The King of War - ตอนที่ 569 ออกไปให้พ้นจากตระกูลอ้าย
“ใครบอกข้าได้บ้าง สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น?”
ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าทรงเหลี่ยมพูดขึ้นด้วยความโกรธ
“ผมได้ตรวจสอบวิดีโอกล้องวงจรปิดแล้วครับ ในวิดีโอนั้น คุณชายหยู่ไปกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อหลินเจียวจากตระกูลหลินครับ”
“ผู้หญิงที่ชื่อหลินเจียวคนนี้ยังยุยงให้คุณชายหยู่สั่งสอนแฟนของอ้ายหลิน แต่สุดท้ายแฟนของอ้ายหลินคนนี้กลับเหนือกว่าคุณชายหยู่ และในที่สุดก็หักแขนขาของคุณชายหยู่”
“หลังจากที่หลินเจียวผู้หญิงเลวคนนี้เห็นคุณชายหยู่สู้แฟนของอ้ายหลินไม่ได้ เธอยังคุกเข่าขอร้องอ้อนวอน ขอความเมตตาจากคนอื่น และสุดท้ายยังทิ้งคุณชายหยู่ให้อยู่คนเดียว”
“ดีที่พนักงานร้านขายเสื้อช่วยโทรเรียกรถพยาบาล แต่เมื่อรถพยาบาลมาถึงคุณชายหยู่ก็เสียแล้ว!”
ชายวัยกลางคนในชุดสูทและรองเท้าหนังอธิบายอย่างเร่งรีบ
ศพที่นอนอยู่บนพื้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือเถียนซินหยู่ทายาทของตระกูลเถียน และเป็นคนที่เพิ่งถูกหม่าชาวหักแขนและขาของเขา
ส่วนชายวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมคนนี้ก็คือเถียนหวา พ่อของเถียนซินหยู่ เมื่อเห็นลูกชายนอนแข็งอยู่บนพื้นและยังถูกหักแขนขาด้วย ดวงตาของเขาก็โกรธจนลุกเป็นไฟ
“แล้วนังสารเลวหลินเจียวอยู่ที่ไหน?”
เถียนหวากัดฟันถาม
“ผมส่งคนไปแล้วครับ อีกไม่นานผู้หญิงก็จะถูกพาตัวกลับมาครับ”
ชายในชุดสูทก่อนหน้านี้พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ผู้หญิงคนนี้ต้องตาย!”
เถียนหวากัดฟันและพูดต่อ “แต่คนที่ฆ่าซินหยู่คือแฟนของตระกูลอ้ายคนนั้น ตระกูลอ้ายจะต้องส่งตัวไอ้หมอนั่นออกมาให้เรา ไม่เช่นนั้นตระกูลอ้ายก็ไม่จำเป็นต้องมีอีก!”
ชายในชุดสูทตอบอย่างรวดเร็ว “ผมเจรจากับตระกูลอ้ายแล้วครับ ตระกูลอ้ายให้คำตอบผมว่าพวกเขาจะมีคำตอบที่สมเหตุสมผลให้ผม แต่ดูเหมือนว่ามันจะง่ายไปหน่อยครับ”
“แค่ตระกูลอ้ายเล็กๆ กล้ามองข้ามตระกูลเถียนของเรางั้นเหรอ? อยากถูกฆ่าล้างตระกูลมากเลยใช่ไหม?”
เถียนหวาตะโกนพูดด้วยความโกรธ “โทรหาไอ้แก่อ้ายชวนเดี๋ยวนี้ ภายในครึ่งชั่วโมงให้มันพาไอ้สารเลวคนนั้นมาตายที่บ้านตระกูลเถียนของเรา ไม่อย่างนั้น รับกรรมไปเอง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายในชุดสูทก็รีบขานตอบ “ครับ!”
