ตอนที่77 หยุดได้แล้วนะ

“หยุดนะไอบ้านายเป็นอะไรของนายเนี่ย” เอลลี่ตะโกนเสียงดังเธอวิ่งเข้ามาคว้าแข นของเบลซไว้

“อะไรน่ะ!?” เบลซตวาดกระชากแขนทิ้ง เอลลี่กระเด็นไปพร้อมกับด้วยตาที่ไม่ อยากเชื่อและตื่นตระหนก

ตอนนั้นเองแววตาของเบลซกลับมากระจ่างใสเหมือนเดิมออร่าสีโลหิตสลายหาย ไป มุมมองปกติกลับมาสู่ครรลองสายตาที่ควรจะเป็น

“ดาบน้อย!”

“โกร็ววววว” ซีฟอสรู้ใจของเบลซในทันที่มันพ่นไวเวิร์นสายลมและเพลิงรวมกัน และพุ่งใส่หมาป่ามงกุฎวชิระโลหิตด้วยความเร็วสูง

มังกรวายุผงาดโลกันต์!

“ตุ้มมมมมม” ไวเวิร์นเพลิงตัวเขื่องกลิ่นกินหมาป่ามงกุฎวชิระโลหิตเข้าไปในทะเล เพลิงทันที

“ซีฟอสสังหารหมาป่ามงกุฎวชิระโลหิต<เลือด สายฟ้า>(เขียวอ่อน) ได้รับเหรียญ ชีวิต 34 เหรียญและดรอปทักษะ <จันทราโลหิต> ไว้ในคริสตัลของมัน

เบลซหันกลับไปช้อนตัวเธอขึ้นมาในอ้อมแขน ไร้ซึ่งคําพูด เค้าไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดีไปพักนึ่ง สีหน้าของเค้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “เออ ขะ ขอโทษ”

“ฮึก…ฮึก…” เอลลี่สะอึกสะอื่นเล็กน้อย

“เออ คือ” ยังไม่ทันจะพูดอะไรเอลลี่โผเขากอดเค้าแน่นเหมือนกับไม่อยากให้เค้า จากไปไหนอีก เบลมองไปที่ใบหน้าของเธอ ตาของเธอเปียกชื้น เธอกอดเบลซแน่น “นายท่าฉันเป็นห่วงนะ นึกว่าเป็นอะไรไปซะอีก”

“ผมขอโทษ”

“ฮี! นายดูหน้ากลัวมากครั้งหน้าห้ามทําอีกนะ” เอลลี่สั่งถึงแม้ว่าตาจะยังแดงอยู่แต่ว่าอารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นแล้ว

“เออ… จะว่ายังไงดีหละจริงๆแล้วมันเป็นพลังของฉันหนะนะ” เบลซพูดแล้ว อธิบายถึงพลังอาชูร่าของเขา

“งั้นนายต้องฝึกให้มากๆนะ ถึงจะดูน่ากลัวก็เถอะ ควบคุมอารมณ์หน่อยสิ!” เอลลี่พูดด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์

“เฮ่ พวกนายเป็นอะไรรึปล่าว” เรย์ลินกับเซลินและอฟฟราได้มาถึง เห็นเบลซอยู่ไกลเลยตะโกนถาม

“ปล่อยฉันลงได้แล้ว” เอลลี่พูดด้วยท่าทางเขินอายแล้วลงยืนเหมือนปกติ

“ฉันสบายดี” เบลซ์ตอบ

“งั้นก็ดีแล้วแต่ว่าเมื่อกี้มันอะไรหนะหัวหน้าผมรู้สึกถึงรังสีหน้าหวาดกลัวมาจากแถวนี้ระหว่างที่ผมถ่าลังสู้อยู่” อิฟฟราถามด้วยความสงสัย

“นั้นสิเจอตัวอะไรเข้าหรอ” เรย์ลิ่นเสริม

“เอาเถอะไว้ทีหลัง ตอนนี้ที่นี่เต็มไปด้วยเลือดเดี๋ยวพวกสัตว์อสูรตัวอื่นก็จะมาแล้ว รีบเก็บกวาดสนามรบก่อน เก็บคริสตัลเป็นหลักส่วนซากสัตว์อสูร เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะขนหมด ขนแค่ซากของหมาป่ามงกุฎวชิระโลหิตกับหมาป่าสายฟ้าเดือดพอ

“โอเค” แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเก็บกวาดสนามรบและรับสิ้นสงคราม

หลังจากจัดการเสร็จทุกคนก็ขี่สัตว์อสูร ก็รีบออกจากบริเวณที่เกิดการต่อสู้ทันที และรีบวิ่งกลับฐาน

