หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 1211 องครักษ์ของเจ้า
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1211 องครักษ์ของเจ้า
“ค่ายกลแม่น้ำลั่ว!”
เมื่อลั่วเทียนเสินคำราม แม่น้ำก็ล้นทะลัก คลื่นน้ำไม่มีที่สิ้นสุดกวาดกระจายออกไปทั่วสารทิศ ก่อตัวเป็นปราการน้ำขวางกั้น ราวกับชามกว้างใหญ่ครอบคลุมตระกูลลั่วเสินทั้งหมดเอาไว้
ปราการน้ำสั่นไหว รัศมีโบราณเอิบอาบออกมาคลุมเครือ
แม้ว่าปราการนี้จะดูอ่อนแอ แต่คลื่นหลิงทรงพลังที่เล็ดลอดออกมาก็ทำให้ม่านตาของเสี่ยหลิงจื่อหดลง ดูเหมือนว่าตระกูลลั่วเสินเตรียมการมาเป็นอย่างดี
“หึ ดูท่าตระกูลลั่วเสินของเจ้าไม่คิดที่จะยอมรับสันติสุขที่ตระกูลเสี่ยเสินมอบให้!”
เสี่ยหลิงจื่อพูดเสียงเย็นเยือก จากนั้นก็ยื่นมือกดมิติตรงหน้า ทันใดนั้นเมฆโลหิตก็เริ่มรวมตัวก่อร่างเป็นมือขนาดใหญ่ซัดลงมากระแทกกับปราการน้ำ
ปัง!
ความผันผวนป่าเถื่อนเกิดขึ้นจากปราการ แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกำลังจะแตกสลาย
หัวใจทุกคนโลดขึ้นเมื่อมองดูปราการที่ผันผวน ใบหน้าของพวกเขาซีดลง เนื่องจากเมื่อไรที่ปราการนี้พังทลาย ตระกูลเสี่ยเสินก็จะเริ่มการสังหารหมู่
ฮึ่ม ฮึ่ม
ทว่าปราการก็ทนรับแรงระเบิดภายใต้สายตาที่จ้องมองด้วยความหวาดกลัว การโจมตีของเสี่ยหลิงจื่อ ค่อยๆ หายไป ปราการได้รับการฟื้นฟูจนสงบและปกป้องเมืองลั่วเสินอย่างเงียบๆ
ใบหน้าของเสี่ยหลิงจื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าปราการยังคงยืนหยัด พลังของค่ายกลแม่น้ำลั่วเกินความคาดหมายของเขาไปไกล
“เสี่ยหลิงจื่ออย่ากัดมากกว่าจะเคี้ยวได้ ค่ายกลนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังของแม่น้ำลั่ว ตราบใดที่แม่น้ำลั่ว ยังยืนยงก็จะไม่ถูกทำลาย” ลั่วเทียนเสินรู้สึกโล่งใจกับภาพดังกล่าว จากนั้นก็เอ่ยเยาะเย้ย
ถึงแม้ว่าตระกูลลั่วเสินจะตกต่ำ แต่ศักดิ์ศรีของพยัคฆ์ก็ยังคงมี รากฐานของตระกูลลั่วเสินเกินกว่าตระกูลเสี่ยเสินมาก ไม่ต้องพูดถึงระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายอย่างเสี่ยหลิงจื่อ แม้แต่ระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็ไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ลงได้
นี่เป็นความเชื่อมั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาในการปกป้องพิธีเทพธิดาลั่ว!
“ฮึ่ม ข้าไม่เชื่อว่ากระดองเต่านี้จะปกป้องแกได้ตลอดไป!”
สายตาของเสี่ยหลิงจื่อมืดมนลงแฝงความดุร้ายขณะที่คำราม “ซัดไปที่จุดเดียว ทำลายมันให้ได้!”
ผู้อาวุโสทั้งห้าของตระกูลเสี่ยเสินรับคำสั่งด้วยท่าทางน่ากลัว คลื่นหลิงขนาดมหึมาแผ่ซ่านไปทั่ว ทำให้ทั่วทั้งภูมิภาคแดงฉาน กลิ่นเหม็นเลือดคละคลุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ตู้ม ตู้ม!
การโจมตีของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายหนึ่งคนและขั้นต้นห้าคน สิ่งนี้แทบจะทำลายโลกแตกสลาย การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ซัดโจมตีจุดเดียวบนปราการน้ำ
เผชิญหน้ากับการโจมตีรุนแรง ปราการก็ผันผวนรุนแรง ระลอกคลื่นแผ่กระจายไปทั่ว
ทุกคนในเมืองลั่วเสินมองไปที่ปราการที่สั่นสะเทือนด้วยความกลัวในสายตา
ทว่าลั่วเทียนเสินดูสงบนิ่งมาก เขามีความมั่นใจในค่ายกลแม่น้ำลั่วนี้ ตราบใดที่พวกเขายังยืนหยัดอยู่ได้ ตระกูลเสี่ยเสินก็จะไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้
“ลั่วหลีใช้เวลานี้ทำให้สำเร็จ” ลั่วเทียนเสินพึมพำเมื่อมองไปที่ลั่วหลีซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ
ตราบใดที่ลั่วหลีประสบความสำเร็จในการพัฒนาดังกล่าว ตระกูลลั่วเสินก็จะเป็นปึกแผ่นอย่างแท้จริง ในเวลานั้นพวกเขาสามารถต่อสู้กับตระกูลเสี่ยเสิน เขาไม่เชื่อว่าตระกูลเสี่ยเสินจะยอมจ่ายราคามหาศาลเพื่อต่อกรกับตระกูลลั่วเสินของพวกเขา เพราะแบบนั้นจะทำให้ตระกูลลี่เสินและตระกูลกู่เสินได้รับประโยชน์จากการต่อสู้ครั้งนี้แทน
ด้วยความเข้าใจของลั่วเทียนเสินที่มีต่อตระกูลเสี่ยเสิน พวกเขาไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน
ฟู่ ฟู่!
ราวกับลั่วหลีได้ยินเสียงของลั่วเทียนเสิน เปลวไฟบนร่างนางก็ลุกโชนเป็นพายุไซโคลนเพลิง
ในพายุหมุนนี้ดอกไม้เพลิงที่เย้ายวนบินฉวัดเฉวียนไปมา
“ท่านบรรพบุรุษโปรดปกปักตระกูลของเราด้วย!”
ลั่วหลีกำมือแน่น เลือดสีแดงเข้มหยดลงจากปลายนิ้ว นางพึมพำราวกับกำลังขอพร
แปะ!
หยดเลือดทิ้งตัวลงสู่แม่น้ำลั่วจมลึกลงไป
ตู้ม!
ทันใดนั้นแม่น้ำลั่วก็เดือดพล่าน ดอกไม้เทพธิดาบินออกไปรวมตัวกันอยู่ด้านหลังลั่วหลี ก่อตัวเป็นเงาแสง
ภาพเงาช่างบอบบาง แม้จะเลือนรางแต่ก็ยังงดงามจนใจสั่น
รัศมีโบราณเปล่งออกมาจากร่างเงานั้น
เมื่อภาพเงาปรากฏขึ้นทุกคนในเมืองลั่วเสินก็เปลี่ยนสีหน้า นั่นเป็นเพราะขณะนี้พวกเขารู้สึกถึงจุดกำเนิดของสายเลือด
“นั่นคือ…ท่านบรรพบุรุษลั่วเสินเรอะ?!”
เสียงที่น่าตกใจของลั่วเทียนเสินดังขึ้น เขามองดูเงาด้านหลังของลั่วหลีโดยไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยน้ำตา ใครจะคิดได้ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาจะปรากฏเมื่อตระกูลลั่วเสินกำลังจะถึงกัลปาวสาน
ภาพเงามองมาที่ลั่วหลีแล้วคลี่ยิ้ม เสียงหัวเราะเบานั้นทำให้ทุกสรรพสิ่งเงียบลง
ภาพเงาแตะนิ้วที่กึ่งกลางคิ้วของลั่วหลี
คลื่นหลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็พุ่งเข้าสู่ห้วงแห่งจิตของลั่วหลี
“นั่นคือ…มรดกของลั่วเสิน?!”
ผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลสาขามองดูเหตุการณ์นี้ด้วยความอิจฉา พวกเขาไม่คิดว่าพิธีของลั่วหลีจะแตะถึงระดับสูงสุดนี้!
แค่ดอกไม้เทพธิดาก็ยังรับได้ แต่ทำไมกระทั่งท่านบรรพบุรุษยังปรากฏตัวและมอบมรดกให้ลั่วหลี!
“บรรพบุรุษผู้เป็นหนึ่ง! ทุกคนถวายบังคมองค์จักรพรรดินี!”
ชาวเมืองทุกคนรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง พวกเขาคุกเข่าหมอบคลานพร้อมกับเสียงดังแสบแก้วหู
เมื่อเสี่ยหลิงจื่อเห็นสิ่งนี้ใบหน้าก็มืดมนพร้อมกับร่องรอยความกลัวผุดขึ้นในส่วนลึกของดวงตา
ลั่วหลีตรงหน้าทำให้เขารู้สึกถึงภัยคุกคามแล้ว
เขามองไปที่ปราการที่ยังตั้งมั่นภายใต้การโจมตีดุร้าย ใบหน้าก็กลายเป็นอุบาทว์คำรามลั่น “พวกแกยังไม่ขยับอีกเรอะ?”
เสียงคำรามของเขาดังก้อง ทำให้ดวงตาของลั่วเทียนเสินสั่นไหว มันกำลังเรียกตระกูลลี่เสินกับกู่เสินรึ?
ขณะที่ลั่วเทียนเสินเฝ้าระวังการแทรกแซงของอีกสองตระกูล เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นผู้อาวุโสสามคนจากตระกูลสาขากัดฟันกรอด
ทันใดนั้นคนหนึ่งก็เคลื่อนตัวไปทางแม่น้ำลั่ว
“แกจะทำอะไร?!” ลั่วเทียนหลงที่จับตามองทั้งสามตลอดก็คำรามกร้าว
วาบ!
อีกสองคนจากตระกูลสาขาก็ขยับเข้ามาอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดลั่วเทียนหลงไว้
ตอนนั้นเองผู้อาวุโสที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้แม่น้ำลั่วก็หยิบขวดของเหลวสีดำออกมาแล้วโยนลงไปในแม่น้ำลั่ว
ปัง!
ขวดระเบิดของเหลวสีดำพวยพุ่งออกมาพร้อมกับความผันผวนที่น่าขนพองสยองเกล้า บริเวณที่มันไหลผ่านก็ทำให้แม่น้ำลั่วแข็งค้างขึ้นทันที
เมื่อแม่น้ำถูกแช่แข็งก็เกิดช่องโหวบนค่ายกล ปราการเกิดความผันผวน รอยร้าวปรากฏขึ้นในปราการ
“รนหาที่ตาย!” ลั่วเทียนเสินคำรามกับภาพเบื้องหน้า เขาไม่คิดว่าคนตระกูลสาขาจะไร้ยางอายขนาดนี้
เห็นได้ชัดว่าพวกมันร่วมมือกับตระกูลเสี่ยเสินมานานแล้ว!
ปัง!
คลื่นหลิงที่น่ากลัวระเบิดออกมาจากร่างลั่วเทียนเสิน สายตาจ้องมองผู้ทรยศทั้งสามแล้วพุ่งเข้าใส่
วาบ!
แต่ขณะที่เขาเคลื่อนไหว คลื่นโลหิตก็ซัดเข้ามา เสี่ยหลิงจื่อพุ่งเข้ามาในเมืองลั่วเสินสกัดกั้นลั่วเทียนเสินเอาไว้
“จุ๊ๆ ลั่วเทียนเสินแกดีใจเร็วเกินไป!”
เสี่ยหลิงจื่อขวางทางลั่วเทียนเสินไว้ จากนั้นก็แสยะยิ้มพลางตะโกน “ทำลายพิธีเทพธิดาลั่ว!”
ชัดว่าเขากำลังพูดกับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นทั้งห้าของตระกูลเสี่ยเสิน
วาบ! วาบ!
