The King of War - บทที่ 1168 ร่างกายยังคงได้รับการปรับเปลี่ยนต่อไป
“หวังว่าต่อไปเขาจะไม่มาหาเรื่องผม!”
หยางเฉินรู้สึกกังวลเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเขากลัวคนๆหนึ่งมาก
ไม่ใช่ว่าเขากลัวดอกเตอร์แบล็กแต่เขากลัวดอกเตอร์แบล็กมาทำร้ายคนรอบข้างของเขา
ไอ้สารเลวคนนี้ รู้นิสัยของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำ เขารู้วิธีทำให้หยางเฉินพังทลาย
เรื่องของหงเฉินได้รับการจัดการแล้ว และถึงเวลาแล้วที่หยางเฉินจะต้องจากไป ตอนนี้ สถานการณ์ในเยี่ยนตูวุ่นวายมาก ใครจะไปรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสองวันที่ผ่านมาตอนที่เขาไม่อยู่
“กลับไปเยี่ยนตู!”
หยางเฉินออกไปกับหม่าชาว
เรยยิงเองเป็นเทพสงครามที่จิ่วโจวส่งไปยังสนามรบนอกแดน และโดยธรรมชาติแล้วเขาจะยังคงอยู่ที่นอกแดนต่อไป
ตอนนี้ซาตานถือว่าเป็นผู้นำคนที่สองของหงเฉิน และเขาจะยังคงอยู่นอกแดนและพัฒนาหงเฉินให้ก้าวหน้าต่อไป
มีเพียงหยางเฉินและหม่าชาวเท่านั้นที่ออกจากสนามรบนอกแดน
เมื่อกลับมาถึงที่เยี่ยนตู หยางเฉินรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก
“ในที่สุดก็กลับมา!”
หยางเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พี่เฉิน ไปที่คลินิกอ้ายหมินกันเถอะ!”
หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว หม่าชาวกล่าว
“โอเค!”
หยางเฉินเห็นด้วย แน่นอนว่าเขารู้ว่าทำไมหม่าชาวถึงไปที่คลินิกอ้ายหมิน
หลังจากรู้เกี่ยวกับฝีมือของดอกเตอร์แบล็กแล้ว หม่าชาวก็คอยระวังอยู่เสมอ เห็นได้ชัดว่าเขากังวลว่า จะเป็นอันตรายต่อร่างกายของหยางเฉินหลังจากทานยาสมบูรณ์แบบ
ยี่สิบนาทีต่อมา หยางเฉินและหม่าชาวได้มาถึงคลินิกอ้ายหมิน
“พี่หยาง! พี่หม่า!”
หลังจากที่เห็นหยางเฉินและหม่าชาวแล้ว เฝิงเสียวหว่านก็มีความสุขมาก
“คุณหยาง คุณหม่า!”
ในเวลานี้ หวังจ้านก็เดินออกมาเช่นกัน
“โอ้? ทะลุหรือยัง?”
เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจบนร่างกายของหวังจ้าน หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เดิมที หวังจ้านเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นต้น แต่ต่อมารากฐานของบูโดได้รับความเสียหายและความแข็งแกร่งของเขาก็ลดลงอย่างมาก
แต่สิ่งที่ทำให้หยางเฉินตกใจก็คือ หวังจ้านฟื้นรากฐานของบูโดภายในเวลาเพียงสองวันเท่านั้น ในเวลานี้ บนตัวของหวังจ้านก็เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งแดนเทพชั้นกลาง
ไม่เพียงเท่านั้น หยางเฉินยังมีความรู้สึกว่าหวังจ้านอยู่ไม่ไกลจากแดนเทพชั้นปลาย
หวังจ้านพยักหน้าเล็กน้อย มองไปที่เฝิงเสียวหว่านอย่างขอบคุณและกล่าวว่า “ต้องขอบคุณเสียวหว่าน ผมจึงสามารถฟื้นฟูรากฐานบูโดของผมได้ และแดนบูโดของผมก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน”
“ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับหวางจ้านเอง หากไม่ใช่เพราะความอดทนมุ่งมนะของคุณ ไม่ว่าทักษะทางการแพทย์ของฉันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถฟื้นฟูรากฐานบูโดของคุณได้”
เฝิงเสียวหว่านพูดด้วยรอยยิ้ม
“เสียวหว่าน ช่วยดูพี่หยางหน่อยนะ!”
หม่าชาวพูดด้วยความเป็นห่วง
“พี่หยาง พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหม่าชาว เฝิงเสียวหว่านก็รู้สึกตกใจมาก และพูดอย่างรวดเร็วว่า “พี่หยาง นอนลงก่อน ฉันจะตรวจสอบให้!”
หยางเฉินดูหมดคำพูด “ผมสบายดี หม่าชาวไม่วางใจสักที”
เฝิงเสียวหว่านและหวังจ้านไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหยางเฉิน แล้วหม่าชาวจะไม่รู้ได้อย่างไร
ในไม่ช้า เฝิงเสียวหว่านก็ตรวจสอบหยางเฉินเสร็จแล้ว
“เสียวหว่าน พี่เฉินไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
หม่าชาวรีบถาม
คิ้วของเฝิงเสียวหว่านเต็มไปด้วยความกังวล และเธอพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันไม่พบปัญหาใดๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ฉันรู้สึกว่ามีปัญหา และปัญหาก็ไม่เล็กด้วย”
“ตกลงว่ามีปัญหาหรือว่าไม่มีปัญหากันแน่?”
