The King of War - บทที่ 1781 พลังแห่งกาลเวลา
บทที่ 1781 พลังแห่งกาลเวลา
“ท่านหวัง!”
ซ่งอี้อุทานด้วยความตกใจ
เมื่อเห็นว่าหวยเจิ่นกำลังจะพุ่งเข้าหาท่านหวัง ซ่งอี้รีบสั่งทันที “เฉาเจิ้ง ฆ่าเขาซะ!”
ทันทีที่เฉาเจิ้งได้รับคำสั่ง ก็รีบพุ่งเข้าไปหาหวยเจิ่น
ในเวลานี้ หวยเจิ่นได้พุ่งไปถึงตรงร่างของท่านหวังซึ่งได้หล่นลงกับพื้นอย่างแรง และต่อยไปหนึ่งหมัด
“นายกล้าเหรอ!”
เฉาเจิ้งตะโกนด้วยความโกรธ เขาต้องการสกัดกั้นการโจมตีของหวยเจิ่น แต่มันก็สายเกินไป
ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ธนูน้ำสองอัน ทันใดนั้นก็พุ่งเข้าหาในทันที แทงไปที่ดวงตาของหวยเจิ่น
ดวงตาของหวยเจิ่นเปลี่ยนเป็นเย็นชา ยกแขนขึ้นอย่างรวดเร็ว และธนูน้ำทั้งสองอันยิงถูกแขนของเขา แต่ว่า ธนูน้ำไม่ได้ทำให้แขนของหวยเจิ่นได้รับบาดเจ็บ
แต่จากท่าทางที่หวยเจิ่นได้ใช้มือบังธนูน้ำก็มีเวลาเพียงพอที่เฉาเจิ้ง จะพุ่งไปตรงหน้าท่านหวัง
“ตูม!”
เฉาเจิ้งชกต่อยออกไปหนึ่งครั้ง กระแทกเข้าที่หน้าอกของหวยเจิ่นโดยตรง เสียงดังสนั่น หวยเจิ่นถูกกระแทกจนถอยหลังไปสิบกว่าก้าว
หลังจากที่หวยเจิ่นพยุงตัวยืนมั่น ในแววตาของเขา มีเจตนาฆ่าแวบขึ้นมา เขามองไปที่เฉาเจิ้ง มุมปากก็ยกโค้งขึ้นมีท่าทางขี้เล่นและพูดว่า “ฉันก็อยากเห็น คุณสามารถสกัดกั้นฉันได้สักกี่ครั้ง”
ทันทีที่พูดจบ หวยเจิ่นก็ขยับตัว และรีบวิ่งไปที่ซ่งอี้
สีหน้าของเฉาเจิ้งเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และตะโกนว่า “ปกป้องเจ้าเมืองน้อย!”
ข้างกายซ่งอี้ มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าหลายคน ต่างพากันก้าวไปข้างหน้า พยายามที่จะสกัดกั้นหวยจิ่น
เพียงแต่ว่า ขณะที่พวกเขาเพิ่งสกัดกั้นหวยเจิ่น และก่อนที่พวกเขาจะลงมือ ทันใดนั้นหวยเจิ่นก็ใช้เท้าเหยียบพื้น ความเร็วก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้แข็งแกร่งของจวนซ่งเหล่านั้น ยังตั้งสติไม่ได้ หวยเจิ่นก็ลอดผ่านตัวพวกเขาไปแล้ว มุ่งหน้าไปโจมตีซ่งอี้
หยางเฉินไม่ลังเลเลย ทันใดนั้นก็ก้าวไปข้างหน้า และขวางอยู่ตรงหน้าซ่งอี้
เนื่องจากอีกฝ่ายต้องการพุ่งเป้ามาที่ตัวเอง ถ้างั้นผู้บริสุทธิ์ ไม่ควรได้รับความเดือดร้อน
ในขณะนี้ สายเลือดคลั่งในร่างกายของหยางเฉินถูกเปิดใช้งาน โมเมนตัมวิถีบู๊ที่รุนแรง ก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา
“เจิ้ง~”
เขาดึงกริชอาถรรพ์ออกจากฝักสีทอง และทันใดนั้น โมเมนตัมวิถีบู๊พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
เดิมทีเขามีความแข็งแกร่งในแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ ได้เพิ่มพลังถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าระยะกลาง และกำลังค่อยๆก้าวไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าระยะปลาย
“ไม่รู้จักประมาณตน!”
