The King of War - บทที่ 984 คนใจอ่อน ไม่ควรนำทัพ คนชอบธรรมเกินไป รักษาทรัพย์ไว้ไม่ได้
“หลินเฮ่า นายไม่เตรียมงานศพของพ่ออย่างสงบใจ มาเพิ่มความยุ่งยากอะไรที่นี่”
หลินหลางแสยะยิ้มเย็นชา แล้วเอ่ยขึ้น “ฉันขอสั่งนาย ออกไปจากที่นี่ซะ วันนี้ต้องเตรียมเรื่องงานศพพ่อให้เรียบร้อย”
“สั่งงั้นเหรอ”
หลินเฮ่ามองหลินหลางด้วยสีหน้าสิ้นหวัง พูดเย้ยหยันว่า “นายเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหลิน เรื่องเตรียมงานศพพ่อ ต้องเป็นหน้าที่ของนายไม่ใช่เหรอ ให้คนเป็นน้องชายอย่างฉันไปเตรียม ไม่เหมาะสมเท่าไรมั้ง”
“ฉันให้นายทำอะไร นายก็ทำอย่างนั้น พูดไร้สาระทำไมเยอะแยะ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”
หลินหลางสีหน้าโมโห และตำหนิใส่หลินเฮ่าเสียงดัง
“หลินเฮ่า นายไปเตรียมงานศพผู้นำเถอะ การประชุมนี้ นายไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม!”
“ใช่ เราทั้งห้าฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน นายไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมนี้!”
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ต่างพากันพูดขึ้น
ในสายตาของพวกเขา คนที่อันตรายที่สุดคือหลินเฮ่า เพราะหลินเฮ่า เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ หลินเทียนเสียงด่วนจากไป มีเพียงหลินเฮ่า ที่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลหลิน
ตอนนี้หลินหลางคิดจะเล่นงานหลินเฮ่า อยากเห็นเขาถูกกำจัดออกไป แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องเห็นด้วย
“พวกนายแน่ใจใช่ไหม ว่าจะไม่ให้ฉันเข้าร่วมการประชุมนี้”
จู่ๆ หลินเฮ่าเอาม้วนผ้าไหมออกมา จากนั้นก็กวาดตามองหัวหน้าฝ่ายต่างๆ เขายิ้มแล้วถามขึ้น
เมื่อเห็นม้วนเอกสารในมือหลินเฮ่า หัวหน้าแต่ละฝ่าย พากันหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาพอคาดเดาได้แล้ว
“หลินเฮ่า นายเอาอะไรมา”
หลินหลางตวาดอย่างโมโห “รีบเอามาให้ฉัน!”
“นี่เป็นพินัยกรรมของผู้นำ คนอย่างหลินหลาง มีสิทธิ์ดูเหรอ”
พลานุภาพของหลินเฮ่าพลุ่งพล่านออกมา เขาถามอย่างโมโห
เป็นไปตามคาด เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฮ่า หัวหน้าแต่ละฝ่าย พากันหน้าเปลี่ยนสี
หลินเฮ่าเอาพินัยกรรมของผู้นำ มาในเวลาแบบนี้ แสดงได้เพียงว่า หลินเทียนเสียงน่าจะคาดเดาเรื่องหลังจากตายได้ ดังนั้นจึงทำพินัยกรรมเอาไว้ล่วงหน้า
แต่ไหนแต่ไร หลินเทียนเสียงให้ความสำคัญกับหลินเฮ่ามาก ในพินัยกรรม ต้องให้หลินเฮ่าเป็นผู้นำตระกูลหลินแน่นอน
“พินัยกรรมของผู้นำ ให้ฉันเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ ฉันว่าหัวหน้าแต่ละฝ่าย คงไม่คัดค้านคำสั่งของผู้นำใช่ไหม”
หลินเฮ่ายิ้ม แล้วพูดออกมา จากนั้นจึงเปิดม้วนเอกสาร แสดงเนื้อหาในเอกสาร ให้ทุกคนเห็น
เมื่อหลินหลางเห็นเนื้อหาในพินัยกรรม สีหน้าชะงักไปทันที “หลินเฮ่า นายกล้าใช้ชื่อของพ่อ มาทำพินัยกรรมปลอม ต้องได้รับโทษอย่างไรดี”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหลาง หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ก็ตั้งสติได้ แล้วพูดว่า “ใช่ ผู้นำไม่เคยมีพินัยกรรม นี่ต้องเป็นพินัยกรรมที่นายทำขึ้นเองแน่”