คำตอบของเฝิงเสียวหว่าน ทำให้หม่าชาวเป็นกังวลมากขึ้น
หยางเฉินพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เสียวหว่านหมายความว่า สุขภาพของผมดีมาก ความหมายง่ายๆเช่นนี้ คุณไม่เข้าใจเหรอ?”
“จริงเหรอ?”
หม่าชาวมองไปที่เฝิงเสียวหว่านและถาม
เฝิงเสียวหว่านยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า“น่าจะเป็นเพราะฉันคิดมากเกินไป สมรรถภาพทางกายของพี่หยางดีมาก”
“ดีมาก!”
หม่าชาวก็โล่งใจ
เขารู้ความสามารถของเฝิงเสียวหว่าน ในเมื่อเฝิงเสียวหว่านบอกว่าหยางเฉินไม่เป็นอะไร ก็จะต้องไม่เป็นอะไร
“คุณต่างหากที่เป็นคนที่ควรได้รับการตรวจมากที่สุด รีบขึ้นมาและนอนลง ให้เสียวหว่านตรวจดูด้วย”
หยางเฉินกล่าวอย่างโกรธเล็กน้อย
หลังจากการตรวจดูแล้ว หม่าชาวได้รับบาดเจ็บที่ผิวหนังเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หลังจากที่เฝิงเสียวหว่านทายาลงบนบาดแผลของหม่าชาว ก็เสร็จแล้ว
“พี่เฉิน งั้นผมกลับบ้านก่อนนะ ผมไม่ได้เจอพี่อ้ายมาหลายวันแล้ว”
หลังจากที่หม่าชาวแน่ใจว่ารากฐานบูโดของเขาไม่เสียหาย เขาก็มีความสุขมาก
หลังจากรอจนกระทั่งหม่าชาวจากไป หยางเฉินก็มองไปที่เฝิงเสียวหว่านอย่างเคร่งขรึมและถามว่า “เสียวหว่าน บอกผมที เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของผม?”
หวังจ้านตกใจกะทันหัน หรือว่า ร่างกายของหยางเฉินเป็นอะไรจริงๆ?
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฝิงเสียววห่านก็หายไป และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความกังวล “พี่หยาง ร่างกายของคุณได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แม้แต่เลือดของคุณก็เปลี่ยนไป”
“อย่างไรก็ตาม ฉันไม่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวดีหรือไม่ดีต่อร่างกายของคุณ เท่าที่สถานการณ์ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของคุณกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี”
“แต่สิ่งที่ทำให้ฉันกังวลจริงๆก็คือ การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของคุณยังไม่สิ้นสุด มันยังคงดำเนินต่อไป ตอนนี้ยังไม่มีปัญหา ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีปัญหาในอนาคต”
หลังจากฟังคำพูดของเฝิงเสียวหว่านแล้ว หยางเฉินก็ตระหนักได้ว่า ดอกเตอร์แบล็กน่ากลัวเพียงใด
แม้แต่เฝิงเสียวหว่านก็หมดหนทางหรือ?
“ในเมื่อมันกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ก็จะไม่มีปัญหาเน่นอน คุณวางใจได้”
หยางเฉินแสร้งทำเป็นสงบและพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เตือนว่า”เสียวหว่าน ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และอย่าให้ใครรู้นอกจากพวกเราสามคน”
หวังจ้านพูดอย่างรวดเร็วว่า “ไม่ต้องกังวลคุณหยาง ผมจะไม่บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้!”
หยางเฉินพยักหน้า แน่นอนว่าเขาเชื่อในตัวหวังจ้าน ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่คุยกับเฝิงเสียวหว่านเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าหวังจ้านหรอก
“พี่หยาง คุณกินอะไรไป ทำไมมันถึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับร่างกายคุณ?”
จู่ๆเฝิงเสียวหว่านก็ถามด้วยสีหน้าจริงจัง ภายใต้ความจริงจัง มีความกังวลอย่างแรงซ่อนอยู่
หยางเฉินไม่ได้ปิดบัง และบอกเฝิงเสียวหว่านเกี่ยวกับการกินยาสมบูรณ์แบบ
หลังจากฟังหยางเฉินพูดจบ สีหน้าของเฝิงเสียวหว่านเหม่อลอย”พี่หยาง เช่นนั้น ร่างกายของคุณจึงถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง?”
หยางเฉินพยักหน้า “คงงั้นมั้ง! คุณบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าร่างกายของผมในตอนนี้เปลี่ยนไปมาก?ผมก็สัมผัสได้ และระดับร่างกายของผมก็ดีขึ้นมาก”
“หากมีการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่นี้ ผมก็จะไม่กังวลกับสิ่งใด ปัญหาตอนนี้คือร่างกายของผมยังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลง และผมไม่สามารถบอกได้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่”
“มันจะทำให้รากฐานบูโดของผมเสียหายหรือไม่ในอนาคต ก็ไม่ทราบเช่นกัน”
หวังจ้านที่อยู่ข้างๆก็ตกตะลึงเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเคยเป็นชายผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์หลง แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินว่า มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายของอีกคนได้