The King of War - บทที่ 1905 เก่งกาจจริง ๆ
หยางเจิ้นกับตู้จ้งทั้งสองคน คุยกันแบบคำเดียวรู้เรื่อง ทันทีนั้นก็ตัดสินใจกัน ตกลงจะให้สมาพันธ์บูโดผนวกเข้ากับสำนักบู๊
ก่อนหน้านี้ตู้ป๋อได้เคยเสนออยู่ ให้สมาพันธ์บูโดผนวกรวมกับสำนักบู๊ มาดูตอนนี้ เขาไม่ได้คิดจะใช้สมาพันธ์บูโดไปทำอะไร เพียงแต่จะดึงตัวหยางเฉิน จึงได้มีการเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา
ในสหพันธ์บูโด ยกเว้นหยางเฉินแล้ว ก็ไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าอีก แต่ในสำนักบู๊ ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสุดยอดถึงสิบกว่านาย สำนักบู๊มีหรือว่าจำเป็นต้องใช้สมาพันธ์บูโด?
ในส่วนอีกด้านหนึ่ง ตู้ป๋อกับตู้หมิงเหวี่ยนแยกตัวไกลออกมาแล้ว ก็รีบเปิดประชุมวาระเร่งด่วนสำนักบู๊
ภายในห้องประชุมสำนักบู๊ บนโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ ห้อมล้อมนั่งด้วยผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดสิบห้านาย สำหรับตู้ป๋อกับตู้หมิงเหวี่ยนสองพ่อลูก ก็อยู่ในกลุ่มด้วย
กลุ่มพลังที่ดูแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าวางออกไปไว้นอกภูเขามาร ย่อมจะเป็นกลุ่มกำลังรบที่แข็งแกร่งเอามาก ๆ
“ท่านเจ้าสำนัก มีอะไรถึงเรียกประชุมกันอย่างทันด่วนนี้?มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?”
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดนายหนึ่ง มองไปที่ตู้ป๋อที่นั่งในตำแหน่งประธาน เอ่ยปากถาม
ในสำนักบู๊ มีเฉพาะในสภาวการณ์วิกฤติผิดปกติ จึงจะมีแต่เฉพาะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดมาประชุม
การประชุมสามัญทั่วไป ขอเพียงเป็นผู้ที่ระดับแดนบูโดเข้าอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ล้วนมีสิทธิ์เข้าร่วมประชุม
เป็นที่แน่ชัด การประชุมในวันนี้มีความสำคัญมาก ฉะนั้นจึงให้เฉพาะผู้แข็งแกร่งที่มีพลังฝีมือต่อสู้ระดับสุดยอดที่สุดมาเข้าร่วมเท่านั้น
ตู้ป๋อกวาดสายตามองไปรอบห้อง เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “มีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ต้องมาแจ้งให้ทุกคนรับรู้ไว้ที่นี่”
ได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างมองไปที่ตู้ป๋อด้วยสีหน้าเคร่งขรึม รอฟังเรื่องที่จะพูดต่อไป
ตู้ป๋อนิ่งขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้พูดต่อไปว่า “อีกสามวันให้หลังนี้ศาลบรรพชนก็จะเปิด ข้าในฐานะเจ้าสำนักได้กำหนดรายชื่อผู้ที่จะก้าวเข้าไปในศาลบรรพชนไว้แล้ว”
นอกจากจินฮุยแล้ว ยังมีอีกหนึ่งผู้สมัครเข้ามาอยู่สำนักบู๊คนใหม่ จะก้าวเข้าศาลบรรพชนด้วยกันกับจินฮุย
พูดคำพูดนี้ออกมา ทุกคนทั้งหมดต่างตะลึง
“ท่านเจ้าสำนัก สองคนที่เป็นสมาชิกเพิ่งสมัครใหม่เข้ามา จะมีคุณสมบัติอะไรที่จะก้าวย่างเข้าไปในศาลบรรพชน?ถ้าทำไปอย่างนี้ แล้วพวกสมาชิกในตระกูลสำนักที่เฝ้ารอกันมานานหลายปี จะคิดกันยังไง?”
ทันทีก็มีคนประท้วงขึ้นมา พูดด้วยเสียงอันดังว่า “ขอท่านเจ้าสำนักได้ใคร่ครวญพิจารณา อย่าทำให้คนในตระกูลต้องหนาวใจ”
พอมีคนเริ่ม ทันทีก็มีคนตะโกนออกมา “ท่านเจ้าสำนักใคร่ครวญให้ดีด้วย!”
“ขอท่านเจ้าสำนักได้โปรดใคร่ครวญด้วย!”
