The King of War - บทที่ 1557 ถูกคนลักพาตัว
เงียบไปสักพัก หยางเฉินก็บ่นพึมพำกับตัวเอง “หรือว่าในตอนนั้นจะมีความลับอยู่เบื้องหลังเรื่องที่เกิดขึ้น?”
ตอนนี้เขาเริ่มจะรู้สึกสับสนแล้ว ไม่รู้ว่าควรจะเชื่อคำพูดของเฝิงจื้อเอ้าหรือไม่
คำเตือนก่อนที่เฝิงจื้อเอ้าจะจากไปคงไม่ได้พูดออกมามั่ว ๆ แน่
หากราชวงศ์ทั้งสี่ยังมีผู้พิทักษ์แห่งแดนเหนือมนุษย์ทั้งเจ็ดอยู่ล่ะก็ คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะแข็งแกร่งกว่ายิ่งกว่าราชวงศ์โบราณเสียอีก
หลังจากที่เขาเพิ่งถึงสนามบินระหว่างประเทศประจำเมืองเฝิงหวง เฝิงจื้อเอ้าก็มาหาเขาทันที เกรงว่าเขาจะอยู่ภายใต้การดูแลของราชวงศ์เฝิงแล้ว
ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็คงจะหนีออกจากรางศ์เฝิงได้
ในเวลาเดียวกัน ณ แห่งความลับราชวงศ์เฝิง
สีหน้าหงุดหงิดบนใบหน้าของหม่าชาวค่อย ๆ หายไป ตอนนี้เขานั่งสมาธิอย่างสงบอยู่บนพื้นราวกับพระสงฆ์
จู่ ๆ เขาก็ตะโกนขึ้น “ข้าต้องการพบเฝิงจื้อหย่วน !”
ไม่นานเฝิงจื้อหย่วนก็เขามาถึงห้องลับ มองไปที่หม่าชาวและพูดขึ้น “คิดได้หรือยัง ?”
หม่าชาวขบฟันตอบ “ข้ายอมรับสถานะของหลานชายคนโต และจะอยู่กับลูกข้าที่ราชวงศ์เฝิงแห่งนี้ แต่ข้าต้องบอกไว้ก่อนว่าถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเมียข้าแล้วล่ะก็ ข้ากับลูกชายข้าจะไปจากที่นี่ทันที”
จากคำพูดของหม่าชาว เขาแทบจะไม่สงสัยอะไรเลยด้วยซ้ำ พลางตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “ได้ ข้าตกลง !”
ทันใดนั้นข่าวที่น่าตกใจถูกแพร่สะพัดไปทั่วเมืองเฝิงหวง
ตอนนี้ทายาทรุ่นที่สามแห่งราชวงศ์เฝิงที่หายสาบสูญไปเมื่อ 26 ปีก่อน ได้กลับมาแล้ว !
หลังจากที่เฝิงจื้อเอ้าทราบเรื่องเข้า สีหน้าของเขาก็มืดลงทันที เขากัดฟันและพูดว่า “ไอ้เจ้าบ้าเฝิงจื้อหย่วนมันใช้วิธีไหนกัน ?”
ชายชราข้าง ๆ เฝิงจื้อเอ้าพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “พระโอรส การที่เฝิงจื้อหย่วนปล่อยข่าวนี้ออกมาก็เพื่อท้าทายท่าน !”
“ฝ่าบาททรงป่วยหนัก คาดว่าคงเหลือเวลาออกไม่นาน การที่เขาปล่อยข่าวรัชทายาทออกมาในช่วงเวลาแบบนี้ คงเป็นการประกาศการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับท่าน”
“และหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้อีก เกรงว่าบัลลังก์ของท่านจะต้องถูกเฝิงจื้อหย่วนชิงไปเป็นแน่ !”
ชายชราคนนี้คือผู้ใต้บังคับบัญชาที่เฝิงจื้อเอ้าไว้ใจ เมื่อได้ฟังดังนี้ใบหน้าของเฝิงจื้อเอ้าก็บูดเบี้ยว เขาขบฟันแน่น “ทีแรกข้าตั้งใจจะให้เวลาหยางเฉินสักสามวัน แต่ดูท่าจะสายเกินไปแล้ว”
อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินเองก็รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
เขาขมวดคิ้วพลางพูดกับตัวเองว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ทำไมจู่ ๆ หม่าชาวถึงยอมรับสถานะของตัวเองได้ ?”
