The King of War - บทที่ 2063 ทัณฑ์เทพเจ็ดสี
The king of War บทที่ 2063 ทัณฑ์เทพเจ็ดสี
หยางเฉินก็รู้เช่นกัน เทพบู๊สามารถกระตุ้นศักยภาพด้านบูโดของตู้จ้งได้
สิ่งนี้สำหรับนักบูโดคนใดคนหนึ่งแล้ว ล้วนเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะตอนนี้ม่านพลังถูกฉีก ความเข้มข้นของชี่ทิพย์ในโลกมนุษย์เพิ่มสูงขึ้น สำหรับนักบูโดในโลกมนุษย์แล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีสำหรับการบำเพ็ญ
เดิมทีตู้จ้งก็เป็นกลุ่มผู้แข็งแกร่งชั้นยอดในโลกมนุษย์ พรสวรรค์ด้านบูโดไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าหากสามารถพัฒนาศักยภาพได้อีก ความเร็วในการบำเพ็ญต่อจากนี้ของเขา จะต้องเร็วอย่างมากแน่นอน
ช่วงเวลาที่หยางเฉินกำลังคิดว่า ตู้จ้งจะเลือกพัฒนาศักยภาพด้านบูโดของตัวเอง ตู้จ้งไม่มีความลังเลใดๆ พูดด้วยความแน่วแน่ : “ผู้อาวุโสเทพบู๊ ผมยอมแพ้ที่จะพัฒนาศักยภาพด้านบูโด ขอให้ท่านลงมือด้วย ช่วยรักษาน้องชายของคุณหยางเถอะ!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทำให้ทุกคนอึ้งอยู่กับที่โดยตรง
“เจ้าสำนัก ท่านบ้าไปแล้วเหรอ? ถ้าหากผู้อาวุโสเทพบู๊สามารถเพิ่มศักยภาพด้านบูโดให้ท่านได้ ความสำเร็จในอนาคตของท่านนั้นสูงมาก ท่านรีบบอกผู้อาวุโสเทพบู๊ ท่านต้องการเพิ่มศักยภาพด้านบูโด”
“ใช่แล้ว เจ้าสำนัก ด้วยพรสวรรค์ด้านบูโดของท่าน ถ้าหากกระตุ้นศักยภาพด้านบูโดของท่านอีก ความเร็วในการบำเพ็ญของท่านจะต้องเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวแน่นอน ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ ท่านก็สามารถอยู่ในโลกใหม่ มีตำแหน่งและจุดยืนระดับนึงแล้ว!”
……
คนในสำนักบู๊เปิดปากเกลี้ยกล่อมทีละคน
ตู้จ้งกลับมีสีหน้าที่แน่วแน่ พูดอย่างจริงจัง : “ขอให้ผู้อาวุโสเทพบู๊ลงมือช่วยด้วย!”
ตอนที่หยางเฉินมองไปทางตู้จ้ง ใบหน้าล้วนแล้วเต็มไปด้วยความสับสน เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ตู้จ้งจะทำการเลือกแบบนี้ออกมา
เพิ่มศักยภาพด้านบูโด นี่เป็นสิ่งล่อใจที่ยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ตู้จ้งยังคงปฏิเสธ
เขากลับไม่ได้พูดอะไร เพราะว่าเขาลำบากใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
หม่าชาวเป็นน้องชายร่วมเป็นร่วมตายของเขา แน่นอนเขาอยากให้เทพบู๊ระงับพลังของเส้นเลือดมังกรในร่างกายของหม่าชาวอยู่แล้ว
แต่ เทพบู๊ถูกอัญเชิญออกมาโดยตู้จ้ง หยางเฉินและสำนักบู๊ก็ไม่มีหนี้บุญคุณอะไร ต่อให้ตู้จ้งเลือกเพิ่มพรสวรรค์ด้านบูโดของตัวเอง หยางเฉินก็ไม่ถือโทษโกรธตู้จ้งเพราะเรื่องนี้
แต่ว่าตอนนี้ ตู้จ้งกลับละทิ้งเพิ่มศักยภาพด้านบูโดของตัวเอง มันเกินความคาดหมายของหยางเฉินโดยสิ้นเชิง
“ได้!”
