The Great Demon System - ตอนที่ 47 : เรื่องเซอร์ไพรส์
สำหรับการเรียนการสอนของห้องเรียนโมบี้และแอ๊บบี้ในวันนี้เป็นหัวข้อปกติที่ไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้แต่อย่างใด
อาจารย์ลีโอกำลังสอนเกี่ยวกับเทคนิคศิลปะการต่อสู้ ซึ่งทำให้โมบี้เบื่อหน่ายอย่างมาก
‘เมื่อไหร่ฉันจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่มีประโยชน์ เช่นผลึกเวทย์มนตร์หรืออุปกรณ์เวทย์มนตร์ ?’ โมบี้คิด
โมบี้ใช้เวลาในห้องเรียนสำหรับฝึกทักษะ ”Eyes of Sin” ของเขา โดยแกล้ง ๆ ว่าเขานั้นกำลังงีบหลับ
โชคดีที่ห้องเรียนของเจย์เดนมีการประลองในวันนี้ ทำให้เขาได้รับ 1,000 XP จากโบนัสของตระกูลปีศาจที่ได้จากคนรับใช้
หลังเลิกเรียนภาคเช้าโมบี้มุ่งหน้าไปยังบริเวณดาดฟ้าเพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับเจย์เดน ทว่าคราวนี้แอ๊บบี้ก็มาร่วมกินกับพวกเขาด้วย
โมบี้และแอ๊บบี้ขึ้นไปบนดาดฟ้าในเวลาที่ต่างกัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นพวกเขามาด้วยกัน
เมื่อทั้งคู่ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็พูดคุยกันเล็กน้อยขณะที่รอให้เจย์เดนมาถึง
“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอแสดงเก่งขนาดนี้” โมบี้กล่าวถึงเหตุการณ์ในตอนเช้าก่อนเข้าเรียนที่แอ๊บบี้ตวาดเสียงดังลั่น
“นายท่านก็ชมฉันมากเกินไปค่ะ… ฉันต้องทำถึงขนาดนั้นก็เพื่อความอยู่รอดของตัวเองด้วย… นับตั้งแต่พี่สาวแสนเลวของฉันจับได้ว่าฉันพยายามเปิดโปงการกระทำของเธอกับพ่อแม่ห่วย ๆ ของฉันแล้วทำให้ฉันถูกเธอทรมานและจนมีแผลเป็นไปตลอดชีวิต ฉันก็ได้เรียนรู้วิธีการควบคุมและแสดงอารมณ์ของตัวเองอย่างเหมาะสม และพยายามทำตัวให้สุภาพและไม่ทำให้ใครโกรธ ซึ่งมันจะช่วยลดการโดนลงโทษของฉันลงเพราะพวกเขาก็จะมีข้ออ้างน้อยลงที่จะทำร้ายฉัน แต่พวกเขาก็มักจะหาสารพัดวิธีเพื่อจะทำร้ายฉันอยู่ดีค่ะ”
“ฉันซ่อนอารมณ์ที่แท้จริงของตัวเองมานานจนแทบจะทำได้อย่างเป็นธรรมชาติเลยค่ะ” แอ็บบี้พูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
“เชิดหน้าขึ้นมา! คิดถึงอนาคต! เธอกำลังพูดถึงคนที่จะต้องตายในไม่ช้าแล้ว! คิดถึงแง่ดีตอนนี้เธอก็มีครอบครัวใหม่ที่ดีกว่าถุงขยะเปียกพวกนั้น! นอกจากนี้ฉันมั่นใจว่าทักษะการแสดงของเธอจะต้องมีประโยชน์มากสำหรับเราแน่ ๆ ในอนาคต!” โมบี้กล่าวพลางพยายามให้กำลังใจเธออย่างเต็มที่
“นายท่าน ขอบคุณที่อวยพรให้กับฉันค่ะ ท่านเป็นแสงสว่างเดียวที่ส่องประกายในชีวิตที่มืดสนิทของฉัน ท่านไม่ปฏิบัติต่อฉันในฐานะคนรับใช้แต่ยังปฏิบัติในฐานะเพื่อนแท้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้สำหรับคนอย่างฉัน ฉันรู้สึกขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ” แอ๊บบี้กล่าวพร้อมกับโค้งคำนับให้เขาอย่างสุดซึ้ง
“มันไม่มีอะไรทั้งหมดนั้นแหละ เป็นเพราะฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ เธอได้พิสูจน์ความภักดีของเธอที่มีต่อฉันมากพอแล้ว” โมบี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำตามความคาดหวังของท่านและพิสูจน์ความภักดีของฉันต่อไปในอนาคต”แอ๊บบี้ตอบโดยยังคงก้มหน้า
“ยังไงก็ตาม เธอรู้ไหมว่าเจย์เดนอยู่ไหนแล้ว ปกติเธอไม่เคยมาช้าเลย… ต้องเกิดอะไรขึ้นกับเธอแน่” โมบี้พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ฉันก็ค่อนข้างกังวลเช่นกันค่ะ… นายท่าน ฉันคิดว่าเราควรติดต่อเธอโดยใช้โทรจิตของพวกเรา” แอ็บบี้แนะนำ
