The King of War - บทที่ 1426 ผู้ผลักดันเบื้องหลัง
กษัตริย์เย่เหลือบมองไปรอบๆ สถานที่จัดงาน ทุกคนที่เขามองต่างก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าสบตากับเขา
แน่นอนว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง หลายคนในที่นี้คิดว่าหยางเฉินเป็นเพียงลูกหลานของตระกูลดังที่ไม่เอาถ่าน ไม่กล้ายอมรับการท้าทายของเจียวต้าเหว่ยที่อยู่ในระดับแดนเทพชั้นต้น ดังนั้นผู้แข็งแกร่งของตระกูลจึงแอบโจมตี บดขยี้อวัยวะภายในของเจียวต้าเหว่ย
แต่หยางเฉินไม่พูดอะไร มองดูด้วยความสนใจ สำหรับเขาแล้ว การทำให้กองกำลังที่ติดตามราชวงศ์เย่ เกิดความไม่พอใจราชวงศ์เย่ มันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
พอเห็นทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขา กษัตริย์เย่ก็รู้ว่าตัวเองพูดถูกแล้ว
เขาพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “พวกคุณมันกบในกะลากันหมด ไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่พวกคุณดูถูกนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน”
สำหรับความแข็งแกร่งของหยางเฉิน เขาไม่ได้อธิบาย แต่มองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “ต่อไปเป็นงานฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของพ่อผม เย่หลิน หลังจากงานฉลองวันเกิดจบลง พวกเราค่อยมาคุยกันเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างเรา”
หยางเฉินยังไม่ทันตอบ กษัตริย์เย่ก็พูดขึ้นว่า “วันนี้เป็นงานฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของพ่อผม ขอบคุณทุกท่านมากที่หาเวลาว่างมาในวันนี้”
ทันทีที่เขาพูดจบ บรรยากาศในสถานที่จัดงานก็กลับมาดุเดือดอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เจียวโสงที่เคยต้องการให้กษัตริย์เย่จัดการกับหยางเฉิน ในเวลานี้ไม่กล้าซักไซ้อีกต่อไป ทำได้เพียงพยายามข่มความโกรธภายในใจ เข้าร่วมงานฉลองวันเกิดต่อไป
ยังคนอีกไม่น้อยที่มองไปทางเจียวโสงด้วยสายตายั่วยุ
มันทำให้เจียวโสงโกรธมากขึ้น ไม่เพียงแต่มองหยางเฉินเป็นศัตรูตัวฉกาจ แต่ยังถึงขนาดเกลียดชังราชวงศ์เย่ด้วย
หลังจากกษัตริย์เย่ทักทายสั้นๆ ก็พูดเสียงดังขึ้นมาว่า “ยินดีต้อนรับ ฝ่าบาทรุ่นที่ 7 ของราชวงศ์เย่ ฝ่าบาทเย่หลิน!”
“ยินดีต้อนรับฝ่าบาทรุ่นที่ 7 !”
“ยินดีต้อนรับฝ่าบาทรุ่นที่ 7 !”
…
ชั่วครู่หนึ่งในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ สมาชิกของราชวงศ์เย่ต่างส่งเสียงเชียร์ บรรยากาศคึกคักขึ้นในระดับสุดยอด
ท่ามกลางความคาดหวังจากทุกคน ผู้อาวุโสในชุดราชวงศ์ถังคนหนึ่ง ก็เดินออกมาจากทางด้านหลัง
เขาคือฝ่าบาทรุ่นที่ 7 ของราชวงศ์เย่ เย่หลิน!
