The King of War - บทที่ 1552 ชีวิตนี้ฉันจะไม่แต่งงาน
ในขณะนี้ พลังวิถีบู๊ของแดนเทพชั้นยอดได้กระจายออกจากร่างกายของซ่านกวนโหรว พริบตาเดียว ปกคลุมทั่วทั้งพระราชวังซ่านกวนทันที
ทุกคนต่างตะลึงตกใจ ซ่านกวนจื่อจื้อและซ่านกวนจื่อโม่ยิ่งประหลาดใจ ก่อนหน้านี้กษัตริย์ซ่านกวนเคยกล่าวไว้ว่า หากความแข็งแกร่งของซ่านกวนโหรว สามารถไปถึงแดนเทพชั้นยอด ก็จะให้เธอสืบทอดราชบัลลังก์
ตอนนี้ กษัตริย์ซ่านกวนตายแล้ว และ ซ่านกวนโหรว ยังได้แสดงให้เห็นถึงพลังแข็งแกร่งของแดนเทพชั้นยอด เมื่อมองดูทั้งราชวงศ์ซ่านกวน จะมีใครอีกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะสืบทอดราชบัลลังก์?
“ซ่านกวนจื่อโม่ ขอแสดงความยินดีกับราชีนีแห่งซานกวนได้ก้าวสู่วิถีบู๊แดนเทพชั้นยอด!”
ซ่านกวนจื่อโม่รู้ตัวว่าอำนาจได้จบลงแล้ว เดิมทีเขายังไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เพียงเพราะกลัวหยางเฉิน ก็เลยรีบทำดีต่อซ่านกวนโหรว
แต่ตอนนี้ ในเมื่อเขารู้แล้วว่า พลังวิถีบู๊ของซ่านกวนโหรวได้เข้าสู่แดนเทพชั้นยอด แน่นอนเขาไม่มีความคิดอื่นใดอีก เมื่อเขามองไปที่ซ่านกวนโหรวอีกครั้ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ
ในราชวงศ์ซ่างกวน ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดด้วยความแข็งแกร่ง ในเมื่อเขาเป็นผู้อาวุโสของซ่างกวนโหรว แต่ความแข็งแกร่งของซ่างกวนโหรวนั้นเหนือกว่าเขามาก เขาทำได้เพียงเชื่อฟัง
“ขอแสดงความยินดีกับราชีนีแห่งซานกวน พลังวิถีบู๊ก้าวสู่แดนเทพชั้นยอดแล้ว!”
“ขอแสดงความยินดีกับราชีนีแห่งซานกวน พลังวิถีบู๊ก้าวสู่แดนเทพชั้นยอดแล้ว!”
……
ทันใดนั้น สมาชิกราชวงศ์ทั้งหมด ต่างก็คุกเข่าลงบนพื้น และเสียงแสดงความยินดีกับราชีนีแห่งซานกวนก็ดังขึ้นติดต่อกัน
เสียงนี้ มีวังราชวงศ์ซ่านกวนเป็นจุดศูนย์กลาง กระจายไปยังทุกทิศทาง หลังจากผ่านลมหายใจอันสั้น ทั้งเมืองราชวงศ์ซ่านกวน ก็รู้ว่าซ่านกวนโหรวพลังวิถีบู๊ได้ก้าวสู่แดนเทพชั้นยอดแล้ว
ดวงตาของซ่านกวนจื่อจื้อเต็มไปด้วยความดุร้าย ยืนอยู่ตรงข้ามซ่างกวนโหรว กัดฟันและพูดว่า “แม้ว่าพลังวิถีบู๊ถึงแดนเทพชั้นยอด แล้วยังไงล่ะ ก่อนที่เสด็จพ่อจะเสียชีวิต เขาได้แต่งตั้งฉันไว้แล้ว เป็นทายาทผู้สืบทอดของราชวงศ์”
“ซ่านกวนจื่อจื้อ มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังดื้อดึงไม่ยอมรับผิดอีกเหรอ?จริงอยู่กษัตริย์ซ่างกวนเคยกล่าวว่าเขาจะให้คุณเป็นทายาทของราชวงศ์ แต่ในราชวงศ์ คุณก็ต้องทำตามกฎ ก่อนที่พิธีการแต่งตั้งจะจัดขึ้น คุณก็ยังไม่ใช่ทายาทผู้สืบทอดของราชวงศ์”
ซ่านกวนจื่อโม่มองไปที่ซ่านกวนจื่อจื้อ และพูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ โหรวเอ๋อร์ก้าวเข้าสู่แดนเทพชั้นยอด และยังเป็นสายเลือดของราชวงศ์ มีเพียงเธอเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติที่จะนำราชวงศ์ซ่านกวนไปสู่อนาคตที่รุ่งโรจน์สดใสยิ่งขึ้น”
“คุณมีเพียงแดนเทพชั้นกลางเท่านั้น คุณจะเทียบกับโหรวเอ๋อร์ได้อย่างไร? ซ่านกวนจื่อจื้อยอมรับชะตากรรมเถอะ!”
