The King of War - บทที่ 1273ไม่ใช่คู่ต่อสู้
ความโกรธจากอายเต็มหน้าลู่ฉิงเสว่ แทบจะกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำให้สัมผัสได้ พูดใส่อย่างเกรี้ยวกราด “นี่เธอ……”
แต่แค่ได้พูดคำเดียว ก็พูดอะไรต่อแบบไปไม่ถูกแล้ว
ก็แม้แต่ตัวหล่อนเองก็ยังสำนึกได้ว่า หล่อนเองก็ยังแอบมองหยางเฉินอยู่ด้วย
“พี่เสี่ยว พี่ว่าแผนที่ฉันจัดวางไว้ เป็นไงบ้าง?”
มู่เชียนชียนยิ้มจนตาหยีมองและถามหยางเฉิน
คราวนี้ แม้แต่ลู่ฉิงเสว่ก็ไม่ขัด กลับมองไปที่หยางเฉิน นัยน์ตายังแฝงด้วยการรอคำตอบอยู่หน่อย
ด้วยความที่อยู่ในสถานะสตรีตระกูลสูง หล่อนมีความเข้าใจอยู่ ตัวเองนั้นไม่มีอิสระในการเลือกคู่ มีแต่ต้องพลีเพื่อตระกูล เสียสละความสุขสมบูรณ์ของตัวเอง
หล่อนเพิ่งได้รู้จักหยางเฉินในช่วงสั้น ๆ แค่เพียงอาทิตย์เดียว แต่ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก อย่างน้อยในความรู้สึก หยางเฉินก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ไม่ชอบ
เทียบไปกับหลี่จิ้นที่คอยรุ่มร่ามกวนใจ เปรียบไปแล้วนั้นต่างกันเป็นฟ้ากับดิน
ถ้าจะให้เลือกแต่งงานด้วยจริง ๆ แน่นอนคือต้องเลือกหยางเฉิน
หยางเฉินถูกมู่เชียนเชียนถามจนงง อึ้งไปพักหนึ่ง จึงรีบตอบไปว่า “เชียนเชียน เธออย่าได้พูดส่งเดชแบบนั้น ผมมีความชื่นชอบคุณฉิงเสว่ ก็เหมือนกันกับที่ชื่นชอบเธอ พวกเธอในความรู้สึกของผม ก็เหมือนเป็นน้องสาว ความรู้สึกของผมต่อฉิงเสว่ ไม่เคยคิดเลยเถิดอะไรไปจากนี้”
นี่เป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริงของเขา หลายวันนี้มา ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนอยู่ข้างตัวเขามาตลอด เด็กสาวทั้งสองเป็นผู้หญิงแสนดีเป็นที่สุด
เวลานี้ ตัวเองสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมด ในสภาวะแบบนี้ ได้รับความช่วยเหลือจากพวกหล่อน เขาย่อมมีความรู้สึกขอบคุณเป็นที่สุด
แต่การที่จะให้เขาแต่งงานกับลู่ฉิงเสว่ เขาไม่มีความคิดนี้เลย
ให้แม้นว่าในอนาคตก็ต้องแต่งงานมีลูกสืบสกุล นั่นอย่างน้อยก็ต้องให้ตัวเองฟื้นคืนกลับในความจำทั้งหมดก่อน
ได้ฟังที่หยางเฉินพูด ลู่ฉิงเสว่หน้าง้ำลง ในแววตาลึก ๆ เห็นแต่สิ่งที่กำลังหลุดหล่นไป ขอบตาแดงขึ้นมาในพลัน
“ฉันจะกลับไปเก็บความเรียบร้อยในห้องก่อนนะ พวกเธอก็เตรียมตัวกันได้แล้ว เดี๋ยวจะได้ออกไปข้างนอกกัน”
ลู่ฉิงเสว่พูดตาแดง ๆ
พูดจบ หล่อนก็รีบกลับเข้าไปในคฤหาสน์
คราวนี้ มู่เชียนเขียนพูดอะไรไม่ออก หล่อนย่อมรู้สึกได้ดีอยู่ ลู่ฉิงเสว่ได้ยินที่หยางเฉินพูดแล้ว อารมณ์ต้องไม่ปกติอย่างมาก
“พี่เสี่ยว คุณนี่เป็นผู้ชายที่ซื่อบื้อเอาจริง ๆ พี่สาวลูกพี่ลูกน้องของฉันคนนี้เค้าคิดยังไงกับคุณ คุณมองไม่รู้เลยหรือนี่?”
