นิยาย The Great Geneticist in Apocalypse
ตอนที่68 เริ่มสํารวจเมืองแล้วสิ
ยามเที่ยง
“ถึงเวลาแล้วสินะ” หลังจากที่นอนพักไปเบลซก็ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังที่เต็มเปี่ยมอีกครั้ง
“ระบบ”
ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ เหรียญชีวิต94เหรียญ
ระดับ14
สิ่งมีชีวิตระดับเขียวอ่อน(61/100) 4ธาตุบวกค่าสถานะ75%
พลังธาตุ <ไฟ น้ํา สายฟ้า โลหิต>
อาชีพ อาชูร่า(เขียวอ่อน)
อาชีพเสริม นักตัดแต่งยีน
ฉายา
<นายแห่งอสูรอเวจี+5> <มนุษย์คนแรกผู้สังหารสัตว์อสูรสองธาตุ+2>
<เจ้าโลหิต> เมื่อใช้ระเบิดพลังธาตุโลหิตจะเพิ่มพลังให้ตัวเอง2เท่าและผสานพลังวิญญาณโดยใช้ธาตุโลหิตเป็นหลักได้+พลังโจมตีธาตุที่ผสานอีกธาตุละ25%
Strength(แรงกาย) : 39.75[(16)+11.5]
Agility(ความว่องไว) : 34.25[(13)+11.5]
Vitality(พละกําลัง) : 30.75[(11)+11.5]
Stamina(ความทรหด) : 36/36[(14)+11.5]
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 46.5/46.5[(20)+11.5]
ทักษะ
<อควาคัตเตอร์ (ขาว)> <ประเมิน(ขาว)> <พิษหัวใจขาว/เขียว> <ภูติเงาเพลิง>
<อาชูร่า> ทํางานทุกครั้งที่ใช้พลังของอาชูร่าเมื่อทําร้ายศัตรูจะฟื้นพลังให้ตัวเองตามพลังและบาดแผลที่สร้าง
<บทบรรเลงแห่งโลหิต – บทที่1 มังกรวารีผสานธาตุ[ทักษะมังกร]> ซัดมังกรวารีโลหิตไปข้างหน้าพร้อมอื่นๆ (พลังโจมตีธาตุโลหิต+150%และ<ฉายาเจ้าโลหิต>จะเพิ่มความสามารถเป็น+พลังโจมตีธาตุที่ผสานอีกละ50%) ใช้Spirituality ครั้งละ 5 แต้ม
(ล็อค)(ล็อค)(ล็อค)……..(ล็อคไป เรื่อยๆยาวๆ)
สัตว์อสูรสงคราม
ซีฟอส(เจ้าดาบน้อย)
ไวเวิร์นวายุเพลิงโลกันต์(ลูก) ระดับ124
สิ่งมีชีวิตระดับเขียวอ่อน 2ธาตุบวกค่าสถานะ35%
พลังธาตุ เพลิง ลม
Strength(แรงกาย) : 29.7(22)
Agility(ความว่องไว) : 32.4(24)
Vitality(พละกําลัง) : 48.6(36)
Stamina(ความทรหด) : 29.7/29.7(22)
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10.8/10.8(8)
ทักษะ
<เพลิงอเวจี> <ปีกสายลม(เขียวอ่ อน)>
<มังกรวายุผงาดโลกันต์(เขียวอ่อน) [ทักษะมังกร]>
พืชปรสิตดอกเถาพิษโลหิต ระดับ113694
สิ่งมีชีวิตระดับ เขียวอ่อน (สามธาตุ+ส ถานะ50%)
พลังธาตุ <พืช โลหิต พิษ> ระดับเขียวอ่อน
Strength(แรงกาย) : 1.5(1)
Agility(ความว่องไว) : 1.5(1)
Vitality(พละกําลัง) : 72(48)
Stamina(ความทรหด) : 1.5(1)
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 1.5(1)
ทักษะ<พึ่งพาอาศัย> +4.5(3×50%)
<แบ่งพลังธาตุพืช> <ดูดโลหิต> <พิษกัดกร่อน>
“สงสัยจะเป็นเพราะว่าได้ดูดซับเลือดของมังกรโลหิตทําให้ระดับเพิ่มมานิดหน่อยแฮะ” เบลซคิดแล้วก็เดินออกไปที่ห้องกินข้าวรวมของพวกเขา
“ไงบ้าง ได้ข่าวมาว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนหนิ แอบอู้ยันเที่ยงเลยนะ” เมิ่งหยิงหยิง แซว
“จะว่าไปโหย่วโหย่วกับอี้หนานเหลือแค่พวกเธอแล้วนะที่ยังไม่ได้ปลุกพลังจะปลุกเลยไหม?” เบลซถาม
