าต้นไม้ที่เหลือเเต่เพียงต้น
” มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่ “
ราเฟียหันหน้าไปถาม
” เจ้าเห็นเเล้วใช่มั้ย “
” นั้นแหละ คือสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่ตอนนี้
” เเละป่าที่พวกเจ้าเห็นนั้นคือเเดนลับเเลที่ท่านผู้นั้นได้สร้างขึ้น “
” เเละมีเพียงข้าเเละผู้ที่ได้รับอนุญาตที่สามารถเข้าไปได้ “
” เเต่ทำไมพวกเจ้าถึงผ่านเข้าไปได้กัน? “
ตัดภาพกลับมาที่เรย์
” พลังนี้มันคืออะไรกันเเน่ “
” อึกก “
เรย์รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยต่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าพลังที่สามารถจัดการสัตว์อสูรชั้นสูงได้อย่างง่ายดาย
เเต่เพียงไม่นานที่เขาคิดก็มีบางสิ่งบางอย่างได้ปรากฏขึ้นในจิตใต้สำนึกของเขา
” ว่าไง เจ้ามนุษย์ที่เเสนอ่อนแอ “
” ข้าเฝ้ามองการต่อสู้ของเจ้า มันช่างสนุกจริงๆ “
” ที่เห็นมนุษย์อย่างเจ้าดิ้นรนต่อสิ่งที่ไม่สามารถชนะได้ “
” เเต่เจ้าก็ชนะได้ “
ทันทีที่เสียงพูดนั้นดังขึ้นเรย์ก็ได้เอ่ยถามสวนกลับทันที
” เดี่ยว เจ้าเป็นใครกันเเน่ “
” …… ”
เสียงปริศนาที่กำลังจะพูดสิ่งต่อไปได้ชะงักชั่วครู่
” ข้าเป็นตัวตนที่เจ้าไม่อาจรู้ได้ในตอนนี้ “
” ไม่อาจรู้ได้คือยังไงกันแน่ “
” หรือเจ้าคือเดรกทมิฬตัวนั้นงั้นหรอ “
” หืมม เดรกทมิฬงั้นหรอ “
” ข้าไม่ใช่เจ้าเดรกตนนั้นหรอก “
” เจ้าเดรกทมิฬตัวนั้นมีเศษเสี้ยวพลังของข้าซะมากกว่า “
” ข้ายังเเปลกใจอยู่เลยว่าเดรกทมิฬตัวนั้นถึงมี.. “
” เศษเสี้ยวพลัง เจ้าหมายถึงอะไร “
” มันก็คือพลังที่เจ้าครอบครองอยู่ไงละ “
” ที่อยู่ภายในตัวของเจ้า “
” …. “
” เเต่ว่านะ เจ้าจะต้องรับชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ “
” เรย์ “
หลังสิ้นสุดคำพูดของเสียงปริศนา เสียงหัวเราะอันน่าสยดสยองก็ได้ดังขึ้นพร้อมกับปากของมันที่ยิ้มกว้างน่าสะอิดสะเอียน
เเละในวินาทีนั้นเข่าของเรย์ก็ทรุดลงตรงพื้นภาพเเละได้ปรากฏภาพของเหล่าความทรงจำอันน่าสยดสยอง
ภาพของเหล่าสิ่งมีชีวิตที่พบกับความตายนับไม่ถ้วนพรั่งพรูออกมาอย่างไม่รู้จบสิ้นในหัวของเขาความทรงจำของเหล่าผู้คนที่ได้ถูกกลืนกินจากบางสิ่ง
ภาพสุดท้ายเเละช่วงชีวิตที่สุดแสนทรมาน ความโศกเศร้า ความเเค้น ความพยาบาท ความรู้สึกด้านลับของผู้คนนับเเสนต่างผุดขึ้นมาในหัวของเรย์
