THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 19 ซีซาร์ ผู้เเสนเจ็บปวด
ในที่ๆหนึ่ง??
“ หว่า~ ดูเหมือนเจ้านั่นจะทำงานพลาดซะเเล้วเเหะ “
“ เจ้านั่นมันคนจองหองสมควรเเล้วล่ะ ทั้งๆที่ข้าบอกให้ทำตามเเผนอย่าวู่วามเเท้ๆ เเต่กลับเมินเฉยคำเเนะนำของข้า “
“ เเค่คำสั่งง่ายๆ อย่างตามหาตัวมนุษย์คนหนึ่งมันยากขนาดนั้นเลยงั้นรึ “
“ ว่าเเต่ท่านผู้นั้นสั่งให้จัดการกับมนุษย์ชายคนหนึ่งที่มีผมสีเงินรึเปล่านะ…เเละตาสีเอิ่มม..… “
“ ผมสีเงินเเละตาสีฟ้า “
“ อ้าใช่เเล้วเจ้าพูดถูก “
“ ข้าไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเเค่มนุษย์คนหนึ่งเเต่กลับส่งปีศาจไปมากมาย “
เสียงของปีศาจชายคนหนึ่ง?? พูดพร้อมยักใหล่
“ เจ้าคิดสงสัยต่อคำสั่งของท่านผู้นั้นอย่างงั้นหรอ.. “
เสียงของปีศาจหญิงตนหนึ่ง??? พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมเเผ่รังสีอาฆาตออกมา
“ ก็ได้ๆ ข้าขอโทษเเต่ดูเหมือนครั้งนี่มันเจ้านั่นมันล้มเหลวล่ะนะ “
“ เเล้วสถานการณ์ฝั่งทิศตะวันตกเป็นยังไงบ้าง “
“ ดูเหมือนสถานการณ์ฝั่งนู้นค่อนข้างจะตึงมือเลยล่ะเเละกองทัพของเราเริ่มถอยกลับเเล้วล่ะ “
“ ข้าไม่คิดว่ากองทัพมนุษย์ที่อ่อนเเอจะเเข็งเเกร่งขนาดนี้ ยกเว้น เจ้าพวกที่เรียกตัวเองว่าเเรงค์เกอร์ “
เสียงของปีศาจชายอีกตนหนึ่งพูดพร้อมกับกัดฟัน
“ เจ้าจะเป็นยังไงบ้างนะเรย์ “
เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งก็คือเฮมีเทสเธอพูดพร้อมกับเเหงนหน้าเหม่อมองท้องฟ้านัยน์ตาที่ไร้อารมณ์เเละใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยเลือดสายตาที่เเสดงถึงออกถึงความอาลัย ดาบที่ยาวใหญ่เเละชุดเกราะสีเงินของเธอได้ส่องสว่างท่ามกลางเเสงจันทร์ที่สาดส่องเเละตกกระทบลงมา ซากศพมหาศาลของเหล่าปีศาจที่ถูกบดขยี้ด้วยใบดาบของเธอเลือดของพวกมันได้ไหลนองเต็มพื้นกลิ่นเหม็นเน่าของซากศพคละคลุ้งโชยไปทั่วบริเวณ
“ ท่านหัวหน้าอัศวินเฮมีเทส ในตอนนี้ระลอกการโจมตีเหมือนจะหยุดลงเเล้วในตอนนี้ฝั่งปีศาจทั้งหมดหายไป เหมือนตอนนี้พวกมันจะถอยไปทั้งหมดเเล้ว “
เฮมีเทสพยักหัวตอบอัศวินนั้นเบาๆ ก่อนจะดึงดาบที่ปักอยู่กลางซากปีศาจออก
ในตอนนี้เธอนั้นกำลังนึกถึงใครบางคนจนสถบคำพูดที่พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเเละคิดถึงออกมา
“ เรย์ “
ค่ำคืนของการนองเลือดได้ผ่านพ้นไป ผู้ต่างถูกสังหาร บ้านเมืองต่างถูกทำลายเเละความเศร้าโศกที่มากมายของผู้คนที่เสียครอบครัวคนรักเเละสิ่งสำคัญต่างๆ มากมาย
