The King of War - บทที่ 1778 ใช้อายุขัยแลก
บทที่ 1778 ใช้อายุขัยแลก
สีหน้าของหยางเฉินเคร่งขรึมมสุดขีด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าองค์กรนักฆ่าสำนักเซิ่งกง ถึงกลับมีคนยอมสละทรัพย์สินของตระกูลกว่าครึ่งเพื่อที่จะมาเอาชีวิตของเขา
ในช่วงเวลานี้ คนที่รู้การเคลื่อนไหวของเขา มีไม่มากนัก ผู้ที่ต้องการชีวิตของเขาจริงๆ มีเพียงผู้มีอำนาจสองที่เท่านั้น หนึ่งคือจวนเมืองหวยเฉิงหรือไม่ก็จวนมู่
ในจวนเมืองหวยเฉิงที่ต้องการฆ่าเขามีเยอะ แต่ในจวนมู่ คนที่อยากฆ่าเขา คิดว่าน่าจะมีเพียงมู่ชงคนเดียว ก่อนหน้านี้ท่าทีที่มู่ชงมีต่อเขา ก็สามารถดูออกได้
ส่วนใครที่จ้างนักฆ่าของสำนักเซิ่งกงมาฆ่าเขา ณ ตอนนี้ ก็ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
“สำนักเซิ่งกงอยู่ที่ไหน?”
หยางเฉินมองซ่งอี้แล้วถาม
ซ่งอี้พูดว่า “ภูเขาห้าธาตุ!”
“ขอบคุณ!”
หลังจากหยางเฉินขอบคุณแล้ว หันหลังเดินจากไป
“คุณชายน้อย หยางเฉินถามว่าสำนักเซิ่งกงอยู่ที่ไหน คงไม่ใช่ว่าจะไปมั้ง?”
ทันทีที่หยางเฉินจากไป ผู้แข็งแกร่งของจวนซ่งที่อยู่ข้างหลังซ่งอี้ พูดขึ้นมาทันที
ซ่งอี้ส่ายหัวและพูดว่า “ด้วยพลังความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ถ้าหากกล้าไปที่สำนักเซิ่งกงจริง ๆ มีทางเดียวคือตายเท่านั้น เว้นแต่ว่า อาจารย์ของเขาจะยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ว่า อาจารย์ของเขาคือผู้แข็งแกร่งแดนนภา ตามกฎของพันธมิตรพิทักษ์ ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทุกอย่างของผู้แข็งแกร่งแดนนภา”
“เอาล่ะ ถึงเวลาที่พวกเราจะไปจวนเมืองหวยเฉิงแล้ว เตรียมตัวให้พร้อม หลังจากสามชั่วโมง จะลงมือโจมตีจวนเมืองหวยเฉิง”
หลังจากที่หยางเฉินออกจากที่นี่ อันดับแรกก็กลับไปที่จวนมู่ก่อน และพบนักดาบเงาเพชฌฆาต
ซ่งอี้ส่ายหัวและพูดว่า “ด้วยพลังความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ถ้าหากกล้าไปที่สำนักเซิ่งกงจริง ๆ มีทางเดียวคือตายเท่านั้น เว้นแต่ว่า อาจารย์ของเขาจะยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ว่า อาจารย์ของเขาคือผู้แข็งแกร่งแดนนภา ตามกฎของพันธมิตรพิทักษ์ ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทุกอย่างของผู้แข็งแกร่งแดนนภา”
หยางเฉินพูดว่า “ท่านเงาเพชฌฆาต ผมจะไปที่เมืองหวยเฉิง เสียวหว่านกับเสี่ยวหลันจะอยู่ที่จวนมู่ชั่วคราวก่อน รบกวนท่านเงาเพชฌฆาตช่วยผมดูแลด้วยนะครับ”
นักดาบเงาเพชฌฆาตตกใจทันที “คุณเตรียมตัวจะช่วยคนของจวนซ่ง เพื่อโจมตีจวนเมืองหวยเฉิงเหรอ?”