“เกิดอะไรขึ้น?” ชินถามหลังจากเห็น เบลซกับเอลลี่กลับมาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน เรย์ดินและอิฟฟราต่างก็ได้รับบาดเจ็บ และเซลินที่ได้รับบาดเจ็บภายในเล็กน้อย แต่ตัวของทุกคนต่างก็เปื้อนเลือดเหมือนพึ่งผ่านศึกใหญ่มา

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ก่อนอื่นพวกนายช่วยกันขนพวกนี้ไปเก็บก่อน” เบลซชี้ไปที่ซากของหมาป่ามงกุฎวชิระโลหิตและซากหมาป่าสายฟ้าเดือดอีกสองตัว พวกมันสองตัวถูกซีฟอสใช้กรงเล็บจิกเอาไว้แล้วแบกขึ้นมาบนท้องฟ้าพร้อมๆกับเบลซ ส่วนอีกตัวเป็นหน้าที่ของสเกียแน่นอนว่าสัตว์อสูรสงครามทั้งสองตัวถึงกับเหนื่อยหอบจนทันทีที่ร่างถึงฐานก็ล้มตัวลงนอนพักเลยที่เดียว

เบลซ์และคนอื่นๆที่ออกไปสู้กับฝูงหมาป่าได้กลับไปพักที่บ้าน เบลซเริ่มอาบน้ําเอาเลือดที่เปื้อนอยู่บนตัวออก

หลังจากอาบน้ําแต่งตัวเสร็จเบลซเดินออกมาบิดขี้เกียจและล้มตัวลงนอนพักสองชั่วโมงต่อมา

“หาววววว” เบลซ์ตื่นขึ้นมาจากการปลุกของจางม่ เค้าลุกขึ้นแล้วถามว่า “ตอนนี้กี่โมงแล้ว”

“ประมาณบ่ายสองบ่ายสาม”

“อืม แล้วคนที่คิดจะต่อสู้เป็นยังไงบ้าง”

“ก็….พอได้ถึงแม้ว่าทักษะการต่อสู้แค่กลางๆแต่ก็พอถูๆไถๆได้ ส่วนความกล้าอันนี้ยังไม่ได้ทดสอบต้องลองอีกที”

“เอาเถอะ งั้นไปลองตอนนี้เลย” พูดแล้วก็เดินออกไปข้างนอก

“นายจะไม่เหนื่อยไปหรอ?” จางม่ถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่หรอกอย่าลืมสิว่าฉันฟื้นตัวเร็วกว่าคนอื่นตั้งเยอะไปหละ” เบลซพูดยิ้มๆพลางโบกมือ

“เฮ้ย หมอนๆจริงเลย” จางมู่พูดพลางถอนหายใจ

เบลซ์เดินเข้ามาที่โรงฝึก สิ่งที่เขารู้สึกประทับใจก็คือ สิบคนที่กําลังมุ่งมั่นพัฒนา ฝีมือของตนเอง เบลซยิ้มแล้วกล่าวว่า “เอาหละผมรู้ดีมากแล้วก็ขอบคุณทุกคนที่พยายามฝึกฝนกัน ทักษะที่ดีจะทําให้พวกคุณต่อสู้ได้ดีขึ้นและโอกาสรอดก็จะมากขึ้น โอกาสบาดเจ็บล้มตายก็น้อยลง แต่ว่าหากมีแต่ทักษะแต่ไร้ซึ่งประสบการณ์และความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับแรงกดดันหละก็ มันก็ไม่มีประโยชน์เพราะพวกคุณจะไม่สามารถใช้ศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ดังนั้นผมจะให้พวกคุณฝึก อีก5นาทีมาเจอผมที่ลานกว้าง”

“โอ้ชช!” นักสู้ทั้งสิบตอบ

เบลซเดินไปดูเจ้าดาบน้อยพลางเปิดค่าสถานะของตัวเอง

“แรงของเจ้าดาบน้อยฟื้นขึ้นมาแล้วถึงจะยังไม่เต็มแต่ก็เหลือเพื่อกับการไปฝึกซ้อม” เบลซพูดอย่างสบายใจขณะที่เจ้าดาบน้อยตื่นขึ้นมามันกระพริบตา หันหัวไปมาด้วยความดีใจหลังจากที่ตื่นมาเห็นเบลซ

“โฮะๆ ไปกันเถอะ” เบลซพูดพลางหยิบคริสตัลสีแดงเลือดที่มีใจกลางเป็นสีเหลือง มีเส้นไฟฟ้าแลบไปแลบมาอยู่รอบๆใจกลางและมีสัญลักษณ์ดวงจันทร์สีเลือด คริสตัลมีประกายสีเขียวอ่อนบ่งบอกถึงระดับของมัน