” หยุดความทรงจำบ้าๆนี้ทีเถอะ! “
” อ้ากกกกก!!!! “
หลังสิ้นสุดเสียงกรีดร้องของเรย์เสียงปริศนาก็ได้เอ่ยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
” เอาน่าเรย์ “
” เจ้าก็รู้นิ ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหนะ “
” ทางลัดเพื่อไปสู่ผู้ที่เเข็งเเกร่งหรอ “
” หรือพลังที่เเข็งเเกร่งเเละทรงพลังหรอ “
” มันไม่มีหรอก “
” เจ้าหน่ะมันอ่อนเเอ “
เรย์กรีดร้องออกมาอย่างคนขาดสติพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน
” ครืดดด “
เสียงของเรย์ที่จับหน้าตัวเองพร้อมกับบีบใบของหน้าตัวเองจนยูยี้เเละกัดฟันของตัวเองเเน่น
ความเจ็บปวดทรมานภายในหัวของเรย์มันเเทบจะระเบิดออกมา
” หยุด! หยุด! หยุด! ความทรงจำพวกนี้ที!!! “
” อ้ากกกกกกกกกก!! “
เรย์ร้องเจ็บปวดออกมาอย่างสุดเสียงมันเป็นความทรมานที่ยิ่งกว่าความตาย
สิ่งมากมายได้ปะทุออกมาภายในหัวของเขาอย่างไม่มีสิ้นสุด
” ปั้งง! ปั้งง! ปั้งง! “
เสียงของเรย์ที่บีบใบหน้าของตัวเองจนเล็บนั้นเเทงเข้าไปบริเวณใบหน้าของเขาจนผิวบริเวณไปหน้านั้นฉีกออกอย่างน่าสยดสยองพร้อมกับใช้หัวนั้นฟาดลงไปที่พื้นอย่างบ้าคลั่งเลือดนั้นไหลเต็มใบหน้าเเละหัวของเขา
เลือดของตัวเองได้เลอะเต็มมือของตนเองความเจ็บปวดที่ทำให้เรย์นั้นบ้าคลั่ง
สายตาของเรย์ในตอนนี้ไม่ต่างไปจากคนที่ตายไปเเล้ว เรย์นั้นไม่รู้สึกอะไรอีกเเล้ว สายตาที่เย็นชาเเละไร้จิตวิญญาณได้เหม่อมองท้องฟ้าในยามพระอาทิตย์อัสดง
เเต่ทว่าบาดเเผลบนใบหน้าที่ฉีกอย่างสยดสยองก็ได้ฟื้นคืนกลับภายในไม่กี่วินาที
เเต่ทว่าตอนนี้เรย์ได้สูญเสีย
ความรู้สึกบางอย่างของตนไปเเล้ว
” ช่างน่าสงสารจริงๆ “
เสียงของตัวตนลึกลับภายในตัวของเรย์ได้กล่าวขึ้นด้วยความเวทนา
” นั้นคือสิ่งที่เจ้าต้องการใช่มั้ยละเรย์ “
” เจ้าต้องพลังที่จะจัดการหรือเข่นฆ่าหรือจะทำลายทุกสิ่ง “
” ข้ามอบให้เจ้าได้เสมอ “
” เเต่เจ้าจะสูญเสียสิ่งสำคัญของเจ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด “
เสียงปริศนาได้หายไปเเละเหลือไว้เพียงเรย์ที่เหม่อมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้มพร้อมกับฝนที่เริ่มตกลงมา
ดวงตาที่สูญเสียชีวิตชีวาใบหน้าที่ไม่สามารถเเสดงความรู้สึกออกมาได้หยดน้ำฝนที่ไหลลงผ่านใบหน้าที่เย็นชา
ไม่มีความรู้สึกเศร้าเสียใจดีใจหรือความรู้สึกออกมามีเพียงความนิ่งเฉยเเละเยือกเย็น