มู่เชียนเชียนตัดพ้อใส่แบบไม่ได้ดั่งใจ ว่าใส่ไปแบบความคิดเด็ก ๆ “พี่ยังไม่รีบไปง้อพี่สาวเค้าอีกเร๊อะ?”
หยางเฉินวางตัวด้วยสีหน้าสงบเรียบ เอ่ยปากพูด “เชียนเชียน ทีหลังไอ้เรื่องล้อเล่นแบบนี้ เลิกเสียเถอะนะ ผมกับคุณฉิงเสว่รู้จักกันแค่เพียงอาทิตย์เดียว หล่อนจะมาคิดชอบผมได้ยังไง?”
“อีกอย่างนะ ผมตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมีความรักอะไรกับใครได้”
ขณะที่พูด สีหน้าก็แสดงออกในความกังวล “ข้อสำคัญ เวลานี้ผมสูญเสียความทรงจำ จำอะไรไม่ได้ทั้งหมด หากว่าตอนนี้ไปอยู่ในห้วงรักกับฉิงเสว่ แล้วถ้าความทรงจำของผมฟื้นคืนกลับมา เกิดว่าผมเป็นคนที่แต่งงานแล้วหละ?”
“ถึงเวลานั้น ผมไม่กลายเป็นคนที่ไปทำร้ายคุณฉิงเสว่หรือ?”
ได้ยินที่หยางเฉินพูด มู่เชียนเชียนถึงกับเซ่อ มาจวบจนตอนนี้ หล่อนจึงมีสำนึกได้ ตัวเองนั้นได้ทำอะไรผิดไปมาก
หล่อนมีความศรัทธาในตัวหยางเฉินอย่างมาก และยังคิดอยากเห็นลู่ชิงเสว่ได้พบกับความสุขสมใจ
แต่อย่างที่หยางเฉินพูด ถ้าหยางเฉินมีลูกมีเมียแล้วหละ?
ถึงเวลานั้นที่เมียของหยางเฉินตามมาถึงบ้าน ถึงตอนนั้นลู่ฉิงเสว่จะทำยังไง?
ทว่า หล่อนรู้ตัวเอง แม้เพียงช่วงเวลาอาทิตย์เดียวสั้น ๆ นี้ อาจรวมถึงตัวฉิงเสว่เองก็คงไม่รู้สึกได้ หล่อนเองก็มีใจกับหยางเฉินด้วยแล้ว
“พี่เสี่ยว พี่นี่คงจะเป็นฟ้าสั่งให้มาเกิด เพื่อมาแกล้งพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของฉันคนนี้แน่ ๆ!”
มู่เชียนเชียนทำตาดุใส่หยางเฉิน หันตัวกลับเดินเข้าห้องไปทันที
หยางเฉินส่ายหน้ายิ้มแห้ง ๆ
ในขณะเดียวกันนั้น ที่บ้านตระกูลลู่ ในบ้านหรูส่วนตัวของลู่หยวนทง
“คุณพ่อ คิดไม่ถึงจริง ๆ พลังฝีมือคุณเสี่ยวคนนี้ จะแข็งแกร่งขนาดนี้ ขนาดอาจารย์ฉี ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย”
ลู่ชวนพูดอย่างตื่นเต้น
ลู่หยวนทงผงกหัว หยุดจากความตื่นเต้น มองไปยังอาจารย์ฉีถามไปว่า “อาจารย์ฉี ท่านเห็นว่า พลังฝีมือของคุณเสี่ยวคนนี้ ควรจะแข็งแกร่งในระดับไหน?”
