The King of War - บทที่ 1445 ความตายของพ่อบุญธรรม
เมื่อเย่หลินได้ยินคำพูดของหลิวเหล่าก้วยแล้ว กล่าวด้วยความโมโหว่า “หลิวเหล่าก้วย คุณพูดอะไร?”
เขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ราชวงศ์เย่เป็นคนเชิญหลิวเหล่าก้วยให้มาช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เขาบอกหยางเฉินต่อหน้าเย่หลินว่าเขายินดีที่จะช่วยหยางเฉินทำลายล้างราชวงศ์เย่
หลิวเหล่าก้วยไม่ได้สนใจเย่หลิน ดวงตาสีแดงของเขาจ้องเขม็งไปที่หยางเฉิน
ดูเหมือนว่าขอเพียงหยางเฉินกล้าปฏิเสธ เขาจะระเบิดพลังโจมตีหยางเฉินอย่างรุนแรงทันที
หยางเฉินจ้องมองหลิวเหล่าก้วยเช่นกัน และดวงตาของเขานั้นไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ
ต้องยอมรับว่าคำพูดของหลิวเหล่าก้วยทำให้หยางเฉินเกิดความหวั่นไหว เหตุผลที่ตอนนี้เขาเผชิญกับปัญหามากมาย แม้กระทั่งต้องพาญาติไปหลบซ่อนตัวที่อื่น นั่นเป็นเพราะเขาล่วงเกินคนไว้มากมาย ถ้าญาติอยู่ข้างกายจะทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนด้วย
ตอนนี้ หลิวเหล่าก้วยเชิญเขาเป็นสมาชิกของเมืองเหมียว และยอมจำนนต่อหลิวเหล่าก้วย
แน่นอน ขอเพียงเขาตกลง ต่อจากนี้ไปศัตรูของเขาจะน้อยลงไปมาก และหลังจากวันนี้ เขาสามารถพาญาติกลับมาอย่างหายห่วงได้
กระทั่งเขาสามารถยืมพลังของเมืองเหมียว ไปพาหม่าชาวกลับมาจากราชวงศ์เฝิง
มิฉะนั้น ถึงแม้วันนี้เขาจะสามารถฆ่าหลิวเหล่าก้วยได้ และทำลายล้างราชวงศ์เย่ได้ แต่อาศัยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา อยากจะพาตัวหม่าชาวกลับมาจากราชวงศ์เฝิงนั้นเป็นเรื่องที่ยาก
แม้แต่ราชวงศ์ทั้งสี่ก็ยากที่จะรับมือ กระทั่งยังมีผู้พิทักษ์ที่แอบปกป้องราชวงศ์อยู่ลับ ๆ ดังนั้นจึงทำให้ราชวงศ์โบราณแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แม้แต่ราชวงศ์ทั้งสี่ยังมีผู้พิทักษ์และในฐานะราชวงศ์โบราณ จะต้องมีผู้แข็งแกร่งดำรงอยู่อย่างแน่นอน?
ตามสถานการณ์เช่นนี้ ดูเหมือนว่าการเข้าเป็นสมาชิกของเมืองเหมียวนั้นเป็นตัวเลือกดีที่สุด
เมื่อเห็นความหวั่นไหวบนใบหน้าของหยางเฉิน หลิวเหล่าก้วยรีบกล่าวว่า “และผมขอรับรองว่าการที่ให้คุณยอมจำนนต่อผมนั้น ผมแค่กังวลว่าคุณจะทรยศเมืองเหมียว เท่านั้น ขอเพียงแค่คุณยินยอมภักดีต่อเมืองเหมียว ผมจะไม่ปฏิบัติต่อคุณเหมือนผู้ใต้บังคับบัญชาของผม”
“ผมรู้ดีว่าสำหรับคุณแล้ว สิ่งที่คุณเป็นห่วงที่สุดก็คือญาติของคุณ ขอเพียงคุณเข้าเป็นสมาชิกของเมืองเหมียว คุณสามารถพาญาติของคุณมาอยู่ที่เมืองเหมียวได้ เมื่ออยู่ที่นั่นญาติของคุณจะปลอดภัยมาก”
หลิวเหล่าก้วยรู้สถานการณ์ทุกอย่างของหยางเฉิน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่กังวลว่าหยางเฉินจะปฏิเสธ เขาหยิบขวดแก้วสีดำออกมาแล้วขว้างไปอยู่ในมือของหยางเฉิน
“นี่คือยาพิษกู่จิตหลังจากกินเข้าไปแล้ว ผมจะให้ยาระงับพิษแก่คุณทุกเดือน แน่นอนว่าถ้าคุณยินดีที่จะให้ญาติของคุณอยู่ในเมืองเหมียว ผมสามารถช่วยคุณกำจัดผลกระทบของยาพิษกู่จิตที่มีต่อคุณได้อย่างสมบูรณ์”
หลิวเหล่าก้วยกล่าว
หยางเฉินถือขวดแก้วสีดำของหลิวเหล่าก้วยเอาไว้ เขารู้สึกได้ว่ามีพลังชั่วร้ายแผ่ซ่านออกมาจากขวด
เมื่อเขากินยานี้แล้ว เกรงว่าเขานับจากตอนนี้เป็นต้นไปตนเองจะถูกหลิวเหล่าก้วยควบคุม
“คุณหยาง อย่าไปฟังคำพูดของเขา!”