หวยเจิ่นยิ้มเยาะเย้ย และเหวี่ยงฝ่ามือออกไป กระแทกไปที่หัวใจของหยางเฉินโดยตรง
ซ่งอี้ตกใจมาก “ระวัง!”
ในขณะนี้ หยางเฉินรู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก
แม้ว่าเขาจะยกระดับความแข็งแกร่งของเขาไปสู่สถานะที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วก็ตาม แต่ว่า ยังไงหวยเจิ่นก็คือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแค่นี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของหวยจิ่น
ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่กลัว ยังกำกริชอาถรรพ์ในมือไว้แน่น เมื่อเห็นฝ่ามือของหวยเจิ่นที่กระแทกลงบนหน้าอกตัวเอง ทันใดนั้นหยางเฉินก็แกว่งกริชอาถรรพ์ที่อยู่ในมือ
ในขณะนี้ ดูเหมือนเวลาจะช้าลง หยางเฉินตกใจเมื่อค้นพบว่า ตัวเองสามารถมองเห็นฝ่ามือที่กระแทกออกมาของหวยเจิ่นอย่างชัดเจน ความเร็วนั้นค่อยๆช้าลง โจมตีมาที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเอง
เขารู้ว่า ไม่ใช่ว่าความเร็วในการโจมตีของหวยเจิ่นนั้นช้าลง แต่ในชั่วขณะนั้น เขาก็รู้สึกถึงบางอย่าง เหมือนกับเวลา? และเหมือนอวกาศ?
ความเร็วของหวยเจิ่นและทุกคนรอบตัวเขา ช้าลงหลายเท่า
“พุด!”
กริชอาถรรพ์อยู่กลางอากาศวาดรูปส่วนโค้งที่สวยงาม และกรีดแขนของหวยเจิ่นโดยตรง
คราบรอยเลือดที่น่าตกใจ ยังคงอยู่บนแขนของหวยเจิ่น
ดวงตาของหวยเจิ่นเต็มไปด้วยความตกใจ และดูเหมือนว่าจะคิดไม่ถึง ตัวเองจะถูกคนอ่อนแอคนหนึ่งที่อยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดเท่านั้น กรีดแขนจนเป็นแผล
“นายหาที่ตาย!”
หวยเจิ่นอายจนโกรธ โมเมนตัมในร่างกายแข็งแกร่งขึ้น และพุ่งไปที่หยางเฉินอีกครั้ง
“คู่ต่อสู้ของคุณคือฉัน!”
ในเวลานี้ เฉาเจิ้งได้พุ่งเข้ามาแล้ว โจมตีเพียงครั้งเดียว
“ตูม!”
หวยเจิ่นไม่ลังเลเลย ชั่วขณะก็ล้มเลิกการโจมตีหยางเฉิน และกระแทกฝ่ามืออกไปครั้งเดียว และกระแทกเข้ากับหมัดของเฉาเจิ้ง
ทันทีที่หมัดและฝ่ามือชนกัน โมเมนตัมอันรุนแรง ก็ปะทุขึ้นโดยตรง
“ตูมตูมตูม!”
พื้นดินเบื้องล่างของทั้งสองคน แตกออกโดยตรง และโมเมนตัมวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกไปทุกทิศทุกทาง
ในเวลานี้ ซ่งอี้ได้พากลุ่มผู้แข็งแกร่งของจวนซ่งปกป้องหยางเฉินให้อยู่ตรงกลาง
“คุณโอเคไหม?”
ซ่งอี้มองหยางเฉินด้วยสีหน้ากังวล
หยางเฉินส่ายหัว ใบหน้าของเขาซีดไปชั่วขณะ เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด มันเป็นการสูญเสียพลังเยอะมาก กุญแจสำคัญคือ เขายังไม่มีพลังที่จะโต้กลับ
เมื่อกี้หากไม่ใช่เพราะเฉาเจิ้งได้ช่วยเขาสกัดกั้นหวยเจิ่นไว้ ตัวเองคงจะตายด้วยน้ำมือของหวยเจิ่นจริงๆ
เขาสัมผัสได้ว่า เมื่อสักครู่หวยเจิ่นต้องการปลิดชีวิตของเขาจริงๆ
การโจมตีของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่ต้องการปลิดชีวิต และเล็งไปที่หัวใจของเขา เขาจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?
นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือก่อนหน้านี้ที่หวยเจิ่นกระแทกหมัดเข้าหาหัวใจของเขา เขารู้สึกว่าฝ่ามือของหวยเจิ่นช้าลงมาก เกิดอะไรขึ้น?
ตอนนี้ เขาไม่มีความรู้สึกอย่างนั้นแล้ว
ความรู้สึกเมื่อสักครู่นั้นมันแปลกมาก ถ้าเขารับรู้ไม่ได้ว่าทุกอย่างมันช้าลง ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถหลีกเลี่ยงฝ่ามือของหวยเจิ่น
“ตูมตูมตูม!”
ในเวลานี้เฉาเจิ้ง กำลังต่อสู้กับหวยเจิ่นอย่างบ้าคลั่ง
เฉาเจิ้งเป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งและหวยเจิ่นไม่ได้ด้อยไปกว่าเฉาเจิ้ง ถึงกับต่อสู้กับเฉาเจิ้งได้สูสีกันมาก
เป็นไปได้ไหมว่า ความแข็งแกร่งของหวยเจิ่น ก็ก้าวไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งแล้ว?
“หยางเฉิน เมื่อสักครู่คุณทำได้อย่างไร? ถึงกลับหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ร้ายแรงของหวยเจิ่นได้!”
ในเวลานี้ซ่งอี้มองหยางเฉินด้วยความประหลาดใจและถาม
หยางเฉินส่ายหัวเล็กน้อย “ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แค่ชั่วขณะนั้นรู้สึกว่าความเร็วของทุกคนช้าลงหลายเท่า และหลังจากที่ฉันเหวี่ยงกริชออกไป ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ”
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นนยอดซึ่งคอยคุ้มกันซ่งอี้หลังจากได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ก็ประหลาดใจ “คุณหมายถึง เมื่อสักครู่ที่หวยเจิ่นกำลังจะฆ่าคุณ คุณรู้สึกว่าทุกสิ่งรอบตัวคุณ ความเร็วนั้นช้าลง? ดังนั้นไม่เพียงแต่หลบหลีกการโจมตีของหวยเจิ่นที่หวังปลิดชีวิตเท่านั้น แต่เขายังใช้กริชกรีดแขนของเขาด้วยเหรอ?”
หยางเฉินพยักหน้า
ผู้แข็งแกร่งของจวนซ่งคนนั้นรู้สึกประหลาดใจ “พระเจ้า! เป็นไปได้อย่างไร? คุณอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดเท่านนั้น ทำไมถึงรับรู้ถึงพลังแห่งกาลเวลาได้?”
ซ่งอี้ก็ตัวสั่น และพูดด้วยความตกใจ “ท่านเย่ คุณหมายถึง พี่หยางสัมผัสได้ถึงพลังแห่งกาลเวลาเหรอ?”
ท่านเย่พยักหน้า มองหยางเฉิงอย่างอิจฉาและพูดว่า “พลังแห่งกาลเวลา ก็เป็นหนึ่งในพลังขององค์ประกอบพลังธาตุต่างๆเช่นกันพลังของกาลเวลาและพลังอวกาศ ก็คือพลังธาตุที่เข้าใจยากที่สุดเช่นกัน”
“ฉันไม่เคยเห็นใคร คนที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด จะสามารถตระหนักและเข้าใจถึงพลังของกาลเวลา ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังเข้าใจถึงพลังของธาตุน้ำด้วย”
“แม้ว่าฉันจะก้าวไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แต่ก็ยังไม่สามารถตระหนักและเข้าใจถึงพลังของธาตุ ตอนนี้ในตัวของรุ่นน้องคนหนึ่ง ได้ตระหนักและเข้าใจถึงพลังของธาตุสองธาตุพร้อมกัน มันสุดยอดจนทำให้คนอื่นทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”