The King of War - บทที่ 913 ขอความเมตตา
“เดิมฉันไม่เคยคิดร้ายกับตระกูลคิงกวนแต่พวกนายไม่ยอมปล่อยฉัน”
“ถึงพวกนายจ้างนักฆ่า มาฆ่าฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องคิดอาฆาตพวกนาย”
“ชาติหน้า ไปเกิดในครอบครัวคนธรรดา และเป็นคนดีซะเถอะ!”
คำพูดของหยางเฉินนิ่งสงบเป็นอย่างมาก ราวกับไม่ได้แค้นเคืองกวนหงเหว่ยเลยสักนิด กลับกัน เหมือนเพื่อนคุยกันอย่างไรอย่างนั้น
แต่ทำให้กวนหงเหว่ยขนลุกไปทั้งตัว ความหวาดกลัวทำให้เขาสิ้นหวัง
“หยางเฉิน ฉันผิดไปแล้ว ฉันสำนึกผิดจริงๆ นายอย่าฆ่าฉันเลยนะ ฉันรับรองเลย แค่นายปล่อยฉันไป ต่อไปคนของตระกูลคิงกวนจะไม่ไปก่อกวนนายอีก”
กวนหงเหว่ยพูดจบ ก็คุกเข่าทั้งสองข้างลงบนพื้น “ขอร้องล่ะ นายไว้ชีวิตฉันเถอะนะ!”
กวนซินก็คุกเข่าลงเช่นกัน “ใช่ๆๆ เรารับรองเลย ต่อไปคนของตระกูลคิงกวน จะไม่ไปก่อกวนนายอีก”
หยางเฉินแสยะยิ้ม “พวกนายคิดว่า แค่ตระกูลคิงกวนธรรมดาๆ จะทำอะไรฉันได้จริงๆ เหรอ”
เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของกวนหงเหว่ยกับกวนซินชะงักลงทันที
ใช่ ขนาดผู้แข็งแกร่งแดนราชายังรับมือไม่ได้เลย ตระกูลใหญ่ตระกูลคิงกวน จะมีสักกี่คน ที่จะทำอะไรหยางเฉินได้
“คุณหยาง กวนหงเหว่ยเป็นลูกชายของกษัตริย์กวน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้!”
ขณะนั้น ลุงเต๋อที่เพิ่งโดนหยางเฉินตบจนปลิว วิ่งเข้ามา
สีหน้าของเขาซีดเป็นอย่างมาก ท่าทางก็ผิดปกติ เห็นได้ชัดว่าฝ่ามือของหยางเฉินเมื่อครู่ ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส
ตอนนี้ สรรพนามที่ลุงเต๋อเรียกหยางเฉินก็เปลี่ยนไปด้วย
คนหนุ่มที่สามารถตบเขาจนปลิวด้วยฝ่ามือเดียว พละกำลังจะเป็นเพียงแค่แดนราชางั้นเหรอ
เขาไม่กล้าคิดจริงๆ คนหนุ่มที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ จะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชา
สิ่งสำคัญก็คือ พละกำลังของหยางเฉินอยู่ในระดับแดนราชาสูงสุด
ในจิ่วโจว พวกตาเฒ่าที่อยู่มาเป็นร้อยปี มีสักกี่คนที่พละกำลังอยู่ในระดับแดนราชาสูงสุด
เรียกได้ว่านี่เป็นหนึ่งในแดนผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดนับไม่ถ้วนใฝ่ฝัน ทั้งชีวิตของคนจำนวนมาก ก็ไม่สามารถไปถึง
หยางเฉินยังหนุ่มขนาดนี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าศักยภาพของเขาน่าหวาดกลัวแค่ไหน
บางที ในชีวิตนี้ เขาอาจไปถึงแดนเทพก็ได้ เป็นแดนที่ผู้แข็งแกร่งทุกคนใฝ่ฝัน
คิดไม่ดีกับคนหนุ่มแบบนี้ เป็นการกระทำที่รนหาความตาย
“นายหมายความว่า เขาเป็นลูกชายของกษัตริย์กวน ดังนั้นฉันจึงฆ่าเขาไม่ได้เหรอ”
หยางเฉินแสยะยิ้ม มองลุงเต๋อและถามขึ้น
ลุงเต๋อส่ายหน้าทันที “ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ดูจากแดนพละกำลังของคุณ ขยี้กวนหงเหว่ยให้ตาย ง่ายดายเหมือนขยี้มดตัวหนึ่งเท่านั้น”
“แต่ถ้าคุณทำแบบนี้จริงๆ ก็จะทำให้เสียฐานะไม่ใช่เหรอ”
“ฉันรับรองกับคุณได้เลย ถ้าคุณปล่อยพวกเขาไป ต่อไปตระกูลคิงกวนจะไม่มาเหยียบเมืองเยี่ยนตูอีก!”