เขารู้จักหม่าชาวดี หากเป็นเรื่องที่หม่าชาวไม่ต้องการทำล่ะก็ ต่อให้ตายเขาก็ไม่ทำเด็ดขาด
หม่าชาวไม่มีทางทิ้งอ้ายหลินเพราะพลังของราชวงศ์เฝิงแน่ แต่ราชวงศ์เฝิงกลับออกข่าวการพบตัวหม่าชาว เรื่องนี้มันต้องมีบางอย่างผิดปกติ
ขณะนั้นเอง เฝิงจื้อเอ้าก็โทรศัพท์เข้ามา พูดว่า “ข้าต้องการพบท่านเดี๋ยวนี้ สถานที่เดิม !”
หยางเฉินตอบ “เข้าใจแล้ว !”
เขากำลังอยากเจอกับเฝิงจื้อเอ้าพอดี ไม่คิดเลยว่าเฝิงจื้อเอ้าก็กำลังตามหาเขาอยู่ด้วย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองคนนัดพบกันที่ร้านน้ำชา สถานที่เก่าที่เคยพบกันบนชั้นบนสุดในห้องที่เห็นวิวได้สวยที่สุด
เฝิงจื้อเอ้าเริ่มพูดขึ้น “เฝิงจื้อหย่วนปล่อยข่าวการพบตัวหม่าชาวออกมา ท่านคงรู้เรื่องแล้วใช่ไหม ?”
หยางเฉินพยักหน้า “ข้ารู้ดีว่าหยางเฉินไม่มีทางปล่อยคนรักของตนเองไปเพียงเพื่อพลังอำนาจแน่ ๆ เรื่องนี้มีปัญหาอยู่ การที่หม่าชาวยอมรับสถานะของตนเองแบบนี้ เป็นไปได้ว่าอาจถูกบังคับ”
เฝิงจื้เอ้าพูด “ที่ข้ารู้คือ เฝิงจื้อหย่วน ใช้ลูกชายกับภรรยาของเขามาข่มขู่ เพื่อที่จะปกป้องทั้งสอง เขาถึงตอบตกลงไป”
หยางเฉินพูดด้วยความโกรธ “ไอ้บ้านั่น มันสมควรตาย !”
หม่าชาวยืนกรานหนักแน่นอยู่ครึ่งปี คงมีเพียงอ้ายหลินกับเสี่ยงจิ้งอันเท่านั้นที่ฝืนใจเขาได้
เฝิงจื้อเอ้า พูดขึ้น “วันนี้เราคงต้องร่วมมือกัน ถึงสามารถช่วยเหลือหม่าชาวและลูกของเขาได้”
หยางเฉินพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ข้าตอบรับความร่วมมือกับเจ้า แต่ท่านต้องรับปากว่าจะนำลูกชายของหม่าชาวและเฝิงเสียวหว่านออกมาอย่างปลอดภัย เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าอำนาจของเหล่าราชวงศ์ พวกเขาแทบจะไม่มีทางต่อกรได้เลย”
เฝิงจื้อเอ้าขมวดคิ้ว เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ข้าทำได้แค่บอกว่าข้าจะพยายาม การที่เฝิงจื้อหย่วนกล้าประกาศข่าวการพบตัวหม่าชาวออกมา แสดงว่าเขาต้องเตรียมตัวรับมือพวกเราอยู่แล้วแน่ ไม่แน่ว่าตอนนี้ทั้งลูกชายของหม่าชาวและเฝิงเสียวหว่านอาจจะถูกพาตัวไปซ่อนที่อื่นแล้วก็ได้”
หยางเฉินพูดด้วยความเยือกเย็น “ไม่ใช่แค่พยายาม แต่ต้องทำให้ได้ เพียงแค่พวกเขาปลอดภัยออกมา ข้าถึงจะต่อสู้ได้อย่างเต็มที่”
เฝิงจื้อเอ้าพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว !”