“ ความโศกเศร้า ความเสียใจเเละความทรมาน “
เสียงของเรย์ที่ได้นั่งชันเข่าอยู่บนกำเเพงของเมือง
“ มันไม่ควรเป็นเเบบนี้เลย… “
เสียงของราเฟียได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่โศกเศร้า
“ ข้าเสียบ้านของข้าเเละที่อยู่ไปเเล้ว.. “
เสียงของเวน่าได้พูดออกมา
“ มันคงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ “
“ เเต่ยังเป็นเรื่องที่ดี ที่พวกเจ้าทั่งสองนั้นยังรอด.. “
เรย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เเสดงถึงความเป็นห่วงพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ ในตอนนี้พวกเราคงต้องไปหากิลด์มาสเตอร์เเล้วล่ะ “
“ ในตอนนี้มีสิ่งที่ข้าต้องรู้หลายเรื่องเลยล่ะ “
“ ราเฟีย เวน่า ไปกันเถอะ “
“ อื้อ “
พวกเรย์นั้นได้ค่อยๆไต่ลงจากกำเเพงไปยังด้านล่าง
เรย์ได้เดินไปพร้อมกับมองไปรอบๆตัวเขาเเละดูเหมือนในตอนนี้ชาวเมืองทุกคนได้อพยพเข้าเมืองอีกครั้ง เเต่ทว่าเลือดที่นองพื้นเเละซากศพของผู้คนที่ถูกสังหารนั้นยังอยู่ทั่วทุกที่เต็มไปหมด
ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็ถูกช่วยเหลือจากเหล่าหน่วยสนับสนุนของกิลด์
ตอนนี้สถานการณ์นั้นกำลังฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ เเต่ผู้คนอีกหลายคนก็ยังโศกเศร้ากับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น
เหล่าสมาชิกกิลด์ต่างๆ ต่างช่วยเหลือชาวบ้านเเละพลเรือน
พวกเรย์นั้นเดินไปเรื่อยๆ เขานั้นตั้งใจที่จะไปหาใครคนหนึ่ง
“ พาทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บไปยังที่พักของหน่วยสนันสนุน “
เสียงของเหล่ากิลด์ต่างๆ ที่ได้กล่าวขึ้นมา ในตอนนี้พวกเขากำลังช่วยเหลือชาวเมืองที่ได้รับบาดเจ็บ สีหน้าและบรรยากาศที่มีเเต่ความเศร้าโศกเสียใจของผู้คน ที่สูญเสียคนที่ตนรัก ครอบครัว สิ่งสำคัญ ต่างถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเหล่าคนที่ได้รับบาดเจ็บเเละรอดมาได้พวกเขานั้นก็เสียสิ่งสำคัญของพวกเขาไปเเทบทั้งหมด
นัยน์ตาที่เหี่ยวเฉา สายตาที่หมดหวังเเละสิ้นหวังกับชีวิต
เรย์เเละราเฟียกับหญิงสาวนั้นรีบมุ่งหน้าไปหาคนๆ หนึ่งคนนั้นก็คือ กิลด์มาสเตอร์ของเมืองเฮสเทีย
“ เหมือนจะมาถึงเเล้วล่ะ “
ในตอนนี้เรย์มาถึงหน้าที่พักที่กิลด์มาสเตอร์อยู่คือวิหารศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเฮสเทีย
เรย์ก้าวเท้าเดินขึ้นบนบันไดวิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อไปหา ซีซาร์ กิลด์มาสเตอร์เเห่งเฮสเทีย เพื่อถามบางสิ่งที่เขานั้นสงสัยเเละสิ่งที่เขาต้องการคำตอบ
“ พวกเจ้าหยุดอยู่ตรงนั้น หากพวกเจ้าเข้ามามากกว่านี้ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน “
เสียงของอัศวินเหมือนจะเป็นคนของกิลด์อัศวินได้ยืนอยู่ข้างประตูทั้งสองฝั่ง
“ ในตอนนี้ท่านซีซาร์กำลังพักฟื้นร่างกาย ไม่มีคำสั่งอนุญาตให้ใครเข้าไปทั้งนั้น! “
เรย์นั้นเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ดีกว่าใครๆ
เขานั้นค่อยๆ เดินขึ้นไปอย่างช้าๆ
“ ข้ามีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับท่านซีซาร์โปรดให้ข้าเข้าไป “ เรย์พูดด้วยเสียงที่อ่อนน้อม
ดวงตาสีฟ้าที่เหมือนทะเล สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความนิ่งสงบ
ในทันใดนั้นที่เรย์จะเดินเข้าประตู
“ ดาบทั้งสองก็ฟันลงมาเป็นดาบไขว้กัน เพื่อกันไม่ให้เรย์นั้นเดินเข้าไป
ดาบทั้งสองได้ตัดผ่าปลายผมผมสีเงินบริเวณใบหน้าของเขาออกเล็กน้อย ปรากฏสายตาของเรย์ที่มองด้วยสายตาที่นิ่งเฉย
เรย์นั้นยังสงบนิ่งเเม้ว่าเขานั้นจะถูกทำเเบบนั้นก็ตาม
“ ปล่อยให้เขาเข้ามา “
เสียงของใครบางคนได้เอ่ยออกมา
อัศวินทั้งสองได้ดึงดาบกลับพร้อมกับจ้องมองเรย์ด้วยสายตาที่ไม่พอใจเเต่เรย์นั้นไม่เเยเเสสายตาเหล่านั้นสักนิด
“ ตุบ ตุบ ตุบ “
เสียงของเรย์ที่ได้ก้าวเท้าเข้าไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์อย่างใจเย็น เขากวาดตามองบริเวณในวิหารที่กว้างเเละเต็มไปด้วยรูปปั้นเเละเสาขนาดใหญ่ เเละได้สังเกตเห็นชายวันกลางคนคนหนึ่งที่ได้นั่งยืนอยู่ข้างหน้ากระจกหลากสีข้างรูปภาพของหญิงสาวผมสีขาว
ชายหนุ่มนั้นกำลังจัองมองบางอย่างข้างนอกที่มีเเต่ความวุ่นวาย
“ ในตอนนี้ที่นี่มีเเต่ความวุ่นวายความสูญเสีย เเละความโศกเศร้า ผู้คนที่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดเเละความทรมาณ “
ซีซาร์พูดพร้อมกับกำหมัดข้างซ้ายไว้เเน่นเเละข้างขวานั้นพยายามปิดบาดเเผลบางอย่างของเขาไว้
“ เจ้ามาที่นี่ เหมือนเจ้ามีอะไรจะถามข้าสินะ “
“ เหมือนท่านจะรู้จักข้าดีเลยนะ “
“ ข้าไม่เคยจำใครผิด “
“ เเค่เจ้าเดินเข้ามาข้าก็รู้เเล้วล่ะ “
“ ข้าคงไม่ต้องปิดบังตัวตนต่อท่านเเล้วล่ะ “
“ เดรมิทิส “
ทันใดนั้น พลังสีดำบางอย่างล้อมตัวเขาเเละหลอมรวมเข้ากับร่างกายเขาเกิดเป็นชุดเกราะสีดำทมิฬ