เรย์ได้ค่อยๆลุกขึ้นพร้อมกับจ้องมองตัวเอง
” ทำไม ข้าถึง… “
เรย์นั้นไม่สามารถอธิบายความรู้สึกที่อยู่ภายในใจของเขาได้ รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญของเขาที่เป็นมนุษย์นั้นเริ่มขาดหายไป
สิ่งที่ต้องเเลกมานั้นมันสาหัสเกินไปสำหรับมนุษย์คนหนึ่ง
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเเละความรู้สึกหากสูญเสียบางอย่างไปความเป็นมนุษย์ก็จะลดน้อยลง
หากสูญเสียความรู้สึกเเล้วมีเพียงสติปัญญาก็เป็นเพียงหุ่นยนต์ไร้จิตใจความรู้สึก
หากมีความรู้สึกเเต่ขาดสติปัญญาก็เป็นเพียงสัตว์เดรัชฉานที่ใช้เพียงความรู้สึกเเละสัญชาตญาณในการใช้ชีวิต
เเต่จู่ๆบริเวณรอบๆตัวของเรย์ตอนนี้นั้นค่อยๆมีต้นไม้น้อยใหญ่มากมายค่อยๆผุดโพล่ขึ้นมาจากผืนเเผ่นดินเพิ่มขึ้นมามายนับไม่ถ้วน
” ครืด “
บรรยากาศรอบๆตัวเริ่มเปลี่ยนไปความหนาวเย็นเริ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณทางข้างหน้าของเรย์
ก่อนหน้านี้เขาเห็นภูเขาที่มีรอยหยักเเห่งนั้นจากที่ไกลๆเเต่ทว่าในตอนนี้กลับมีหมอกหนาที่เต็มไปด้วยความหนาวเย็นปกคลุมไปทั่วจนไม่สามารถมองเห็นได้
” จู่ๆมันเกิดอะไรขึ้น ”
เรย์รู้สึกสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเเต่ไม่ทันที่เขาจะได้ฉุดคิด เสียงเหล่าสิ่งมีชีวิตมอนเตอร์มากมายเคลื่อนที่มายังบริเวณที่เขาอยู่เหมือนกับพวกมันนั้นกลับมาจากการถูกกักขังเเละไล่ล่าสิ่งมีชีวิตด้วยความหิวโหย
” ทำไมพวกมอนเตอร์ต้องมาตอนนี้ด้วยนะ “
เเม้ตอนนี้บาดเเผลของเรย์เริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิมเเต่ความเจ็บปวดก็ยังคงอยู่
” อาการปวดหัวของข้ายังไม่หายดีเลยหรือเเม้กระทั่งบาดเเผลเเละความเหนื่อยล้า “
เรย์พูดพร้อมกับหลบอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
” ฟ่อวว “
” …!!! “
” ฟื้อ! “
น้ำกรดที่ผ่นออกมาด้วยความรวดเร็วเเต่เรย์นั้นตั้งตัวทันเรย์เอียงคอหลบพร้อมกับร่ายเวทย์ส่วนกลับ
” คารามิส ” เรย์เรียกกริชออกมาพร้อมร่ายเวทย์ในทันที
” เวทย์เเห่งสายลม ระดับ 2 “
” คมดาบวายุ “
” ฉวั่ะะะ “
เสียงของคมดาบที่พุ่งออกไปตัดคอของงูตัวหนึ่งจนขาดสบั้น
” บาซิลิกซ์ “
บาซิลิกซ์ คืองูที่มีนิสัยดุร้ายเเละมีพิษร้ายเเรงเเละมีหงอนที่เหมือนมงกุฎของพระราชาอยู่เเต่ลักษณะตัวมันนั้นใหญ่เเละดวงตาที่เเดงก่ำผิดปกติเเละร่างกายของเจ้างูนั่นก็เหมือนมีปริสิตเต้นอยู่ภายในตัวเเละก็ระเบิดออกมาจนอวัยวะกระจัดกระจาย