“ไม่เป็นไรไว้รอให้เจอคริสตัลธาตุที่พวกเราถูกใจดีกว่า” เนี่ยนโหย่วโหย่วพูด
“งั้นก็ได้ แต่ว่าอย่าทิ้งไว้นานนักหละ เดี๋ยวจะเลื่อนระดับไม่ทันเพื่อนนะ” เบลซเตือน
“ขอบคุณนะที่เตือน” อี้หนานตอบ
“จะว่าไปได้ยินข่าวว่าเมื่อคืนนั้นคุณหายไปไหนกับเอลลี่มาหรอคะ?” เอมิเลียถามอย่างมีนัยยะ
“พรึบ!” เพื่อนๆจ้องไปที่ทั้งสองคนสลับไปมาด้วยท่าทางตกตลึงในขณะที่สาวๆบางท่าทางไม่สบอารมณ์แบบไม่มีสาเหตุ
“ฉ่าาา” เอลลี่ก้มหน้าแดงระเรื่อไม่คุยกับใครขณะที่มองเบลซมาเป็นระยะๆ
“ก็…เออ…เก็ไปหาต้นกุหลาบชําระล้างนั้นแหละ” เบลซตอบอย่างตะกุกตะกัก
“แค่นั้นจริงๆหรอคะ?” เอมิเลียตอบอย่างเชื่องช้าประหนึ่งจะเค้นความจริงออกมาให้ได้ๆ
“เออคือว่า…วันนี้เดี๋ยวเราจะไปสํารวจที่เมืองกันนะรถออกประมาณบ่ายๆ ให้อิฟฟรากับอิโนะเฝ้าฐานใช่แล้วๆฉันลืมง้าวไว้ในห้องนอนหนะไปเอาก่อนนะ” เบลซตัดบทและลุกพรวดออกไปจากห้องกินข้าวทันทีนะ
“หึหึ ฮี่ฮี่ หึหึ” เรย์ลินกับจางมู่และชิ้น หัวเราะอยู่ในลําคออย่างมีนัยยะ ในขณะที่สาวๆบางคนมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไป
“ฮึ!” เอลลี่ทําหน้าน้อยใจก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวเที่ยงไม่ยอมคุยกับใคร แต่หงุดงหิดอยู่ในใจ “ฮึยยยะ แค่นี้ก็ไม่กล้ายอมรับ ไอบ้านี้จะขี้อายเกินไปแล้ว แถมยังเดินหนีอีก มันน่าน้อยใจชะมัด”
หลังจากกินข้าวเสร็จพวกผู้ชายก็ออกไปจากห้อง
เอลลี่ก็โดนสาวๆซักถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเบลซทันที
“นี้ๆนายกับเขาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้วหรอ” เอมิเลียถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ใช่ๆ ไปถึงไหนแล้วๆ” เมิ่งหยิงหยิง ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกังวลเป็นพิเศษ
“ฉันยินดีรับฟังเลยหละ” รินพูด
“ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ” เนี่ยนโหย่วโหย่วพูดเชิงท้ารบในขณะที่อี้หนานมองสลับไปมาระหว่างทั้งสองคน
“ฮึ!” เอลลี่มองจิกไปที่เนี่ยนโหย่วโหย่วก่อนที่จะแอ่นอกยิ้มออกมาที่มุมปาก ทําท่าทางประมาณว่า “ฉันได้เปรียบอยู่นะ”
“ฉันจะคอยดูละกัน” เนี่ยนโหย่วโหย่วแก้มป่อง จ้องกลับก่อนจะกลับไปทําหน้าที่ของตน
ขณะเดียวกัน เบลซที่หนีความอายออกมาได้กลับไปที่เลี้ยงอสูรทรายคราม เข้าตักทรายออกมาอีกจํานวนหนึ่งแล้วไปที่ร้านตีเหล็กเพื่อนําไปทําอุปกรณ์ทั่วๆไปอย่างค้อน ขวาน พลั่ว อีเต้อ(พลั่วขุดเหมือง)
“ก็อง แก๊ง ก็อง แก๊ง” เบลซไปยินเสียงตีเหล็กมาแต่ไกลๆเขารู้สึกสนใจขึ้นมาในทันที
“มีใครใช้บริการช่างตีเหล็กนะ” เบลซคิดก่อนที่จะเดินเร็วขึ้นไปที่ร้านตีเหล็ก
เบลซเดินไปที่ใต้ถุนของร้านที่โฮม นครูสช่างตีเหล็กใช้เป็นประจําครั้งนี้มีคนหนึ่งกําลังตีเหล็กอยู่ ส่วนอีกคนกําลังสอนอยู่
แน่นอนว่าคนที่สอนก็คือโฮมุนครูสช่างตีเหล็กและอีกคนที่กําลังฝึกตีเหล็กก็คือ
อิฟฟรา!!
