The King of War - บทที่ 1580 หม่าชาวคลุ้มคลั่ง
“ใครกัน?”
การปรากฏตัวของชายชุดดำ ทำให้ทุกคนต่างทำหน้าตกใจ
แม้แต่กษัตริย์เฝิงแววตาก็ยังเคร่งขรึมขึ้นมา เพราะจากในตัวของอีกฝ่าย เขากลับสัมผัสถึงรังสีวิถีบู๊ใดๆ ไม่ได้เลย
ราวกับอีกฝ่ายเป็นแค่คนธรรมดา ตัวเขาก็เป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดแล้ว แต่ชายชุดดำที่ปรากฏตัวออกมานี้ แม้แต่เขาก็ยังมองไม่ออก มันจึงพอที่จะยืนยันได้แล้วว่า ฝีมือของอีกฝ่าย อยู่เหนือกว่าเขาแน่นอน
หรือว่า อีกฝ่ายจะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าอย่างนั้นเหรอ?
พอคิดได้อย่างนั้น แววตาที่ตกใจของกษัตริย์เฝิงก็เด่นชัดขึ้น
“คุณเป็นใครกัน? มาที่ราชวงศ์เฝิงของผม มีธุระอะไร?”
กษัตริย์เฝิงจ้องเขม็งไปยังชายชุดดำ แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
แล้วผู้แข็งแกร่งชุดดำก็ได้หันมองไปที่กษัตริย์เฝิง เผยให้เห็นหน้ากากโลหะที่สวมใส่สายตาอันเย็นเยือก ทำให้กษัตริย์เฝิงรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่มหาศาล
ผู้แข็งแกร่งชุดดำตอบด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ฉันเป็นใคร แกยังไม่มีสิทธิ์รู้ แกแค่รู้ไว้ว่า การที่ฉันมาในวันนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับราชวงศ์เฝิง”
พอได้ยินอย่างนั้น กษัตริย์เฝิงก็ถึงกับขมวดคิ้ว
ผู้แข็งแกร่งลึกลับที่แม้แต่เขายังมองไม่ออก ปรากฏตัวออกมายังไงเขาก็ยังไม่รู้ ตอนนี้กลับบอกว่า เขาไม่มีสิทธิ์รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
หลังจากที่ผู้แข็งแกร่งชุดดำพูดจบ เขาก็หันมองไปยังคนทั้งสามที่กำลังต่อสู้กันอยู่
ในตอนนี้ หม่าชาวเหมือนคนบ้า พละกำลังเหลือล้น เหมือนทุกการโจมตีจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขา ราวกับว่าเขาไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยเลย
หลังจากที่หยางเฉินปลุกสายเลือดคลั่งขึ้นมาแล้ว ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้น จนแทบจะเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดแล้ว ภายใต้การร่วมมือของหม่าชาว เห็นได้ชัดว่ายิ่งแข็งแกร่งขึ้น
จากการร่วมมือกันขงทั้งคู่ ไป๋หลี่เยี่ยนก็ถูกกดดันให้ล่าถอย เดิมทีเขาก็เจ็บหนักจากการระเบิดตัวเองของเฝิงจื้อหย่วนอยู่แล้ว ตอนนี้ยังถูกหยางเฉินกับหม่าชาวร่วมมือกันโจมตีอย่างรุนแรง ร่างกายที่เจ็บหนักอยู่แล้ว ก็เจ็บหนักยิ่งขึ้นไปอีก
“ตุบ!”
หยางเฉินกับหม่าชาวโจมตีต่อเนื่องอีกครั้ง ร่างกายของไป๋หลี่เยี่ยนถูกโจมตีจนล่าถอยไปสามสี่ก้าว กระอักเลือดออกมา ออร่าบนร่างกายลดฮวบไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋หลี่เยี่ยนทำหน้าดุร้าย เขาที่เป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดจากตระกูลบู๊โบราณ อยู่ในราชวงศ์ไป๋หลี่ก็เป็นตัวตนที่อยู่ชั้นแนวหน้า จะเคยไปถูกเหยียดหยามแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ในตอนนี้ กลับถูกเด็กหนุ่มสองคนที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ ร่วมมือกันกดดัน
ถ้าสองคนนี้ยังร่วมมือกันโจมตีต่อไป ตัวเขาอาจจะถูกฆ่าจริงๆ ก็ได้
“ฆ่าฆ่าฆ่า!”
