The Great Demon System - ตอนที่ 3 : เป็นคนดีจริง ๆ
เนื่องจากในแต่ละประเทศทั้ง 26 ประเทศนั้นต่างมีโรงเรียนเตรียมทหารเป็นของตัวเอง โมบี้ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศ Z จึงจะต้องเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร Z
พลทหารแฮรี่กำลังพาโมบี้ไปยังสถานีเทเลพอร์ตที่ใกล้ที่สุดเพื่อไปยังโรงเรียนเตรียมทหาร
โชคดีที่สถานีเทเลพอร์ตนั้นอยู่ไม่ไกลจากบ้านของโมบี้มากนัก มันห่างไปเพียงแค่กิโลเมตรเดียวเท่านั้น โมบี้นั้นไม่เคยไปนอกเมืองหรือแม้แต่นอกพื้นที่ของตัวเอง
นั่นหมายความว่าเขาไม่เคยใช้เทเลพอร์ตมาก่อนเลยในชีวิต เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ นั่นทำให้เขาตื่นเต้นอย่างมาก
พลทหารยังคงมองกลับไปที่โมบี้เรื่อย ๆ ด้วยความสับสน
‘ทำไมเด็กคนนี้ถึงดูมองโลกในแง่ดีและตื่นเต้นจัง ? ประวัติของเขาบอกว่าเขาไม่มีความสามารถจึงทำให้เขาถูกรังแกและกลั่นแกล้งอยู่ทุกวัน แต่ทำไมเขาถึงร่าเริงขนาดนี้ ? เด็กคนนี้สติดีรึเปล่านะ‘ แฮรี่คิดเช่นนั้น
หลังจากเดินมา 10 นาที ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานีเทเลพอร์ต มีนักเทเลพอร์ตประมาณ 50 คนจัดเรียงเป็นแถว นักเทเลพอร์ตแต่ละคนมีคนต่อแถวยาวอย่างน้อย 20 คน ทั้งสถานีเต็มไปด้วยผู้คนตั้งแต่ทางเข้าจนถึงด้านใน พวกเขาจะต้องรออย่างน้อยประมาณ 5 นาทีเพื่อให้ถึงคิวของพวกเขา ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงพูดของพลทหารดังขึ้น
“ตามฉันมา”
ขณะที่เขาเข้าไปในพื้นที่ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงของสถานี พวกเขาเดินเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่จะไปถึงส่วนที่ว่างเปล่าของสถานี พื้นที่ตรงนี้มีเพียงเครื่องเทเลพอร์ต 10 เครื่อง แต่เกือบทั้งหมดว่างเปล่า โมบี้พบว่าสิ่งนี้ค่อนข้างแปลกประหลาด แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสถามคำถามนั้น ก็ได้รับคำตอบจากพลทหารก่อนแล้ว
“นี่คือส่วนของทางกองทัพในสถานีเทเลพอร์ต มีเพียงเจ้าหน้าที่ของกองทัพและนักศึกษาวิชาทหารเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้”
พลทหารดึงการ์ดโฮโลแกรมที่มีรูปใบหน้าของโมบี้ออกจากกระเป๋าและส่งให้โมบี้
“รับไปสิเด็กน้อย นั่นคือบัตรนักศึกษาใหม่ของนาย เก็บไว้กับตัวตลอดเวลาและอย่าทำหาย การ์ดใบนี้จะช่วยให้นายสามารถเข้าถึงสิทธิพิเศษมากมายสำหรับกองทัพเท่านั้น ตัวอย่างเช่นมันจะเป็นใบอนุญาตให้นายใช้เทเลพอร์ตเตอร์เพื่อเทเลพอร์ตไปยังเกาะที่โรงเรียนเตรียมทหาร Z ตั้งอยู่”
โมบี้รับบัตรและตรวจสอบ
ชื่อ: โมบี้ เคน
โรงเรียน: โรงเรียนทหารประเทศ Z
อายุ: 16
ชั้นปี: 1
คลาส: ??
แรงค์: ??
แผนก: ??