และขณะนั้น ซ่งจั่วกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับยาพิษกู่จิต ซึ่งผู้แข็งแกร่งระดับสูงในเมืองเหมียวใช้วิธีที่ชั่วร้ายปรุงขึ้นมา คนที่กินมันเข้าไป ทุกเดือนพวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว”
“นอกจากนี้ ยาพิษกู่จิตไม่มียาถอนพิษ เมื่อกินเข้าไปแล้ว คุณต้องกินยาระงับพิษไปตลอดชีวิต และทุกพระจันทร์เต็มดวง คุณต้องกินยา มิฉะนั้น คุณจะเจ็บปวดอย่างรุนแรงและขาดใจตาย”
“ขอเพียงคุณกินยานี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณจะกลายเป็นเชลยของหลิวเหล่าก้วย ถึงแม้เขาจะฆ่าญาติของคุณ คุณก็ไม่สามารถต้านทานได้”
หลังจากฟังคำพูดของซ่งจั่วแล้ว พลังความรุนแรงระเบิดออกมาจากร่างกายของหยางเฉิน
เขารู้ว่ายาพิษกู่จิตจะต้องเลวร้ายมากอย่างแน่นอน แต่เขาไม่เคยคิดว่ายาพิษกู่จิตไม่มียาถอนพิษ และมีผลข้างเคียงที่โหดเหี้ยมขนาดนี้
เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่หลิวเหล่าก้วยกล่าวเมื่อสักครู่นั้นเป็นการหลอกลวงเขา และเขาไม่เคยคิดที่จะปล่อยหยางเฉินไป
“หยางเฉิน อย่าไปฟังเขาพูดจาเหลวไหล นั่นมันเป็นเมื่อก่อน ยาพิษกู่จิตไม่มียาถอนพิษจริง ๆ แต่ตอนนี้ได้ปรุงยาถอนพิษออกมาแล้ว ขอเพียงคุณยอมจำนนต่อผม และจงรักภักดีต่อเมืองเหมียว งั้นต่อไปคุณจะกลายเป็นสมาชิกของเมืองเหมียว แล้วผมจะทำร้ายคุณได้อย่างไร?”
หลังจากถูกซ่งจั่วเปิดเผย หลิวเหล่าก้วยรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่เขายังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะโน้มน้าว
“ฮึ่ม!”
ซ่งจั่วพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “เมื่อเดือนที่แล้ว ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่เพิ่งถูกยาพิษกู่จิตจนเสียชีวิต เพราะพระจันทร์เต็มดวง เขาไม่ได้รับระงับแก้พิษ ทำให้เขาเจ็บปวดจนตาย ตอนนี้คุณกลับบอกผมว่า คุณมียาถอนพิษเหรอ?”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณกินยาพิษกู่จิตเองก่อน หลังจากนั้นค่อยกินยาถอนพิษ เพื่อพิสูจน์ว่าคุณมียาถอนพิษจริง ๆ!”
หยางเฉินไม่ได้เป็นคนโง่เขลา เมื่อซ่งจั่วเปิดเผยความจริงของยาพิษกู่จิตแล้ว เขาล้มเลิกความคิดที่จะสวามิภักดิ์เมืองเหมียวอย่างสมบูรณ์
“คุณมันรนหาความตาย!”
หลิวเหล่าก้วยโกรธจนสุดขีด เขามองไปที่ซ่งจั่ว เจตนาฆ่าประกายอยู่ในดวงตาของเขา
ชั่วพริบตา เขาหายตัวไป
หยางเฉินเตรียมพร้อมแล้ว และขณะที่หลิวเหล่าก้วยหายตัวไป เขายืนขวางอยู่ข้างหน้าซ่งจั่ว ยกมือขึ้นเพื่อระเบิดพลังรุนแรงที่สุด
“ปัง!”
ด้วยเสียงสนั่น หยางเฉินถอยหลังไปหลายก้าวทันที และภายใต้การโจมตีครั้งนี้ หลิวเหล่าก้วยรู้สึกถึงพลังผันผวนในร่างกาย จนทำให้เขาถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง
“คู่ต่อสู้ของคุณคือผม!”
หยางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “วันนี้ถ้าคุณไม่ตาย ผมก็ตาย!”