“มันมีธาตุที่ตรงกับฉันถึงสองธาตุ ถ้าเกิดว่าดูดซับไปจะได้แต้มวิวัฒนาการเป็นสองเท่ารึปล่าวนะ” เบลซถือคริสตัลของมหาป่ามงกุฎวชิระโลหิตขึ้นมาพลางคิด

“คิดไปก็เท่านั้น ลองดูเลยละกัน ดูดซับ”

“ท่านดูดซับคริสตัลสายฟ้าและโลหิต ได้ค่าวิวัฒนาการ+9+10 ได้รับทักษะ<จันทราโลหิต>(เขียวอ่อน)”

“ไหนดูซิ” เบลซเรียกระบบขึ้นมาในใจ

ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ เหรียญชีวิต94เหรียญ

ระดับ14

สิ่งมีชีวิตระดับ เขียวอ่อน(80/100) 4ธาตุบวกค่าสถานะ75%
พลังธาตุ < ไฟ น้ํา สายฟ้า โลหิต>

อาชีพ อาชูร่า(เขียวอ่อน)

อาชีพเสริม นักตัดแต่งยืน

ฉายา

<นายแห่งอสูรอเวจี+5> <มนุษย์คนแรกผู้สังหารสัตว์อสูรสองธาตุ+2>

Strength(แรงกาย) : 39.75[(16)+11.5]

Agility(ความว่องไว) : 34.25[(13)+11.5]

Vitality(พละกําลัง) : 30.75[(11)+11.5]

Stamina(ความทรหด) : 36/36[(14)+11.5]

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 46.5/46.5[(20)+11.5]

ทักษะ

<อควาคัตเตอร์(ขาว)> <ประเมิน(ขาว)> <พิษหัวใจขาว/เขียว> <ภูติเงาเพลิ ง(เขียวอ่อน)> <บทบรรเลงแห่งโลหิต – มังกรวารี่ผสานธาตุ[ทักษะมังกร]> (ล็อค) (ล็อค)(ล็อค)……..

<จันทราโลหิต(เขียวอ่อน)> ซัดจันทร์เสี้ยวโลหิตออกไป+พลังโจมตีธาตุเลือ ด175-200%ใช้Spiritualityครั้งละ3-4แต้ม

สัตว์อสูรสงคราม

ซีฟอส(เจ้าดาบน้อย)

ไวเวิร์นวายุเพลิงโลกันต์(ลูก) ระดับ13

สิ่งมีชีวิตระดับ เขียวอ่อน 2ธาตุบวกค่าสถานะ35%

พลังธาตุ เพลิง ลม

Strength(แรงกาย) : 31.05(23)

Agility(ความว่องไว) : 32.4(24)

Vitality(พละกําลัง) : 48.6(36)

Stamina(ความทรหด) : 29.7/29.7(22)

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10.8/10.8(8)

ทักษะ

<เพลิงอเวจี> <ปีกสายลม(เขียวอ่อน)>

<มังกรวายุผงาดโลกันต์(เขียวอ่อน) [ทักษะมังกร]>

พืชปรสิตดอกเถาพิษโลหิต ระดับ12

สิ่งมีชีวิตระดับ เขียวอ่อน (สามธาตุ+สถานะ50%)

พลังธาตุ <พืช โลหิต พิษ> ระดับเขียวอ่อน

Strength(แรงกาย) : 1.5(1)

Agility(ความว่องไว) : 1.5(1)

Vitality(พละกําลัง) : 73.5(49)

Stamina(ความทรหด) : 1.5(1)

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 1.5(1)

ทักษะ

<พึ่งพาอาศัย> +4.5(3×50%)

<แบ่งพลังธาตุพืช> <ดูดโลหิต> <พิษกัดกร่อน>

“ระดับของฉันก็ยังไม่เพิ่มแฮะ อืม เป็นทักษะที่ดีใช้ได้หละนะ มันใช้กับการวาดอาวุธ คมๆหรือมือเปล่าได้ดี คงจะเป็นทักษะที่วิเศษในบรรดาทักษะทั่วๆไป แต่ว่ายังไงมังกรวารีผสานธาตุก็ยังดีกว่าอยู่ดี ทั้งพลังโจมตีที่แรงกว่าและใช้พลังจิตวิญญาณได้มีประสิทธิภาพมากกว่าอีก แต่ก็ดีในแง่ของตอนที่เราไม่ใช้พลังของอาชูร่า” เบลซพึมพัม ก่อนที่จะรู้สึกพอใจกับทักษะใหม่อยู่สองสามส่วน