……
ในเวลานั้น ทั่วทั้งห้องประชุม มีแต่เสียงทักท้วงของทุกคน
ใบหน้าตู้ป๋อขรึมเงียบเรียบสงบ ไม่มีอาการโกรธโมโหกับการทักท้วงในความเห็นต่าง เพราะทุกสิ่งที่เขาทำไป ล้วนทำเพื่อสำนักบู๊ และก็ปฏิบัติอยู่ในครรลองของกฎกติกากำหนดในการนี้
เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดทั้งหลาย โวยวายกันไปอยู่พักหนึ่ง ก็ค่อย ๆ สงบลง ต่างก็มองไปที่ตู้ป๋อ พวกเขาทุกคนรู้ดี ในเมื่อตู้ป๋อพูดออกมาแบบนี้ มั่นใจได้ว่าเขาต้องมีเหตุผลของเขา
เมื่อตู้ป๋อเห็นทุกคนเงียบสงบลงแล้ว ก็จึงได้พูดต่อไปว่า “วางใจได้ ข้าไม่มีการใช้อำนาจเจ้าสำนักอย่างสะเปะสะปะ ทุกเรื่องอยู่ในครรลองกติกาข้อกำหนดของตระกูล”
“ตามข้อกำหนดตระกูล ข้าในฐานะเจ้าบ้าน มีอภิสิทธิ์เลือกรายชื่อบุคคลเข้าไปในศาลบรรพชนได้หนึ่งรายชื่อ”
“หลายสิบปีที่ผ่านมานี้ ข้าก็ไม่เคยได้ใช้สิทธิ์พิเศษนี้ วันนี้ก็จะขอใช้อภิสิทธิ์นี้ ตั้งให้ตู้จ้งน้องชายในสายเลือดของข้า ก้าวเข้าศาลบรรพชน ทุกท่านคงไม่มีอะไรขัดข้องมั้ง?”
เรื่องที่ตู้จ้งกลับมาสำนักบู๊นี้ ได้มีการกระจายข่าวออกไปตั้งแต่แรกแล้ว ที่อยู่ในนี้ก็ล้วนแต่ผู้ทรงคุณวุฒิของสำนักบู๊ พวกเขาก็ย่อมรู้จักตู้จ้งดี
“ในสำนักบู๊ ทุกห้าปี จะมีการอนุมัติให้สมาชิกในสำนักบู๊สามคนเข้าไปในศาลบรรพชน และรายชื่อสามคนในทุกครั้ง ก็ต้องมีอยู่หนึ่งรายชื่อ ให้เจ้าสำนักตั้งขึ้นมาโดยเห็นควรเอง ท่านเจ้าสำนักไม่เคยใช้อภิสิทธิ์นี้มาก่อนเลย การจะมาขอใช้ในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องหนักหนา ข้าไม่มีความเห็น”
“ตู้จ้งแม้จะไปจากสำนักนานมาแล้ว แต่เขาก็เป็นคนในตระกูลสำนักบู๊ของพวกเรา ท่านเจ้าสำนักจะใช้อภิสิทธิ์ให้รายชื่อนี้เป็นของเขา ก็สมควรอยู่ตามครรลอง ข้าไม่มีข้อขัดแย้ง”
“ท่านเจ้าสำนัก ท่านเป็นเจ้าสำนัก ก็มีได้โดยอภิสิทธิ์หนึ่งรายชื่อ แต่ที่ท่านพูดเมื่อครู่นี้ นอกจากจินฮุยที่ถูกกำหนดไว้แน่ชัดแล้ว ผู้รับคัดเลือกอีกสองท่านที่จะให้เข้าไปในศาลบรรพชน หนึ่งคือตู้จ้ง แล้วอีกหนึ่งตัวเลือกหละ?ถึงท่านจะตั้งให้เขาเข้าไปในศาลบรรพชน ก็ควรที่จะต้องให้พวกเรารู้ด้วย ให้รู้ว่าเขามีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปในศาลบรรพชนได้จริง”
ทันทีในไม่ช้านั้น ก็มีคนทักท้วงตั้งข้อสงสัย
ตู้ป๋อเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เขาอายุเพียงยี่สิบแปด ระดับบูโดไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง มีพลังฝีมือในการต่อสู้เทียบระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ขนาดเคยเอาชนะตู้หมิงเหวี่ยนมาแล้ว บุคลากรบูโดพรสวรรค์เก่งกาจแบบนี้ ตอนนี้สมัครเข้ามาอยู่กับสำนักบู๊แล้ว มีคุณสมบัติพอไหมที่จะก้าวเข้าศาลบรรพชน?”
พอได้ยินที่เขาพูด เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ต่างตาลุกค้าง แต่ละคนงงทื่อเต็มหน้า
“มันจะเป็นไปได้ยังไง?ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางที่อายุแค่ยี่สิบแปด ข้ายังไม่เคยแม้แต่ได้ยิน ให้แม้แต่ในตระกูลบู๊โบราณ ก็คงไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางที่ยังอายุน้อยขนาดนี้มั้ง?”
“ถ้ามีนักบูโดพรสวรรค์เก่งกาจแบบนี้จริง ก็เป็นไปไม่ได้ว่าจะยอมสมัครเข้าสำนักบู๊ของพวกเรา อัจฉริยะแบบนี้ เข้าไปในกลุ่มอิทธิพลโบราณไหน ก็ไม่มีใครจะปฏิเสธ”
“ท่านเจ้าสำนัก ท่านก็อย่าได้ล้อพวกเราเล่นเลย ตอนนี้นอกจากจินฮุยกับตู้จ้งแล้ว คนสุดท้ายที่จะให้ก้าวเข้าศาลบรรพชน สรุปแล้วเป็นใครกัน?”