ถ้าเป็นคำพูดของคนอื่นเขาอาจจะดูถูกและไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่นี่เป็นคำพูดของเถียนหวา ผู้ถูกเลือกในตำแหน่งผู้นำของตระกูลเถียน อีกอย่างตอนนี้เถียนหวาได้รับผิดชอบงานมากมายของตระกูลแล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขากำลังเตรียมการสืบทอดตำแหน่งของผู้นำในตระกูลแล้ว
บอกได้อีกนัยหนึ่งก็คือ ตำแหน่งของเถียนหวาในตอนนี้เป็นอันดับสองรองลงมาจากเจ้าบ้านเท่านั้น
ดังนั้นถ้าเขาคิดจะกวาดล้างตระกูลอ้าย มันไม่ใช่เรื่องยากเลย
ในอีกด้านหนึ่ง หม่าชาวได้ขับรถส่งอ้ายหลินกลับไปถึงบ้านตระกูลอ้ายแล้ว
“คุณกลับไปก่อนเลย ถ้าเคลียร์กันไม่ได้ฉันค่อยโทรหาคุณ”
เมื่อไปถึงหน้าประตูบ้าน อ้ายหลินก็พูดกับหม่าชาว
ที่ผ่านมาหม่าชาวจะฟังอ้ายหลินอยู่เสมอ แต่ในครั้งนี้ เขากลับไม่ฟังเธอและลงจากรถพร้อมกับเธอด้วย
จากนั้นเขากุมมืออ้ายหลินและพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ผมรู้คุณกังวลเรื่องอะไร แต่คุณไม่ต้องห่วงนะ ผมเป็นต้นเหตุสำหรับเรื่องนี้ ไม่ว่าตระกูลอ้ายจะว่าผมยังไง ผมก็จะอดทนไว้”
อ้ายหลินรู้สึกหวั่นไหวมากเมื่อได้ยินเช่นนี้
อีกอย่างเธอกับหม่าชาวก็เป็นคู่หมั้นกันและใกล้จะแต่งงานกันแล้วด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่ห้ามหม่าชาว และจับมือเขาเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
“นังดื้อ เธอยังกล้ากลับมาอีกเหรอ!”
ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านตระกูลอ้าย เสียงตะคอกด้วยความโกรธก็ดังขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นเสียงของอ้ายหมิงซวี่เจ้าบ้านตระกูลอ้าย และเป็นพ่อของอ้ายหลินด้วย
โดยเฉพาะตอนเห็นอ้ายหลินกับหม่าชาวที่จับมือกันเข้ามา เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
อ้ายหลินตอบอย่างเหลือทน “พ่อคะ ก็พ่อเรียกหนูกลับมาไม่ใช่เหรอ?”
“ยังกล้าต่อปากต่อคำอีก!”
อ้ายหมิงซวี่โกรธจนขีดสุดและทุบโต๊ะดังๆ
“คุณลุงครับ ผมเป็นคนฆ่าเขาเอง เรื่องนี้ผมจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุดครับ!”
“รับผิดชอบ? แกเอาอะไรมารับผิดชอบ?”
อ้ายหมิงซวี่พูดด้วยความโกรธ “ตอนนี้คนตายไปแล้ว แถมยังเป็นลูกชายของเถียนหวาอีกด้วย แกรู้ไหมว่าเถียนหวาคือใคร? เขาเป็นว่าที่ผู้นำของตระกูลเถียน ตอนนี้ก็เริ่มรับผิดชอบกิจการของตระกูลเถียนแล้วด้วย”
“แต่แกดันไปฆ่าลูกชายของเขา ไหนแกลองว่ามาสิ ว่าแกจะรับผิดชอบยังไง?”
ในขณะนี้ อ้ายหมิงซวี่ไม่สนใจสิ่งใดอีก เขาได้แต่ชี้ไปที่หน้าประตูบ้านตระกูลอ้ายแล้วพูดขึ้นเสียงกับหม่าชาวด้วยความโกรธ “ถ้าแกรักอ้ายหลินจริง ตอนนี้แกไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลอ้าย แล้วไปแสดงความรับผิดชอบต่อตระกูลเถียนซะ!”
หม่าชาวถึงกับอึ้งไป เขาไม่คิดเลยว่าอ้ายหมิงซวี่จะให้เขาไปรับผิดชอบเพียงตามลำพัง
แม้ตัวเขาก็คิดจะรับผิดชอบคนเดียวอยู่แล้ว แต่ประโยคที่ได้ยินจากปากของอ้ายหมิงซวี่นั้น มันทำให้ความหมายเปลี่ยนไป
ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอ้ายหมิงซวี่ไม่ได้ตั้งใจจะให้หม่าชาวรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้เท่านั้น แต่เขายังคิดฉวยโอกาสที่จะทำให้หม่าชาวกับอ้ายหลินต้องเลิกรากัน
“พ่อคะ พ่อพูดอะไรอยู่?”