“ อัศวินทมิฬ “
“ เป็นเจ้าจริงๆ ด้วยสินะ “
เรย์ได้พยักหน้าตอบด้วยความเข้าใจ
“ ขอบใจเจ้าที่ช่วยข้า “
“ หากข้าไม่ได้เจ้าช่วยเอาไว้ข้าก็อาจจะไม่รอดเเล้วล่ะ “
เรย์พยักหน้ารับคำขอบใจจากกิลด์มาสเตอร์อีกครั้งพร้อมกับถามคำถาม
“ ทำไมในตอนนั้นท่านถึงไม่ใช้พลังของท่านล่ะ ทั้งๆ ที่ท่านบาดเจ็บเเละอาจจะตายได้เลยด้วยซ้ำ “
ซีซาร์นั้นนิ่งเงียบซักพักก่อนจะพูดบางอย่างออกมา
“ กฏของการเเลกเปลี่ยน “
“ กฏของการเเลกเปลี่ยนงั้นหรอ? “
“ ใช่เเล้วล่ะ เจ้านั้นรู้ดีว่าพลังที่ได้รับมานั้นคือพลังของเดมิทิส หรือเหล่ากลุ่มดาว “
“ เเต่ทว่าการใช้พลังนั้นมีข้อเเลกเปลี่ยนหรือการเเลกเปลี่ยน ซึ่งนั่นก็คือเเลกเปลี่ยนพลังของดวงดาวกับบางสิ่งของเจ้าที่ต้องการใช้พลัง “
“ ในเเต่ละคนนั้นจะมีกฏของการเเลกเปลี่ยนไม่เหมือนกัน “
“ กฏการเเลกเปลี่ยนของข้านั้น คือเเม้ข้าไม่ได้ใช้พลังของเดมิทิสโดยตรง เเต่ข้าก็ได้ผลจากการทำกฏการเเลกเปลี่ยนคือการได้พลังบางส่วนของเดมิทิสมาเเม้ข้าไม่ได้ใช้พลังก็ตาม เต่หากข้าใช้พลังของเดมิทิสโดยเเท้จริง
ตัวของข้านั้น จะบ้าคลั่งสูญเสียตัวตนไปในที่สุด… “
“ กฏของการแลกเปลี่ยนงั้นหรอ…เฮมีเทสไม่เคยบอกข้าเลย “
“ กฏของการเเลกเปลี่ยนคือการเเลกเปลี่ยนความต้องการของเจ้ากับพลังของเจ้าเเต่สิ่งเเลกเปลี่ยนนั้นต้องเท่าเทียมกันตามกฏที่เท่าเทียม “
ซีซาร์พูดพร้อมกับกันมามองเรย์
“ เจ้าคงไม่ได้มีอะไรจะถามข้าเเค่นี้สินะ “
เรย์พยักหน้าตอบ
“ ข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วย “
เรย์พูดด้วยเสียงที่สงบนิ่ง
“ ดูจากสีหน้าของเจ้า เหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่นะดูจากความรีบร้อนของเจ้า “
เรย์พยักหน้า
“ ท่านเคยเห็น พ่อค้าทาสคนหนึ่งที่มีชื่อว่า เฮเชล ฮาเรนเทียบ้างรึเปล่า “
เรย์นั้นไม่ทันพูดจบเเต่สายตาของซีซาร์นั้นกลับเต็มไปด้วยความอาฆาตเเรงกดดันของบุคคลระดับเเรงค์เกอร์ที่ปลดปล่อยออกมาเรย์นั้นสะอึกรู้สึกทึ่งกับเเรงกดดันมหาศาลที่พวยพุ่งออกมา
“ เจ้ารู้จักกับเจ้านั่นได้ยังไง!!! “
เสียงของซีซาร์นั้นพูดออกมาอย่างเย็นชาเเละปล่อยออร่าสีแดงฉานออกมา
เรย์จ้องมองซีซาร์ด้วยสายตาที่นิ่งเงียบสงบก่อนจะพูดบางอย่างออกมา
“ เจ้านั่นคือคนที่ข้าจะสังหารเเละฉีกกระฉากตัวมันเป็นชิ้นๆด้วยมือของข้าเอง “
เรย์พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบเเต่เต็มไปด้วยความอาฆาตจากจิตใจเขา