……
เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักบู๊ ต่างก็ไม่มีใครเชื่อที่ตู้ป๋อพูด
หยางเฉินอายุน้อยเกิน พลังฝีมือก็เก่งกาจเกิน คนแบบนี้ เป็นไปได้ยังไงว่าจะมาเข้าสำนักบู๊?
เรื่องนี้คงโทษคนสำนักบู๊ไม่ได้ หยางเฉินมีพรสวรรค์บูโดสูงล้ำเก่งกาจเกิน ต่อให้อยู่ในกลุ่มอิทธิพลบู๊โบราณ ก็ต้องประเภทพิสดารเหนือพิสดาร
ตู้ป๋อกับตู้หมิงเหวี่ยนสองพ่อลูกมองหน้ากันหัวเราะ ตู้หมิงเหวี่ยนหัวเราะพูดว่า “ทุกท่าน ที่ตุณพ่อพูดมานั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เขาชื่อหยางเฉิน ที่ตู้จ้งที่กลับมาบ้าตระกูลในครั้งนี้ ก็มาเพื่อหยางเฉินนี่แหละ”
“ตอนนี้ หยางเฉินกูอยู่ในสำนักบู๊เรา ได้ยอมรับการชักชวนจากคุณพ่อ เขาเข้ามาอยู่กับสำนักบู๊แล้ว”
“อีกอย่างหนึ่ง เขาอายุยี่สิบแปดจริง ๆ และก็มีระดับบูโดในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางจริง ๆ ก็ที่สักครู่ก่อนหน้า เขาก็ได้เอาชนะข้าไป ถึงแม้อาจเป็นเพราะข้าประมาทคู่ต่อสู้ไปหน่อย แต่พลังฝีมือแท้ ๆ ของเขานั้นแข็งแกร่งมาก ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดทั่วไป ก็ยังไม่มีทางจะเทียบเป็นคู่ต่อสู้เขาได้เด็ดขาด”
ได้ยินที่ตู้หมิงเหวี่ยนพูด คนที่อยู่ทั้งหมดถึงกับงงเซ่อ เพราะก่อนหน้าเมื่อสักครู่นี้ พวกเขาก็ได้สัมผัสถึงกลิ่นอายการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก ๆ จริง
พวกเขาถึงแม้ไม่ได้อยู่ในสถานที่ต่อสู้กัน แต่ก็ยังพอสัมผัสได้ถึงความรุนแรงในการต่อสู้ที่ดุเดือดนั้น สองคนที่ทำการต่อสู้กัน พลังฝีมือพวกเขาต่างก็แข็งแกร่งมาก หนึ่งในนั้นก็คือตู้หมิงเหวี่ยน
หรือจะว่า ตู้หมิงเหวี่ยนแพ้ให้กับคนที่ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางอายุแค่ยี่สิบแปดคนนั้น?
เห็นความรู้สึกสะท้านสะเทือนอารมณ์ที่คนเหล่านั้นแสดงออกมา ในใจตู้หมิงเหวี่ยนให้รู้สึกสะใจ แต่แล้วเขาก็เกิดความอยากเห็นอะไรบางอย่างขึ้นมาในทันใด รอให้พวกแก่เฒ่าเหล่านี้ได้สัมผัสเห็นความเก่งกาจของหยางเฉินด้วยสายตาตัวเองแล้ว จะมีปฏิกิริยาอย่างไร
“ท่านเจ้าสำนัก ถึงแม้ท่านคิดจะให้สิทธิ์ตามบัญชีรายชื่อคนสุดท้ายของท่านไปให้กับหยางเฉิน ก็ควรจะต้องให้พวกข้าได้รู้เห็นชัด ๆ ด้วยไหม?พวกเรานั้นไม่เป็นไร แต่กับพวกผู้แข็งแกร่งในตระกูลที่รอโอกาสนี้มานานนับปี พวกเขาก็ยังรอว่าจะมีโอกาสได้ก้าวเข้าศาลบรรพชน ถ้าหากพวกเขารู้ว่า รายชื่อคนสุดท้ายนี้ ถูกเด็กหนุ่มอายุแค่ยี่สิบแปดยึดได้ไป พวกเขาคงจะไม่พอใจกันอย่างมากเป็นแน่”
ทันทีนั้นก็มีคนลุกยืนขึ้น พูดด้วยสีหน้าขึงขังว่า “ฉะนั้น ข้าหวังว่า ให้สำนักบู๊จัดให้มีการต่อสู้ชิงบัญชีรายชื่อที่จะได้ก้าวเข้าศาลบรรพชน หากหยางเฉินผ่านการต่อสู้ไปได้ ได้รับมอบให้ก้าวเข้าศาลบรรพชนตามบัญชีรายชื่อ ข้าคิดว่าจะเป็นการทำให้ไม่มีใครมีความเห็นคัดค้านได้”