” เกือบไปเเล้ว.. “
เรย์หันหลังกลับไปมองต้นไม้เเละพื้นที่โดนกรดนั้นสลายหายภายในชั่วพริบตา
” จู่ๆที่นี้มันเกิดอะไรขึ้น “
” เจ้าสัตว์อสูรชั้นสูงนั่นตายไปเเล้ว! “
” บ้าน่า “
” ใครฆ่าสัตว์อสูรบ้านั้นได้ “
เสียงของปีศาจสองตนที่ได้พูดคุยกัน
เสียงนั้นคือ ปีศาจชั้นกลาง ลำดับที่ 4 โฮรีน่า โอลาสต้า เเละ ลำดับที่5 ฟาเวล โอลาสต้า ที่กำลังถกเถียงกันถึงการตายปริศนา
” พวกเจ้าทั้งสองคนเงียบซะมันหนวกหู “
เสียงอันเคร่มครึมที่ได้พูดออกมาอย่างเย็นยะเยือกที่มาจากปีศาจตนหนึ่งที่นั่งไขว้ขวาบนโต๊ะนั่นก็คือ ปีศาจลำดับที่ 2 เฮลต้า โอลาสต้า
” …. “
เสียงทะเลาะของทั้งสองก็หยุดลง
” พวกเจ้าควรที่ช่วยกันจะหาสาเหตุเเทนที่จะทะเลาะกัน “
” ข้าเข้าใจเเล้ว ” ปีศาจลำดับที่ 4 เเละ 5 เอ่ยพูดพร้อมกัน
” เเต่ทำไมเจ้าราชาเสือขาวมันถึงตายได้ละมันที่อวยตัวเองนักหนาว่าตัวเองนั้นเเข็งเเกร่งนักเเข็งเเกร่งหนา “
” ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน “
” เเต่ตอนนี้เศษเสี้ยวเเห่งโลกได้เริ่มเปิดออกเเล้วหลังจากการตายของเจ้าเสือขาวสมดุลบางอย่างจึงได้เเตกออกสิ่งมีชีวิตต่างๆเริ่มพรั่งพรูเข้ามา “
” เเต่ว่าข้ารู้สึกไม่ชอบมาพากลบางอย่างเกี่ยวกับการตายของเจ้าเสือขาวนั่น “
ปีศาจลำดับที่ 2 ฉุดคิด
” เจ้าราชาหมาป่าตนนั้นงั้นหรอ “
” ไม่ ไม่มีทาง ตอนนั้นข้าสู้กับเจ้านั่นเเละบาดเเผลที่มันได้รับนั้นสาหัสปางตาย เเต่ในตอนนี้ราชาหมาป่าไม่น่าทำอะไรได้ “
” โฟเวียส โอลาสต้า / ลูคัส วาซิเลียน “
” ค่ะ / ครับ.. “
เจ้าทั้งสองจงไปดูซะว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้น
รับทราบค่ะ / รับทราบครับ
” พึ่บ.. “
ภายในชั่ววินาที ปีศาจลำดับที่2 ก็ได้ส่ง ปีศาจลำดับที่ 14 โฟเวียส โอลาสต้า เเละปีศาจลำดับที่ 15 ลูคัส วาซิเลียน ไปยังเเดนลึกลับผ่านเศษเสี้ยวเเห่งโลก
” ท่านเฮลต้า ทำไมถึงส่ง เจ้าลูคัส ไปกับ โฟเวียสล่ะ “
” …. ” เฮลต้าเงียบไปชั่วครู่
” ที่ข้าให้ โฟเวียส ไปกับลูคัส ถือว่าข้าให้ลูคัสได้ทดสอบตัวเองด้วย “
” ทำไมท่านถึงส่งมันไปไม่ใช่ข้า ถ้าเป็นข้าคงจัดการปัญหาได้ง่ายๆ “
ปีศาจลำดับ 5 พูดด้วยท่าทางไม่พอใจ