แม้ว่าเย่หลินจะมีอายุหนึ่งร้อยปีแล้ว แต่ก็ไม่มีร่องรอยของคนแก่อายุร้อยปีในตัวเขาเลย ตรงกันข้ามกลับดูอ่อนเยาว์กว่าลูกชายของเขาเองกว่าสิบปี
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนในที่นี้ตกใจมาก
หยางเฉินยังแปลกใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเย่หลิน และในเวลานี้ เขารู้สึกถึงพลังกดดันจากบูโดเพียงเล็กน้อยจากเขา
เขาชักจะแน่ใจแล้วว่า ความสามารถของเย่หลินนั้น อย่างน้อยก็ต้องถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า
ซ่งจั่วและซ่งโย่วที่อยู่ข้างกายหยางเฉิน ในเวลานี้มีสีหน้าเคร่งขรึม พวกเขารู้สึกพลังกดดันอย่างมหาศาลจากร่างกายของเย่หลิน
จนกระทั่งถึงเวลานี้เองที่พวกเขาสองพี่น้องตระหนักว่า ราชวงศ์อู่ให้พวกเขาตอบแทนบุญคุณในครั้งนี้ มันสร้างความลำบากให้แค่ไหน
เย่หลินเข้าที่นั่งอย่างรวดเร็ว กวาดสายตามองผู้คนในงาน ก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัด “ขอบคุณทุกท่าน!”
“ไม่ต้องเกรงใจผู้อาวุโสเย่ พวกเราเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของท่าน”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว นี่คือความโชคดีที่พวกเราได้ฝึกฝนมาหลายชั่วอายุคน ขอให้ผู้อาวุโสเย่มีบุญบารมีกว้างใหญ่ไพศาล อายุมั่นขวัญยืน!”
“ขออวยพรให้ผู้อาวุโสเย่เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยไป อายุยืนยาวดั่งสนและนกกระเรียน!”
…
หลายคนทยอยลุกขึ้นกล่าวอวยพร แล้วยังมอบของขวัญล้ำค่าที่ทางตระกูลจัดเตรียมไว้ให้แก่เย่หลินด้วย
ตั้งแต่ต้นจนจบ เย่หลินหน้าตาไร้ความรู้สึก ดูเหมือนจะไม่สนใจของขวัญตามประเพณีเหล่านี้เลย
คนส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานฉลองวันเกิดในวันนี้ต่างหาโอกาสที่จะรับใช้ราชวงศ์เย่ ดังนั้นพวกเขาจึงย่อมกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ
สิบนาทีต่อมา คนจากกองกำลังต่างๆ ได้มอบของขวัญ แม้แต่ราชวงศ์ใหญ่อีกสามราชวงศ์ก็มอบของขวัญล้ำค่าด้วย
ดูเหมือนว่ามีเพียงหยางเฉินเท่านั้นที่ไม่ได้มอบของขวัญต่อหน้าสาธารณชน
เขาได้ครอบครองตำแหน่งของเย่หลินแล้ว ซึ่งตำแหน่งเป็นที่สะดุดตามาก ชั่วขณะหนึ่งสายตาของทุกคนได้พากันจับจ้องมาที่เขา
ถึงอย่างไรเย่หลินก็เป็นพระเอกของวันนี้ หลังจากที่หยางเฉินยึดตำแหน่งของเย่หลิน ราชวงศ์เย่ก็จัดโต๊ะอีกตัวไว้ที่ตำแหน่งหน้ากว่าหยางเฉิน ในเวลานี้เย่หลิน กำลังนั่งอยู่ตรงนั้น
“ในนามของเสด็จพ่อผมขอขอบคุณทุกท่าน สำหรับของขวัญที่มอบให้อย่างล้นหลาม ต่อไป…”
ก่อนที่กษัตริย์เย่จะพูดจบ จู่ๆ เสียงที่มาไม่ถูกเวลาก็ดังก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยง “กษัตริย์เย่ ในเมื่อทุกคนมาร่วมงานฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของฝ่าบาทลำดับที่ 7 ของราชวงศ์เย่ ก็ควรมอบของขวัญกันทุกคนไม่ใช่หรือ?”