อาจารย์ฉีส่ายหน้า พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าได้ซัดลงไปเต็มกำลัง ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับแดนราชาขั้นปลายทั่วไป ก็ไม่แน่ว่าจะรับได้ แต่คุณเสี่ยวท่านนี้ กลับสามารถต้านรับได้อย่างง่ายดาย”
“แต่ก็พอจะยืนยันได้ว่า พลังฝีมือของคุณเสี่ยวท่านนี้ อย่างน้อยก็ระดับแดนราชาขั้นปลาย และในความรู้สึกส่วนตัวข้า พลังฝีมือจริงของเขา มาเทียบกับพวกเราแล้ว ยิ่งกว่าเกิน”
ลู่หยวนทงกับลู่ชวนสบตากัน ทั้งสองต่างมีแววตาที่ตื่นเต้น
“อาจารย์ฉี ความหมายของท่านคือ พลังฝีมือคุณเสี่ยวคนนี้ น่าจะไปถึงระดับสุดยอดแดนราชาเลยหรือครับ?”
ลู่ชวนถามด้วยความระมัดระวังในคำพูด
อาจารย์ฉีผงกหัว
มาคราวนี้ ทำเอาลู่หยวนทงกับลู่ชวนสองพ่อลูก หายใจรัวถี่
เพียงหนึ่งผู้แข็งแกร่งระดับแดนราชาขั้นปลาย ก็สามารถยกระดับตระกูลลู่ได้อย่างใหญ่หลวง ถ้าหากพลังฝีมือของหยางเฉินไปถึงระดับสุดยอดแดนราชา การที่ตระกูลลู่จะยืนปักหลักบนยอดสุดแห่งหนิงโจว ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้!
“คุณพ่อ คราวนี้ พวกเราได้ของสุดวิเศษมาจริง ๆ แล้ว!”
ลู่ชวนพูดด้วยอารมณ์ตื่นเต้น “ขอเพียงให้คุณเสี่ยวอยู่กับบ้านตระกูลลู่ ต่อให้เป็นตระกูลหลี่กับตระกูลจาง ก็ไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเราได้”
ดวงตาของลู่หยวนทงเห็นเป็นประกาย นิ่งขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ ก็ถามขึ้นมา “แกว่า ถ้าให้คุณเสี่ยวนี่แต่งงานกับฉิงเสว่ แล้วตระกูลลู่ของเราจะเป็นยังไง?”
ได้ยินที่พูด ลู่ชวนถึงกับสะดุ้ง ตามมาด้วยความตื่นเต้นพูดว่า “คุณเสี่ยวถ้าแต่งงานกับฉิงเสว่ได้จริง ทั้งตระกูลหลี่และตระกูลจาง ก็จะต้องศิโรราบกับเราเป็นแน่”
“ว่าไปแล้ว ในตระกูลของพวกเขา พลังฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ไม่มีเกินกว่าผู้แข็งแกร่งระดับแดนราชาขั้นปลาย”
“สำหรับพวกเรา ขอเพียงมีผู้แข็งแกร่งขั้นราชาสูงสุด ก็สยบทั้งตระกูลหลี่และจางสองตระกูลใหญ่นี้ได้แล้ว!”
ลู่หยวนทงผงกหัว ในดวงตาเปี่ยมด้วยความมุ่งหวัง “ในเมื่อแม้แต่อาจารย์ฉีก็ยังเชื่อว่า พลังฝีมือของคุณเสี่ยวคนนี้ เป็นไปได้อย่างมากว่าจะอยู่ในขั้นแดนราชาสูงสุด เพราะฉะนั้นพวกเราต้องหาวิธี รั้งเขาให้อยู่ในตระกูลลู่ให้ได้”
ลู่ชวนผงกหัว “คุณพ่อ ท่านวางใจครับ ผมจะไปพูดกับฉิงเสว่เอง ให้หล่อนประกบตัวคุณเสี่ยวไว้ให้ได้
หยางเฉินยังไม่รู้เลยว่า ตัวเขานั้นได้ถูกลู่ชวนวางตัวไว้เป็นลูกเขยตระกูลลู่แล้ว
เขากำลังนั่งรอลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนอยู่ที่ห้องโถงใหญ่
ในขณะที่เขากำลังนั่งรออยู่นั้น ภายในห้องลู่ฉิงเสว่ มู่เชียนเชียนเคาะประตูแล้วเปิดประตูเดินเข้าไป
“พี่สาว พี่ร้องไห้เหรอ?”