” เจ้าลูคัสมันก็เเค่ปีศาจอ่อนปวกเปียก ที่พึ่งเลื่อนขั้นมาจากปีศาจชั้นต่ำต่างจากเราที่เป็นปีศาจชั้นกลางมาตั้งเเต่กำเนิด “
” เอาน่า ไม่เป็นไรถือว่าเจ้าได้พัก ” เสียงของปีศาจลำดับ 2 ที่พูดเอนเอียง
” ลูคัส วาซิเลียน บุตรนอกสมรสของท่านผู้นั้นเเต่ทำไมถึงช่างเเตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ”
เสียงของปีศาจลำดับ 2 ที่พูดขึ้นอย่างเวทนา
ภาพตัดกลับมาที่ราชาหมาป่าเเละราเฟีย
” …!! “
” หายไปเเล้ว.. “
” อะไรหายไปงั้นหรอ ” ราเฟียเอ่ยถาม
” พลังของเจ้าเสือขาวนั้น “
” เรย์จัดการมันไดัเเล้วงั้นหรอ.. “
” ราชาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งเเทบไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น “
” เจ้าเสือขาวตัวนั้นอย่างน้อยต้องเป็นเเรงค์เกอร์หรือเเรงค์เกอร์ก็ไม่อาจจัดการเจ้าเสือขาวนั้นได้หรอก “
ความรู้สึกสงสัยเเละงุนงงโพล่ขึ้นมากมายเต็มหัวของราชาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่ง
” ราเฟียเราจะไปกันเเล้ว “
” อื้อ “
หลังสิ้นสุดเสียงราขาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งได้เปิดประตูวาปขนาดใหญ่เเละภาพบริเวณข้างหน้าค่อยๆเปลี่ยนไป
” ในความจริงเเล้วโอกาสที่พวกเจ้าจะเข้ามาได้ในที่นี้นั่นคือ 0% “
” หรือก็คือเป็นไปไม่ได้เลย “
” เพราะสถานที่เเห่งนี้นั้นไม่ได้อยู่ภายในโลกนี้เเต่คือ โลกหรือดินเเดนที่ท่านผู้สร้างเป็นคนสร้างขึ้นมาซึ่งการที่จะเข้าที่นี่ได้ต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาติหรือผ่านจุดที่เรียกว่า “เศษเสี้ยวเเห่งโลก ” “
” เศษเสี้ยวเเห่งโลกงั้นหรอ ” ราเฟียถามด้วยความสงสัย
” เศษเสี้ยวเเห่งโลกคือ รอยเเยกที่จะโพล่ออกเหมือนเป็นจุดวาป ที่มีเพียงเสี้ยวเดียว
ผู้ที่ไม่ได้อนุญาติก็ไม่อาจเข้าได้หรือพบเห็นเเต่เศษเสี้ยวเเห่งโลกนี้จะมีอยู่กระจัดกระจายทั่วโลก เพื่อเข้าสู่เขตดินเเดนลี้ลับเเห่งนี้ “
” เเต่ทำไมข้าและเรย์ถึงเข้ามาได้กันนะ “
ราเฟียคิดเเล้วสงสัย
” เอาเถอะตอนนี้ขึ้นหลังข้าเราจะไปหาเรย์กัน “
” สถานการณ์ตอนนี้เริ่มไม่ดีเเล้ว ตัวข้าตอนนี้ไม่อาจจะควบคุมรอยเเตกร้าวของประตูสิ่งมีชีวิตปริศนาอาจจะพรั่งพรูเข้ามา
เเละเจ้าพวกปีศาจเวรนั่นมันอาจจะมาอีกครั้งหลังจากรู้ว่าเสือขาวบ้านั่นตายไป ” ราชาหมาป่าสตรอมไลท์นิ่งพูดในใจเเต่สีหน้าของราชาหมาป่านั้นกังวลเป็นอย่างมาก
” เอาล่ะ “
” ไปกันเถอะ “