โมบี้มองดูการ์ดอย่างสับสน เพราะมันมีเครื่องหมายคำถามอยู่มากมายบนนั้น
* เฮ้อ *
“อย่ากังวลกับเครื่องหมายคำถามบนบัตรใบนี้ มันจะอัปเดตข้อมูลของนายโดยอัตโนมัติเมื่อมันพร้อมใช้งาน” พลทหารกล่าวด้วยสีหน้าติดจะรำคาญเล็กน้อย
“ตอนนี้นายไปสแกนบัตรของนายบนเครื่องเทเลพอร์ตและดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
โมบี้ค่อย ๆ เดินไปยังเครื่องเทเลพอร์ตที่ว่างอยู่และสแกนบัตรนักศึกษาของเขา
<การสแกน>
<1%>
<67%>
<100%>
<สแกนสำเร็จ!>
<โมบี้เคน>
<นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1>
<แรงค์ ไม่ทราบ>
<แผนก ไม่ทราบ>
<โปรดเลือกจุดหมายปลายทางของคุณ>
จากนั้นเสียงของพลทหารก็ดังมาจากด้านหลังเขาว่า
“โอเค ตอนนี้เลือกโรงเรียนเตรียมทหาร Z เป็นจุดหมายปลายทางของนาย”
โมบี้พยักหน้าและทำตามที่เขาบอก
<โรงเรียนเตรียมทหาร Z ถูกกำหนดให้เป็นจุดหมายปลายทางของคุณ>
<กรุณาเข้าสู่พอร์ทัล เมื่อคุณพร้อม คุณจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังปลายทางที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็ว>
ก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปด้านใน พลทหารก็เดินเข้ามาหาเขาและเอากระเป๋าของเขาไป
“ไม่ต้องกังวล นายจะได้รับสัมภาระคืนเมื่อเข้าไปในหอพัก ช่วยพกอุปกรณ์การต่อสู้หรืออาวุธที่นายมีไว้ด้วย เพราะนายจำเป็นจะต้องใช้เมื่อเริ่มการทดสอบ”
โมบี้พยักหน้าให้กับพลทหารแฮรี่ เขาหยิบถุงมือต่อสู้คู่หนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วสวมมัน จากนั้นเขาก็หยิบดาบที่ดูขึ้นสนิมเก่า ๆ ออกมา และแขวนมันไว้ที่เอว
โมบี้ไม่ได้แต่งกายดีมากนัก เขาสวมเสื้อโค้ทสีดำที่ขาดรุ่งริ่ง และกางเกงคาร์โก้สีดำซึ่งก็ขาดเหมือนกัน ดูเหมือนพวกมันจะถูกทำให้เสียหายอยู่ทุกวัน สำหรับรองเท้าเขาสวมรองเท้าผ้าใบสีดำที่ดูเหมือนว่าจะขาดออกจากกันในทุกวินาที
ขณะที่โมบี้กำลังเตรียมอุปกรณ์ของเขา พลทหารไม่ได้ช่วยอะไรเขาแต่กลับจ้องมองเขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ
ความคิดมากมายปรากฏเข้ามาในหัวของเขาในขณะนั้น
‘อืม มันบอกได้เลยว่าเขานั้นน่าสงสารมากแค่ไหน ฉันรับประกันว่าเขาจะสูญเสียความคิดด้านบวกของเขาในเวลาไม่ถึง 1 วันเมื่อเขาเข้าไปในโรงเรียนเตรียมทหาร!’
เมื่อโมบี้เตรียมตัวเสร็จเขาก็มองไปที่พลทหารและกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ผมพร้อมแล้วครับ!”