เมืองเยี่ยนตูมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดอยู่ จะไปสนใจเรื่องตระกูลอื่นทำไม
ลุงเต๋อไม่ได้อวยหยางเฉิน แต่กำลังพูดความจริง
หยางเฉินที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ในหัวของเขา ปรากฏภาพบุคคลในตำนานคนหนึ่ง
คนๆ นั้นที่มีข่าวลือ เมื่อร้อยปีก่อน เคยใช้พละกำลังของคนๆ เดียว ทำลายพันธมิตรรางวงศ์ทั้งห้า
และเพราะเรื่องนี้ รางวงศ์ทั้งห้าถูกลดขั้นเหลือเพียงตระกูลเดอะคิง ในแผ่นดินเมืองเยี่ยนตู ห้ามคนของราชวงศ์และตระกูลเดอะคิง เข้ามาเหยียบอีก
คนหนุ่มตรงหน้า ยังหนุ่มยังแน่น ก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดแล้ว ใช่คนๆ นั้นหรือเปล่า
ลุงเต๋อรู้ดี ขอแค่หยางเฉินอยู่ในเมืองเยี่ยนตู ราชวงศ์กับตระกูลเดอะคิงทุกคน ล้วนไม่สามารถควบคุมเมืองเยี่ยนตูได้
แววตาหยางเฉินยิ่งเฉยชาขึ้น “ตอนตระกูลคิงกวนลงมือกับผู้หญิงธรรมดา ทำไมไม่คิดบ้างล่ะ การทำแบบนี้ก็เสียฐานะของตระกูลคิงกวนเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ตอนนี้ใช้คุณธรรมผูกมัดฉัน ใช้ข้ออ้างเน่าๆ แบบนี้ มาขวางฉันไม่ให้ทำร้ายคนตระกูลคิงกวน นี่เป็นไปได้เหรอ”
หน้าผากลุงเต๋อเต็มไปด้วยเหงื่อ เขารีบพูดว่า “เรื่องนี้เป็นความผิดของพวกเขาจริง แต่เรื่องเกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
“คุณว่าอย่างนี้ดีไหม ตระกูลคิงกวนใช้เงินแสนล้าน แลกกับความเมตตาจากคุณหยาง เป็นไง”
หยางเฉินมองลุงเต๋ออย่างเฉยชา “ฉันให้ตระกูลคิงกวนล้านล้าน แลกกับชีวิตของตระกูลคิงกวน ตระกูลคิงกวนยอมไหม”
สีหน้าของลุงเต๋อชะงักไป เขารู้ หยางเฉินต้องการชีวิตของกวนหงเหว่ยกับกวนซิน
“พูดแบบนี้ ไม่ว่ายังไงคุณหยางก็ไม่ปล่อยพวกเขาใช่ไหม”
ลุงเต๋อถามขึ้นทันที น้ำเสียงสงบลงมาก
“เป็นแบบนี้ แล้วจะทำไม”
หยางเฉินย้อนถาม
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันคงต้องสู้สุดชีวิต!”
ลุงเต๋อสูดหายใจลึก เหมือนออร่าของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง
เขายืนบังกวนหงเหว่ยกับกวนซิน และมองหยางเฉินด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“คนของตระกูลคิงกวน มีคุณธรรมจริยธรรมอย่างไร นายน่าจะรู้ดี คุ้มค่าไหม กับคนขี้แพ้สองคนนี้”
จู่ๆ หยางเฉินถามขึ้น
เพราะลุงเต๋อก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชา ถ้าฆ่าไปแบบนี้ จะน่าเสียดายมาก
“ไม่มีอะไรคุ้มหรือไม่คุ้ม ฉันเป็นคนของตระกูลคิงกวน การปกป้องคนของตระกูล เป็นหน้าที่ของฉัน”
ลุงเต๋อพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ยอมจำนนต่อฉัน ฉันจะมอบโชคให้เอง!”