“เป็นความคิดที่ดี! ติดต่อเธอเดี๋ยวนี้เลย” โมบี้ตอบ
“เฮ้ เจย์เดน! เธอได้ยินฉันไหม” โมบี้ถามขณะเปิดการเชื่อมต่อทางความคิดของเขา
“อืม ฉันได้ยิน…” เจย์เดนตอบเหมือนพยายามเก็บซ่อนอะไรบางอย่างอยู่
“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เธอโอเคหรือเปล่า ?” แอ๊บบี้ถามด้วยน้ำเสียงกังวลอย่างชัดเจน
“ฉัน อยู่…ที่ห้องพยาบาล…” เธอตอบกลับช้า ๆ
“จริงเหรอ! เกิดอะไรขึ้น ? เธอเป็นยังไงบ้าง ? ฉันจะรีบไปหาเธอถ้าฉันทำได้ แต่มันอาจทำให้ข่าวลือบ้า ๆ แพร่กระจายไปมากเกิน ฉันขอโทษนะ” แอ๊บบี้พูดเสริมขณะรู้สึกกังวลมากขึ้นกว่าเดิม
“บอกเรามาว่าเกิดอะไรขึ้น… อาการบาดเจ็บของเธอแย่มากหรือเปล่า ?” โมบี้ถามด้วยเสียงจริงจัง
“มันเพราะยัยสารเลวนาตาเลีย เซน! เธอหักทั้งแขนขาของฉันและซี่โครงด้วย ในระหว่างการฝึกซ้อม แล้วยังพูดจาดูถูกฉันตลอดเวลา ฉันอยากจะฆ่ามัน อยากจนพวกนายไม่เข้าใจแน่ ๆ!
“ยัยนั่นมันเอาแต่พูดจาไร้สาระว่าฉันกล้าดียังไงขโมยผู้ชายของมัน อีสารเลวเอ้ย… ผู้ชายของแกอาจเป็นกระดาษชำระที่ฉันใช้เพื่อเช็ดก้นมาตั้งนานแล้วก็ได้ อีชั่ว!”
“กระดูกของฉันได้รับการรักษามานานแล้วเนื่องจากผลการฟื้นฟูของปีศาจ แต่มันจะดูน่าสงสัยเกินไปหากมันหายเป็นปกติดีอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรักษา ดังนั้นฉันจึงพยายามหักกระดูกของฉันอยู่เรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้มันดูน่าสงสัยจนเกินไป!”
“ยัยพยาบาลบ้านี้ก็เหมือนจะขังฉันไว้ที่นี่ตลอดชีวิตเลยมั้ง ตอนนี้ฉันโกรธชิบหายเลยโว้ย!” เจย์เดน กรีดร้องผ่านโทรจิตดังที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทันทีที่เจย์เดนพูดพร่ำเพ้อเป็นเวลานาน เธอก็เริ่มหอบอย่างหนักในการเชื่อมโยงจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามสงบสติอารมณ์หรือหายใจเข้าลึก ๆ
โมบี้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะฟังทุกสิ่งที่เจย์เดนพึ่งจะพ่นออกมา แต่มีอย่างหนึ่งที่เธอพูดที่ทำให้เขาสนใจ
“ไม่ต้องกังวลเราจะทำให้ยัยนั้นต้องชดใช้คืนเป็นล้านเท่าสำหรับสิ่งที่ทำกับเธอ! ถ้าเธออดทนได้ตลอดทั้งเดือนการเอาคืนมันก็จะยิ่งสนุกมากขึ้น! คิดซะว่านี่เป็นการลงทุนเพื่อให้ยัยนั้นตกใจและทุกข์ทรมานในอนาคต!” โมบี้กล่าว โดยพยายามอย่างเต็มที่ที่จะมองในแง่บวก
“อืม ฉันก็คิดแบบนั้น…” เจย์เดนตอบด้วยน้ำเสียงที่หดหู่แต่ก็ยังมีอารมณ์โกรธ
“อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่ายัยนั่นมีแรงจูงใจอะไรในการเข้ามาวุ่นวายกับเธอ เธอคงเคย ”ไปแย่ง” เด็กผู้ชายที่ยัยนั่นชอบและทำให้ยัยนั่นพยายามที่จะแก้แค้นเธอ ฟังแล้วมันช่างดูโง่และไม่มีเหตุผลมากพอที่จะทำร้ายเธอแบบนี้ได้เลย” โมบี้พูดอย่างรังเกียจ
“นั่นก็จริง ฉันควรจะคิดออกก่อนหน้านี้ ความโกรธบังตาฉันมากไปหน่อย ที่นังนี่โกรธฉันจริง ๆเพราะฉันใช้กระดาษชำระของเธอ… นั่นมันเป็นเหตุผลที่โง่ซะจริง เธอไม่ได้พูดถึงชื่อของผู้ชายคนนั้นด้วยซ้ำ เธอเอาแต่พูดว่าผู้ชายของฉัน” เจย์เดนกล่าวขณะรู้สึกรำคาญตัวเองเล็กน้อยที่ไม่คิดเรื่องนี้ออกให้เร็วกว่านี้