“ เจ้านั่นคงทำอะไรบางอย่างกับเขาเหมือนกันสินะ ถึงกับมีความเคียดเเค้นมากขนาดนั้น “
ซีซาร์นิ่งเงียบไปสักพักเเละพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์อีกครั้ง
“ เจ้านั่นคือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า พ่อค้าปีศาจ “
“ เเต่ในตอนนี้เจ้านั้นไม่สามารถสู้กับเจ้านั่นได้หรอก “
“ เจ้านั่นเเข็งเเกร่ง ข้าเคยปะทะกับเจ้านั่นเเล้วครั้งหนึ่ง “
“ คุณเคยเจอกับเจ้านั่นหรือ “
“ ใช่ เเต่เจ้านั่นบาดเจ็บเเละหนีไปได้ส่วนข้าได้รับบาดเจ็บบริเวณไหล่ของข้า “
ซีซาร์พูดพร้อมกับเปิดเเผลเป็นนั้นให้เรย์ดูรอยเเผล รอนเเผลนั้นเป็นเหมือนรอยที่เกิดจากใบดาบที่เฉือนไหล่ของเขาได้อย่างเรียบเนียน
” นั่นคือสิ่งที่เจ้านั่นทำไว้กับข้าเเละเจ้านั่นฆ่าลูกสาวของข้า!! “
มันจับเธอทรมาณเเละฆ่าเธออย่างไร้ความปราณีต่อหน้าข้า
ซีซาร์พูดพร้อมกับปล่อยออร่าโกรธเเค้นออกมา
“ ในวันนั้นเป็นวันที่ข้านั้นไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เเบบนี้ในวันนั้นเมืองนั้นจัดเทศการเฉลิมฉลอง เด็กๆต่างเล่นกันสนุกสนานรวมทั้งลูกของข้า เเละทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดีจนจู่ๆ ท้องฟ้าบริเวณเมืองก็มีสีดำและมีสายฟ้าสีเเดงผ่าลงมาเเล้วก็มีบางอย่างปรากฏตัวออกมา รูปร่างลักษณะของเจ้านั่นเหมือนมนุษย์ เจ้านั่นมีผมสีขาวยาวเเละผิวที่ซีดขาว ดวงตาสีน้ำเงินเข้ม เเละหน้ากากสีขาวที่ทีครึ่งหน้า “
ทันใดนั้นเหล่าเด็กๆ ที่อยู่ในเทศการต่างถูกจับตัวโดยบางอย่างที่ข้ามองไม่เห็นเเละถูกดึงลากไปหามัน
“ ในตอนนั้นทุกคนต่างหวาดกลัวเเละทำอะไรไม่ถูก ข้าที่อยู่ข้างนอกเมืองเเละกำลังติดตามการเคลื่อนของปีศาจที่จะรุกรานเข้ามาเเต่ทว่าสร้อยคอของข้าที่ลูกสาวข้าให้มานั่นกับมีสีจืดจางลงเรื่อยๆ ข้ารู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ปกติข้านั้นจึงรีบมุ่งหน้าไปให้ไวที่สุดเท่าที่ข้าทำได้ “
“ มันจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นๆ “
“ ข้าสวดภาวนาให้ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้น
“
เขาพูดพร้อมกับนึกถึงหน้าลูกสาววัย12ปีของเขาที่เรียกชื่อเขา
“ ป๊าคะ หนูรักป๊าที่สุดเลย “
เขานึกถึงเสียงของลูกสาวสุดที่รักพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเเละสวดภาวนาให้เธอนั้นปลอดภัย