แรงอาฆาตในตัวหม่าชาวรุนแรงขึ้น และกระโจนเข้าใส่ ไป๋หลี่เยี่ยนอีกครั้ง
“หม่าชาว!”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็รับรู้ถึงความผิดปกติ จึงรีบตะโกนออกไป
แต่ว่า หม่าชาวราวกับไม่ได้ยินเสียงของเขา พุ่งเข้าหาไป๋หลี่เยี่ยน แล้วโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
สิ่งที่ทำให้หยางเฉินตกใจคือ หม่าชาวเพิ่งบรรลุถึงแดนเหนือมนุษย์ แต่หลังจากที่ลูกแก้วดูดเลือดเข้าไปในร่าง เขาก็แข็งแกร่งขึ้นมาจนถึงระดับนี้
ประเด็นคือ หลังจากที่ทั้งคู่ร่วมมือกันมานานขนาดนี้ หม่าชาวไม่ได้ดูอ่อนแรงลงเลย แต่กลับแข็งแกร่งขึ้น ราวกับในตัวมีพละกำลังที่ใช้ไม่หมด
ในตอนนี้ ความสามารถของหม่าชาว เข้าใกล้แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดอย่างมาก
“รนหาที่ตาย!”
ไป๋หลี่เยี่ยนเห็นหม่าชาวที่พุ่งเข้ามาหาตนด้วยตัวคนเดียว แรงอาฆาตในแววตาก็เด่นชัดขึ้น และซัดฝ่ามือออกไปทันที
“ตุบ!”
ฝ่ามือของทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน ทันใดนั้น รังสีอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกจากร่างของทั้งสอง แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ
“ตุบตุบตุบ!”
พื้นดินใต้เท้าของทั้งสองแตกร้าว เศษหินกระเด็นไปทั่วสารทิศ
แล้วร่างกายของหม่าชาวกับไป๋หลี่เยี่ยนก็ได้กระเด็นไปด้านหลัง หม่าชาวถอยไปเจ็ดแปดก้าว ส่วนไป๋หลี่เยี่ยนก็ถอยไปสามสี่ก้าวเหมือนกัน
หม่าชาวตัวคนเดียวก็สามารถกดดันไป๋หลี่เยี่ยนถึงขนาดนี้แล้ว มันช่างน่ากลัวจริงๆ
ถ้ายังสามารถโจมตีต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยแบบนี้ คาดว่าคงอีกไม่นาน เขาก็อาจจะแข็งแกร่งจนเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดจริงๆ ก็ได้
ในทางกลับกัน ไป๋หลี่เยี่ยนที่บาดเจ็บมากขึ้น บวกกับพละกำลังที่ลดลงอย่างมาก เขาจึงอ่อนแอลงเรื่อยๆ
พอถึงตอนนั้น ไป๋หลี่เยี่ยนอาจจะถูกหม่าชาวฆ่าจริงๆ ก็ได้
“หม่าชาว!”
หยางเฉินขยับเท้า อาศัยจังหวะที่หม่าชาวถูกโจมตีจนล่าถอย เข้ามาถึงตัวหม่าชาว แล้วถามด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “นี่นายเป็นอะไรไป?”
เขารู้สึกว่า หม่าชาวในตอนนี้ดูผิดปกติมาก เหมือนกับสัตว์ป่าที่กำลังคลุ้มคลั่ง
ดวงตาที่สองของหม่าชาวแดงฉาน ผิวหนังที่อยู่ด้านนอกปรากฏอักขระเลือดออกมาเต็มไปหมด เห็นแล้วน่ากลัวเหลือเกิน
ดวงตาแดงฉานของเขาจับจ้องมาที่หยางเฉิน ทำให้หยางเฉินรู้สึกเหมือนคนตรงหน้าเป็นคนแปลกหน้า
ตามคาด หม่าชาวได้สูญเสียการควบคุมไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
“ตุบ!”
ในวินาทีที่หน้าสิ่วหน้าขวาน หม่าชาวได้ซัดฝ่ามือออกมาอย่างกะทันหันเข้าไปที่หน้าอกของหยางเฉิน
หยางเฉินไม่ได้ระวังตัวแม้แต่น้อย และไม่เคยคิดว่าหม่าชาวจะลงมทอกับตน จนเจ็บหนักในการโจมตีเดียว
ท่ามกลางความตื่นตกใจของทุกคน ร่างของหยางเฉินได้กระเด็นออกไป
“ตุบ!”
