The Great Geneticist in Apocalypse - ตอนที่ 82 ถึงวันพักบาเรียแล้วสิ
ตอนที่82 ถึงวันพักบาเรียแล้วสิ
ยุคปีที่ 0 เดือนที่ 0 วันที่ 7 แดงส่องอย่างอบอุ่นประหนึ่งวันที่ได้รับพรแห่งการพักผ่อน แต่บรรยากาศกลับอัดแน่นไปด้วยพลังงานบางอย่าง ไปทั่วทั้งโลก
ในรุ่งเช้าของวัน นักสู้ใหม่ทั้ง 3 คน เดินทางไปยังหอสังเกตการณ์และเฝ้าระวังอย่างเงียบขรึม เมื่อวานเบลซและเพื่อนก่อสร้าง ได้สร้างหอสังเกตการณ์จากต้นไม้ 3 แห่ง ในแต่ละทิศของกําแพงยกเว้นฝั่งที่ติดกับแม่น้ํา(ทิศตะวันตก) ซึ่งแต่ละแห่งจะสามารถมองออกไปไกลได้ถึง800เมตรและวัตถุใหญ่ๆหรือฝูงสัตว์ราว2กิโลเมตร
เนื่องจากกาลังคนมีจํากัด เขาจึงส่งคนประจการหอไปเพียงหอคอยละ 1 คนเท่านั้น งานของพวกเขาเหมือนกัน เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรและส่งสัญญาณ เพื่อเตือนนักสู้ที่ป้องกันอยู่ข้างล่าง
ในขณะเดียวกันนักสู้หน่วยที่ 1 2 และ 3 ภายใต้การบัญชาการของเบลซ หน่วยที่1 มีชิ้นเป็นหัวหน้า เอมิเลียเป็นรองหัวหน้า และ เดฟ เป็นนักธนูสนับสนุนกับนักสู้อีกไม่กี่คน
หน่วยที่2 จางม่เป็นหัวหน้า อิฟฟราเป็นรองหัวหน้า และดาเป็นผู้ช่วยแนวหน้า และเดวิดว่าการทะลวงฟัน
หน่วยที่3 มีเรย์ลินเป็นหัวหน้าและเซลินเป็นรองหัวหน้า มีเมิ่งหยิ่งหยิ่งและรินเป็ นสมาชิกหน่วยนี้ค่อนข้างพิเศษเนื่องจากเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เมื่อกําแพงทิศไหนมีปัญหาในการป้องกันพวกเขาก็จะเคลื่อนที่เข้ามาช่วยและใช้พลังธาตุพืชชะลอการป้องกันและให้พืชรอบๆมาซ่อมแนวป้องกันบางส่วนและช่วยชะลอการเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรได้ โดยให้ควบคุมหญ้าที่พื้นมาพันขาพวกสัตว์อสูร
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของฐาน ทําให้สัตว์อสูรไม่สามารถบุกมาทางทิศตะวันตกได้แม่น้ํากั้นอยู่หากมันบุกมามันจะไม่ต่างไปจากเป้านิ่งให้พวกเขาเก็บเกี่ยวฟรีๆ เบลซให้นักสู้เพียงสองคนคอยเฝ้าเอาไว้ถ้าพวกมันโง่บุกมาทางนี้จริงๆคงได้สนุกแน่ ในทํานองเดียวกันทิศเหนือติดกับเทือกเขาขนาดใหญ่มันยากที่จะมีสัตว์อสูรผ่านมาทางนั้นและเจอฐานของเขาพอดีแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีกลุ่มเล็กๆบุกมาทางนี้ได้ และกลุ่มเล็กๆนี้พวกมันก็ต้องแข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยอยู่บ้างไม่งั้นคงข้ามเทือกเขามา ไม่ได้ดังนั้นใช้จํานวนคนน้อยแต่ต้องมีคุณภาพจึงมีแค่ตัวเค้าเองกับเอลลี่ก็พอ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ห่วงมากนัก