หยางเฉินพยักหน้า“ครั้งนี้ จวนมู่สูญเสียครั้งใหญ่ แม้แต่เจ้าเมืองมู่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง ในเวลานี้จำเป็นต้องผูกพันธมิตรกับผู้ที่แข็งแกร่ง หลายวันมานี้ จากที่ผมได้ติดต่อคลุกคลีกับซ่งอี้เจ้าเมืองน้อยของจวนซ่ง บุคคลนี้มนุษยสัมพันธ์ไม่เลว เขาได้สัญญากับผมแล้ว หลังจากจัดการยึดครองจวนเมืองหวยเฉิงแล้ว จะไม่ลงมือจัดการจวนมู่ ตรงกันข้าม เขายังยินยอมที่จะเป็นพันธมิตรกับจวนมู่”
“ด้วยความสัมพันธ์ของจวนซ่ง จวนมู่ก็สามารถใช้โอกาสนี้ในการพักฟื้นสักระยะหนึ่ง พยายามฟื้นฟูให้จวนมู่กลับมามีพลังชีวิตอีกครั้ง หลังจากที่พลังชีวิตของจวนมู่ฟื้นฟูแล้ว ค่อยมาคุยเรื่องเมืองหวยเฉิงอีกที”
นักดาบเงาเพชฌฆาตรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจมาก หยางเฉินจะจากไป และก่อนจากไป เขายังไม่ลืมที่จะช่วยให้จวนมู่มีความมั่นคงปลอดภัย
ทันใดนั้นนักดาบเงาเพชฌฆาตก็ถาม “คุณพูดว่า ต่อไปค่อยคุยเรื่องของเมืองหวยเฉิง หมายความว่าไงเหรอ?”
หยางเฉินพูดว่า “แม้ว่าซ่งอี้จะเป็นเจ้าเมืองน้อยของจวนซ่ง แต่อยู่ในจวนซ่ง ก็มีคนจำนวนมากที่คอยจ้องตำแหน่งของเขา เขาจะยึดครองจวนเมืองหวยเฉิง ก็แค่ต้องการทำให้ตำแหน่งของเขาที่อยู่ในจวนซ่งยิ่งมั่นคงขึ้น”
“เขาสัญญากับผมแล้ว ต่อไป เมื่อตำแหน่งในจวนซ่งของเขามั่นคงแล้ว เขาก็จะสละเมืองหวยเฉิง เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะมอบเมืองหวยเฉิงให้กับจวนมู่”
คำพูดเช่นนี้ออกมา ทันใดนั้นนักดาบเงาเพชฌฆาตก็ดีใจมาก และพูดอย่างตื่นเต้น “หยางเฉิน ขอบคุณมาก!”
หยางเฉินอมยิ้ม และส่ายหัว “ท่านเงาเพชฌฆาตไม่ต้องเกรงใจ ครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะจวนมู่ปกป้องช่วยเหลือ ผมอาจไม่มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ บุญคุณของจวนมู่ ผมจะจดจำไว้และไม่มีวันลืม”
“เอาล่ะ ไม่พูดแล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องเดินทางไปเมืองหวยเฉิงแล้วต้องรีบจัดการเรื่องของเมืองหวยเฉิงให้เรียบร้อย จากนั้นค่อยจากไป”
นักดาบเงาเพชฌฆาตรีบพูดทันที “ผมจะจัดผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งของจวนมู่ ให้เดินทางไปพร้อมคุณ?
หยางเฉินอยากจะปฏิเสธ นักดาบเงาเพชฌฆาตก็พูดอีกว่า “คุณก็บอกแล้ว ต้องการช่วยจวนมู่ของเราสร้างพันธมิตร หากเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ควรจะแสดงท่าทีออกมาบ้าง? มิฉะนั้น เจ้าเมืองน้อยซ่งคงคิดว่า จวนมู่ของเราไม่มีใครแล้วจริงๆ”
จากนั้นหยางเฉินก็พยักหน้า “ดี ทุกอย่างฟังคำสั่งจากผู้อาวุโส!”
นักดาบเงาเพชฌฆาตรู้ดีว่าหยางเฉินรีบจากไป โดยไม่เสียเวลาอีก เขารีบรวบรวมทีมผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า เดินทางไปพร้อมกับหยางเฉิน
เมื่อมองไปยังทิศทางที่หยางเฉินนำผู้คนเดินทางจากไป นักดาบเงาเพชฌฆาตกล่าวด้วยความชื่นชมว่า “ชายคนนี้ อนาคตกว้างไกลไร้ขอบเขต! เจ้าเมืองเก่าพูดถูก จวนมู่สามารถเป็นเพื่อนกับชายคนนี้ ถือเป็นเกียรติของจวนมู่เราจริงๆ”
เสียงของมู่ฟางดังขึ้นข้างๆหูของนักดาบเงาเพชฌฆาต “ลุงเงา หยางเฉินคนนี้ โดดเด่นขนาดนี้จริงๆเหรอ?”
นักดาบเงาเพชฌฆาตพยักหน้าเล็กน้อย และพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ถ้าไม่ใช่เห็นด้วยตาตัวเอง คุณสามารถเดาออกไหม ความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมา อายุเขายังไม่ถึงสามสิบปีไหม?”
