The King of War - บทที่ 1314 อย่าพูดพล่อย ๆ
หลงเสียงผงกหัว “ตั้งแต่พระองค์ท่านได้ยึดอำนาจของกระหม่อมคืนไปหมดแล้ว และกระหม่อมก็ได้สาบานไปแล้วว่า ชาตินี้จะไม่ขอมีส่วนในราชวงศ์หลงอีกตลอดไป”
พูดจบ หันหลังเดินออกจากไป “กระหม่อมได้ตัดสินใจแล้ว จะหันหน้าเข้าสู่บวรพุทธศาสนา ขอเสด็จพ่อได้โปรดทรงพระกรุณาพิจารณาเห็นชอบด้วย!”
“แกหยุดอยู่ตรงนั้นเลย!”
กษัตริย์หลงบันดาลโทสะขึ้นมา ตะคอกเสียงด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม “เจ้าเป็นองค์ชายโตในราชวงศ์หลงของข้า เวลานี้หลงเคอตายไป ก็เหลือแต่เจ้า ที่มีบรรดาศักดิ์พอที่จะเป็นผู้สืบทอดราชวงศ์!”
หลงเสียงยืนชะงัก พูดด้วยสีหน้าสงบเรียบ “ท่านก็พูดเองแล้ว ด้วยเพราะหลงเคอเสียชีวิตไปแล้ว จึงให้หม่อมฉันมีคุณสมบัติพอที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ขอท่านได้โปรดถือเสียว่ากระหม่อมตายจากไปแล้วเถอะ!”
พูดจบ เขาไม่มีการลังเลอีกใด ๆ ก้าวเท้าเดินออกจากไป
“ไอ้สาระเลว!”
มองตามหลังหลงเสียงที่ค่อย ๆ เดินหายไป กษัตริย์หลงโกรธอย่างสุดเหวี่ยง แต่ว่าไปถ้ามีช่องทางอื่น เขาก็คงไม่เอาหลงเสียงมาสืบทอดบัลลังก์อยู่แล้ว
เขามีทายาทอยู่มากมาย แต่ในบรรดาทายาททั้งหมด ก็จะมีแต่หลงเสียงที่มีคุณสมบัติพอจะให้สืบทอดบัลลังก์ได้ นอกจากนั้นแล้ว ไม่ใช่เพราะว่าพรสวรรค์ด้านบูโดอ่อนอยู่มาก ก็เป็นเพราะอายุยังน้อยไป ไม่พอที่จะมารับสืบทอดบัลลังก์
มาขณะนี้ คนเดียวนี้ที่มีคุณสมบัติเป็นองค์รัชทายาทได้ กลับปฏิเสธต่อเขา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เขาจะโกรธถึงขนาดไหน
“ไอ้หยางเฉิน เป็นเพราะแกไอ้บัดซบ ถ้าไม่ใช่เพราะแก ข้าก็ไม่ต้องถึงขนาดฆ่าลูกของตัวเองไป!”
แววตากษัตริย์หลงส่อชัดถึงอารมณ์โหด ในใจที่เคียดแค้นหยางเฉิน พุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุด
เขาได้ปลอมข่าวให้เป็นว่าหลงเคอถูกหยางเฉินฆ่า ส่งต่อไปให้หลงเยว่ ส่วนหลงเยว่จะไปหาหยางเฉินแก้แค้นหรือไม่นั้น เขาไม่ได้รู้เรื่อง
“เด็ก ๆ!”
กษัตริย์หลงตวาดสั่งเสียงเกรี้ยวกราด ผู้เฒ่าในชุดดำคนหนึ่ง ค่อย ๆ เข้ามาในสายตาของกษัตริย์หลง
“ฝ่าบาท!”
ผู้เฒ่าชุดดำค้อมคำนับ
“หลงจิ้น เจ้าไปที่เยี่ยนตูหน่อย!”
กษัตริย์หลงกัดฟันอย่างเคียดแค้นพูดว่า “ข้าต้องการให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับไอ้หยางเฉิน สูญหายไปจากโลกนี้ทั้งหมด!”
