The King of War - บทที่ 1988 อยู่เป็นเพื่อนจนจบ
The king of War บทที่ 1988 อยู่เป็นเพื่อนจนจบ
ร่างกายของหยางเฉิน ถูกปืนเทพบู๊ทะลุผ่าน และโดนการโจมตีสุดกำลังของลี่เฉิน อาการบาดเจ็บสาหัสอย่างยิ่ง
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายเขาบาดเจ็บหนัก สาเหตุหลักที่สุด คือร่างกายนี้ของเขาเพิ่งฝ่าฟันภัยพิบัติส่วนเนื้อหนังมาวันนี้ กลับโดนวิญญาณของเทพมารยึดครอง ระเบิดความสามารถที่เทียบเท่าแดนนภาขั้นสองชั้นต้นออกมา ต้องแบกรับพลังที่เดิมทีไม่ได้เป็นของเขาแบบเกินกว่าจะรับไหว สร้างอาการบาดเจ็บใหญ่หลวงต่อร่างกายของเขาแล้ว
“พี่เฉิน พี่อย่าทำผมตกใจสิ ขอร้องพี่อย่าทำผมกลัวสิ ที่ผมยังมียาที่รักษาบาดแผลอยู่ พี่รีบกินสิ รีบกิน!”
หม่าชาวพุ่งไปถึงข้างกายหยางเฉิน เห็นทั่วทั้งตัวเป็นอาการบาดเจ็บจนมองเห็นได้ถึงกระดูก น้ำตาของเขายิ่งไหลลงแบบควบคุมไม่อยู่ ตอนที่ทั้งสองเพิ่งมาถึงภูเขามาร หยางเฉินมอบยารักษาบาดแผลพวกนั้นให้เขา จึงนำออกมาทั้งหมดอย่างรีบร้อน
เพียงแค่ หยางเฉินในเวลานี้ เลือดสดทะลักออกจากในปากมากมาย เดิมทีไม่มีทางกินยาใดๆ ลงไปได้
ลี่เฉินและตู้ป๋อทั้งสองคนยืนอยู่ข้างกายหยางเฉิน มองลักษณะที่น่าเวทนานี้ของหยางเฉิน ล้วนทำหน้ารู้สึกผิด ถ้าไม่ใช่การโจมตีของพวกเขา หยางเฉินคงไม่เจ็บสาหัสเช่นนี้
แต่พวกเขาก็รู้ดีว่า เมื่อสักครู่ชั่วขณะนั้นที่เทพมารอาศัยร่างกายของหยางเฉิน อยากฆ่าหม่าชาว วิญญาณของหยางเฉินถึงยึดครองการควบคุมไว้ ปล่อยให้การโจมตีของลี่เฉินและตู้ป๋อร่วงใส่บนตัวของเขา
“วิญญาณของเทพมารยังอยู่ในร่างของเขา เพียงแค่ถูกเขาระงับลงไปชั่วคราว ตอนนี้มีเพียงฆ่าเขา ถึงฆ่าวิญญาณของเทพมารไปด้วยได้”
ในเวลานี้เอง ซือคงเอ่ยปากพูดขึ้นกะทันหัน
พูดจบ เขาโบกฝ่ามือ พูดสั่งการ “ค่ายกลสังหารวิญญาณเริ่มดำเนินการ!”
ได้ยินคำสั่งของเขา ผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์กลุ่มหนึ่ง รีบกลับตำแหน่งเดิมทันที ค่ายกลสังหารวิญญาณเริ่มดำเนินการอีกครั้ง ชั่วขณะนั้นพลังอันยิ่งใหญ่ส่วนหนึ่ง กระจายออกจากในค่ายกล
“คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ออกไปจากค่ายกลสังหารวิญญาณให้ไว ไม่อย่างนั้นจะตายไปพร้อมกับเทพมาร!”
ซือคงมองลี่เฉินกับตู้ป๋อรวมทั้งหม่าชาวที่ยังอยู่ในค่ายกลสังหารวิญญาณอีก ตะโกนด้วยเสียงดุ
ได้ยินคำพูดของเขา ลี่เฉินกับตู้ป๋อโมโหเดือดดาล
“วิญญาณของเทพมารถูกระงับลงไปแล้ว พวกนายในฐานะผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์ สิ่งที่ควรทำตอนนี้ คือคิดว่าวิธีขับไล่วิญญาณของเทพมารออกจากในร่างกายนี้ และไม่ใช่ฆ่าคนคนนี้พร้อมกันไปด้วยเลย”
ลี่เฉินจ้องซือคงตาเขม็ง พูดอย่างเย็นชา “ฉันรู้ว่าพวกนายพันธมิตรพิทักษ์มีวิธีการแบบนี้ ถ้าใช้ค่ายกลสังหารวิญญาณก็ทำได้เพียงฆ่าหยางเฉินไปด้วยกันแล้ว!”