เขาบังคับใช้เทคนิคการหายใจขั้นหกของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานอีกครั้ง เกือบจะทันที พลังที่ยิ่งใหญ่เต็มไปทั่วทั้งร่างกายของเขา ทำให้เขารู้สึกว่าร่างกายเต็มไปด้วยพลังงานอันทรงพลังที่ไม่สามารถนำไปใช้จนหมดได้
เย่หลินที่รู้สึกกังวลว่าหยางเฉินจะรับปากหลิวเหล่าก้วย และในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ในเมื่อพูดด้วยดีไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ! ในเมื่อคุณรนหาความตาย งั้นผมก็จะเอาชีวิตของคุณ!”
หลิวเหล่าก้วยล้มเลิกความคิดที่จะชักชวนหยางเฉินอย่างสิ้นเชิง และระเบิดพลังความแข็งแกร่งที่สุดพุ่งไปหาหยางเฉิน
การต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งสองคนที่เทียบเท่าผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
คราวนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสองอยู่ในสภาพแข็งแกร่งที่สุด แม้แต่เย่หลินยังต้องหลบเลี่ยง และถอยห่างออกไปหลายสิบเมตรอย่างรวดเร็ว
“บูม บูม บูม!”
เสียงปะทะที่น่าสะพรึงกลัว ดังสนั่นไปทั่วภูเขาเยี่ยนซาน
ทุกครั้งที่ทั้งสองคนปะทะกัน ดูเหมือนว่าภูเขาเยี่ยนซานจะถล่มลงมา ผู้แข็งแกร่งของกองกำลังระดับสูงทุกตระกูลที่อยู่ในเมืองเยี่ยนตู พวกเขาต่างมองไปยังทิศทางของภูเขาเยี่ยนซานด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ
ขณะเดียวกัน เมืองเยี่ยนตู ณ.ตระกูลอวี๋เหวิน
อวี๋เหวินเกาหยางยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน มองไปทางภูเขาเยี่ยนซาน รูม่านตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
แน่นอนเขารู้ว่าวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันครบรอบหนึ่งร้อยปีของราชวงศ์เย่ เขาได้อาศัยช่องทางพิเศษบางช่องทาง ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ยางเฉินและราชวงศ์เย่นั้นแตกหักกันแล้ว
ขณะนี้ รู้ได้อย่างชัดเจนว่าคนที่ต่อสู้ในเมืองเยี่ยนตูนั้นเป็นหยางเฉิน
เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าหยางเฉินกำลังต่อสู้กับใคร ถึงแม้จะอยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันของบูโที่น่าสะพรึงกลัวจากทิศทางของภูเขาเยี่ยนซาน แล้วพลังการต่อสู้ที่แท้จริงนั้นจะน่ากลัวขนาดไหน?
“หยางเฉิน คุณอย่าเป็นอะไรไป!” อวี๋เหวินเกาหยางพนมมือราวกับว่ากำลังอธิษฐานต่อสวรรค์เพื่อหยางเฉินอีกครั้ง
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตู
“เข้ามา!”
อวี๋เหวินเกาหยางเก็บอารมณ์และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ไม่นาน ประตูห้องถูกผลักออก ร่างของชายหนุ่มเดินเข้ามา
“อวี๋เหวินปิง ลูกมาได้อย่างไร?” เมื่อเห็นอวี๋เหวินปิง อวี๋เหวินเกาหยางขมวดคิ้ว
อวี๋เหวินปิงยืนอยู่ตรงหน้าอวี๋เหวินเกาหยาง และกล่าวทันทีว่า “พ่อ ผมมีเรื่องบางอย่างอยากจะขอคำแนะนำจากพ่อ”
“เรื่องอะไร?” อวี๋เหวินเกาหยางเอ่ยถาม
“มีเรื่องหนึ่ง ถ้าผมทำแล้ว มันจะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อผมมากมาย พ่อคิดว่าผมควรทำเรื่องนั้นหรือไม่?” อวี๋เหวินปิงเอ่ยถาม
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร อวี๋เหวินเกาหยางรู้สึกว่าวันนี้อวี๋เหวินปิงมีบางอย่างผิดปกติ
“ในเมื่อมันมีประโยชน์ต่อลูก ก็ควรจะทำ” อวี๋เหวินเกาหยางกล่าวหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“ถ้าบอกว่าเรื่องนี้คือการฆ่าพ่อ เพื่อแลกผลประโยชน์มหาศาลของผม ผมควรทำอย่างไร?”
อวี๋เหวินปิงกล่าว แต่คราวนี้เจตนาฆ่าที่แรงกล้าปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
ทันใดนั้นสีหน้าของอวี๋เหวินเกาหยางเปลี่ยนไปอย่างมาก และคำรามว่า “ลูกต้องการฆ่าพ่อเหรอ?”