ซ่านกวนจื่อฉินเวลานี้ก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน มองไปที่ซ่านกวนจื่อจื้อ แล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ราชวงศ์เพิ่งประสบภัยพิบัติ ถูกหลี่จ้งโจมตีได้สังหารผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ไปหลายคน และตอนนี้เสด็จพ่อก็ได้ถึงแก่กรรมแล้ว พวกเราสามพี่น้อง เราควรร่วมมือกัน เพื่อช่วยโหรวเอ๋อร์ทำให้ราชวงศ์ซ่างกวนแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
“องค์ชายใหญ่ ยอมรับชะตากรรมเถอะ!”
“องค์ชายใหญ่ ราชวงศ์ได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่มาแล้ว ตอนนี้ไม่สามารถสูญเสียอะไรได้อีกแล้ว ขอเพียงคุณเต็มใจช่วยเหลือราชีนีแห่งซานกวน เธอไม่ถือโทษโกรธคุณอย่างแน่นอน”
“องค์ชายใหญ่ ได้โปรดล้มเลิกการแย่งชิงราชบัลลังก์เถอะ และช่วยเหลือราชีนีแห่งซานกวน!”
ชั่วขณะหนึ่งทุกคนในราชวงศ์ต่างก็เปิดปากอ้อนวอน
ซ่านกวนโหรวไม่ได้พูด สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่ซ่านกวนจื่อจื้อเสมอ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อน ไม่ว่ายังไงซ่านกวนจื่อจื้อก็เป็นลุงของเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเกิดมาเหนือคน ราชบัลลังก์ คงจะตกไปอยู่ในมือของซ่านกวนจื่อจื้อ
ซ่างกวนโหรวไม่ได้เต็มใจอยากเป็นราชีนีแห่งซานกวน แต่ราชวงศ์ได้รับการสูญเสียมากเกินไป เธอจำเป็นต้องเป็นผู้นำราชวงศ์และทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อฟื้นฟูพลัง
แดนวิถีบู๊ของซ่านกวนจื่อจื้อนั้น ในเมื่ออยู่แค่แดนเทพชั้นกลาง และความสามารถของเขาก็อยู่ในระดับปานกลาง ถ้าหากให้ซ่านกวนจื่อจื้อ สืบทอดราชบัลลังก์จริงๆ
ราชวงศ์ซ่างกวนมีแต่จะอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
เพื่อประโยชน์ของราชวงศ์ซ่านกวน ซ่านกวนโหรวจำเป็นต้องแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมา
เมื่อเห็นสีหน้าของซ่างกวนโหรวที่สงบ หยางเฉินพยักหน้าอย่างลับๆ พอใจมาก ผู้หญิงคนนี้ ในที่สุดก็สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ตอนนี้แม้จะไม่มีความช่วยเหลือจากเขา ซ่างกวนโหรวก็สามารถสืบทอดราชบัลลังก์ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
ซ่านกวนจื่อจื้อยังคงเงียบอยู่ ความดุร้ายในดวงตาก็ค่อยๆจางหาย
ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเยาะตัวเอง “พวกคุณพูดถูกแล้ว ราชวงศ์ซ่างกวนในวันนี้ต้องการฝ่าบาทองค์ใหม่ที่มีคุณสมบัติในการสืบทอดบัลลังก์ แต่ไม่ใช่ฝ่าบาทที่มีเพียงแดนเทพชั้นกลาง ผมขอล้มเลิกการแย่งชิงราชบัลลังก์!”
ทันทีที่พูดเช่นนี้ออกมา สมาชิกของราชวงศ์ซ่านกวน ต่างก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก
ซ่านกวนโหรวก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอไม่รู้ว่า ถ้าหากซ่านกวนจื่อจื้อ ยืนยันแน่วแน่ที่จะสู้กับเธอจนถึงที่สุด เธอจะต้องฆ่าซ่านกวนจื่อจื้อมั้ย
“เยี่ยมมาก! ในที่สุดองค์ชายใหญ่ก็ถอนตัวจากการต่อสู้แย่งชิงราชบัลลังก์!”
ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ซ่านกวน หลังจากได้ยินคำพูดของซ่านกวนจื่อจื้อแล้ว ต่างก็มีความสุขมาก
ซ่านกวนจื่อฉินกล่าวอย่างตื่นเต้น “พี่ใหญ่ ต่อไปเราสามพี่น้อง ช่วยโหรวเอ๋อร์ และพยายามส่งเสริมพลังความแข็งแกร่งของราชวงศ์ และมุ่งมั่นที่จะทำให้ราชวงศ์ซ่านกวนแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาราชวงศ์ทั้งสี่!”
ซ่านกวนจื่อโม่ยังพูดด้วยตาแดงกล่ำ “เมื่อก่อนพวกเราถูกอำนาจทำให้ตามืดบอด จึงคิดแต่เรื่องแย่งชิงราชบัลลังก์ ตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว อำนาจอะไร ไร้สระทั้งเพ! จากนี้ไปฉันจะไม่โลภราชบัลลังก์อีก ฉันจะทุ่มแรงกายแรงใจเพื่อช่วยโหรวเอ๋อร์ ฉันเชื่อว่าภายใต้การนำของโหรวเอ๋อร์ ราชวงศ์ซ่านกวนจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ”
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าซ่านกวนจื่อจื้อเลือกที่จะช่วยเหลือซ่านกวนโหรวพร้อมกับน้องชายทั้งสองคน จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันต้องการออกจากราชวงศ์ซ่านกวน!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ
ซ่านกวนโหรวถาม “เสด็จลุง เป็นเพราะฉันสืบทอดราชบัลลังก์ ท่านก็เลยจากไปใช่ไหมคะ?”
ซ่านกวนจื่อจื้อส่ายศีรษะ และพูดอย่างจริงจังว่า “พวกเธอพูดถูก ฉันในเวลานี้ แดนวิถีบู๊อยู่แค่แดนเทพชั้นกลาง แทบไม่มีคุณสมบัติที่จะสืบทอดราชบัลลังก์เลย”
“แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะล้มเลิกการต่อสู้แย่งชิงราชบัลลังก์ ฉันต้องจากราชวงศ์ไปเพื่อไปปฏิบัติฝึกฝน นอกจากฉันจะก้าวเข้าสู่ผู้เหนือธรรมชาติ ไม่งั้นฉันจะไม่กลับมา เมื่อถึงตอนนั้นหากเธอสามารถเข้าสู่ผู้เหนือธรรมชาติได้ ฉันจะสละราชบัลลังก์โดยสมบูรณ์ และอยู่ในราชวงศ์ตลอดไป เพื่อช่วยเธอสุดกำลัง”
ทุกคนในราชวงศ์ต่างประหลาดใจมาก แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร พวกเขารู้ว่าซ่านกวนจื่อจื้อ เพื่อราชบัลลังก์แล้วเขาทุ่มเทมามาก เมื่อเห็นว่าราชบัลลังก์ใกล้จะมาถึง ใครจะไปรู้ว่าหลังจากกษัตริย์ซ่านกวนทานยาแดนเหนือมนุษย์แล้ว ระเบิดจนเสียชีวิต หยางเฉินก็เอาชนะจอมพลของราชวงศ์กลับมา
จากสวรรค์สู่ขุมนรก อาจจะเป็นความรู้สึกอย่างนี้ก็ได้
หลังจากซ่านกวนโหรวเงียบไปครู่หนึ่ง มองไปที่ซ่านกวนจื่อจื้อด้วยท่าทางที่ซับซ้อนและกล่าวว่า “ฉันสนับสนุนท่าน! ฉันจะรักษาราชบัลลังก์ให้คุณตลอดไป ขอเพียงวิถีบู๊ของคุณสามารถเหนือกว่าฉัน ฉันยินดีคืนราชบัลลังก์!”
แววตาของซ่านกวนจื่อจื้อเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ “ดี คำไหนคำนั้น!”
พูดจบ เขาไม่มีความอาลัยอาวรณ์อีกต่อไป หันหลังและเดินจากไป
จ้องมองด้างหลังการจากไปของเขา ทุกคนในราชวงศ์ไม่พูดอะไร และมองดูซ่านกวนจื่อจื้อจากไป
จนกระทั่งหลังของซ่านกวนจื่อจื้อหายลับไป ซ่านกวนโหรวกึงถอนหายใจ สายตาของเธอกวาดมองไปทั่วเหตุการณ์ เสียงดังลั่น “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันเป็นราชินีของราชวงศ์ซ่านกวน ฉันขอสาบานว่า ฉันจะไม่แต่งงาน ชีวิตนี้เพื่อราชวงศ์เท่านั้น!”