เเต่ในตอนที่เขามาถึงนั้น ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นหรือเเม้กระทั่งสมาชิกกิลด์ก็ถูกข้าตายเป็นรายกอง
“ ข้าไม่เห็นจะเห็นเด็กที่มีสัญลักษณ์นั่นตามที่ท่านผู้นั้นบอกเลยเเหะ “
“ ข้าจะทำไงกับเจ้าเด็กที่เหลือพวกนี้ดีล่ะ “
หลังสิ้นสุดเสียงของเจ้านั่นเด็กๆ ต่างกรีดร้องเเละพยายามวิ่งหนีจากมัน
“ ข้าหน่ะไม่ชอบเด็กน่ารำคาญนะรู้มั้ย “
“ พลั้ะะ “
เสียงของเด็กที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมเเละไร้ความปราณี
ตัวข้านั้นที่มาถึงเเต่ทว่าข้านั่นมาถึงช้าเกินไปในตอนนั้นตัวข้าเเละหัวใจของข้ามันได้เเตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆลูกสาวของข้าถูกฆ่าเเละเจ้านั่นดูดเลือดอย่างกระหายก่อนที่เจ้านั่นจะฆ่าเด็กทั้งหมดด้วยความเลือดเย็น
“ อ้าาา ~ รสชาติของมนุษย์นี่มันดีจริงๆ เลยน้าา เจ้านั่นพูดพร้อมกับเช็ดเลือดที่เลาะ เเละยิ้มเยาะเย้ยด้วยความสะใจให้กับข้าเหมือนการสังหารของเหมือนนั้นเหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ ชีวิตของลูกสาวข้าเเละเด็กๆ ต่างถูกเจ้านั่นสังหาร
“ ข้านั้นโกรธจนปะทุพลังของข้าออกมาเเละเข้าต่อสู้กับเจ้านั้นเเต่ทว่าเจ้านั้นกลับหนีไปได้เเละปล่อยให้ข้านั้นอยู่กับร่างไร้วิญญาณของลูกสาวเเละร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ ซีซาร์พูดพร้อมกับสีหน้าที่อาลัยอาวรณ์ออกมาความเศร้าโศกเสียใจที่สูญเสียคนที่เขารักสูญเสียสิ่งสำคัญเเละครอบครัวของเขาไป
เรย์นั้นเข้าใจความรู้สึกนั้นดี
“ ข้าขอโทษ ข้าไม่น่าถามคำถามนั้นกับท่านเลย “
ซีซาร์นั้นไม่ได้พูดอะไรออกมาเเต่กลับจ้องมองมาที่เรย์ เจ้านั่นเหมือนจะตรงไปยังทิศตะวันออก
” ทิศตะวันออกงั้นหรอ “
เรย์ได้ครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่งก่อนจะนึกถึงเเผนที่ที่เขานั้นได้รับมาจากเฮมีเทสเเละได้หายไปเเต่ทวีปนี้เขายังจำได้ดี
” จักรวรรดิ บาเลนเซีย ”
เรย์สถบคำนี้ออกมา
” ใช่เเล้วล่ะ จักรวรรดิ บาเลนเซีย ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก เเดนทะเลทรายที่ยิ่งใหญ่ การจะไปยังที่นั่นซึ่งเป็นที่ๆมีเเต่ความยากลำบากเเละความอันตรายที่นับว่าเป็นที่สุดของแดนมนุษย์เเละเป็นสถานที่ที่ไกลสุดโพ้นเลยล่ะ “
” ข้าก็ไม่เคยไปที่เเห่งนั้นมาก่อนข้าเพียงเเค่ได้ยินการกล่าวขานถึงจักรวรรดิบาเลนเซียเพียงเท่านั่นเอง “
” เเม้ว่าตัวข้าในตอนนี้ที่มีเเต่ความโกรธเเค้นเต็มไปหมดก็ทำได้เพียงเก็บมันไว้เเล้วทำหน้าที่ของข้าผู้เป็นกิลด์มาสเตอร์เเห่ง เฮสเทีย.. “