ตอนที่เทพบูมองไปทางตู้จ้ง ในดวงตามีความชื่นชมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หัวเราะฮ่าฮ่าขึ้นมา กล่าวด้วยความพอใจอย่างยิ่ง : “ไม่เสียแรงที่เป็นเจ้าสำนักรุ่นที่สิบเก้าของสำนักบู๊ของข้า”
พูดจบ ยกมือขึ้นแล้วโบกหนึ่งที เพียงแค่เห็นปืนเทพบู๊ในมือของเขา จู่ๆก็บินไปทางรถUnimogที่หยางเฉินขับมา
ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ปืนเทพบู๊ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับสัตว์ร้ายเหล็ก เข้าไปในตัวรถโดยตรง
วินาทีต่อมา ทุกคนต่างตกใจกับแสงสว่างในรถที่จู่ๆก็ระเบิดออกมา แสบจนต้องหลับตาทั้งคู่
หยางเฉินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดวงตาทั้งคู่จ้องมองรถคันนั้นแน่น
เขารู้ดี นี่คือวิธีการที่เทพบู๊กำลังระงับพลังของเส้นเลือดมังกรในร่างกายของหม่าชาว
หลังจากสั้นๆไม่กี่วินาที แสงสว่างในรถหายไป และเดิมทีเงาที่ลวงตาของเทพบู๊ เป็นภาพลวงตามากกว่าเดิม มีความเป็นไปได้ที่จะสลายไปได้ทุกเมื่อ
เทพบู๊หัวเราะฮ่าฮ่าและมองไปทางหยางเฉิน : “เพื่อนรักของเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว จะฟื้นขึ้นมาในไม่ช้า”
เมื่อได้ยินคำพูดของเทพบู๊ ตู้จ้งก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน
หยางเฉินเต็มไปด้วยความสุข พูดด้วยความตื่นเต้น : “ขอบคุณผู้อาวุโสเทพบู๊”
เทพบู๊พยักหน้าเบาๆ สายตาพร้อมกับหยุดอยู่บนตัวตู้จ้ง หัวเราะและพูด : “เจ้าไม่เลวอย่างมาก! ต่อจากนี้ต่อให้เจ้าไม่มีตราประทับแล้ว สำนักบู๊ก็มีพลังในการปกป้องตัวเองแล้ว”
ตู้จ้งรีบคุกเข่าอยู่บนพื้น ดวงตาที่แดงก่ำทั้งคู่มองไปที่ร่างภาพลวงตาของเทพบู๊และพูด : “ตู้จ้ง น้อมส่งเทพบู๊!”
เขารู้ดี เทพบู๊จะสลายไปในไม่ช้าแล้ว
เทพบู๊ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข พร้อมกับกลายเป็นแสงแห่งหนึ่ง เจาะเข้าไปในหัวของตู้จ้งโดยตรง
บูม!
ตอนที่ร่างวิญญาณของเทพบู๊เปลี่ยนร่างเป็นแสงแล้วเจาะเข้าไปในหัวของตู้จ้ง ตู้จ้งแข็งทื่ออยู่กับที่ทันที กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
“มรดกของข้า เจ้าสมควรได้รับมัน”
นี่เป็นเสียงสุดท้ายของเทพบู๊ที่ดังขึ้นในหัวของตู๊จ้ง
เพียงแต่ คนนอกกลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“บูมเกร็กเกร็ก!”
และในเวลานี้ เหนือสำนักบู๊ ทันใดนั้นมีเมฆปกคลุม ฟ้าร้องและฟ้าแลบ
“นี่คือ ภัยพิบัติสวรรค์!”
ทุกคนล้วนแล้วตะลึงอยู่กับที่
โดยเฉพาะคนของสำนักบู๊ พวกเขาเพียงแค่รู้ว่าตอนที่จากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดทะลวงสู่แดนนภา จะพบกับภัยพิบัติสวรรค์ หลังจากนั้นถึงจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาที่แท้จริง
แต่ว่าตอนนี้ จู่ๆก็ปรากฏภัยพิบัติสวรรค์ เห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ตู้จ้ง
หรือว่า นักบูโดที่ทะลวงสู่แดนนภาแล้ว ยังต้องก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์ต่อ?