เมื่อสิ้นเสียง ทั้งห้าที่กำลังพยายามขยายรอยร้าวก็แบ่งสามคนพุ่งเข้ามาด้วยรัศมีโลหิต
“ใครคิดขัดขวางองค์จักรพรรดินีต้องตาย!”
ขณะที่พวกเขาพุ่งไปหาลั่วหลีi เสียงคำรามนับไม่ถ้วนดังก็กึกก้องเบื้องหน้า ลั่วชิงหยาและลั่วซิวพุ่งเข้ามาพร้อมกับกองทัพ ทะยานเข้าใส่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นทั้งสาม
“ฮึ่ม ช่างเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์!”
หนึ่งในนั้นเค้นเสียงเย็น คลื่นหลิงสีแดงเข้มที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากร่างเขา เขาสามารถสกัดลั่วชิงหยาและลั่วซิวด้วยตัวคนเดียว!
อีกสองคนพุ่งเข้าหาลั่วหลีโดยไม่ลังเล
“ปกป้องจักรพรรดินี!”
เงานับไม่ถ้วนพุ่งออกไปก่อตัวเป็นแนวป้องกันเบื้องหน้าลั่วหลี พวกเขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าของตระกูลลั่วเสิน
“ไอ้พวกมด!”
ทว่าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนทั้งสองไม่สนใจสิ่งนี้เลย คนหนึ่งแหวกคลื่นมนุษย์ออกไปแล้วกระทืบเท้าเรียกร่างเวทสวรรค์ออกมา ร่างใหญ่โตเปิดปากดูดดึงคลื่นหลิงในฟ้าดินเข้าไป
โฮก!
อึดใจร่างใหญ่โตก็เปิดปากส่งเสียงคลื่นที่น่ากลัวออกมา จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าเหล่านั้นถูกเป่ากระเด็นออกไป
จอมยุทธ์อีกคนอาศัยช่วงเวลานี้พุ่งผ่านแนวป้องกัน จากนั้นก็สะบัดนิ้ว แสงหลิงยิงไปในทิศทางของแท่นพิธีสีขาว
แท่นสีขาวแตกตกลงไปในแม่น้ำลั่วลอยอยู่บนผิวน้ำ
บนแท่นสีขาว ลั่วหลียังคงนั่งหลับตาอยู่
“ฮ่าๆ ตระกูลลั่วเสินยังมีใครสกัดข้าได้อีก?”
พอเห็นลั่วหลีตกอยู่ในสถานการณ์นี้ จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นที่พุ่งเข้ามาก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ตอนนี้ตระกูลลั่วเสินได้งัดไพ่ตายออกมาทั้งหมดแล้ว งานพิธีเทพธิดาลั่วครั้งนี้ถือว่าล้มเหลวไม่มีชิ้นดี
จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนกำกำปั้นหอกโลหิตก็ปรากฏขึ้น ปลายหอกชี้ไปทางลั่วหลี เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ลังเลที่จะทำลายนางให้สิ้นซาก
ประชาชนที่เฝ้ามองสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปฉับพลันก็ร้องโศกเศร้าเสียใจ หรือว่าตระกูลลั่วเสินจะถึงกัลปาวสานอย่างแท้จริง?
ความโศกเศร้ากระจายทั่วเมืองส่งผลให้ลั่วหลีต้องลืมตาขึ้น ทว่านางได้แต่มองจอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินที่เข้าใกล้เรื่อยๆ นางกำหมัดแน่น เล็บจิกลงบนฝ่ามือ กัดริมฝีปากจนเลือดซึมออกมา
พิธีเทพธิดาของนางจะล้มเหลวแล้วจริงหรือ?
นางต้องการเวลาอีกเล็กน้อย…อีกเล็กน้อยเท่านั้นก็จะสามารถสำเร็จแล้ว!
จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินมองลั่วหลีด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “น่าเสียใจเนอะ จอมยุทธ์อัจฉริยะหญิงแห่งตระกูลลั่วเสินต้องมาตายด้วยน้ำมือข้าหรือเนี่ย?”