มู่ฟางสะดุ้ง สีหน้าตกตะลึง
เนื่องจากความแข็งแกร่งของหยางเฉิน พวกเขาจึงถือว่าหยางเฉินป็นรุ่นเดียวกันมาโดยตลอด จนถึงตอนนี้ เธอถึงตระหนักได้ว่า ที่แท้หยางเฉินอายุยังน้อย แต่พลังความแข็งแกร่งกลับเหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันมาก
“พลังของคุณ……”
ทันใดนั้นนักดาบเงาเพชฌฆาตคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา หันมามองกะทันหัน และมองมู่ฟางด้วยสีหน้าตื่นเต้น
มู่ฟางอมยิ้ม พยักหน้า และออร่าวิถีบู๊ในร่างกายก็แผ่กระจายออกมา
บูม!
ออร่าวิถีบู๊ที่น่าอัศจรรย์ แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของมู่ฟาง
ดวงตาของนักดาบเงาเพชฌฆาตเบิกกว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะหัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดัง “สวรรค์คุ้มครองจวนมู่! สวรรค์คุ้มครองจวนมู่แล้ว!”
“คิดไม่ถึงว่า แดนวิถีบู๊ของคุณ ถึงกลับก้าวสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว ที่แท้ในจวนมู่ คุณต่างหากที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง!”
ดวงตาของมู่ฟางเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ และพูดว่า “เป็นเพราะหมอเทวดาเสียวหว่านให้ยาเม็ดหนึ่ง และยังใช้วิชาฝังเข็มช่วยให้ฉันฝ่าทะลวงไปเรื่อยๆจนก้าวเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด”
ก่อนหน้านี้ พลังของมู่ฟางเพียงแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเฝิงเสียวหว่าน เธอสามารถฝ่าทะลวงไปได้สองแดนติดต่อกัน
นักดาบเงาเพชฌฆาตมองไปที่มู่ฟางด้วยความชื่นชมและพูดว่า “แม้ว่าคุณจะได้รับความช่วยเหลือจากหมอเทวดาเสียวหว่าน แต่ถ้ารากฐานวิถีบู๊ของคุณไม่ดี แม้ว่าทักษะทางการแพทย์ของหมอเทวดาเสียวหว่านจะแข็งแกร่งเพียงใด ในเวลาอันสั้นก็ไม่สามารถบังคับความแข็งแกร่งของคุณให้ผ่านสองแดนได้”
มู่ฟางกำหมัดแน่นและพูดอย่างจริงจังว่า “ลุงเงา ต่อจากนี้ พวกเรามาร่วมมือกัน นำพาจวนมู่กลับมาสู่จุดที่สูงสุดเหมือนเดิม!”
นักดาบเงาเพชฌฆาตพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ดี!”
ในเวลานี้ ที่จวนมู่ ในลานเล็กๆที่หยางเฉินและเฝิงเสียวหว่านอาศัยอยู่
เฝิงเสียวหว่านสีหน้าเต็มด้วยความโศกเศร้า พูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ป้ามู่ทุ่มเทแรงใจให้กับจวนมู่จริงๆ เพื่อที่จะมีส่วนได้ช่วยสนับสนุนจวนมู่มากขึ้น ถึงกับยอมลดอายุขัยลงยี่สิบปี เพื่อแลกกับการฝ่าทะลวงเข้าสู่แดนวิถีบู๊”
หวยหลันก็มีสีหน้าโศกเศร้าเช่นกัน โอบไหล่เฝิงเสียวหว่านและพูดว่า “เสียวหว่าน เธอก็อย่าคิดมากเลย สำหรับป้ามู่ ขอเพียงสามารถช่วยเหลือจวนมู่ มันสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของเธอ”
“อีกอย่าง ป้ามู่เป็นคนขอร้องให้คุณช่วยเสริมพลังให้เธอเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณก็บอกแล้วนี่? ถ้าภายในสิบปีนี้ พลังของป้ามู่สามารถฝ่าทะลวงสู่แดนนภา เดิมทีผลกระทบที่จะลดอายุขัยของป้ามู่ยี่สิบปี ก็จะเป็นโมฆะไม่ใช่เหรอ?”
เฝินเสียวหว่านแสดงสีหน้าขมขื่น “ตอนนี้เขามีพลังความแข็งแกร่งเพียงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย ภายในสิบปี จะฝ่าทะลวงสู่แดนนภา คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ?”
แม้แต่นักดาบเงาเพชฌฆาตก็ไม่รู้ พลังของมู่ฟางที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ด้านบูโดของมู่ฟาง แต่เพราะมู่ฟางขอร้องให้เฝิงเสียวหว่านช่วยเหลือ และใช้อายุขัยยี่สิบปี เพื่อแลกกับการฝ่าทะลวงสองแดน
อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินได้ออกจากจวนมู่แล้ว ได้พาทีมผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ไปยังทิศทางจวนเมืองหวยเฉิง