พูดจบ เฝิงจื้อเอ้าก็โทรศัพท์สั่งการ “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นำตัวเฝิงเสียวหว่านกับลูกชายของหม่าชาวออกมาจากราชวงศ์อย่างปลอดภัยให้ได้ ถ้าหากพวกเขาได้รับอันตรายแม้แต่ผมเส้นเดียว พวกเจ้าซวยแน่ !”
ในขณะที่เฝิงจื้อเอ้าออกคำสั่ง หยางเฉินก็โทรหาคน ๆ หนึ่ง “พี่อ้าย ข้าได้นำคนไปช่วยท่านแล้ว ท่านออกมากับพวกเขาได้เลย หลังจากที่ข้าช่วยเหลือหม่าชาวและเสี่ยวจิ้งอันได้แล้ว ข้าจะตามไป”
อ้ายหลินพูดด้วยความกังวล “หยางเฉิน เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม ?”
หยางเฉินตอบ “อย่ากังวลไป ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ข้าสัญญาว่าจะช่วยหม่าชาวและเสี่ยวจิ้งอันออกมาอย่างปลอดภัยให้ได้”
อ้ายหลินพูดด้วยความยากลำบาก “พี่เฉิน ขอบคุณท่านมาก !”
ในตอนนี้ คนสำคัญทั้งหมดของหยางเฉินก็เกือบจะได้รับความช่วยเหลือไปไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว แบบนี้เขาเองก็จะสามารถลงมือได้อย่างเต็มที่เช่นกัน
จู่ ๆ ก็มีข่าวใหญ่ประกาศมาจากราชวงศ์เฝิง “ในวันพรุ่งนี้เก้าโมงเช้า จะมีพิธีสืบทอดราชสมบัติให้แก่รัชทายาทรุ่นที่สามแห่งราชวงศ์เฝิง !”
หลังจากทราบข่าว ทุกคนก็ร้อนรนขึ้นมา
หยางเฉินขมวดคิ้ว ไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ หากราชวงศ์เฝิงทำพิธีสืบทอดราชบัลลังก์ให้ แซ่ของเขาก็ต้องถูกเปลี่ยนเป็นแซ่เฝิง
เฝิงจื้อเอ้ารับรู้ว่าวิกฤติค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว มีเพียงแค่ราชวงศ์เฝิงเท่านั้น ถึงจะออกคำสั่งทำพิธีสืบทอดราชบัลลังก์ได้
“องค์ชายใหญ่ เกรงว่าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันพรุ่งนี้จะเกิดเรื่องมุ่งมาที่ท่าน” ชายชราข้างกายของเฝิงจื้อเอ้าพูดอย่างเคร่งขรึม
เฝิงจื้อเอ้าขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไร ?”
ชายชราพูดด้วยเสียงหม่น “เมื่อ 26 ปีก่อน เฝิงจื้อหย่วนต้องการนั่งบัลลังก์ของรัชทายาท แต่ในตอนนี้เขากลับนำหม่าชาวกลับมา ข้าไม่เชื่อว่าเฝิงจื้อหย่วนจะยอมให้หม่าชาวสืบทอดตำแหน่งของรัชทายาทรุ่นที่สามได้ง่ายขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าเขากำลังคิดแผนร้ายต่อท่านอยู่”
ได้ยินสิ่งที่ชายชราพูด เฝิงจื้อเอ้าก็คิดได้ว่า งานถวายสัตย์ในวันพรุ่งนี้อาจจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
เขาเงยหน้ามองไปยังหยางเฉินและพูดว่า “ครั้งนี้ข้าคงต้องขอร้องเจ้าแล้ว !”
หยางเฉินไม่สนใจการแย่งชิงอำนาจของเฝิงจื้อหย่วนและเฝิงจื้อเอ้า เขาเพียงแค่ต้องการออกไปจากราชวงศ์เฝิงอย่างปลอดภัย
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น น้ำเสียงกระวนกระวายของเฉียวเปียวพูดขึ้น “พี่เฉิน คุณอ้ายถูกคนลักพาตัวไปแล้ว !”
“อะไรนะ!!”
หยางเฉินลุกขึ้นไปทันที พูดด้วยความโกรธว่า “ข้าบอกให้พวกเจ้าไปนำมานางมาแล้วไม่ใช่รึ ในเมืองเยี่ยนตูจะมีใครลักพาตัวนางไปจากมือของพวกเจ้าได้ ?”