ขณะนั้นพลทหารก็ตื่นจากความคิดของเขาและรีบส่งยิ้มปลอม ๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าโมบี้จะเตรียมตัวเสร็จเร็วขนาดนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ทันได้ตั้งตัว
“ตอนนี้ก็เข้าสู่พอร์ทัล และก็ไปลงทะเบียนแผนกที่นายต้องการเข้าร่วม ในตอนนี้เรามี 3 แผนกโดยแผนกต่างๆมีดังนี้: แผนกการต่อสู้ มีไว้สำหรับผู้ที่มีความสามารถที่เน้นด้านการโจมตี แผนกวิทยาศาสตร์สำหรับผู้ที่มีความสามารถที่เป็นประโยชน์สำหรับการทำงานกับเทคโนโลยี และสุดท้ายคือแผนกสนับสนุน สำหรับผู้ที่มีความสามารถด้านการสนับสนุน เช่นการรักษา การเสริมพลัง และการสอดแนม เมื่อดูอุปกรณ์ของนาย ฉันคิดว่านายคงจะเข้าร่วมแผนกการต่อสู้สินะ“
“ครับผม คุณพูดถูกแล้ว” โมบี้ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ที่ลงทะเบียนอยู่ไม่ไกลจากสถานีเทเลพอร์ตมากนัก เพียงแค่มุ่งหน้าไปทางเหนือสักพักหนึ่ง นายจะเห็นพวกเขาเมื่อเดินเข้าประตูโรงเรียนไป นายไม่มีทางพลาดที่จะเห็นพวกเขา แม้ว่านายอาจจะอยากพลาดก็ตาม“
“ขอบคุณมากครับ สำหรับความช่วยเหลือต่าง ๆ ผมจะรีบไปเลยครับ” โมบี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่โมบี้กำลังเดินไปที่พอร์ทัล เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนมีบางอย่างในใจ เมื่อเขามองไปที่พลทหารหลังจากที่เขาเตรียมอุปกรณ์เสร็จแล้วดูเหมือนว่า เขากำลังมองมาที่โมบี้ด้วยสีหน้ารังเกียจ แต่เมื่อโมบี้กระพริบตาและมองอีกครั้งเขานั้นก็กำลังยิ้มเหมือนเป็นปกติ
โมบี้ส่ายหัวและรีบลบความคิดเหล่านั้นออกจากใจ เขารู้สึกละอายใจในตัวเองที่สงสัยผู้ชายที่แสนดี ต้อนรับขับสู้ ไม่มีพิษมีภัยและมีมารยาทดีแบบพลทหารคนนี้
เมื่อโมบี้เข้าไปในพอร์ทัล เขารู้สึกว่าวิสัยทัศน์ของเขาเป็นสีขาวไปหมด ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เขาก็ถูกส่งตัวไปที่ทางเข้าหน้าโรงเรียนเตรียมทหาร Z เรียบร้อยแล้ว
โรงเรียนเตรียมทหารนั้นมีขนาดใหญ่โตและกว้างขวาง มันใหญ่กว่าโรงเรียนมัธยมก่อนหน้าของโมบี้อย่างน้อย 100 เท่า โรงเรียนเป็นสีขาวและดูล้ำสมัยมาก มีประตูทางเข้าขนาดใหญ่ที่นำไปสู่สนามหน้าโรงเรียนที่กว้างขวาง เมื่อมองไปรอบ ๆ เขาสามารถเห็นนักเรียนหลายร้อยคนที่อายุใกล้เคียงกับเขา ทุกคนมุ่งหน้าไปที่ประตูโรงเรียน เขายิ้มและกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น และเดินผ่านประตูโรงเรียนพร้อมกับชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงาม เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขามากนัก แต่ในขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์จู่ ๆ ก็
* ผลัก *
โมบี้จบลงด้วยการชนนักเรียนร่างใหญ่คนหนึ่ง เขามีผมสีบลอนด์และมีน้ำหนักเกินมาตรฐานเล็กน้อย เขาดูน่ากลัวมาก และสูงกว่าโมบี้อย่างน้อยประมาณ 5 นิ้ว
เขายกหมัดขึ้นราวกับว่าเขาพร้อมจะชก
“เฮ้ เด็กน้อย มองทางด้วยตอนที่แกกำลังจะเดินไปไหนมาไหน แกทำให้เครื่องดื่มฉันหกหมดแล้ว!” นักเรียนตนนั้นตะโกนด้วยท่าทางเกรี้ยวกราดและติดจะรำคาญ
“ผมขอโทษจริง ๆ ที่ผมไม่ได้มองทางเลย โปรดยกโทษให้ผมด้วยครับ” โมบี้พูดอย่างประหม่าขณะที่เขารีบโค้งคำนับ
“แล้วแกจะชดใช้ฉันยังไง เครื่องดื่มนั่นแพงมากนะรู้มั้ย!”