นักบูโดทุกคนที่มาจากโลกบู๊โบราณล่าง ต่างเบิกตากว้าง
“นี่คือ ทัณฑ์เทพเจ็ดสี?”
ผู้พิทักษ์แดนนภาขั้นสองชั้นต้นคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังฉีอิงเว่ยพูดด้วยความตะลึง
ฉีอิงเสว่ รีบถาม : “อะไรคือทัณฑ์เทพเจ็ดสี?”
ผู้พิทักษ์คนนั้นพูดอย่างเคร่งขรึม : “ทัณฑ์เทพเจ็ดสี เป็นนักบูโดระดับตำนานที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดที่สูงอย่างมาก ในช่วงเวลาที่ก้าวข้ามภัยพิบัติ ถึงสามารถดึงดูดภัยพิบัติสวรรค์มาได้”
“เพียงแต่ ตามบันทึกของโลกบู๊โบราณ คนที่สามารถดึงดูดทัณฑ์เทพเจ็ดสีมาได้ โดยไม่มีข้อยกเว้น ล้วนแล้วเป็นผู้มีอิทธิพลด้านบูโดชั้นยอดในตำนาน”
“แต่เทพบู๊ เคยก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์ได้ ก็เคยดึงดูดทัณฑ์เทพเจ็ดสีมาเช่นกัน”
“เพียงแต่ ตู้จ้งก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์มาแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นนักบูโดแดนนภาแล้ว ทำไมถึงยังสามารถดึงดูดทัณฑ์เทพเจ็ดสีมาได้อีก?”
คำพูดของผู้พิทักษ์ตระกูลฉี ทำให้ทุกคนตะลึง
คิดไม่ถึงเลยว่า ตู้จ้งต้องก้าวข้ามทัณฑ์เทพเจ็ดสีแล้ว
ฉีอิงเว่ยกัดฟันแน่น พูดอย่างกะทันหัน : “ต้องเป็นตอนที่เทพบู๊จากไปในตอนสุดท้าย เพิ่มศักยภาพด้านบูโดให้กับตู้จ้ง”
ผู้พิทักษ์สองคนมองไปทางฉีอิงเว่ยหลังจากมองหน้ากัน ล้วนแล้วพยักหน้าและพูด : “น่าจะเหมือนกับที่คุณชายฉีพูดแบบนั้น”
ตู้จ้งในตอนนี้ เป็นเหมือนพระที่กำลังนั่งสมาธิ ในสมองของเขา ทั้งหมดเป็นมรดกของเทพบู๊ มรดกเหล่านี้ กลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของเขาอย่างต่อเนื่อง
“บูมเกร็กเกร็ก!”
และในเวลานี้ ภัยพิบัติสวรรค์แรกตกลงมาแล้ว
“ภัยพิบัติสวรรค์ที่แข็งแกร่งอย่างมาก!”
ผู้พิทักษ์ของตระกูลฉีเต็มไปด้วยความตะลึง รีบปกป้องฉีอิงเว่ยเอาไว้ด้านหลัง ภัยพิบัติสวรรค์แบบนี้ สามารถฆ่าฉีอิงเว่ยได้ในพริบตา
วินาทีต่อมา ทัณฑ์เทพเจ็ดสีกลับตกลงมาบนร่างของตู้จ้ง
ช่วงเวลาที่ทุกคนต่างคิดว่า ตู้จ้งไม่สามารถแบกรับภัยพิบัติสวรรค์นี้ได้ กลับตกใจที่พบว่า หลังจากภัยพิบัติสวรรค์ตกสู่ร่างกายของเขา คาดไม่ถึงว่าจะไม่ได้เข้าไปในร่างกายของเขา สลายไปในทันที
“นี่…..”
ทุกคนต่างตะลึงอยู่กับที่
“พี่หลิ่ว เจ้าสำนักตู้ก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งที่สอง?”