อ้ายหลินก้าวออกมาแล้วพูดด้วยความโกรธ “เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะหนูต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะการยั่วยุของหลินเจียว หม่าชาวจะลงมือทำร้ายเถียนซินหยู่ได้ยังไงคะ?”
“ฉะนั้นถ้าพ่อจะหาคนผิดของเรื่องนี้ ก็ควรเป็นหนู แต่ไม่ใช่หม่าชาว ในเมื่อพ่อกลัวตระกูลเถียนขนาดนี้ พอส่งตัวหนูไปเลยจะดีกว่า!”
แม้ที่ผ่านมาอ้ายหลินจะเป็นคนตามใจตัวเองมาก แต่เธอไม่เคยขึ้นเสียงกับอ้ายหมิงซวี่แบบนี้มาก่อนเลย
“อ้ายหลิน หยุดพูดได้แล้ว รีบขอโทษพ่อเธอซะ!”
“ใช่น่ะสิ เจ้าบ้านก็หวังดีต่อเธอนะ ส่วนไอ้หมอนี่ที่ไปฆ่าคนอื่น ตระกูลเถียนจะไม่ปล่อยเขาไว้แน่”
“ถึงแม้เธอจะเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ แต่เธอไม่ได้ขอให้เขาไปฆ่าคนไม่ใช่เหรอ? แต่วันนี้เขาไปฆ่าคนของตระกูลเถียนแล้ว ดังนั้นเขาก็ต้องรับผิดชอบเองสิ”
“ไม่อย่างนั้น ถ้าตระกูลเถียนจะโทษพวกเราจริงๆ ตระกูลอ้ายของเราไม่มีปัญญาต่อต้านพวกเขาได้เลยนะ เธอรีบขอโทษ แล้วบอกพ่อเธอว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่เกี่ยวกับเธอ”
คนในครอบครัวตระกูลอ้ายเริ่มแสดงความคิดเห็นมากมาย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาสนับสนุนความคิดเห็นของอ้ายหมิงซวี่มาก
แม้พวกเขาไม่ได้สนใจว่าอ้ายหลินจะอยู่หรือจะตาย แต่เธอก็เป็นคนของตระกูลอ้าย และถ้าตระกูลเถียนจะคิดบัญชี พวกเขาไม่ได้คิดบัญชีกับอ้ายหลินคนเดียวเท่านั้น แต่จะลามมาถึงทุกคนในตระกูลอ้ายอย่างแน่นอน
สีหน้าของอ้ายหลินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และเธอก็พูดอย่างหนักแน่นว่า “เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะหนูอยู่แล้ว ทำไมต้องให้คู่หมั้นของหนูไปรับแทนทุกอย่างด้วย?”
ในใจอ้ายหมิงซวี่เต็มไปด้วยความโกรธ เป็นความโกรธที่สุดจะทนได้อีก เขาจึงยกมือขึ้นแล้วตบไปที่กลางหน้าของอ้ายหลินด้วยความแรง “ไอ้ลูกไม่เอาไหน กล้าขัดคำสั่งงั้นเหรอ ตบให้ตายไปเลยซะ!”
นัยน์ตาของอ้ายหลินเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่เธอไม่ได้แสดงอาการกลัวใดๆ เลย ได้แต่จ้องไปที่อ้ายหมิงซวี่แล้วเตรียมรับการตบจากเขา
“ผัวะ!”
ในชั่วพริบตานั้น หม่าชาวที่ยืนอยู่ข้างอ้ายหลินมาตลอดก็ก้าวเข้ามาและยืนขวางอ้ายหลินไว้
เป็นเหตุทำให้ฝ่ามือของอ้ายหมิงซวี่ตบไปที่ใบหน้าของเขาอย่างรุนแรง
ในขณะนี้ ทุกคนถึงกับผงะไปหมด
แม้แต่อ้ายหลินก็รู้สึกตกใจมาก เธอไม่คิดเลยว่าหม่าชาวจะเข้ามารับแทนเธอ
“หม่าชาว!”
อ้ายหลินตั้งสติให้ได้ก่อน จากนั้นมองไปที่รอยตบที่ชัดเจนบนใบหน้าของหม่าชาวด้วยสีหน้าความทุกข์ใจ