หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 897 บรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า
เมื่อทิวทัศน์ยามค่ำคืนแผ่ไปทั่วขอบฟ้า
สมรภูมิหยุ่นลั้วก็ถูกกลืนหายไปในความมืด แต่เมื่อถึงเวลากลางคืนสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้เงียบลง กลับยิ่งทวีความรุนแรงเข้มข้นมากขึ้น
พายุคลื่นหลิงที่น่าตกใจสร้างหายนะระหว่างสวรรค์และโลกสามารถฉีกมิติออกจากกันได้ พลังทำลายล้างช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก นอกจากนี้สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือพายุทอร์นาโดสามารถตรวจจับคลื่นหลิงในฟ้าดินแล้วกวาดเข้าไปกลืนกินคลื่นหลิงบริเวณนั้นทั้งหมดราวกับฝูงหมาบ้าแย่งชิงอาหาร
ดังนั้นกองทัพจำนวนมากจะหยุดเดินทางในตอนกลางคืน ระมัดระวังในการสร้างความผันผวนของคลื่นหลิงขนาดใหญ่ ซึ่งจะดึงดูดความสนใจของพายุทอร์นาโดเอาเข้า
เพราะไม่งั้นจะน่าอัปยศเกินไป ถ้าพวกเขาถูกทำร้ายด้วยพายุทอร์นาโด แทนที่จะเป็นกองทัพอื่น
แต่ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะโหดร้ายแค่ไหนก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งสงครามล่าได้ เมื่อคำนวณจากเวลาสงครามก็ได้เริ่มมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ไม่รู้ว่ามีขั้วอำนาจเท่าไรที่ถูกทำลายลงในสงครามครั้งนี้ไปแล้ว
แต่การกำจัดก็ยังคงดำเนินต่อไปและห่างไกลจากจุดสิ้นสุด ทว่าทุกคนในภูมิภาคทางเหนือรู้ว่าเมื่อไรที่สงครามจบลง สถานการณ์จะต้องเปลี่ยนไปครั้งใหญ่อีกครั้งแน่นอน
ภูเขาถูกปกคลุมโดยทิวทัศน์ยามค่ำคืน
ราวกับสัตว์อสูรร้ายที่หมอบอยู่บนพื่น ซึ่งทำให้รู้สึกกดดันอย่างมาก
ขณะนี้ในส่วนลึกของเทือกเขามืดมิดกลับมีกองทัพจำนวนหนึ่งกำลังนั่งหมุนเวียนคลื่นหลิงเพื่อรักษาบาดแผลบนร่างกาย
นี่เป็นกองทัพที่ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายรุนแรง พวกเขาคือสมาชิกอาณาเขตกงเวทสวรรค์ นี่ก็คือสถานที่ที่มู่เฉินและพรรคพวกหยุดพักอยู่
มีจอมยุทธ์กระจายตัวเฝ้าระวังอยู่โดยรอบภูเขา สายตามองเข้าไปในความมืดพร้อมกับความเฉียบคม บางครั้งจะมีการลาดตระเวนผ่านไปมา เนื่องจากมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดจึงเพิ่มความโหดร้ายในเทือกเขาอีกหลายส่วน
ในส่วนลึกของเทือกเขามีถ้ำขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง มู่เฉินนั่งอยู่ที่ด้านในเพื่อป้องกันการรบกวนใดๆ เขาใช้หินก้อนใหญ่ปิดทางเข้าออกเอาไว้
การฝึกฝนครั้งนี้สำคัญมากสำหรับมู่เฉิน
เนื่องจากเขามีสองสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ หนึ่งบรรลุระดับจื้อจุนขั้นห้าและสองคือการเรียนรู้คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่
ขุมพลังของมู่เฉินบรรลุระดับจื้อจุนขั้นสี่มาระยะหนึ่งแล้ว ตลอดเวลาหนึ่งเดือนในสมรภูมิหยุ่นลั่ว เขาผ่านการต่อสู้ระหว่างความเป็นตายมาหลายครั้ง คลื่นหลิงของเขาก็ก้าวหน้าขึ้นจากการต่อสู้ต่างๆ ที่ผ่านมา จากการคาดการณ์เขาน่าจะมาถึงระดับจื้อจุนขั้นสี่ระยะปลายสุดแล้ว