ที่มู่เชียนเชียนเห็น ดวงตาของลู่ฉิงเสว่แดงก่ำ เป็นที่แน่ชัดว่ามีการร้องไห้
ลู่ฉิงเสว่รีบหันหน้าหนี “ฉันเปล่าร้องไห้นะ!”
ความผูกพันระหว่างมู่เชียนเชียนกับลู่ฉิงเสว่สนิทสนมกันมาก มีหรือจะมองไม่ออกว่าลู่ฉิงเสว่มีอาการผิดปกติ?
หล่อนเดินเข้าไปข้าง ๆ ลู่ฉิงเสว่ จู่ ๆ ก็กางแขนโอบพี่สาวลูกพี่ลูกน้องคนนี้เข้ามาในอ้อมกอด พูดเสียงเบา ๆ “พี่สาว พี่อย่าได้เสียใจนะ พี่เสี่ยวเขาไม่ใช่ไม่ชอบพี่นะ เพียงแต่ตอนนี้ความจำของเขาเสื่อม ลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด จึงไม่กล้าใกล้ชิดสนิทกับพี่”
“เขายังกลัวว่าเขาได้แต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว ถึงเวลานั้น เมื่อความทรงจำของเขาฟื้นคืนกลับมา มันจะกลายเป็นเรื่องทำร้ายพี่”
“ฉะนั้น ที่พี่เสี่ยวพูดแบบนั้นไป ก็เพราะกลัวว่าจะทำร้ายพี่นะ!”
ได้ยินที่มู่เชียนเชียนพูด จิตใจของลู่ฉิงเสว่ดีขึ้นเป็นอันมาก ถามโพล่งออกมาว่า “พี่เสี่ยวพูดแบบนี้จริง ๆ หรือ?”
มู่เชียนเชียนผงกหัว “ใช่ค่ะพี่ เขาพูดแบบนี้จริง ๆ”
ดูอารมณ์ของลู่ฉิงเสว่ดีขึ้น มู่เชียนเชียนก็สบายใจขึ้น ยิ้มจนตาหยีถาว่า “พี่สาว พี่ชอบพี่เสี่ยวใช่มั้ย?”
“เชียนเชียน!”
ลู่ฉิงเสว่หน้าแดง ว่าไปอย่างตัดพ้อ
“ฮิ ฮิ ฉันเข้าใจละ!”
มู่เชียนเชียนพูดไปกับเสียงหัวเราะ
ในเมื่อรู้ว่าหยางเฉินไม่อยากมีเรื่องความรักกับหล่อน ด้วยสาเหตุกลัวจะเป็นการทำร้ายหล่อนโดยไม่รู้ตัว จิตใจลู่ฉิงเสว่ก็รู้สึกดีขึ้นมาก รีบจัดการแต่งหน้าแต่งตัว
หยางเฉินนั่งที่โซฟารอในห้องโถงอยู่คนเดียว ในใจก็ให้รู้สึกกังวล
ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนหลงตัวเองถึงขนาดคิดเลยเถิด จะไปคิดว่าลู่ฉิงเสว่มาหลงรักตัวเอง เพียงด้วยระยะเวลาสั้น ๆ นี้
แต่ทว่า เมื่อสักครู่ตอนที่ลู่ฉิงเสว่ผละออกจากไป ดูอารมณ์ไม่เป็นปกติอย่างชัดเจน จิตใจของเขาจึงเป็นกังวลอยู่
รออยู่เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ ในที่สุดก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมา หยางเฉินก็รีบลุกยืนขึ้นมองไป สองสาวน้อยในชุดงามสวย เดินจูงมือกันออกมา
ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนนั่นเอง