The King of War - บทที่ 1826 ย้ายออกจากเยี่ยนตูภายในคืนนี้

บทที่ 1826 ย้ายออกจากเยี่ยนตูภายในคืนนี้
หลังจากหยางเฉินจากออกไป ก็กลับไปที่ยอดเมฆา
“พี่หยาง ฉันเพิ่งจะได้ข่าวมา ตระกูลโยชิดะได้ส่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางมาหนึ่งนาย ชื่อโยชิดะ โช เป็นรองนายกสมาคมบูโดของประเทศซัน”
เพิ่งกลับเข้ามาถึงยอดเมฆา หวยหลานก็พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ได้ยินดังนั้น หยางเฉินขมวดคิ้ว เดิมคิดว่า ผู้แข็งแกร่งประเทศซันที่มากันในครั้งนี้ พลังฝีมืออย่างสูงก็อยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น ก็น่าจะเป็นแค่นั้น แต่คิดไม่ถึงว่า กลับมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางโผล่มาอีกคน
ตัวหยางเฉินเองถึงแม้มีพลังฝีมือเก่งกาจมาก แต่ก็ไม่กล้าทะนงตัวได้ถึงขนาดว่า ใช้พลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอด ก็จะสามารถถล่มผู้แข็งแกร่งแดนยอดมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางได้หมดทั้งโลก
พลังฝีมือต่อสู้ที่แท้จริงที่เขาสามารถใช้ได้ อย่างมากก็กระตุ้นเพิ่มได้เทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง นี่ก็คือถึงขีดจำกัดที่เขายังคงประคองอยู่ได้ในสภาพจิตตื่นอยู่อย่างปกติ
ข้อเท็จจริงที่จะพูดแบบนี้ ด้วยเพราะว่ายังไม่รู้ว่าสายเลือดคลั่งในตัวเขานั้นจะกระตุ้นพลังของเขาไปได้ถึงขนาดไหน เพราะเขายังไม่เคยทดลองมาก่อนเลย
เวลานี้ในตอนที่การกระตุ้นสายเลือดคลั่งออกมาใช้นั้น ถึงแม้ไม่เหมือนตอนใช้ใหม่ ๆ ที่กระตุ้นได้ไม่นานก็จะตกไปในสภาวะขาดสติ แต่การกระตุ้นสายเลือดคลั่งออกมาถึงระดับหนึ่งแล้ว ถ้าฝืนกระตุ้นต่อ เขาก็จะค่อย ๆ หลุดจากสติ สุดท้ายก็จะขาดสติหมดจิตสำนึกไป
ในปัจจุบันนี้เขาได้ใช้ขั้นตอนขบวนการทุกอย่างแล้ว ในสภาวะคงไว้ให้ตื่นตัวมีสติอยู่ ก็สามารถกระตุ้นเต็มที่ให้ได้ถึงพลังของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง
นี่ยังรวมถึง การที่เขาฝึกใช้พลังแห่งธาตุได้แล้วด้วย
“แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางเลยหรือ？”
พักใหญ่ หยางเฉิงจึงได้พึมพำออกมาเบา ๆ
หวยหลานผงกหัว พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “พี่หยาง การศึกในวันพรุ่งนี้ น่าอันตรายมากจริง ๆ”
ฝ่ายตรงข้ามถึงแม้พลังฝีมืออยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง แต่เขายังเป็นถึงรองนายกสมาคมบูโดของประเทศซัน ถ้าไม่ใช่มีฝีมือจริง จะเป็นถึงรองนายกสมาคมบูโดของประเทศซันได้ยังไง？
“พี่คงต้องมองเขาในฐานะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายในการรับมือ หากแม้นพี่มองไม่เห็นวิธีที่จะรับมือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายได้ การศึกในวันพรุ่งนี้ จะเข้าไปร่วมแข่งด้วยไม่ได้เด็ดขาด”
“หยางเฉินกำหมัดทั้งคู่แน่น สีหน้าบ่งบอกถึงความรู้สึกไม่เป็นอย่างใจ”
หวยหลานไม่ได้พูดให้ฟังเสียความรู้สึก แต่ในเมื่อโยชิดะ โช เป็นถึงรองนายกสมาคมบูโดของประเทศซัน แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งธรรมดา ถึงได้บอกว่า โยชิดะ โช ถึงแม้ว่าอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง แต่ต้องเป็นไปได้ว่าจะมีพลังฝีมือของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย
โลกของวงการบูโดกว้างไพศาล ไม่ใช่มีเพียงหยางเฉินเท่านั้น ที่มีพลังฝีมือลุยข้ามเขตุถล่มศัตรูได้
ก็คือว่า ถ้าหากเขาไม่มีวิธีที่ดีในการรับมือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายได้ การเข้าปะทะกับโยชิดะ โช จริง เกรงว่ามีแต่จะตายลูกเดียว
แน่นอน เขาอาจจะไม่ตายได้ หรือยิ่งกว่านั้นว่าฆ่าโยชิดะ โช ได้ แต่ถ้าจะทำให้ได้ขนาดนั้น ก็จะต้องกระตุ้นสายเลือดคลั่งในตัวออกมาหมด ให้มีพลังมากที่สุดจนถล่มฆ่าโยชิดะ โช ได้ แต่ผลที่ตามมาจะรุนแรงอย่างสาหัส นั่นคือหยางเฉินจะเสียสติไปทั้งหมดจนกลายเป็นตัวประหลาดอะไรไปได้
“พี่เฉิน การศึกในวันพรุ่งนี้ พี่เข้าไปร่วมไม่ได้！”
หม่าชาวพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
สองพี่น้องตระกูลซ่ง ต่างก็พูดออกมา “คุณหม่าพูดถูก คุณหยางท่านต้องไม่เข้าร่วมในงานต่อสู้กันในวันพรุ่งนี้เด็ดขาด ข้าได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสมาคมบูโดประเทศซันมา เห็นว่าเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยกลุ่มอิทธิพลบูโดของผู้แข็งแกร่งในประเทศซัน ว่ากันว่าตัวนายกสมาคมของพวกเขา มีพลังฝีมือสูงมากขึ้นไปอีก จนน่าจะไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดแล้ว”
“สำหรับรองนายกโยชิดะ โช ก็อยู่ในระดับระดับมหากาฬบูโดอัจฉริยะ เห็นว่าเมื่อสิบปีที่แล้ว ระดับขั้นบูโดของเขา ก็ได้ก้าวไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางแล้ว มีหลายคนในแวดวงบูโดบอกว่า ด้วยอัจฉริยะภาพด้านบูโดของโยชิดะ โช เป็นไปไม่ได้ว่าในสิบกว่าปีที่ต่อมานี้ พลังฝีมือจะไม่มีการก้าวหน้าขึ้น”
“มีคนสงสัยกันอยู่ว่า โยชิดะ โชมีเคล็ดวิธีอะไรใช้เก็บซ่อนพลังฝีมือบูโดไว้ได้ ฉะนั้นจึงไม่มีใครได้รู้ถึงพลังฝีมือที่แท้ของเขา”
ได้ยินที่พี่น้องตระกูลซ่งเล่ามา สีหน้าของหยางเฉินยิ่งเคร่งเครียดลง
ให้แม้ว่าโยชิดะ โชจะมีพลังฝีมืออยู่เพียงที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ก็พอที่จะทำเขาคิดจนหัวโตแล้ว ยังที่คิดไม่ถึงอีกว่าพลังฝีมือของฝ่ายตรงข้าม เป็นไปได้ที่จะเก่งกาจเหนือกว่านี้ไปได้อีกไม่รู้เท่าไหร่
เฝิงเจียหยีถึงจะเป็นคนพูดน้อย แต่เวลานี้ก็มีสีหน้าห่วงกังวล เอ่ยปากพูดว่า “ปัญญาชน รอสิบปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย”
เพียงประโยคเดียว ก็แสดงออกถึงท่าทีของหล่อน
อ้ายหลินกับเฝิงเสียวหว่านถึงแม้ไม่ใช่คนในวงการบูโด แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็เข้าใจได้ถึงเรื่องราวในวงการบูโด ตอนนี้ก็มีความเป็นห่วงกับหยางเฉินขึ้นเป็นอย่างมาก
หวยหลานหันมองไปที่เฝิงเสียวหว่านในทันทีนั้น “เสียวหว่าน เธอน่าจะมีวิธี ทำยังไงให้พี่เฉินมีพลังเพิ่มขึ้นทันทีในช่วงเวลาสั้น ๆ ？”
หวยหลานเข้าใจหยางเฉินดี ด้วยนิสัยของหยางเฉินเองแล้ว ไม่มีทางที่จะทิ้งงานนัดประลองยุทธของวันพรุ่งนี้
ถ้าจะให้เขาทิ้งไป เขาก็ไม่ใช่หยางเฉินแล้ว
เฝิงเสียวหว่านส่ายหน้า “พี่หยางมีสรีระที่พิเศษมาก ที่ฉันมีปัญญาทำได้นั้น ไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้เลย”
ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ได้แต่กังวลใจ
หยางเฉินนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ในเวลานี้ที่เห็น คนที่จะรับมือผู้แข็งแกร่งประเทศซัน คงจะมีแต่พวกตระกูลบู๊โบราณที่ปลีกสังคมไปไม่กี่ท่านนั้นเท่านั้น แต่ว่า ผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดในตระกูลบู๊โบราณนั้น ไม่มีทางที่จะยอมเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องทางโลกสามัญนี้”
“เวลานี้ นักบู๊ของจิ่วโจวในโลกสามัญได้ร่วมมือกัน จัดตั้งสมาพันธ์บูโด เพื่อจะร่วมมือกันต่อต้านนักบู๊ประเทศซัน แต่ปัญหาว่า ผู้ที่มีพลังฝีมือสูงที่สุดในสมาพันธ์บูโด จะมีก็แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดเท่านั้น”
“ถ้าหากข้าไม่ลงมือเอง โลกสามัญแห่งจิ่วโจว ก็ต้องถูกนักบู๊จากประเทศซันถล่มพ่ายไปเป็นแน่ นั้นจะพาให้ระบบเศรษฐกิจของจิ่วโจว ก็จะถูกกลุ่มทุนอิทธิพลประเทศซัน เข้ามาควบคุมเป็นของพวกมัน เรื่องนี้ถ้าเกิดขึ้นกับจิ่วโจวนี้ จะเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงแน่นอน”
“ข้าไม่มีทางที่จะยืนดูเฉยได้ การศึกในวันพรุ่งนี้ ต่อให้ต้องถึงตาย ข้าก็จะต้องทำ！”
ได้ฟังคำพูดของหยางเฉิน ทุกคนต่างก็มีสีหน้าห่วงกังวล พวกเขารู้กันดี ความคิดสำหรับเรื่องนี้นั้น การคิดจะขอร้องให้หยางเฉินปล่อยทิ้ง แน่นอนคือไม่มีทาง
หม่าชาวกำหมัดขึ้นมาแน่น ขบเขี้ยวเค้ยวฟันพูดอย่างเคียดแค้นว่า “ในเมื่อพี่หยางตัดสินใจสู้ ก็รวมข้าด้วยคน พรุ่งนี้ ข้าก็จะตามพี่ไปประจันหน้ากับพวกมัน！”
พี่น้องตระกูลซ่งก็พากันพูดว่า “คุณหยาง พวกข้าสองพี่น้องถึงพลังฝีมือไม่ได้เก่งกาจ แต่เราสองพี่น้องร่วมมือประสานกัน ก็มีพลังเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก พวกเราพร้อมตามท่านไปประจันหน้ากับพวกมันด้วย”
หวยหลานก็เอ่ยปากพูดว่า “ไม่ใช่ว่าข้าจะพูดสาดให้เสียความรู้สึกนะ ด้วยพลังฝีมือของพวกท่าน เข้าไปร่วมสู้ศึกด้วย จะไม่ได้ช่วยอะไรพี่หยางได้เลย แต่กลับจะกลายไปเป็นตัวถ่วง”
“ในครั้งนี้ ผู้แข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังสามแชโบลใหญ่ประเทศซันก็มากันหมด เท่าที่ฉันรู้มา นอกจากโยชิดะ โชจากโยชิดะแชโบลแล้ว ยังมีอาโอกิ ยามาโตะของอาโอกิแชโบล ต่างก็มีพลังฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น”
“นอกจากนี้แล้ว ยังมีคามิชิโร กุนโตจากตระกูลยูอิจิ ก็มีพลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น”
“ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าพวกนี้ นอกจากผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอดที่มีพลังฝีมือสู้ศึกประเภทเหนือชั้นแบบพี่หยางนี่ ไม่เช่นนั้นแล้วต่อหน้าพวกเขานั้น ก็เหมือนเป็นพวกมดปลวก”
คำพูดของหวยหลานนั้นฟังดูเสียดหู แต่ที่หล่อนพูดนั้นคือความจริง
หยางเฉินก็เอ่ยปากพูดบ้าง “พวกกลุ่มแชโบลประเทศซัน มาครั้งนี้มีการเตรียมพร้อมมาอย่างแน่นอน น่าจะจ้องจิ่วโจวไว้อยู่นานแล้ว ที่พวกเขาเตรียมตัวไว้นั้นต้องเต็มอัตราแล้วแน่นอน ข้าจะรับมือกับพวกมันเอง”
“คืนนี้ พวกเจ้าย้ายออกไปจากเยี่ยนตูภายในคืนนี้เลย！”