หยางเฉินพูดจบ พลานุภาพอันทรงพลัง ถูกปลดปล่อยออกจากตัวเขา และปกคลุมลุงเต๋อเอาไว้
ขณะนั้น แววตาลุงเต๋อเต็มไปด้วยความตะลึง พูดอย่างไม่อยากเชื่อ “นาย นายคือผู้แข็งแกร่งแดนเทพเหรอ”
ลุงเต๋อเข้าใจมาตลอดว่าหยางเฉิน เป็นผู้แข็งแกร่ง แดนราชาสูงสุดไม่ได้คิดไปถึงขั้นแดนเทพสักนิด
จนกระทั่งตอนนี้ เขาสัมผัสได้ถึงพลานุภาพอันทรงพลัง จากตัวของหยางเฉิน ถึงเป็นกษัตริย์กวน ก็ไม่มีพลานุภาพแข็งแกร่งขนาดนี้
เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน เขารู้สึกเหมือนอยากจะคุกเข่ายอมจำนน
มีเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ถึงจะมีพลานุภาพที่น่าหวาดกลัวขนาดนี้
กระทั่งตอนนี้ ลุงเต๋อตระหนักได้ว่า การโจมตีที่ตัวเองเป็นฝ่ายโจมตีหยางเฉิน มันเป็นเรื่องตลกแค่ไหน
คนที่มีความสามารถน้อยนิด แต่คิดทำการใหญ่ คงเป็นคนอย่างเขาสินะ
ความน่ากลัวของคนที่ข้ามผ่าน แดนราชาสูงสุดโดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งอยู่ในแดนราชาระดับต้นอย่างเขา จะขัดขวางไหวเหรอ
“ขอโทษ ฉันขอปฏิเสธ!”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ลุงเต๋อส่ายหน้าทันที จิตใจสงบลง มองหยางเฉินด้วยสีหน้าจริงจัง “การเป็นคนของตระกูลคิงกวน ตายเป็นผีในตระกูลคิงกวน กษัตริย์กวนเป็นคนมอบชีวิตนี้ให้ฉัน ทั้งชีวิตนี้ จะไม่ยอมจำนนให้ใครเป็นคนที่สอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของลุงเต๋อ หยางเฉินมีสีหน้าหดหู่ ในใจรู้สึกไม่เต็มใจ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ช่างเถอะ!”
หยางเฉินพูดจบ ก็เดินเข้าไปหากวนหงเหว่ยทีละก้าว
สองพ่อลูกกวนหงเหว่ยกับกวนซิน ตกใจจนตาลายไปหมด
ในบทสนทนาของหยางเฉินกับลุงเต๋อ พวกเขารู้ว่า หยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ
ในสายตาของพวกเขา ผู้แข็งแกร่งแดนราชา ก็เป็นคนที่น่าหวาดกลัว ที่มีพละกำลังสูงสุดแล้ว แดนเทพสำหรับสำหรับพวกเขา เป็นตำนาน
ตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งในตำนาน กำลังจะฆ่าเขา พวกเขาจะขัดขวางได้อย่างไร
“นายฆ่าเขาไม่ได้!”
ลุงเต๋อก้าวขึ้นมาทันที ยืนบังกวนหงเหว่ยอยู่อย่างนั้น
หยางเฉินขมวดคิ้ว “เห็นแก่ที่นายเป็นแค่คนฟังคำสั่ง ฉันจะไม่ทำให้นายลำบาก แต่นายอย่าได้คืบจะเอาศอก”
ลุงเต๋อพูดเสียงทุ้ม “ขอเพียงตายเท่านั้น!”
มีเพียงคำตอบไม่กี่คำ กลับทำให้หยางเฉินรู้สึกนับถือชายชราคนนี้ขึ้นมา
ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งแดนราชาคนใด เมื่อถึงจุดที่ได้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ล้วนได้รับประโยชน์ดีๆ มากมาย
ตอนนี้หยางเฉินเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น บอกให้ลุงเต๋อยอมจำนนให้ตัวเอง เพราะชอบที่ลุงเต๋อภักดีต่อเจ้านายอย่างจริงใจ
คิดไม่ถึงว่าลุงเต๋อจะปฏิเสธสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
รู้ว่าขวางหยางเฉิน มีเพียงความตายเท่านั้น แต่เขาก็ยอมตาย
“ลุงเต๋อ……”