แน่นอนว่าก้าวนี้ยังมีระยะห่างกับการบรรลุที่แท้จริงอยู่บ้าง เพราะการก้าวออกจากขอบเขตขั้นสี่ไปสู่ขั้นห้าไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ในโลกนี้มีจอมยุทธ์มากมายนับไม่ถ้วนถูกกักอยู่ในขอบเขตของขั้นสี่ไม่น้อย
หากเป็นเวลาอื่นมู่เฉินอาจยังไม่มีความคิดที่จะลองบรรลุ แต่ในสมรภูมิหยุ่นลั้วเขากลับมีโอกาสที่จะลอง
นั่นก็คือเม็ดยาหยุ่นลั้ว
เม็ดยาหยุ่นลั้วเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสมรภูมิหยุ่นลั้ว ไม่เพียงแต่สามารถใช้เพื่อเปิดขุมทรัพย์ตี้จื้อจุน แต่ยังสามารถเปลี่ยนเป็นไอหยุ่นลั้วที่บริสุทธิ์ได้อีกด้วย นั่นคือแก่นแท้ของคลื่นหลิงจากร่างของจอมยุทธ์ที่สิ้นชีพลงที่นี่ แม้ว่าคลื่นหลิงจะสลายลงเมื่อตายไป แต่สมรภูมิหยุ่นลั้วเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้นไอหยุ่นลั้วจึงยังถูกเก็บรักษาไว้อยู่บางส่วน
ซึ่งแก่นคลื่นหลิงเหล่านั้นก็คือเม็ดยาหยุ่นลั้ว
นี่คือสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนทุกคน หากได้ดูดซับไอหยุ่นลั้วก็จะสามารถเสริมสร้างพลังงานหลิงในร่างกายได้
ดังนั้นมู่เฉินจึงมีความคิดเกี่ยวกับยาหยุ่นลั้วนี้
แต่โดยทั่วไปแล้วยาหยุ่นลั้วจะต้องถูกส่งมอบให้กับสำนักของตนเพื่อใช้เปิดขุมทรัพย์ตี้จื้อจุน ดังนั้นเม็ดยาจึงมีค่าอย่างยิ่งสำหรับทุกกองทัพ ถึงแม้จะรู้ว่าเม็ดยาเหล่านั้นจะมีประโยชน์ในการฝึกฝนมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครกล้าใช้ในการฝึกยุทธ์
แต่ข้อจำกัดนี้ไม่มีผลอย่างเห็นได้ชัดสำหรับพวกมู่เฉินที่เก็บเกี่ยวได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยจำนวนรวมเม็ดยาหยุ่นลั้วถึงสองแสนเม็ด พวกเขาบรรลุภารกิจเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเหล่าผู้บัญชาการจึงหารือกันและแบ่งส่วนเข้ากระเป๋าของตนเอง
สำหรับมู่เฉิน เขาได้รับเม็ดยาทั้งหมดสองหมื่นเม็ด
แน่นอนว่า สองหมื่นเม็ดนี้ได้เพราะเขาทำงานหนักสุด ส่วนผู้บัญชาการคนอื่นได้รับไปแค่คนละหนึ่งหมื่นเม็ดเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็พอใจมาก ถ้าไม่ใช่เพราะมู่เฉินพวกเขาอาจยังกำลังมองตามหาซากอารยธรรมต่างๆ เพื่อกลั่นเม็ดยาหยุ่นลั้วอยู่เลย จะทำงานสำเร็จอย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการได้รับส่วนแบ่งเลย…
ฮา
ในส่วนลึกถ้ำ มู่เฉินหายใจเข้าลึก ใบหน้าเคร่งขรึมลง แต่เขายังไม่ได้เริ่มต้นฝึกฝน กลับเข้าสู่สมาธิเพื่อปรับสภาพเสียก่อน
พัฒนาการแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาต้องทุ่มเททุกอย่างถึงจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ
ดังนั้นมู่เฉินจึงอยู่ในสมาธิไปกว่าครึ่งวัน เมื่อถึงเวลาที่ทิวทัศน์ยามค่ำคืนผันแปร ดวงตาเขาก็ค่อยๆ เปิดขึ้นพร้อมแสงวูบไหว ไม่มีอาการอ่อนเพลียใดๆ เหมือนก่อนหน้าให้เห็นอีก
คลื่นหลิงภายในร่างกายเขาก็ได้รับการฟื้นฟูเต็มที่จนถึงปลายยอดสุดของระดับจื้อจุนขั้นสี่
“ใกล้แล้ว”
มู่เฉินพึมพำ จากนั้นสายตาก็หดเกร็ง เขาสะบัดแขนเสื้อ ขวดหยกก็พุ่งไปแล้วระเบิดออก ทันใดนั้นเสียงครางกระหึ่มก็ดังก้องจากขวด ลำแสงนับไม่ถ้วนพุ่งออกก่อตัวเป็นยาหยุ่นลั้วมหาศาลลอยอยู่รอบถ้ำ
เมื่อเม็ดยาหยุ่นลั้วนับหมื่นปรากฏ ถ้ำก็ค่อยๆ ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกซึ่งเกิดจากการกระจายของไอหยุ่นลั้วนั่นเอง