นักเรียนคนนั้นโกหกอย่างชัดเจน เครื่องดื่มนั้นเป็นเพียงน้ำแอปเปิ้ลที่เขาซื้อจากตู้หยอดเหรียญก่อนมา มีค่าใช้จ่ายไม่เกิน 2 ดอลลาร์กับอีก 50 เซ็นต์
นักเรียนคนนั้นมองเสื้อผ้าและอุปกรณ์ของโมบี้ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเด็กตรงหน้าเขายากจนจริง ๆ เขาเย้ยหยันโมบี้และมองเขาอย่างดูถูก จากนั้นเขาสังเกตเห็นสร้อยคอของโมบี้ที่ดูแพงมาก
“หรือแกจะชดเชยให้ฉันด้วยสร้อยคอที่ดูหรูหราของแกแทน ?” นักเรียนกล่าวด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว
“ผมขอโทษจริง ๆ นะครับ แต่ว่าคงไม่ได้ เพราะสร้อยเส้นนี้สำคัญมากสำหรับผมและผมจะไม่ยอมให้มันกับใคร” โมบี้โต้กลับอย่างมั่นใจ
“แล้วแกจะชดใช้ให้ฉันยังไง แกดูจนมากจริง ๆ และดูเหมือนว่าแกจะไม่มีของมีค่าอะไรเลย เครื่องดื่มนี้แพงมาก แกก็รู้” นักเรียนคนนั้นพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะ
ใบหน้าของโมบี้เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความลำบากใจ เขารู้สึกละอายใจที่ทำเครื่องดื่มราคาแพงเช่นนี้หก
“ผม…ผมไม่มีเงิน แต่ผมสัญญาว่าผมจะชดใช้มันให้กับนายแน่นอนครับ!” โมบี้กล่าว ขณะที่ก้มหัวมากขึ้น
ในตอนนั้นนักเรียนคนนั้นดูโกรธและหงุดหงิดอย่างมาก
“ฟังนะ ไอ้หนู แกทำให้ฉันไม่พอใจมาก ๆ ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องให้สร้อยคอนั้นหรือไม่ก็แกต้องจ่ายเงินให้ฉัน 1,000 ดอลลาร์ภายในสัปดาห์หน้า”
ในตอนนั้นโมบี้เริ่มกังวลอย่างมาก
‘เครื่องดื่มอะไรกัน ราคา 1,000 ดอลลาร์’ เขาคิด
แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจว่านั่นอาจเป็นเครื่องดื่มสุดหรูที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้
“ผมขอโทษนะ แต่ผมไม่ค่อยจะมีเงินเท่าไหร่ แม้ว่าผมจะขายข้าวของทั้งหมดของผมแล้ว มันก็ได้แค่ไม่กี่ร้อยดอลลาร์เท่านั้น”
‘คนปัญญาอ่อนแบบไหนกัน ที่จะเชื่อว่าเครื่องดื่มของฉันราคาตั้ง 1,000 ดอลลาร์ ? ฉันว่าฉันควรจะเล่นตามน้ำไปก่อน’ นักเรียนคนนั้นคิด
“ก็ได้ ยกสร้อยของแกให้ฉัน” นักเรียนพูดพร้อมกับแบมือออก
“ไม่ ผมให้ไปไม่ได้” โมบี้ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
นักเรียนคนนั้นถูกดังสติกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของโมบี้ ในตอนแรกเด็กที่อยู่ตรงหน้าเขาดูเหมือนจะมีความสุภาพมากกว่านี้ แต่ตอนนี้เสียงเขากลับฟังดูจริงจังมากขึ้น นั่นทำให้เด็กนักเรียนคนนั้นรู้สึกสนใจถึงมูลค่าที่แท้จริงของสร้อยคอเส้นนี้ เขาตัดสินใจว่าจะเอาสร้อยคอมาด้วยกำลังและสอนบทเรียนให้กับเด็กตรงหน้าเขา ให้ไม่มีวันลืมเลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมามีปัญหากับเขา
“โอเคเก็บสร้อยคอโง่ ๆ ของแกไป ฉันไม่ต้องการมันแล้ว แต่ตอนนี้แกทำให้ฉันไม่ชอบหน้าอย่างเป็นจริงจังแล้ว ดังนั้นแกควรระวังตัวไว้ ไอ้งั่ง” นักเรียนคนนั้น กล่าวขณะที่เขาหันกลับมาและเดินไปอีกทาง
โมบี้รู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เหมือนยกน้ำหนักอันมหาศาลออกจากบ่าของเขา
“ขอบคุณมากสำหรับความใจดีของคุณครับ ผมสัญญาว่า ผมจะชดใช้ให้นายแน่นอน ผมชื่อโมบี้ เคน แล้วนายล่ะ ?” โมบี้กล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง
“นาธาน จอห์นสัน และแกไม่ควรจะลืมมัน” นาธานพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“เฮ้ นายชื่อโมบี้ เหมือนโมบี้ ดิ๊กเหรือเปล่า” นาธานพูดพลางพยายามกลั้นหัวเราะ
โมบี้คิดว่านาธานเป็น คนที่ใจดีจริง ๆ ที่ยอมปล่อยเขาไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสักนิด แม้ว่าเขานั้นจะทำดื่มเครื่องมูลค่า 1,000 ดอลลาร์ของนาธานหก
ทันใดนั้น เสียงประกาศก็ดังขึ้น :
“นี่เป็นการแจ้งเตือนว่าการลงทะเบียนสำหรับเลือกแผนกจะสิ้นสุดใน 30 นาที”
“โอ้…แย่แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังจะไปสายสำหรับการลงทะเบียน” โมบี้ กล่าวขณะที่เขาวิ่งตรงไปยังจุดลงทะเบียนสำหรับแผนกการต่อสู้
**********
นาธานกลับมารวมกับพวกลูกน้องของเขา ด้วยอารมณ์โกรธและหงุดหงิด
ลูกน้องของเขารู้สึกกังวลเล็กน้อย หลังจากได้เห็นการพูดคุยกันระหว่างหัวหน้าของเขาและโมบี้
“เฮ้ ลูกพี่ มันจะดีเหรอที่จะเริ่มต้นหาเรื่องกับนักเรียนคนอื่น ๆ ตอนนี้ เรายังไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้แรงค์อะไรจากการทดสอบเลย หรือว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน เราอาจจะมีปัญหากับคนที่เรารับมือไม่ได้ก็ได้นะ” หนึ่งในลูกน้องของเขาพูดอย่างกังวล
“สบาย ๆ เด็กคนนั้นมันไม่ได้เรื่องหรอก อย่างมากก็แรงค์ E ดูจากเสื้อผ้าที่มันสวมแล้ว บอกได้เลยว่ามันไม่มีครอบครัวที่เข้มแข็งหนุนหลังหรอก หรือไม่ก็ไม่มีครอบครัวด้วยซ้ำ” นาธานตอบอย่างใจเย็น
คำพูดของนาธานทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
“สร้อยคอของเด็กนั่นมันช่างดูดี ดูเหมือนว่ามันอาจจะเป็นสมบัติที่มีค่าเมื่อดูจากการที่เขาพยายามจะปกป้องมันอย่างที่สุด ฉันต้องการให้พวกแกคนหนึ่งสอดแนมไอ้โมบี้ เคน นั่นให้ฉัน ฉันต้องการรู้ว่าเขาจะได้แรงค์อะไรและมีความสามารถอะไร ก่อนที่เราจะจัดการเขา โจ คงต้องเป็นแกแล้วนะ “นาธานพูดขณะชี้ไปที่ลูกน้องคนหนึ่งของเขา
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อ โมบี้ ดิ๊กอะไรนั่น ภายในวันนี้ ฉันรับรองได้” โจพูดพร้อมกับยิ้ม
“ฉันจะสนุกกับการทรมานเด็กนั่น สร้อยเส้นนั้นจะต้องเป็นของฉันภายในวันนี้” นาธานพูดพร้อมกับรอยยิ้มกวน ๆ บนใบหน้าของเขา