เฮ่อจวินกลืนน้ำลาย ถามด้วความตะลึง
หลิ่วหรูเอียนส่ายหน้าเบาๆ : “ฉันรู้เพียงแค่ว่าตอนที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดทะลวงสู่แดนนภา ต้องก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์ กลับไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาต้องก้าวข้ามภัยพิบัติถึงสองครั้ง”
ในเวลานี้ ดวงตาทั้งคู่ของหยางเฉินจ้องตู้จ้งแน่น เขาเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว พร้อมที่จะลงมือช่วยตู้จ้งป้องกันภัยพิบัติสวรรค์ทุกเมื่อ
อำนาจของทัณฑ์เทพเจ็ดสีแข็งแกร่งเกินไป ร่างกายของเขาแข็งแกร่งพอ ผสมกับเลือดของผู้มีอิทธิพลในตำนานทั้งสามแล้ว ต่อให้ภัยพิบัติสวรรค์แข็งแกร่งเพียงใด ก็สามารถแบบรับไหว
แต่ว่าตู้จ้งเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นธรรมดาคนหนึ่ง สามารถแบกรับอำนาจของภัยพิบัติสวรรค์นี้ได้หรือไม่ ก็ไม่รู้เหมือนกัน
ในไม่ช้า หยางเฉินก็ผ่อนคลายลง
เพราะว่าภัยพิบัติสวรรค์นับไม่ถ้วน หลังจากตกสู่บนร่างกายของตู้จ้ง ถูกร่างกายของตู้จ้งดูดซึมทั้งหมด กลับไม่ได้สร้างความเสียหายต่อร่างกายของตู้จ้งแม้แต่นิดเดียว
ภายในพริบตา ตู้จ้งก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์แปดอัน เหลือเพียงภัยพิบัติสวรรค์อันสุดท้าย เพียงแค่ก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์อันนี้ ตู้จ้งถือได้ว่าก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์ทั้งหมดในครั้งนี้แล้ว ความแข็งแกร่งย่อมจะเปลี่ยนไป
หยางเฉินตั้งหน้าตั้งตารอทันที
และออร่าบู๊บนร่างกายของตู้จ้ง ก็แข็งแกร่งจนไม่รู้จะเพิ่มยังไงแล้ว แม้แต่หยางเฉิน ล้วนแล้วรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่ดูเหมือนจะมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ
และในเวลานี้ จู่ๆฉีอิงเว่ยก็กัดฟันและพูด : “ลงมือ ฆ่าตู้จ้ง!”
ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของผู้พิทักษ์ทั้งสองเปลี่ยนอย่างมาก
“คุณชาย ท้ายที่สุดแล้วสำนักบู๊ถูกสร้างโดยเทพบู๊…..”
ผู้พิทักษ์เตรียมจะพูดเกลี้ยกล่อม ฉีอิงเว่ยพูดด้วยความโกรธ : “ไม่ทราบว่าเทพบู๊ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้หรือไม่ ตราประทับที่เขาทิ้งไว้ในสำนักบู๊ก็หายไปแล้ว ยังกลัวอะไรอีก?”
“ในเมื่อพวกเรารุกรานสำนักบู๊ไปแล้ว พวกแกคิดว่า ระหว่างพวกเรากับสำนักบู๊ ยังจะสามารถอยู่อย่างสันติได้เหรอ? คนคนนี้กำลังจะก้าวข้ามทัณฑ์เทพเจ็ดสี เพียงแค่ปล่อยให้เขาก้าวข้ามทัณฑ์เทพสำเร็จ ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้น อนาคตเป็นสิ่งที่ไร้ขีดจำกัด”
“วันนี้ถ้าหากปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไป นับแต่นี้เป็นต้นไป จะกลายเป็นศัตรูของตระกูลฉีอย่างแน่นอน”
“ฆ่าเขาสะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉีอิงเว่ยผู้พิทักษ์สองคนไม่พูดอะไรอีกต่อไป ดวงตาต่างเยือกเย็น พุ่งไปทางตู้จ้งโดยตรง
“หาเรื่องตาย!”
ตอนที่หยางเฉินเห็นผู้พิทักษ์ของตระกูลฉีพุ่งไปทางตู้จ้ง ในดวงตาเผยให้เห็นจิตสังหารที่น่ากลัว เพียงแค่เห็นใต้เท้าของเขาเคลื่อนไหว หายไปในทันที