ด้านที่ต้องให้ความสําคัญหรือเป็นห่วงมากที่สุด คือ ด้านทิศตะวันออกที่ติดกับป่าและด้านทิศใต้ที่ ติดกับทุ่งหญ้าที่มีต้นไม้เล็กน้อย อยู่ใกล้กับถนนมากที่สุดและเป็นทางไปสู่เมืองออโรร่า ซึ่งความโล่งของมันที่ให้สัตว์อสูรบุกมาครั้งละมากๆได้ส่วนป่าก็ถึงจะไม่มากเท่าแต่ก็อยู่ในจํานวนที่ค่อนข้างเยอะและหอสังเกตการณ์ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเป็นจุดที่เขาให้ความสนใจ และเตรียมการป้องกันหลังแนวป้องกันเป็นหลัก สัตว์อสูรจํานวนมากที่จะมาบุกอยู่ ก็เหมาะจะใช้ฝึกฝนนักสู้ของเขาหลังจากผ่านการป้องกันครั้งนี้ไปได้เบลซจะจัดตั้งกองกําลังขนาดเล็กขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้เบลซจะเป็นผู้บัญชาการสูงสุดและป้องกันประตูด้าน ทิศเหนือของฐานชิ้นเป็นผู้บัญชาการหน่วยที่ 1 ป้องกันประตูด้านทิศใต้ของฐาน ส่วนประตูด้านทิศตะวันออก จางม่เป็นผู้บัญชาการและป้องกันประตูทิศนี้
เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับประตูทุกด้าน นอกจากหอสังเกตการณ์แล้วเบลซยังมีไพ่ใบสุดท้ายของเค้าก็คือ ลูกกรงศิลา ซึ่งถูกเตรียมไว้หน้าประตูทุกด้าน หากไม่สามารถป้องกันประตูได้ก่อนที่ประตูจะแตกให้ส่งสัญญาณมากและเบลซจะจัดการใช้สิ่งนี้กวาดพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว
ในด้านหน้านอกของกําแพง กับดักและแนวป้องกันที่2ถูกเตรียมในพื้นที่รอบฐาน หนามศิลาที่ออกมาจากแนวป้องกันจะเป็นปัญหาใหญ่สําหรับสัตว์อสูรที่คิดจะบุกเข้ามาแน่นอน
ผู้รอดชีวิตรวมถึงนักสู้ที่ใช้ธนูที่ยืนบนกําแพงและหอสังเกตการณ์ให้อยู่ในฐาน นอกจากจะได้รับอนุญาตจะเบลซชิ้น จางมู่หรือเรย์ดินแล้วถูกห้ามไม่ให้ออกจากฐานเด็ดขาด ฝูงสัตว์อสูรที่จะบุกเข้ามาโจมตีฐาน จะมากเป็นช่วงและไม่เสมอไปบางครั้งถ้าเกิดว่าโชคดีก็อาจจะไม่มีสัตว์อสูรมาบุกก็ได้แต่โดยปกติแล้วทันทีที่บาเรียหายไป สัตว์อสูรจะรู้ได้ในทันทีและจ่าฝูงมักจะผลักดันให้ทําลายฐานทั้งหมดเพื่ออาหาร และพลังชีวิตจํานวนมากในการวิวัฒนาการของพวกมัน ดังนั้นเมื่อวานนี้ เค้าจึงเลือกที่จะทําลายฝูงสัตว์อสูรใกล้ๆฐานออกไป
ยุทธศาสตร์การป้องกันของฐานถูกจัดเตรียมตามข้อเสนอของเพื่อนๆถึงแม้ว่าเบลซจะเป็นคนวางแผนหลักๆเกือบทั้งหมดก็ตาม แผนการป้องกันค่อนข้างยืดหยุ่น เนื่องจางหน่วยของเรย์ลินสามารถไปช่วยด้านไหนก็ได้ และถ้าฉุกเฉินจริงๆเบลซสามารถขี่ซีฟอสตามไปสมทบได้ในทันที นอกจากนี้เบลซได้จัดตั้งกองอาสาชั่วคราวขึ้น โดยสมาชิกฐานทุกคนได้รับการฝึกใช้ปาหอกเบื้องต้นแต่ว่าเบลซไม่ได้ให้พวกเขาต่อสู้หน้าที่หลักๆของพวกเขาคือคอยส่งน้ําส่งอาหารขนผู้นั้นนี่ไปๆมาๆให้นักสู้ที่ประจาแนวป้องกันหรือเรียกว่าเป็นหน่วยโลจิสติกที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราวนั้นเอง เพื่อให้สามารถขนของไปมาได้และนอกจากนี้ยังขึ้นไปบนกําแพงเขวี่ยงหอกสนับสนุนได้อย่างดี