ซือคงขมวดคิ้วแน่น พูดจาน้ำเสียงเย็นชา “พวกเราพันธมิตรพิทักษ์ทำงาน ทำไมต้องรายงานต่อนายด้วย? รีบไสหัวออกไปจากค่ายกลสังหารวิญญาณไม่เช่นนั้น ฆ่า!”
พอได้ยิน ลี่เฉินยิ่งขุ่นเคืองเพิ่มขึ้น
เขาเอามือไพล่หลังยืนอยู่ตรงกลางค่ายกล จ้องซือคงด้วยท่าทางเฉยชาแล้วพูดว่า “ผู้แข็งแกร่งในค่ายกลสังหารวิญญาณยิ่งมาก พลังทำลายล้างที่แบ่งกันไปแต่ละคนก็จะยิ่งอ่อนลง เดิมทีพวกนายไม่สนใจความเป็นความตายของพวกฉันอยู่แล้ว แต่กังวลว่าพวกฉันอยู่ในค่ายกลสังหารวิญญาณพวกนายจะไม่มีทางรวบรวมพลัง มากำจัดวิญญาณของเทพมาร”
พูดเรื่องพวกนี้ออกมา ทุกคนล้วนตกใจสุดขีด นึกไม่ถึงค่ายกลสังหารวิญญาณยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัวแบบนี้
ซือคงหรี่ดวงตาทั้งสองแล้ว จ้องลี่เฉินไว้บอกว่า “นี่คือนายกำลังยั่วยุพันธมิตรพิทักษ์ นายรู้ไหมผลลัพธ์ที่ทำแบบนี้ จะร้ายแรงมากแค่ไหน?”
ลี่เฉินพูดอย่างเฉยชา “พันธมิตรพิทักษ์แกร่งมาก แต่ไม่ใช่แกร่งที่สุดของโลกบู๊โบราณ นายไม่ต้องมาข่มขู่ฉัน พวกนายอยากจะจัดการวิญญาณของเทพมารยังไง ฉันไม่ยุ่ง แต่อยากจะฆ่าหยางเฉินไปพร้อมกันด้วยแล้ว ฉันยุ่งแน่นอน!”
ตู้ป๋อยืนอยู่ในค่ายกลสังหารวิญญาณเช่นกัน จ้องซือคงแล้วพูดว่า “ในเมื่อพันธมิตรพิทักษ์มีวิธี งั้นยังต้องรบกวนทุกคนไล่วิญญาณของเทพมารออกจากในร่างของหยางเฉินก่อน จากนั้นพวกเราจะพาหยางเฉินออกไปด้วย พวกคุณอยากจะจัดการเทพมารยังไง พวกเราจะไม่แทรกแซงอีกเลย”
วิถีบู๊ของลี่เฉินทะลุสู่แดนนภาแล้ว ถึงแม้ความสามารถของตู้ป๋อยังไม่ได้ทะลุสู่แดนนภา แต่ก็ถึงชั้นยอดของแดนเหนือมนุษย์ ถ้าเขายินยอม ตอนนี้ก็สามารถฝ่าภัยภัยพิบัติสวรรค์ได้
เพียงแค่ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ไม่เหมาะสมจะฝ่าฟันภัยพิบัติ
ผู้แข็งแกร่งสำนักมารกลุ่มหนึ่ง ล้วนมองเจ้าสำนักของตนเองด้วยท่าทางกังวลใจ
คนเหล่านี้ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์ ลี่เฉินต่อต้านไปเช่นนี้ กลัวว่าต่อให้ไปโลกบู๊โบราณแล้ว ก็คงใช้ชีวิตไม่ง่ายหรอกมั้ง?
สีหน้าซือคงหม่นหมองถึงขีดสุด เขารู้ว่า ถ้าไม่ไล่วิญญาณของเทพมารออกจากในร่างกายของหยางเฉินก่อน ลี่เฉินและตู้ป๋อจะไม่ออกไปเด็ดขาด
พอพูดเช่นนี้ ก่อนหน้าที่วิญญาณของเทพมารจะควบคุมร่างกายของหยางเฉินใหม่อีกรอบ พวกเขาอยากจะฆ่าทิ้ง ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
แต่ถ้าขับไล่วิญญาณของเทพมารออกจากร่างกายของหยางเฉินก่อนจริง นี่ไม่ใช่หมายความว่าพันธมิตรพิทักษ์ก้มหัวให้ผู้แข็งแกร่งของโลกทั่วไปเหรอ?
นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องที่ซือคงไม่มีทางยอมรับ
ทันใดนั้นซือคงเอ่ยปาก “ให้เวลาพวกนายภายในหนึ่งนาที ถ้ายังไม่ไสหัวออกไปกัน งั้นจะฆ่าพวกนายก่อน แล้วค่อยฆ่าวิญญาณเทพมาร!”