“หลินเฮ่า คิดไม่ถึงจริงๆ ปกตินายแสร้งทำเป็นกตัญญูขนาดนั้น ที่แท้รอคอยวันนี้มาตลอดสินะ”
“นายอยากตบตาทุกคน ว่านายกตัญญูต่อผู้นำมาก ดังนั้นผู้นำจึงทำพินัยกรรม ให้นายสืบทอดตำแหน่งผู้นำ ใช่หรือเปล่า”
ก่อนหลินเฮ่าจะเหยียบเข้ามาในห้องประชุมนี้ เขาก็เดาว่าจะมีโอกาสเป็นเช่นนี้
ดังนั้นเมื่อเผชิญกับความไม่ละอายใจของคนพวกนี้ เขาจึงไม่แปลกใจสักนิด แต่รู้สึกเศร้าใจกับตระกูลหลิน
“พินัยกรรมจะจริงหรือปลอม พวกนายรู้ดีแก่ใจ พวกนายจะไม่ทำตามพินัยกรรมของผู้นำเหรอ”
แววตาของหลินเฮ่าเย็นชาลงเรื่อยๆ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความอาฆาต
ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ลูกชายที่หลินเทียนเสียงให้ความสำคัญมาก จะเป็นลูกแกะที่ให้คนอื่นฆ่าแกงได้อย่างไรล่ะ
ปกติความกตัญญูที่เขามีต่อหลินเทียนเสียง แค่เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อ เขาทิ้งความเย่อหยิ่งไปก็เท่านั้น
แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาเป็นผู้สืบทอดที่อ่อนแอไร้กำลัง
“ก็แค่พินัยกรรมปลอม ทำไมพวกเราต้องทำตามล่ะ”
ดวงตาทั้งสองข้างของหลินหลาง เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม พูดอย่างโมโหว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเขาพูดจบ ผู้แข็งแกร่งของฝ่ายหลักสองคน เดินเข้ามา จ้องหลินเฮ่าด้วยแววตาดุร้าย
“ขนาดพวกนาย ยังจะทรยศผู้นำด้วยเหรอ”
หลินเฮ่ารู้จักผู้แข็งแกร่งสองคนนี้ สีหน้าไม่สู้ดีเล็กน้อย
สองคนนี้ เป็นสองผู้แข็งแกร่ง ที่หลินเทียนเสียงไว้ใจที่สุด พวกเขาเคยคุ้มครองหลินเทียนเสียงด้วย
ตอนนี้ หลินเฮ่าเอาพินัยกรรมของผู้นำออกมาแล้ว แต่สองคนนี้ กลับยังเลือกยืนข้างหลินหลาง
“เลิกพูดไร้สาระ จะไสหัวออกไปเอง หรือจะให้คนไล่นายออกไป!”
น้ำเสียงของหลินหลางแข็งกร้าวเป็นอย่างมาก ไม่เห็นหลินเฮ่าอยู่ในสายตาสักนิด
“ฉันไม่ยอมไป ใครจะไล่ฉันไปได้”
จู่ๆ ความยโสของหลินเฮ่าพลุ่งพล่าน ก้าวเข้ามาทันที
“หลินเฮ่า นายออกไปเถอะ!”
ผู้แข็งแกร่งสองคนของฝ่ายหลัก ขวางทางหลินเฮ่าเอาไว้ แล้วพูดอย่างเย็นชา ในแววตาทั้งสองข้าง เต็มไปด้วยการข่มขู่
“มีปัญญา พวกนายก็ฆ่าฉันสิ!”
หลินเฮ่าแสยะยิ้ม และเดินฝ่ากลางผู้แข็งแกร่งสองคนนั้นเข้ามา
ใครก็คิดไม่ถึง หลินเฮ่ากล้าไม่สนใจ ผู้แข็งแกร่งที่เคยคุ้มครองหลินเทียนเสียง
เพราะผู้แข็งแกร่งสองคนนี้ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของตระกูลหลิน พละกำลังอยู่ในแดนราชาขั้นกลาง
มีเพียงผู้แข็งแกร่งชั้นยอด ของสี่ตระกูลใหญ่ ในเมืองกษัตริย์กวน และฝ่ายหลัก ที่จะมีพละกำลังเช่นนี้
ถึงเป็นตระกูลคิงกวน ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในแดนราชาขั้นกลาง ก็มีไม่เยอะ
ผู้แข็งแกร่งในระดับนี้ ตอนนี้หันมาพึ่งพาหลินหลาง อีกทั้งหลินหลางยังมองหลินเฮ่า เป็นศัตรูตัวฉกาจอันดับหนึ่งมาตลอด
ในความคิดของพวกเขา หลินเทียนเสียงตายไปแล้ว ก็ไม่มีใครคุ้มหัวหลินเฮ่าได้อีก ตอนนี้หลินหลางเป็นผู้นำควบคุมฝ่ายหลัก อยากฆ่าหลินเฮ่า เป็นเรื่องง่ายมาก
ในสถานการณ์แบบนี้ หลินเฮ่ายังกล้าไม่สนใจการขับไล่ของหลินหลาง เอาพินัยกรรมของหลินเทียนเสียง เดินเข้ามาในห้องประชุม
“นายรนหาที่ตาย!”