“นายสนใจจะเป็นช่างตีเหล็กหรอ นี่ย?” เบลซถามหลังจากที่อิฟฟราตีดาบเสร็จ ดาบที่เขาดีขึ้นมาได้ทรงแต่ว่ายังดูเบี้ยวๆอยู่และโดนโฮมุนครูสช่างตีเหล็กชี้แนะไปอีกชุดใหญ่
“ก็ใช้หนะสิ เพราะว่าฉันคิดว่าถ้าไม่มีใครสร้างอุปกรณ์เป็นเลยในฐานมันก็ไม่ดีแล้วฉันก็ว่าจะหาอาชีพเสริมอยู่แล้ว” อิฟฟราพูด
“งั้นตั้งใจฝึกหละ ขอให้ได้เป็นช่างตีเหล็กฝึกหัดไวๆก็แล้วกัน” เบลซพูด
“อืม!”
แล้วเบลซก็เดินไปหาช่างตีเหล็กพร้อมกับเอาทรายเหล็กครามไปให้เขาช่วยตีอุปกรณ์ต่างๆ โชคดีที่ว่าเป็นอุปกรณ์ทั่วๆไปเลยทําให้เสียค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 45 เหรียญชีวิตเท่านั้น
“พรุ่งนี้นายมารับพวกอุปกรณ์พวกนี้แทนฉันได้เลยนะ นายกับอีฟฟราก็ช่วยๆ กันตัดไม้ ขุดหินด้วยหละ ไม้และหินชุดแรกจะเป็นบ้านของพวกนายก่อนเลย” เบลซพูดในเมื่อเขาขอให้ทั้งสองคนช่วยกันหาทรัพยากรดังนั้นพวกเขาก็ควรจะได้ก่อนส่วนหนึ่ง
“ตกลง” อิฟฟราพยักหน้ารับ
เบลซได้ไปที่รถบัสและเริ่มชาร์จพลังไฟฟ้าเพิ่มอีกครั้ง รอบนี้เค้ามีSpiritualityมากกว่าครั้งก่อนมากดังนั้น เค้าเลยเต็มพลังงานให้รถบัสจนขีดพลังงานเพิ่มไปที่50%
หลังจากผ่านไปไม่นานก็ถึงเวลาบ่าย เบลซ ชิน จางมู่ เอลลี่ เอมิเลีย ได้มารวมตัวกันที่รถบัส ส่วน เรย์ลิน เซลิน ริน เพิ่งหยิ่งหยิ่ง และคนอื่นๆ จะอยู่เฝ้าฐาน
และเก็บระดับจากสัตว์อสูรรอบๆ
“งั้นโชคดีนะ” เรย์ลินพูด
“จะรีบกลับมาหละ” เบลซบอกก่อน เพื่อนๆจะขึ้นรถบัส ส่วนเจ้าดาบน้อยเนื่องจากมันตัวใหญ่เกินไปแต่ว่ามันก็บินเร็วถึง40-50กิโลเมตรต่อชั่วโมงแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึงเมืองแล้วดังนั้นให้รถบัสวิ่ง ความเร็วแค่นี้แล้วเข้าจะขี่เจ้าดาบน้อยบินต่ําๆตามไป
“พร้อมนะ?” เอมิเลียถาม
“อืม!” เพื่อนๆบอก
“งั้นไปหละ” เอมิเลียเหยียบคันเร่งร ถบัสได้แล่นสู่ท้องถนนอีกครั้ง
“พรึบบ พรึบบ” ซีฟอสกระพือบินบินต่ําเหนือพื้นเพียง4-5เมตรบินตามรถบัสไป
สภาพของถนนยังดูปกติดีมีเพียงหญ้า และพืชต้นเล็กๆขึ้นแซมตามรอยแยกข้างทางเท่านั้นและมีใบไม้แห้งปกคลุมเล็กน้อยมีบางช่วงที่เจอกับรถไร้เจ้าของจอดขวางถนนเป็นช่วงๆ ซึ่งความจริง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ง่ายๆเพราะแต่เจ้าดาบน้อยก็เคลียร์รถเหล่านั้นออกอย่างง่ายได้โดยใช้กรงเล็บของมันทั้งสองข้างจิกหลังคารถจนทะลุและยกบินขึ้น ไปทิ้งตามข้างทางหรือกลางป่า ใช้เวลา ซัก5-10นาทีถนนก็โล่งเหมือนเดิม
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกับอีกยี่สิบนาที่รถบัสและไวเวิร์นสีแดงก็มาถึงเมืองออโรร่า
MANGA DISCUSSION