“ยังไงก็ตามวันนี้ฉันคงจะไม่ได้ไปกินข้าวกลางวันกับพวกนายทั้งคู่นะ แต่ฉันจะโทรจิตพูดคุยกับพวกนายจนกว่าจะเข้าเรียนช่วงบ่ายเลย โอ้โมบี้! หลังเลิกเรียนฉันมีเซอร์ไพรส์รอนายอยู่เมื่อนายไปที่บ้านฉัน ฉันมั่นใจว่านายจะต้องชอบมัน!” เจย์เดนกล่าวพร้อมหัวเราะเบา ๆ
ในช่วงเวลานั้นหัวของโมบี้เต็มไปด้วยความคิดต่าง ๆ มากมาย เขาไม่รู้ว่าเธอนั้นหมายถึงอะไร แต่แค่ได้ยินคำว่า “นายจะต้องชอบ” อวัยวะส่วนล่างในร่างกายของเขาก็ดูเหมือนว่ามันได้ตัดสินแล้ว
โมบี้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะละทิ้งต่อความคิดเหล่านั้น เนื่องจากเขาเชื่อว่าเจย์เดนไม่ได้คิดกับเขาแบบนั้น แต่เขาไม่สามารถลบความคิดนั้นออกจากหัวของเขาได้ทั้งหมด มันยังคงแอบซ่อนอยู่ในความคิดของเขาและคอยโผล่ออกมาเป็นระยะ ๆ
“ฉันรอดูนะ!” โมบี้ตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง
แอ๊บบี้และโมบี้เล่าให้เจย์เดนฟังเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเมื่อเช้านี้ ว่าทุกคนในห้องเรียนคิดว่าโมบี้เป็นศัลยแพทย์เสริมความงามได้อย่างไร
เจย์เดนเริ่มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนว่าเธอจะลืมความโกรธของเธอก่อนหน้านี้ไปซะแล้ว
ทั้ง 3 คนคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างพักรับประทานอาหารกลางวันผสมกับเล่าเรื่องตลกขบขันไปจนหมดเวลาพัก
************************
หลังเลิกเรียน
โมบี้และเจย์เดนนั่งรถลีมูซีนของเจย์เดนไปที่คฤหาสน์ของเธอ ขณะที่แอ๊บบี้แยกไปนั่งแท็กซี่แทน เพราะมันคงจะแปลกถ้าทั้ง 3 คนไปด้วยกัน
ในระหว่างการเดินทางโมบี้ยังคงพยายามถามถึงสิ่งที่เธอเซอร์ไพรส์เขาอย่างละเอียดและชัดเจน แต่ทุกครั้งที่เขาถาม เธอก็จะตอบกลับมาว่า
“มันเป็นความลับ!” ตามด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างน่ารัก นั่นทำให้ความคิดที่ค้างคาก่อนหน้านี้ของเขาพยายามกลับมาวนเวียนอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาไปถึงคฤหาสน์ของเธอ เจย์เดนก็พาเขามาที่ห้องของเธอทันที
พวกเขาอยู่กันแค่สองคน ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่อยู่กันแบบนี้ แต่คราวนี้มันทำให้ความคิดลามกของ โมบี้เด่นชัดอยู่ในสมองของเขายิ่งกว่าเดิม
เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะฝังความคิดของเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
“รอฉันตรงนี้ก่อน! ฉันเข้าไปแปปเดียว!” เจย์เดนพูดขณะที่เธอหายเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
เมื่อมาถึงจุดนี้โมบี้ยอมแพ้ที่จะต่อต้านต่อความคิดในหัว
‘ไอ้ฮอร์โมนวัยรุ่นเอ้ย!’ เขาคิดในขณะที่เขารู้สึกว่าครึ่งล่างของเขาค่อย ๆ ตื่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม
โมบี้รออยู่ข้างนอกประตูตู้ด้วยความคาดหวังและตื่นเต้น
‘นี่มันจะเป็นครั้งแรกของฉันใช่ไหมนะ ? เธอชอบฉันมาตลอดเวลาจริง ๆ เหรอ ?’ โมบี้คิดอย่างกระวนกระวาย
ทันใดนั้นเจย์เดนก็เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมชุดเดิมแต่ในมือนั้นถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ซึ่งทำให้โมบี้ผิดหวังอย่างมาก แต่ความผิดหวังของเขานั้นอยู่แค่ไม่นาน
“นายเคยบอกฉันว่านายรู้จักเว็บไซต์ที่นายสามารถซื้ออุปกรณ์เวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งได้ ดังนั้นฉันจึงเอาเงินมาให้นาย!” เจย์เดนกล่าวพลางเปิดกระเป๋าเดินทางเผยให้เห็นกองธนบัตรจำนวนมาก