“ตายซะ นังเวร!”
สายตาเขาเย็นยะเยือก หอกโลหิตพุ่งออกมาโดยไม่ลังเล พุ่งทะลุมิติเล็งไปที่กลางหว่างคิ้วของลั่วหลี
เมื่อหอกเสือกแทงออกมาทั่วเมืองก็เงียบกริบ ประชาชนมากมายล้มลงด้วยความสิ้นหวัง
ลั่วชิงหยาและลั่วซิวคำรามลั่น ขณะที่เรียกใช้รัศมีจั้นยี่พยายามที่จะทำลายการกีดขวางของศัตรูเบื้องหน้า
ลั่วเทียนเสินที่ถูกเสี่ยหลิงจื่อขัดขวางเอาไว้ก็ครางเสียงเศร้าหมอง
ลั่วเทียนหลงถูกบีบจากจอมยุทธ์สองคนจนขยับไม่ได้
ลั่วหลีกัดริมฝีปาก รอยเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
ฮึ่ม!
หอกสีแดงฉีกผ่านมิติ
ตู้ม ตู้ม!
ทว่าจังหวะนั้นเมื่อหอกมาปรากฏต่อหน้าลั่วหลี ทุกคนก็ได้ยินเสียงระเบิดแสบแก้วหูดังขึ้นฉับพลัน
จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินก็เหมือนสัมผัสได้ สีหน้าเปลี่ยนไป
ปัง!
วินาทีที่เขาสัมผัสได้ มิติเบื้องบนเขาก็ระเบิด สายฟ้าสีดำพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
เร็วมากจนเขาไม่สามารถหลบได้ อึดใจต่อมาแสงสีดำก็กระแทกลงบนร่างเขาอย่างรุนแรงท่ามกลางใบหน้าที่อัดแน่นด้วยความตกใขหวาดผวา
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังกึกก้อง จากนั้นทุกคนก็ตะลึงไปเมื่อเห็นพื้นผิวแม่น้ำลั่วยุบลง คลื่นสูงหมื่นจั้งพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วโปรยปรายลงมาราวกับพายุฝน
“นั่น…นั่นมันอะไร?”
ทุกคนตกใจกลัวกับฉากนี้
จอมยุทธ์ตระกูลลั่วเสินและเสี่ยเสินก็หยุดการปะทะทันทีและมองไปทิศทางนั้นด้วยสายตาตะลึงงัน
เมื่อพายุฝนโปรยปรายลงมาจนหมด พวกเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจน
จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินหายใจพะงาบๆ บนพื้นผิวของแม่น้ำมีร่างเงาหนึ่งยืนอยู่บนแผ่นหลังเขา มือข้างหนึ่งตะปบบนศีรษะ ขณะที่หัวเข่าข้างหนึ่งกดลงบนหลัง
เบื้องหน้าพวกเขาคือแท่นพิธีสีขาวที่ลอยอยู่บนแม่น้ำ
ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง!
“ใคร…นั่นใครกัน?”
เสียงตื่นตกใจดังขึ้น จอมยุทธ์ชุดดำที่ปรากฏขึ้นฉับพลันทำให้พวกเขาตกตะลึงไป
พายุยังคงโหมกระหน่ำ ท่ามกลางเสียงตกตะลึงนับไม่ถ้วน ลั่วหลีก็อึ้งไปเมื่อมองร่างเงาที่พลิ้วตัวลงมาจากท้องฟ้า
ในไม่ช้านางก็หายจากอาการตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นอย่างช้าๆ
ความไม่เชื่อสายตากระจายบนใบหน้าของนาง
พายุฝนโปรยปรายลงมาตรงหน้า ร่างเงาชุดดำที่ตึงร่างจอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินไว้ก็เงยหน้าขึ้นในเวลานี้ เขามองความงดงามเบื้องหน้า รอยยิ้มอ่อนโยนก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา
เขาเอามือข้างหนึ่งแตะบนหน้าอกก้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วยิ้ม
“จักรพรรดินีที่รักของข้า… องครักษ์ของเจ้า…มาถึงแล้ว!”