ร่างกายของหยางเฉินกระเด็นออกไปสิบกว่าเมตร กระแทกลงพ้นอย่างแรง เขาได้กระอักเลือดออกมา สีหนาซีดเซียวอย่างถึงที่สุด
“หม่าชาว!”
หยางเฉินตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบาก มองไปยังหม่าชาวที่ทำหน้าอาฆาต สภาพจิตใจของเขาก็ย่ำแย่ลงไปทันที
ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า หม่าชาวได้คลุ้มคลั่งไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
ก่อนหน้านี้ หม่าชาวยังดีๆ อยู่เลย ต่อให้จะโมโห ก็แค่ปลุกสายเลือดบรรพชนไป๋หลี่ขึ้นมาแล้วระเบิดพลังที่เหนือกว่าตัวเองออกมาเท่านั้น
ไม่เคยมีทีท่าว่าจะคลุ้งคลั่งมาก่อนเลย แต่ว่าตอนนี้ ดวงตาทั้งสองข้างแดงฉาน แม้แต่หยางเฉินยังจำไม่ได้ จึงเป็นไปได้แค่อย่างเดียวว่าเขาคลุ้มคลั่งแล้ว
ในเมื่อสายเลือดบรรพชนไป๋หลี่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เขาคลุ้มคลั่ง ถ้าอย่างนั้นก็มีแต่ลูกแก้วลึกลับที่หยางเฉินได้มาจากห้องลับในวิลล่ากลางเขาเท่านั้น หลังจากที่มันบินเข้าไปในตัวของหม่าชาว ก็ทำให้เขาเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา
ในตอนนี้ รังสีวิถีบู๊อันชั่วรายที่น่าสะพรึงกลัว ได้แผ่ซ่านออกมาจากตัวของหม่าชาว
ต่อให้เป็นหยางเฉิน ก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นรังสีที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนกัน
กษัตริย์เฝิงตกใจจนช็อก สองตาจับจ้องไปที่หม่าชาวแล้วพูดว่า “นี่มัน เกิดอะไรขึ้นในตัวเขา?”
ในตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งชุดดำที่สังเกตการณ์มาโดยตลอดก็ได้พูดขึ้นว่า “เดิมทีสายเลือดบรรพชนไป๋หลี่ก็เป็นสายเลือดที่พบได้ยากในรอบร้อยปีของราชวงศ์ไป๋หลี่อยู่แล้ว ในตำนานเล่าขานกันว่า ลูกแก้วดูดเลือดสามารถกลืนกินสติได้ แต่ผู้แข็งแกร่งที่ได้รับลูกแก้วดูดเลือดไปไว้ในครอบครอง จะแข็งแกร่งขึ้นมาก ด้วยเหตุนี้ ลูกแก้วดูดเลือดจึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่ผู้แข็งแกร่งในโลกนี้ต่างต้องแย่งชิงกัน”
“สุดท้าย บรรพบุรุษของราชวงศ์ไป๋หลี่ก็ได้ลูกแก้วดูดเลือดไป แล้วเอาลูกแก้วดูดเลือดใส่เข้าไปในร่างกาย บวกกับการสนับสนุนจากสายเลือดบรรพชนไป๋หลี่ของเขา ทำให้ความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล”
“เพียงแต่ แม้แต่บรรพบุรุษของสายเลือดบรรพชนไป๋หลี่ก็ยังคาดไม่ถึงว่า ตัวเองจะไม่สามารถควบคุมลูกแก้วดูดเลือดได้ สุดท้าย ลูกแก้วดูดเลือดก็กลืนกินสติสัมปชัญญะของเขาจนหมด หลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดในร่างคน กลายเป็นคนบ้าโดยสมบูรณ์ และได้หายสาบสูญไปในที่สุด”
“ด้วยเหตุนี้ ลูกแก้วดูดเลือดก็สาบสูญไปจากโลกนี้เหมือนกัน ส่วนเรื่องที่ว่าลูกแก้วดูดเลือดไปอยู่ที่ไหน ก็ไม่มีคนรู้อีกเลย จนในวันนี้ ลูกแก้วดูดเลือดก็ปรากฏออกมาต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง”
พอได้ฟังในสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งชุดดำพูด หยางเฉินก็ถึงกับสะดุ้ง แล้วถามไปว่า “คุณหมายความว่า น้องชายของผมได้ถูกลูกแก้วดูดเลือดกลืนกินสติไปแล้ว เขาเลยคลุ้มคลั่งแบบนี้ใช่มั้ย?”