มู่เฉินหายใจเข้าลึก ละอองหมอกก็เข้าสู่ร่างกายทางจมูก ทันใดนั้นราวกับลาวาต้มเดือดอยู่ในร่างกาย แก่นพลังงานหลิงบริสุทธิ์ไหลผ่านเส้นสายภายใน ทำให้เส้นลมปราณสั่นสะท้านประหนึ่งหมาป่าหิวโหย
นั่นเป็นความรู้สึกโลภระดับสูงสุด
พลังงานหลิงภายในร่างกายเขาราวกับต้องการกลืนกินแก่นพลังเหล่านั้นจนหมด
“ทำให้พลังงานหลิงมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้เชียว” เมื่อรู้สึกถึงความปั่นป่วนภายในร่าง มู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ พลังงานหลิงโหยหาไอหยุ่นลั้วมากเกินกว่าของเหลวจื้อจุนเสียอีก
“ยาหยุ่นลั้วสองหมื่นเม็ด อาจเทียบได้กับของเหลวจื้อจุนสองแสนหยดเลยทีเดียว” มู่เฉินพึมพำอย่างตกตะลึง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมขั้วอำนาจทั้งหลายในภูมิภาคทางเหนือถึงบ้าคลั่งในช่วงสงครามล่า ไม่ต้องพูดถึงของเหลวหลิงเสินที่แม้แต่จอมยุทธ์ระดับตี้จื้อจุนยังหัวใจหวั่นไหว แค่ยาหยุ่นลั้วเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ขั้วอำนาจน้อยใหญ่บ้าคลั่งได้แล้ว
เพราะหากพวกเขาสามารถได้รับยาหยุ่นลั้วหนึ่งหมื่นเม็ดก็จะเทียบเท่ากับของเหลวจื้อจุนหนึ่งแสนหยด นี่ถือเป็นการเก็บเกี่ยวที่มากพอแม้จะเป็นขั้วอำนาจระดับสูงก็ตาม
มู่เฉินส่ายหัวเบาๆ พลางระงับความรู้สึกในใจลง สายตาเบนความสนใจไปที่ยาหยุ่นลั้ว จากนั้นก็ประสานมือวาดตราประทับฉับพลัน
ฮึ่ม!
คลื่นหลิงไร้ขอบเขตพวยพุ่งออกจากฝ่ามือ ในคลื่นหลิงมีเพลิงสีม่วงปะทุขึ้นพร้อมกับอุณหภูมิทะยานสูง นี่ก็คือเพลิงอมตะ
ถ้าเขาต้องการที่จะดูดซับแก่นคลื่นหลิงบริสุทธิ์ เขาก็ต้องชำระเม็ดยาทั้งหมดก่อนเป็นอันดับแรก
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
มู่เฉินชี้นิ้วทั้งสองออก ยาหยุ่นลั้วก็ก่อเป็นริ้วแสงบินเข้าไปในเพลิงสีม่วง
บึ้ม!
เมื่อเม็ดยาเข้าสู่เพลิงสีม่วง เสียงลึกต่ำก็กระจายออก เม็ดยาหยุ่นลั้วระเบิดก่อนที่จะถูกหลอมด้วยเพลิงสีม่วงกลายเป็นสายหมอกให้มู่เฉินกลืนกิน
ฉ่า ฉ่า!
ทันทีที่แก่นคลื่นหลิงบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย มู่เฉินก็เริ่มตัวสั่นสะท้าน ผิวหนังแดงกล่ำโดยมีควันขาวขุ่นเล็ดลอดออกมาจากรูขุมขน
เขารู้สึกได้ว่าในร่างราวกับมีกระแสลาวาไหลไปทั่วร่างกาย ทุกที่ที่มันผ่านเส้นลมปราณจะกระตุก ความรู้สึกเจ็บปวดแผ่ออกมา
ทว่าภายใต้ความเจ็บปวดเป็นความโลภ เส้นสายเลือดเนื้อในร่างมู่เฉินเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาในเวลานี้ กลืนกินแก่นคลื่นอย่างหิวโหย ราวกับหลุมไร้ก้นที่ไม่มีวันเติมเต็มให้พอใจ
ความเจ็บปวดและความกระหายตีกวนในหัวใจของมู่เฉิน ทว่าเขากลับปกป้องจิตใจสุดกำลัง มุ่งเน้นไปที่การดูดซับแก่นคลื่นบริสุทธิ์
เขารู้ว่า แม้เขาจะมียาหยุ่นลั้วสองหมื่นเม็ด แต่นี่เป็นจำนวนทั้งหมดที่เขาสามารถใช้ได้ ดังนั้นหากเขาล้มเหลว พัฒนาการของเขาก็จะต้องล่าช้าไปอีก…
แล้วตอนนี้เมื่อสงครามล่าทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มู่เฉินก็รู้ดีว่าระดับจื้อจุนขั้นสี่อ่อนแอไปแล้ว ดังนั้นเขาไม่มีเวลารออีก
ครั้งนี้เขาต้องบรรลุอย่างเดียวเท่านั้น!