หลงจิ้นขมวดคิ้วย่น “ฝ่าบาท การทำแบบนี้ มันดูจะเกินไปหน่อยไหม?”
“แค้นต้องมีเหตุหนี้ต้องมีเจ้า บุญคุณความแค้นทั้งปวง เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเรากับหยางเฉิน ถ้าขืนพวกเราไปทำถึงขนาดนั้น เกรงว่าระหว่างเรากับหยางเฉิน จะผูกพยาบาทล้างผลาญต่อกันไม่มีวันสิ้นสุด”
“หยางเฉินอายุยังน้อย แต่ก้าวเข้าไปถึงแดนเหนือมนุษย์แล้ว มีอัจฉริยะภาพด้านบูโดเพียงนี้ เชื่อว่าต้องมีตระกูลบู๊โบราณที่แข็งแกร่งมากอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”
กษัตริย์หลงเลิกคิ้วขึ้นสูง พูดเสียงเยือก “แม้กระทั่งเจ้า ก็ยังขัดคำสั่งของข้าแล้วหรือ?”
หลงจิ้นค้อมหัวลงเล็กน้อย “มิกล้า!”
กษัตริย์ตวาดเสียงกร้าว “ในเมื่อไม่กล้า ก็จัดการทำไปตามคำสั่งของข้า!”
หลังจากหลงจิ้นรับคำบัญชาจากออกไป ภายในอาคารหลังมหึมา คงเหลือแต่กษัตริย์หลงอยู่โดดเดี่ยว
ในเวลานั้นเอง ความไม่สบายใจของเขายิ่งหนักขึ้น จิตใจร้อนรุ่มอย่างเหลือจะพรรณนา
“มันเป็นอะไรกันไปนี่?”
กษัตริย์หลงบ่นเองพึมพำ
ในขณะที่กษัตริย์หลงกำลังทุกข์ร้อนใจอยู่นั้น ภายในคฤหาสน์ราชวงศ์หลง หลงเสียงความกังวลเต็มใบหน้า
“ท่านพ่อ ท่านเรียกผมหรือ?”
ในขณะนั้นเอง หลงเทียนหยู่เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
“เทียนหยู่ เสด็จปู่ของเจ้าเรียกพ่อไปพบ”
หลงเสียงเปิดเรื่องพูดออกไปตรง ๆ “ท่านจะให้พ่อรับสืบทอดราชบัลลังก์!”
“ท่านพ่อปฏิเสธไปแล้วใช่ไหม?”
หลงเทียนหยู่ถามไปอย่างรู้ใจพ่อ
หลงเสียงผงกหัว พูดด้วยสีหน้าประชดตัวเอง “เสด็จปู่ของเจ้านั้นจิตใจคับแคบเอามาก ๆ ทิฐิในความเอาแต่ได้สูงมาก ถึงแม้ให้ข้าขึ้นนั่งบัลลังก์ น่ากลัวก็คงยังต้องอยู่ภายใต้การบงการของท่าน”
“ข้าคิดจะออกไปจากราชวงศ์หลง เรียกเจ้ามา ก็เพียงจะถามแก แกมีความเห็นอะไรไหม?”
ตั้งแต่ได้เกิดปัญหาขัดแย้งกับหยางเฉินมา โดนหยางเฉินสลายพลังฝีมือบูโดที่ฝึกมา และหยางเฉินก็ยอมให้เฝิงเสียวหว่านรักษาเขาจนหายปกติ หลงเทียนหยู่เหมือนโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาในชั่วข้ามคืน
เวลานี้ เมื่อรู้ว่าคุณพ่อของเขาตั้งใจไปจากราชวงศ์หลงแล้ว เขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไรมากมาย เพียงแต่มีความกังวลผุดขึ้นมาในแววตาเล็กน้อย
“ท่านพ่อ ท่านยังจำหลงเยว่ได้ไหม?”
จู่ ๆ หลงเทียนหยู่ก็ถามขึ้นมา
แน่นอนว่าหลงเสียงรู้จัก ผงกหัวตอรับว่า “รู้แน่นอน เขาเป็นพี่น้องท้องพ่อแม่เดียวกันกับหลงเคอ และในช่วงร้อยปีนี้มา เขายังเป็นอัจฉริยะบูโดที่เก่งฉกาจที่สุดของราชวงศ์หลง”
“แต่ว่า ฟ้าอิจฉาคนมีพรสวรรค์ เขาอายุยังไม่มากนัก ก็ด่วนตายไปเสียก่อน”
หลงเทียนหยู่กลับส่ายหน้า “คุณพ่อ ผมได้ยินมาว่า หลงเยว่ไม่ได้ตาย เพียงแต่ได้ต้องตาคนตระกูลบู๊โบราณ รับตัวไปเป็นบ่าวขันหมากของตระกูลบู๊โบราณแล้ว”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าหลงเสียงเปลี่ยนไปทันที รีบเดินไปปิดประตู แล้วนำหลงเทียนหยู่เข้าไปในห้องส่วนตัว
แล้วจึงถามไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้าไปฟังอะไรใครมา?”
“ท่านพ่อ ท่านเคยจำได้ไหม ทุก ๆ สิบปี ก็จะมีเรื่องที่ว่าผู้แข็งแกร่งที่ไม่รู้ที่มาที่ไป จู่ ๆ ก็จะมาปรากฏตัวที่ราชวงศ์หลง?”
จู่ ๆ หลงเทียนหยู่ก็ถาม
หลงเสียงผงกหัวรับว่ารู้ “คนพวกนั้น ล้วนแล้วแต่เสด็จปู่ของเจ้าไปต้อนรับเอง และด้วยความเคารพนบนอบเป็นอย่างสูง”
“ทุกระยะห่างกันสิบปี พวกเขาก็จะมาที่ราชวงศ์หลง ทุกตรั้งที่มา ราชวงศ์หลงก็จะมีการจัดการแข่งขันการต่อสู้ของกลุ่มวัยรุ่นขึ้นทุกครั้งไป”
“แล้วมันเป็นปัญหาอะไรหรือ?”
หลงเทียนหยู่ผงกหัว “สามสิบปีก่อนนั้น ตอนนั้นผมอายุแค่ สี่ ขวบ ได้เห็นมากับตา ตอนที่พวกเขากลับกันออกไป หลงเยว่ก็อยู่ในกลุ่มนั้น เสด็จปู่เป็นคนไปส่งเอง”
“เดิมทีเดียว ผมคิดมาโดยตลอด มันเป็นเรื่องราวจากความฝันตอนสมัยเด็ก จนมาถึงไม่กี่วันก่อนนี้ เสด็จปู่สั่งให้ผมเข้าเฝ้า ผมก็ไปได้ยินท่านกำลังคุยงานกับคุณปู่จิ้น และมีการคุยกันถึงชื่อหลงเยว่ และยังมีตระกูลบู๊โบราณ อีกทั้งพูดถึงคำว่าบ่าวขันหมากเข้าบ้านด้วย”
ผมถึงแม้ไม่ได้ยินเรื่องราวละเอียดที่พวกเขาคุยกัน แต่อาศัยคำนามหลายคำนี้ โดยพื้นฐานก็พอจับความให้มั่นใจได้ว่า หลงเยว่ยังไม่ตาย เพียงแต่ว่ามีอัจฉริยะภาพบูโดสูงเด่น จึงคนของตระกูลบู๊โบราณเอาตัวของเขาไป และยังได้ไปเป็นบ่าวขันหมากเข้าไปอยู่ในตระกูลบู๊โบราณ
ได้ฟังที่หลงเทียนหยู่พูดมา หลงเสียงสีหน้าถึงกับอึ้งไป “มิน่าเล่า!”
เกี่ยวกับการตายไปแล้วของหลงเยว่ เขาก็เคยมีการคาดเดาอยู่ มาถึงตอนนี้ เขาจึงได้รู้แจ้งชัด หลงเยว่ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ และได้ถูกตระกูลบู๊โบราณเอาตัวไป
“ท่านพ่อ ที่ผมพูดไปนั้น ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ที่สำคัญนั้น ผมสงสัยการตายของหลงเคอ จะเป็นเสด็จปู่ลงมือเอง!”
หลงเทียนหยู่พูดแบบต้องให้สะใจถึงจะพูด แค่พูดออกไป หลงเสียงหน้าถอดสีทันใด รีบเอามืออุดปากหลงเทียนหยู่
“อย่าปากพล่อยไป!”
หลงเสียงตะคอกตำหนิ
หลงเทียนหยู่ส่ายหน้า “ท่านพ่อ ผมไม่ได้พูดพล่อย ๆ คุณหยางเป็นคนยังไง ผมว่าผมรู้ดี ถ้าเขาจะฆ่าหลงเคอจริง ๆ เขาจำเป็นต้องแอบ ๆ ซ่อน ๆ ไปฆ่าด้วยหรือ?”
“ด้วยพลังฝีมือของเขา อย่าว่าแต่หลงเคอ ถึงจะให้ว่าแอบเข้าไปอย่างไม่มีใครรู้ เข้าไปถึงตำหนักราชวงศ์หลงแล้วสังหารเสด็จปู่ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว”
“ในสายตาของคุณหยาง การท้าทายอย่างโอหังของหลงเคอ มันไม่ได้อยู่ที่ต้องใส่ใจเลย”
“แต่ว่า เสด็จปู่กลับเที่ยวป่าวประกาศไปให้ทั่ว ว่าหลงเคอถูกหยางเฉินสังหาร ดูแล้วไม่มีทางเป็นไปไม่ได้”
หลงเสียงยิ่งฟังยิ่งกลัวใจ มองไปที่ลูกชายคนนี้ที่ดูเจริญวัยขึ้นมาก ให้รู้สึกนึกปลื้ม
“แค่เพียงเท่านี้ เจ้าก็มีความคิดเห็นว่าคนสังหารหลงเคอนั้น เป็นเสด็จปู่ของเจ้า?”หลงเสียงถาม
หลงเทียนหยู่ส่ายหน้า “หลายวันที่ผ่านมานี้ ข่าวคุณหยางปรากฏตัวที่หนิงโจว เป็นเรื่องอื้อฉาวออกมาให้รู้กันทั่ว ก่อนนี้มีแต่คนคิดว่าหยางเฉินตายไปแล้ว ตอนนี้มาปรากฏตัว มันเป็นเรื่องน่าตื่นตระหนกเอาการ”
“และในไม่กี่วันก่อนหน้านี้ หลงเคอได้ส่งผู้แข็งแกร่งแคนเทพในราชวงศ์หลงออกไปหกนาย ผนึกกำลังกับผู้แข็งแกร่งแดนเทพราชวงศ์เย่อีกหกนาย ให้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งสิบสองนาย ไปหนิงโจวเพื่อฆ่าคุณหยาง”
“ทว่า นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่ถูกสั่งให้ไปปฏิบัติการ จนป่านนี้ยังไม่เห็นมีข่าวว่ากลับมา ผมสงสัยว่า พวกเขาคงตายกันหมดแล้ว”
“เพราะด้วยเหตุนี้ เสด็จปู่ท่านคงกลัว กลัวว่าหยางเฉินจะกลับมาที่ราชวงศ์หลง ในสภาวการณ์แบบนี้ ถ้าคุณหยางมาเอาเรื่องราชวงศ์หลง ราชวงศ์หลงคงต้องล่มสลายไปในชั่วพริบตา”
“เสด็จปู่เป็นคนยังไง ท่านก็รู้ดี เขาพร้อมจะดูคนในตระกูลราชวงศ์หลงล้มตายกันไป แต่จะไม่ยอมให้ราชวงศ์หลงล่มสลาย”
“ตามสภาพการณ์แบบนี้ ก็คงมีแต่ตระกูลบู๊โบราณเท่านั้น ที่จะช่วยราชวงศ์หลงไว้ได้”
“หลงเยว่เป็นพี่ชายท้องพ่อแม่เดียวกันของหลงเคอ ถ้าหลงเคอถูกหยางเฉินฆ่า หลงเยว่ก็จะต้องมาแก้แค้นให้หลงเคอเป็นแน่”
ได้ยินที่หลงเทียนหยู่พูดให้ฟัง หลงเสียงอึ้งไปอยู่นาน