ในแววตาของหลินหลาง เต็มไปด้วยความอาฆาต เขาสะบัดมือ “ไล่หลินเฮ่าออกไป ถ้าเขากล้าขัดขืน ก็ฆ่าเขาซะ!”
การเป็นลูกชายของผู้นำในตระกูลชั้นสูง ตั้งแต่เกิดมา บางทีพวกเขาก็ต้องเผชิญกับบททดสอบความเป็นตายต่างๆ นานา
ถึงหลินหลางกับหลินเฮ่า จะเป็นเพียงพี่น้องต่างแม่ ถึงมีเลือดของหลินเทียนเสียงไหลเวียนอยู่ในตัวเหมือนกัน แต่กลับต้องกลายเป็นศัตรูอาฆาต เพียงเพราะตำแหน่งผู้นำตระกูล
เมื่อหลินหลางออกคำสั่ง ผู้แข็งแกร่งสองคน ที่เคยปกป้องหลินเทียนเสียง ไม่มีความลังเลสักนิด พุ่งเข้าไปพร้อมกันทันที
“หลินเฮ่า ผู้นำตายไปแล้ว ในตระกูลหลินไม่มีใครคุ้มครองนายอีก ทางที่ดี ไปจากตระกูลหลินซะเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นทางรอดเดียวของนาย”
ผู้แข็งแกร่งทั้งสอง ขวางหน้าหลินเฮ่าเอาไว้ หนึ่งในนั้นพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“พวกนายเป็นผู้คุ้มกันที่พ่อฉันไว้ใจที่สุด ทำไมต้องช่วยคนเลวทำเรื่องผิด ในมือฉันมีพินัยกรรมของพ่อ พวกนายควรคุ้มครองฉันไม่ใช่หรือไง”
หลินเฮ่าสีหน้าราบเรียบ ไม่มีความกลัวบนใบหน้าสักนิด มองทั้งสองคนและถามขึ้น
ในแววตาของทั้งสองคน มีความรู้สึกผิดแวบขึ้นมา แต่เพียงพริบตา แววตาของทั้งสองคน ก็กลับมาเป็นปกติ
“คนตายเพราะทรัพย์ นกตายเพราะอาหาร คุณชายหลาง ให้ผลประโยชน์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ เราจึงทำได้เพียงทุ่มเทเพื่อเขาสุดชีวิต”
ผู้แข็งแกร่งหนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น “ส่วนนาย อ่อนแอมาแต่เกิด ไม่ทะเยอะทะยานเหมือนคุณชายหลาง อยู่กับนาย ไม่มีอนาคตอะไรเลย”
ผู้แข็งแกร่งอีกคนก็พูดว่า “คนใจอ่อน ไม่ควรนำทัพ คนชอบธรรมเกินไป รักษาทรัพย์ไว้ไม่ได้ นายทั้งใจอ่อนและชอบธรรม ขอโทษด้วย!”
จู่ๆ หลินเฮ่าหัวเราะออกมา “คนใจอ่อน ไม่ควรนำทัพ คนชอบธรรมเกินไป รักษาทรัพย์ไว้ไม่ได้เหรอ ที่แท้ในสายตาของพวกนาย ฉันเป็นแค่คนที่ไร้ความสามารถถึงขนาดนี้เชียวเหรอ”
“ช่างเถอะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าฉันทำเรื่องไม่ดี ก็ไม่รู้สึกหนักใจแล้ว เพราะทั้งหมด พวกนายเป็นคนเลือกเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฮ่า จู่ๆ ผู้แข็งแกร่งทั้งสองคน รู้สึกแปลกๆ เหมือนเพิ่งเคยรู้จักหลินเฮ่า เป็นครั้งแรก
ไม่เพียงแค่พวกเขา หลินหลางกับหัวหน้าแต่ละฝ่าย ก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน
อย่าบอกนะว่า หลินเฮ่ายังมีแผนอื่น