หน่วยอาสาชั่วคราวจะประกอบไปด้วยสมาชิกฐานทุกคนที่ไม่ได้มีหน้าที่ในการต่อสู้ มีเนี่ยนโหยวโหยวและกี้หนานเป็นผู้บัญชาการชั่วคราวและรองผู้บัญชาการชั่วคราว พวกเขาถูกส่งไปประจํากลางฐานพร้อมกับทรัพยากรที่พร้อมจะส่งมาที่แนวป้องกันด้วยความเร็วสูงสุด โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งถืออุปกรณ์ปฐมพยาบาลนําโดยไล่ล่าเนื่องจากตอนนี้เธอได้เป็นนักปรุงยาฝึกหัด เธอได้ปรุงยาฟื้นฟขนาดเล็กออกมาสิบขวดและมีทักษะการปฐมพยาบาลเล็กน้อย
กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มจัดการวัสดุ ดูแลโดยอี้หนาน รับผิดชอบในการขนส่งลูกศรและหอกขว้าง
กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มเก็บรวบรวมอาหารดูแลโดยเนี่ยนโหยวโหยวเองทําหน้าที่ เคลื่อนย้ายศพสัตว์อสูร เพื่อเก็บเกี่ยวหนัง เนื้อและชิ้นส่วนอื่นๆที่มีประโยชน์ของพวก มันและเบลซได้ให้ผู้ชายแรงดีไปช่วยในการขนด้วยอีก5คน
กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มท่าอาหาร รับผิดชอบโดยกลุ่มคนครัวที่พึ่งสมัครเข้ามาช่วยเมิ่งหยิ่งหยิงกับรินดูแลเรื่องการส่งอาหารและน้ําดื่มเพื่อสนับสนุนทุกคน
ด้วยเหตุนี้วันนี้สมาชิกของฐานทั้งหมดถูกจัดให้ทําหน้าที่ในการป้องกันทั้งหมด ในความคิดของเบลซ การพักบาเรียครั้งแรกนี้นอกจากการต่อสู้ การจัดการ และการขนส่งที่เหมาะสมย่อมส่งผลต่อชัยชนะที่จะเกิดขึ้นอย่างมาก และจะเป็นประสบการณ์สําคัญของสมาชิกฐานทุกคน
เมื่อเวลา 7.30 น. ทุกคนได้ทานอาหารเช้าของพวกเขาเสร็จสิ้น และไปประจำตำแหน่งของพวกเขา
เบลซยืนอยู่ด้านซ้ายของประตูด้านทิศเหนือ ถัดจากเขาเป็นเอลลี่และเจ้าดาบน้อย
“เบลซซซ นายคิดว่าสัตว์อสูรกลุ่มแรกจะมาถึงเมื่อไหร่อะ” เอลลี่ถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นปนๆกระวนกระวายเล็กน้อย
“เร็วๆนี้หละไม่เกินครึ่งชั่วโมงน่าจะเห็นพวกมันจะปรากฏตัวขึ้นมา ส่วนพวกมันจะมาบุกพวกเรารึปล่าว.. คงจะขึ้นอยู่กับพลังและความอยากของพวกมัน”
เวลา 8.00 น. มีประกาศจากระบบดังออกมาในทันที
“ประกาศระดับฐาน : บาเรียได้ดําเนินการป้องกันมาถึงขีดจํากัดแล้วและจําเป็นต้องปิดพักเป็นระยะเวลา 1 วัน สัตว์อสูรสามารถรุกรานเข้ามาในฐานได้ในระหว่างนี้ จากวันและเวลาที่เหมาะเจาะ ยินดีด้วยวันพักบาเรียของทันตรงกับวันของสัปดาห์แรกของยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการ สัตว์อสูรจะมีความกระหายมากกว่า7วันที่ผ่านมาจะเริ่มขึ้นในเวลาเดียวกันนี้ ด้วยความปรารถนาดี ขอให้ได้รับชัยชนะ”