เรย์นั้นเข้าใจซีซาร์เป็นอย่างดีว่าเขานั้นรู้สึกยังไง
” เเล้วข้าจะไปที่นั่นได้ยังไง ”
” มันมีวิธีไปที่นั่นเเต่มันค่อนข้างอันตรายเเละยากลำบากพอควรเลยล่ะ
” เจ้ารู้มั้ยว่าทำไมข้าถึงบอกว่าที่นั่นอันตรายเป็นที่สุด “
” ทำไมล่ะ ?? “
เรย์ถามด้วยความสังสัย
” เทียบกับที่นี้เเล้วการจะไปยังที่ต่อไปนั้นอาจจะต้องผ่านป่าที่มีเเต่มอนเตอร์หรือทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ “
” เเต่ที่นั่นนั้นไม่ใช่ที่นั้นจะมีสิ่งที่เรียกว่า เขตมหาวายุ “
” ซึ่งจะเป็นกำเเพงวายุสูงเสียดฟ้าล้อมรอบดินเเดนถ้าเจ้านึกภาพไม่ออกมันก็เหมือนกำเเพงสีเบือดสูงเสียดฟ้าทางทิศเหนือเขตกั้นระหว่างมนุษย์เเละปีศาจนั่นเเหละ ”
” เเต่ความสูงนั้นเทียบกับกำเเพงสีเลือดไม่ติดหรอกเเต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น “
” มันอยู่ที่กำเเพงพายุนั้นไม่ได้มีอยู่เเค่ชั้นเดียว “
ข้าไม่เเน่ใจว่ามีกี่ชั้นเเต่ข้าคิดว่ามีมากกว่า3ชั้นเเน่นอนเเต่ชั้นที่ 3 นั้นข้าไม่รู้ข้อมูลสิ่งที่อยู่ในนั้นเลย “
” รู้เพียงว่า ชั้นเเรกนั้น เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ “
” ส่วนชั้นสองนั้นคือที่อยู่ของเหล่ามอนเตอร์เเละสัตว์อสูร “
” สิ่งที่ข้ารู้มีเพียงเท่านี้ มันอาจจะช่วยเจ้าได้ไม่มากก็น้อย “
” ขอบคุณ เเค่นี้ข้าก็ช่วยข้าได้มากเเล้วล่ะ “
หลังสิ้นสุดคำพูดเรย์นั้นก็ได้หันหลังเเล้วเดินออกไป
” เจ้าจะไปเเล้วใช่มั้ย “
” ใช่ “
” เเล้วเจ้ามีจุดหมายที่จะไปในตอนนี้มั้ย “
เรย์นั้นนิ่งไปครู่นึง
” ข้าจะตามหาข้อมูลที่ข้าพอจะหาได้ก่อนเเละข้าจะไปสำรวจดันเจี้ยนเพื่อหาข้อมูลบางอย่างหน่ะ “
” หืมม สำรวจดันเจี้ยนงั้นหรอ เจ้าคงต้องหาบางสิ่งบางอย่างที่เรียกว่าเมจิกเทรชเชอร์งั้นหรอ “
” ท่านรู้จักเมจิกเทรชเชอร์ด้วยงั้นหรอ “
” ใช่ เเต่หากว่าเจ้าคิดว่าเมจิกเทรชเชอร์นั้นคืออาร์ติเเฟคที่เจ้ารู้มานั้นผิดคาดเลยล่ะ “
” หืมมันเเตกต่างกันงั้นหรอ “
” ใช่เเล้วล่ะ “
เรย์ลูบคางอย่างสงสัยเรย์นั้นเคยได้ฟังตากราเฟียครั้งหนึ่งเเต่มันกลับไม่ตรงกับสิ่งที่ซีซาร์พูด
” สิ่งที่เจ้าจะตามหามันคือเรื่องหลอกลวงนั่นเเหละเเต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดซะทีเดียวเพราะมันสามารถหาได้เเต่ไม่ใช่ว่าจะเจอได้ง่ายๆเเบบดันเจี้ยนปกติหรอกนะ “
” เมจิกเทรชเชอร์ นั้น ไม่ได้เกิดจากดันเจี้ยนธรรมดา เเต่สิ่งที่เรียกว่าเมจิกเทรชเชอร์เป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เเละสิ่งที่เรียกว่า อาร์ติเเฟคนั่นคือสิ่งที่มนุษย์สามารถสร้างขึ้นได้ จากศาสตร์ของนักเล่นเเร่เเปรธาตุ หรือได้รับมันจากดันเจี้ยนทั่วๆไปซึ่งจะมีระดับที่เเตกต่างกันละนะระดับหลักๆก็จะมี คอมมอน เเรร์ อีปิค เลเจนดารี่ ประมาณ “
” เป็นเเบบนี้นี่เอง งั้นสิ่งที่เรียกว่าเมจิกเทรชเชอร์นั้นที่หลายๆคนพูดกันนั้นก็เเค่เรื่องหลอกเด็กสินะ “
” ใช่เเล้วล่ะ “
” มีคนรู้ว่าเมจิกเทรชเชอร์คืออะไรเพียงไม่กี่คนเพราะคนส่วนใหญ่นั้นเเยกเมจิกเทรชเชอร์กับอาร์ติเเฟคไม่ออกเเละต่างคิดว่าอาร์ติเเฟคที่ตนมีนั้นคือเมจิกเทรชเชอร์ “
” เพราะว่า เมจิกเทรชเชอร์นั้นมีจิตใจเเละมีตัวตนของตัวมันเอง “
” มีจิตใจงั้นหรอ… “
เรย์ได้ฉุดนึกถึงคารามิสเเละเดรเมทิส
” ทำไมอาวุธเเละชุดเกราะของข้าถึงมีจิตวิญญาณ ” เรย์ได้ฉุดคิดในใจ
” เเล้วเมจิกเทรชเชอร์นั้นสามารถสร้างขึ้นมาได้รึเปล่า “
ซีซาร์รู้สึกตกใจกับคำถามเขาได้ฉุกคิดครู่นึง
” เป็นไปได้เเละเป็นไปไม่ได้ “
” หมายความว่ายังไง? “
” การสร้างเมจิกเทรชเชอร์ให้มีจิตใจนั้นต้องมีสิ่งที่เรียกว่า เเก่นเเท้ของต้นกำเนิดถึงจะสร้างขึ้นมาได้ ซึ่งเเก่นเเท้ของต้นกำเนิดนั้นคือสิ่งที่ไม่รู้ที่มาเเละไม่สามารถให้คำตอบที่เเน่ชัดได้เเต่ถ้าหากมีมันก็อาจจะสามารถสร้างขึ้นได้ “
” เเบบนี้นี่เอง “
เรย์นั้นก็ยังสงสัยถึงคารามิสเเละเดรมิทิสเเละช่างเหล็กนิรนามคนนั้นว่าเขาเป็นใครกันเเน่เเล้วสร้างเดรมิทิสขึ้นมาได้ยังไง
เเต่เรย์นั้นก็ทำได้เพียงครุ่นคิด
” ก่อนเจ้าจะไป ข้ามีบางอย่างจะให้เจ้าเผื่อสิ่งนั้นจะมีประโยชน์ “
หลังจากซีซาร์พูดเสร็จเขาก็เดินไปยังหน้ารูปปั้นเเล้วเอาของบางอย่างออกมา
” มันคือ.. “
” มันอาจจะช่วยเจ้าในอนาคต “
ซีซาร์ให้กับบางอย่างกับเขาโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก
” เหมือนจะเป็น ของบางอย่างที่มีสัญลักษณ์เป็นเหมือนรูปของกลุ่มดาวบางอย่าง “
เรย์พูดในใจ
” ขอบคุณ ข้าจะไปลืมบุญคุณนี้ “
” ต้องเป็นฝ่ายข้าที่ขอบคุณเจ้า “
หลังพูดเสร็จเรย์ก็ได้หันหลังเเล้วเดินออกไปจากวิหาร
สารถึงผู้อ่านทุกท่านตอนนี้ไรท์จะกลับมาเขียนเรื่องนี้ต่อเเล้วนะครับในตอนนี้ไรท์ติดมหาลัยเเล้วครับT Tไรท์ใช้เวลาในการคิดพล็อตเรื่องเเละพยายามเขียนให้ดีขึ้นกว่าเดิมครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ จาเนะ~