ท่าทีของเขา เกินความคาดหมายของทุกคน
ต้องรู้ว่า ไม่ว่าอย่างไร สังหารวิญญาณเทพมารก็คือเรื่องสำคัญที่สุด แต่ตอนนี้ เพื่อหน้าตาแล้ว คาดไม่ถึงซือคงกลับตัดสินใจอยากฆ่าลี่เฉินและตู้ป๋อก่อน
สำหรับหม่าชาว โดนพวกเขาเพิกเฉยไปโดยตรง
ลี่เฉินและตู้ป๋อก็สีหน้าดูแย่ พวกเขานึกไม่ถึงเหมือนกันว่าซือคงจะทำแบบนี้
แต่ถ้าพวกเขาออกไปจากค่ายกลสังหารวิญญาณกันจริง หม่าชาวจะต้องไม่ออกไปแน่ ถึงตอนนั้น หยางเฉินกับหม่าชาว คงจะโดนฆ่าตายภายในค่ายกลสังหารวิญญาณด้วยกัน
ตู้ป๋อกลับยังดี แต่ว่าหม่าชาวเป็นศิษย์ของลี่เฉิน ต้องออกไปจริงๆ แล้ว หัวใจวิถีบู๊ของตนเองกลัวว่าจะโดนแว้งกัดขนานใหญ่ วันหลังวิถีบู๊ไม่อาจก้าวหน้าได้สักขั้น
นึกถึงตรงนี้ ชั่วขณะนั้นลี่เฉินตัดสินใจเรียบร้อย เขตแดนวิถีมารที่ยิ่งใหญ่ส่วนหนึ่ง ปลดปล่อยออกจากในร่างกายเขา
ตู้ป๋อมองลี่เฉินแบบลึกซึ้งแวบหนึ่ง จากนั้นไม่ได้ลังเลสักนิดเดียว ระเบิดออร่าบู๊ของตนเองออกมาถึงที่สุด
ทันใดนั้น ออร่าบู๊อันยิ่งใหญ่ทั้งสอง ระเบิดออกภายในค่ายกลสังหารวิญญาณ
ความอาฆาตพยาบาทในสายตาของซือคงเข้มขึ้น จ้องลี่เฉินตาเขม็งแล้วพูดว่า “ดูแล้ว พวกนายตัดสินใจกันเรียบร้อย ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันคงได้แต่กำจัดพวกนายก่อนแล้ว”
พูดจบ เขาตะโกนเสียงดัง “ค่ายกลสังหารวิญญาณเริ่มดำเนินการเดี๋ยวนี้!”
หลังเสียงพูดของเขาจบลง ผู้แข็งแกร่งแดนนภาของพันธมิตรพิทักษ์สิบคน ระเบิดออร่าบู๊อันยิ่งใหญ่ออกมาพร้อมกัน
ทันใดนั้น ออร่าบู๊ในค่ายกลสังหารวิญญาณเพิ่มสูงขึ้น ลักษณะพลังที่เพิ่มสูงขึ้นกะทันหันนี้ ร่างกายของหม่าชาวไม่มีทางรับไหว เลือดสดไหลออกจากรูบนหน้าทั้งเจ็ดโดยตรง
ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าลี่เฉินเปลี่ยนไปมาก รีบแบ่งเขตแดนวิถีมารของตนเองไปคุ้มกันบนตัวของหม่าชาว หม่าชาวถึงรู้สึกค่อยยังชั่วหน่อย แต่ยังคงไม่สบายตัวอย่างมาก
เขามีแค่ความสามารถของแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นห้า สามารถรอดชีวิตได้ ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว
ในดวงตาของหยางเฉินเป็นสีแดงเลือด หลังพ่นเลือดสดออกอย่างหนัก พูดแบบกัดฟันแน่น “พวกคุณอยากฆ่าเทพมาร ผมสามารถตายไปพร้อมกับเขาได้ แต่พวกคุณ ไม่ควรโดยเด็ดขาด ที่จะลงมือต่อเหล่าเพื่อนของผม”
“ในเมื่อพวกคุณอยากลงมือ งั้นผมได้แต่อยู่เป็นเพื่อนจนจบ!”
ในความตกใจของทุกคน หยางเฉินที่เดิมทีใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว ทันใดนั้นลุกขึ้นยืนมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เทพมารยืมร่างกายของเขาระเบิดพลังยิ่งใหญ่ออกมา ทำให้ร่างกายของเขาบาดเจ็บจนเสียหายหนัก ปัจจุบันเลือดอาบไปทั้งตัว มองขึ้นมาน่าเวทนาอย่างยิ่ง
แต่เขายืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง ออร่าบู๊บนตัว ก็เพิ่มขึ้นฉับพลัน