“เมื่อครู่ผมลองตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่ายังมีบุคคลหนึ่งที่ไม่ได้มอบของขวัญ”
ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ สายตาของทุกคนก็พากันจับจ้องมาที่หยางเฉิน
คนที่พูดคือไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจียวโสง ที่ลูกชายเพิ่งถูกหยางเฉินฆ่าไป
กษัตริย์เย่ขมวดคิ้วทันที ที่เขายอมอดทนกับหยางเฉินมาตลอด ไม่ใช่เพราะว่าราชวงศ์เย่ไม่กล้าทำอะไรหยางเฉิน แต่วันนี้นอกจากจะทำร้ายหยางเฉินแล้ว ยังมีบางสิ่งที่สำคัญกว่าที่ต้องทำในวันนี้
ตอนนี้ราชวงศ์เย่ยังไม่ยินดีที่จะต่อสู้กับหยางเฉิน แต่ตอนนี้เจียวโสงกลับผลักไสหยางเฉินให้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับราชวงศ์เย่
“พ่อของผมมีความสุขมากแล้วที่ทุกท่านสามารถมาร่วมงานฉลองวันเกิดครบรอบร้อยปี มีความจำเป็นอะไรต้องมอบของขวัญอีก?” กษัตริย์เย่กล่าวอย่างใจเย็น
แต่เจียวโสงกลับพูดอย่างไม่ยอมแพ้ “กษัตริย์เย่ ท่านพูดแบบนี้ไม่เป็นการแซะพวกเราที่มอบของขวัญราคาแพงเหรอ?”
“พวกเรามอบของขวัญชิ้นใหญ่ แต่กษัตริย์เย่กลับคิดว่า ขอเพียงมาร่วมงานฉลองวันเกิด ผู้อาวุโสเย่หลินก็ดีใจมากแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราที่มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ จะไม่ขาดทุนหรอกเหรอ?”
คำพูดของเจียวโสงทำให้สีหน้าของกษัตริย์เย่ชะงักงัน ดูเหมือนว่ากษัตริย์เย่จะนึกไม่ถึงว่าแม้แต่ตระกูลที่นำโดยผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพชั้นปลาย ก็ยังกล้าทำให้ราชวงศ์เย่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
หลายคนมองไปที่เจียวโสง การแสดงออกบนใบหน้านั้นมีสีสันมาก ยังมีหลายคนที่สายตาจับจ้องอยู่หยางเฉินตลอดเวลา ราวกับว่าพวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นการเผชิญหน้าระหว่างหยางเฉินและราชวงศ์เย่ รวมถึงการปะทะกันกับตระกูลเจียวด้วย
ส่วนพระเอกของวันนี้คือเย่หลิน เขานั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะแปดเซียนของตัวเองอย่างเฉยเมย ไม่มองเจียวโสงแม้แต่น้อย ราวกับว่าทุกอย่างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
หยางเฉินเองก็เช่นกัน เหมือนว่าทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขา แต่มีความเยือกเย็นเพิ่มขึ้นภายในหัวใจ
เขาเคยคิดว่า ที่เจียวต้าเหว่ยลุกขึ้นมาท้าทายตัวเอง เป็นการสอพลอของตระกูลเจียวที่มีต่อราชวงศ์เย่ ถึงได้ทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องต่างๆ จะไม่ง่ายดายขนาดนั้น
เขามาร่วมงานฉลองวันเกิดของเย่หลินด้วยบัตรเชิญจากเฉียนเปียว แต่คนของราชวงศ์แย่กลับบอกว่า นี่เป็นบัตรเชิญปลอม
เมื่อพิจารณาจากสิ่งเหล่านี้ ดูเหมือนว่ามีใครแอบอ้างใช้สถานะของสมาชิกราชวงศ์เย่ส่งบัตรเชิญให้เฉียนเปียว จากนั้นเฉียนเปียวก็มอบให้ตน
ตอนนี้หยางเฉินกำลังสงสัยว่า วันนี้ที่เขากับราชวงศ์เย่ปะทะกันทั้งเปิดเผยและลับๆ นั้นยังมีผู้คอยชักใยอยู่อีกคนหนึ่ง
รวมถึงการกระทำของคนในตระกูลเจียว แม้ว่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่ก็ต้องได้รับการวางแผนโดยคนที่อยู่เบื้องหลัง
เพียงแต่ว่า หยางเฉินนึกไม่ออกว่าใครกันที่กล้าวางแผนระหว่างเขากับราชวงศ์เย่?